~* ~* ~* ~* ~* ~* เด็กในกรง ด้วย "ใจ" เช่นนี้ จึงผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาได้ ~* ~* ~* ~* ~* ~*





* * * สำหรับท่านใดที่เม้นท์บล็อกที่แล้ว (รีวิวกิจกรรมกรีนเนอรี่รีสอร์ท) เจ้าของบล็อกจะค่อยๆ ทยอยตอบคอมเม้นท์นะคะ * * *











อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว...รู้สึกเหมือนตอนอ่าน "ต้นส้มแสนรัก" เลยค่ะ






เด็กในกรง (They Cage the Animals at Night)
เขียนโดย : เจนนิงส์ ไมเคิล เบิร์ช
แปลโดย : ฤดูร้อน
สำนักพิมพ์/จัดจำหน่าย : แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า: 349 หน้า
ราคาปก : 235 บาท











เรื่องย่อ



เด็กชายคนหนึ่งที่ถูกส่งไปอยู่ตามสถานรับดูแลเด็กต่างๆ ยามที่แม่อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ (อาทิ ป่วยอย่างหนัก) และเค้าต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่แตกต่างของสถานรับเลี้ยงในแต่ละที่ ค้นพบเพื่อนใหม่ๆ สร้างรูปแบบของการ "อยู่รอด" ให้กับตัวเอง และก่อรูป "ตัวตน" ของตนเองในระหว่างชีวิตเพียงไม่กี่ปีนี้










ความรู้สึกที่ได้อ่าน




เป็นหนังสืออีกเล่ม..ที่ตอนแรกไม่คิดว่าจะอ่าน เนื่องด้วยชื่อของหนังสือ "เด็กในกรง" ที่คิดว่า น่าจะเป็นเรื่องเศร้า แสนรันทด เจ็บปวดและโหดร้าย แต่จำได้เลาๆ เหมือนไปอ่านรีวิวของใครสักคน แล้วก็เลยรู้สึกว่า..หนังสือเล่มนี้น่าอ่านแฮะ




และพอได้อ่าน..ก็ปรากฏว่า ผิดไปจากที่คิดมากมาย (อีกแล้ว) ค่ะ
(เพราะฉะนั้น..นอกจากอย่างตัดสินหนังสือจากปกแล้ว ก็ไม่ควรตัดสินหนังสือจากชื่อหนังสือเช่นเราด้วยนะคะ )







ย้ำอีกทีว่า..อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว รู้สึกเหมือนอ่าน "ต้นส้มแสนรัก" เลยค่ะ




กล่าวคือ..มันเป็นการเล่าเรื่องผ่านสายตาของเด็กคนหนึ่ง เด็กที่พบเจอกับเรื่องที่สามารถทำให้เค้าเจ็บปวด ทำให้เค้ากลายเป็นคนเลวคนหนึ่งได้ แต่เค้ากลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

นั่นเป็นเพราะเค้ามีสายตาและหัวใจที่ "พิเศษ" รวมทั้งการมองโลกในแง่ดี (ที่เรื่องดีๆ เพียงนิดน้อย ก็ทำให้เจ้าตัวมีพลังอันแข็งแกร่งที่จะต่อสู้กับเรื่องเลวร้ายต่างๆ ได้) ที่ทำให้ความโหดร้ายนั้น โดนกลั่นกรองและถูกเมินไปจากการมองอย่างพิเคราะห์ จนทำให้เจ้าตัวสามารถที่จะมีความสุขอยู่ในความทุกข์ที่รายล้อมอยู่ได้




การมีคนดีๆ เข้ามาในชีวิตอันเลวร้ายของเขา แม้เพียงหนึ่งคน แม้เพียงเสี้ยวเวลา ก็ทำให้ชีวิตของเขา มีกำลังใจที่จะเดินต่อ สู้ต่อ และมองไปข้างหน้า โดยไม่จมปลักอยู่กับอดีตอันย่ำแย่ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ "จับจิตจับใจ"






ถามว่า..ทำไมถึงเหมือนกับต้นส้มแสนรัก (สำหรับความต่าง - ต้นส้มแสนรัก โหดร้ายกว่าในเรื่องของ "ชะตากรรม" ค่ะ) ก็คือ..ขณะความปวดร้าวและเลวร้ายนั้นดำเนินต่อไป ความอบอุ่นที่เหมือนแสงสว่างอันเรืองรองที่ปลายอุโมงค์ ก็ยังส่องสว่างเรื่อเรืองอยู่เรื่อยๆ และทำให้คนอ่านอด "ยิ้มทั้งน้ำตา" ไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

เรื่องดีๆ เล็ก-เล็ก ที่เกิดขึ้นกับเจนนิง ความกล้าหาญที่จะกระทำการบางอย่างของเจ้าตัว ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวที่ดีๆ ต่อมา ทำให้คนอ่านรู้สึกเหมือนได้ดื่มหยดน้ำเล็กๆ ท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งผาก ที่แม้..มันจะไม่ได้อิ่มอร่อย แต่มันก็ชุ่มชื่นใจพอที่จะเดินทางต่อไปเช่นกัน





การดำเนินเรื่อง การผูกเรื่อง ปมต่างๆ ที่เข้ามาเป็นระยะๆ นั้น ค่อนข้างลงตัวและเหมาะเจาะ คนดี-ดีและเรื่องดี-ดี เข้ามาในเวลาอันสมควร ที่ทำให้เราเชื่อได้ว่า เพราะเหตุนั้น เจนนิงจึงยังมีกำลังใจที่จะก้าวต่อไปได้ มีความเข้มแข็งพอที่จะรักษา "ใจ" ดี-ดี ไว้กับตัวเอง ไม่ให้มันสูญสลายไปกับเรื่องราวที่เข้ามาทำร้ายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า (ซึ่ง..กี่คนกัน..ที่จะทำได้?)



สำนวนการแปล ค่อนข้างราบรื่นค่ะ มีสะดุดบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก









เชียร์ให้อ่าน สำหรับคนที่ชอบ "ต้นส้มแสนรัก" นะคะ และแน่นอน..ความเหมือนกันอีกประการของหนังสือสองเล่มนี้ก็คือ..มันทำให้คุณร้องไห้ได้มากกว่า 1 ครั้งค่ะ













ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ

340625/3968/335





 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2552 12:42:32 น.
Counter : 2105 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* คิระคิระ งามระยับดั่งดวงดาว ~* ~* ~* ~* ~* ~*




เห็นผ่านตามาหลายครั้ง ทั้งจากท่ามกลางแผงหนังสือ บนชั้นหนังสือ และที่เพื่อนๆ พากันมารีวิว





หากแต่..ก็กลับไม่เคยได้มันมาครอบครอง


จนกระทั่งวันหนึ่ง...พี่ที่ทำงานก็เสนอหนังสือเล่มนี้เป็นการแลกเปลี่ยนให้ยืมอ่าน (หลังจากที่เราก็เที่ยวขนหนังสือหลายเล่มมาให้เขายืมอ่านเช่นกัน)




และแล้ว..



เราก็ได้รู้จักกัน















เขียนโดย : Cynthia Kadohata
แปลโดย : สุดากาญจน์ ปัทมดิลก
สำนักพิมพ์/จัดจำหน่าย : มติชน
จำนวนหน้า: 220 หน้า










เรื่องย่อ




เรื่องเล่าจากมุมมองของเคธี่ เด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีพี่สาวอันเป็นที่รักที่ชื่อ ลีนน์ ลีนน์ผู้เป็นพี่สาวที่เป็นแบบอย่างอันดี เป็นลูกที่พ่อแม่ภาคภูมิใจ เรียนหนังสือเก่ง ดูแลน้อง แม้ว่าคนญี่ปุ่นในสังคมเมืองของอเมริกา มีชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก การถูกดูถูก การถูกกระทำเสมือนเป็นเพียงฝุ่นผงในอากาศที่ทำให้พวกเขาอาจเจ็บปวดได้มากมาย

หากแต่..ความเจ็บปวดนั้นกลับถูกบรรเทาเบาบางลง ด้วยมุมมองของเคธี่และความพยายามของลีนน์ที่จะทำให้ได้รับการยอมรับ ความพยายามของพ่อกับแม่ที่จะทำให้ลูกๆ และครอบครัวตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

หากแต่..เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ใครหลายคนต้องเจ็บปวด และความเจ็บปวดนั้นก็ทำให้ใครบางคนเติบโตขึ้น











ความรู้สึกที่ได้อ่าน



เรารู้สึกเหมือนตอนอ่าน "ความสุขของกะทิ" เลยค่ะ


กล่าวคือ..รู้สึกว่า..เป็นเรื่องราวที่มีความเจ็บปวด ความโหดร้ายบางอย่างแทรกซึมอยู่ในเรื่องราว แต่กลับถูกเล่าผ่านมุมมองที่กลั่นกรองโดยสายตาของเด็ก ทำให้ดูเหมือนไม่โหดร้ายเกินไปนัก (แต่กลับผู้ใหญ่ที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร มันยิ่งทำให้เจ็บปวด) ความสวยงาม ละเอียดอ่อนที่ห่อหุ้มหนังสือเล่มนี้ ทำให้คนอ่านสามารถที่จะ "ยิ้มทั้งน้ำตา" ได้


คนเขียนฉลาดที่เล่าเรื่องผ่านสายตาของเด็กอย่างเคธี่ ที่มีพี่สาวอย่างลีนน์ มีครอบครัวอย่างนี้ ทำให้คนอ่านค่อยๆ ซึมซับความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ ความผูกพันที่สองพี่น้องมีให้กัน ความรู้สึกดีๆ และความสัมพันธ์อันงดงามที่เด็กทั้งสองทำให้กัน มันทำให้เคธี่มีภูมิคุ้มใจที่ทำให้ไม่ต้องเจ็บปวดเกินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น




และเมื่อ..สิ่งที่คุ้มครองเธอหนึ่งอย่าง..สูญหายไปตลอดกาล เคธี่ก็กลับกลายเป็นต้นไม้ที่เริ่มเติบโตได้เอง เติบโตและพร้อมที่จะเผชิญกับโลก พร้อมที่จะกลายเป็น "พี่" ให้กับน้องชาย เหมือนที่ลีนน์เคยเป็น "พี่" ให้กับน้องสาวอย่างเธอ







อ่านแล้วรู้สึกอุ่นๆ (แต่ก็เจ็บหน่วงๆ นิดๆ นะคะ) อ่านแล้วรู้สึกถึงความ "คิระ คิระ" ของหนังสือเล่มนี้ค่ะ





ใครที่ชอบอ่านงานแปลของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบอ่านงานแนวๆ นี้ (อุ่นๆ งดงาม แต่เศร้านิดๆ) ไม่ควรพลาดนะคะ













ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

315795/3946/331









 

Create Date : 17 เมษายน 2552    
Last Update : 17 เมษายน 2552 9:04:43 น.
Counter : 4668 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* เรื่องรักของ 'เรา' บางครั้งความรัก ก็อาจมีวันหมดอายุ~* ~* ~* ~* ~* ~*







หนังสือเล่มนี้ได้มาฟรี เนื่องด้วยงานแต่งานหมี และมีนักแปล คนนี้มามอบให้




แซงคิวอ่านจบแล้ว รู้สึกประทับใจในอะไรหลายอย่าง และคิดว่า..จะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ บล็อกแกงค์ได้อ่านกันค่ะ







เรื่องรักของ 'เรา' (All about us)
เขียนโดย : หวงเยวี่ยน
แปลโดย : บี-อา
จำนวนหน้า : 296 หน้า
ราคาปก : 255 บาท
สำนักพิมพ์ : โพสต์บุ๊ค








เรื่องย่อ



เรื่องราวของอี้ว์หรู หญิงสาวผู้ชอบอ่านหนังสือ และมีร้านหนังสือเจ้าประจำอยู่ร้านหนึ่งที่สนิทสนมและไหว้วานให้เก็บหนังสือที่ตนเองต้องการไว้อยู่เสมอ จนวันหนึ่งคุณลุงซุน เหลา อู่ เจ้าของร้าน ก็โทร.ตามให้เธอมารับหนังสือเล่มหนึ่ง โดยบอกว่า "มันเป็นของเธอ"

อี้ว์หรู ไปที่ร้านของคุณลุง และค้นพบหนังสือหนึ่งเล่ม ที่ทำให้ความทรงจำอันเจ็บปวดถูกคุ้ยขึ้นมา จนทำให้เธอต้องสูญเสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า










ความรู้สึกที่ได้อ่าน




ก่อนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เรารับมา ด้วยการมองจากหน้าปกว่า น่าจะเป็นเรื่องรักหวานแหวว (มีใครเห็นหน้าปกแล้วคิดว่า..เป็นแนวอื่นบ้างมั้ยคะ?) จนออกจะแปลกใจอยู่ครามครันว่า อ่า..คุณเบียร์แปลหนังสือแนวนี้กะเค้าด้วยฤา? แต่พอได้อ่าน (โดยที่..แน่นอน ไม่อ่านคำนำหรือปกใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตั้งใจกับตัวเองไว้ หลังจากโดนหนังสือหลายเล่มสปอยล์ไปตั้งแต่คำนำและหน้าปกมาหลายครั้งแล้ว ) จบแล้วก็ปรากฏว่าที่คิดไว้น่ะ..ผิดอย่างรุนแรง แถมอ่านจบแล้ว..รู้สึกว่า..อยากเขียนถึง ซึ่งไม่ได้รู้สึกกับนิยายรักเรื่องไหนมานานแล้ว




กล่าวคือ..แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่แปลกแตกต่างนัก กับความรักที่เกิดขึ้นระหว่างสาวแสนดี กับหนุ่มสุดโฉด หากแต่การดำเนินเรื่องที่มีหนังสือหนึ่งเล่มเป็นตัวเล่าเรื่องราว กับการมีข้อความโดนใจเป็นระยะๆ (ที่จะยกมาให้อ่านต่อไป) แต่ที่น็อกปลายคางเราจนสลบไปก็คือจุดจบของเรื่อง (ซึ่งด้วยวิสัยของนักรีวิวที่ดี (หรือเปล่า?) ไม่ขอสปอยล์บอกตอนจบค่ะ






ข้อความที่โดนใจเจ้าของบล็อกมีดังต่อไปนี้





"ความคิดถึงเหมือนกับฝนในเดือนหก พอเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ก็จะหยุดยาก"










"งานอดิเรกเอามากินแทนข้าวไม่ได้ ความสามารถที่ไม่ถูกยอมรับเหมาะจะเป็นเพียงความฝันเท่านั้น"









"ฉันรักเงิน เนื้อตัวของฉันก็มีแต่กลิ่นสาบเงิน แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคไม่ให้ฉันรักหนังสือนี่นา เหมือนกับคนคนหนึ่ง ต่อให้เขาต่ำช้าแค่ไหน สารเลวเพียงใด ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคหากจะมีคนรักเขา มิใช่หรือ"









เพราะไม่ปรารถนาจะสูญเสีย จึงยอมต่อรองไม่มีสิ้นสุด









"ประตูห้องของผู้หญิงก็คือประตูหัวใจ ผู้ที่จะเข้าออกตามใจชอบได้ นอกจากลมก็คือคนรัก"










ไอ้สารเลวทุกคนต่างมีทักษะเดียวกันอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ดีกับตัวเองเป็นพิเศษ ความจำแย่เป็นพิเศษ พวกเขาขี้ลืมความเจ็บปวด โดยเฉพาะความเจ็บปวดบนตัวของผู้อื่น









"ยิ้ม ไม่ได้เท่ากับมีความสุข เหมือนกับลม ใช่ว่าจะอ่อนโยนเสมอไป"
















เป็นนิยายรัก..ที่ค่อนข้างสื่อความ "โดน" และ "กระทบใจ" คนอ่านได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเคยพบกับประสบการณ์ (อาจด้วยตนเอง หรือเป็นเรื่องราวของคนที่คุณรู้จัก) ในทำนองเดียวกับที่อี้ว์หรูได้เผชิญจากอู๋ ซันเยว่ หรืออาจเป็นเป็นเรื่องราวของหน่ายซู่กับเสี่ยวฉี ฯลฯ แล้ว จะยิ่งทำให้คุณมีโอกาสที่จะอินกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้มากกว่าคนอื่นๆ




สำหรับสำนวนแปล โดยมากราบรื่นดี มีเพียงบางประโยคที่ยังมีกลิ่นข้าวต้ม กลิ่นหมั่นโถวมาบ้าง (เอ่อ..พยายามจะหาวลีแทนกลิ่นนมกลิ่นเนย ซึ่งดูเหมือนข้าพเจ้าจะใช้ไม่ได้เรื่อง ) แต่ก็ยังอ่านได้ราบรื่น การแปลข้อความที่โดนๆ ใจมาก็คมคายเฉียบขาด ซึ่ง..เนื่องจากเราอ่านหนังสือจีนไม่ได้ เพราะงั้นคงไม่สามารถรู้ว่า ต้นฉบับเค้าเขียนเอาไว้ดีมากแค่ไหนน่ะนะคะ





ตินิดเดียว คือ เรื่องของปก หรือเนื้อในปก ถ้า "เล่น" กับตัวที่เริ่มเข้าสู่เนื้อหาของหนังสือเล่มนั้น แล้วใส่ปกให้เหมือนกับที่บรรยายไว้ (กระดาษหนังช้างสีเขียว?) ก็น่าจะยิ่งดีกว่านี้นะคะ








อยากให้คนชอบอ่านนิยายรักได้อ่านดูค่ะ เป็นนิยายรักที่แปลมาจากภาษาจีน และคิดว่า..อ่านจบแล้ว..น่าจะกระทบความรู้สึกของคนที่ได้อ่านมากพอสมควรนะคะ







และถ้าในชีวิตคุณ ได้พบใครที่มีนิสัยเหมือนซันเยว่ มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตรักเหมือนคู่เด็กหนุ่ม-สาวที่ได้รับหนังสือเล่มนั้นไปในที่สุดแล้ว ลองให้เค้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้ดูค่ะ



เพราะบางครั้ง..'ความรัก' ที่ใครคนหนึ่งมีต่อใครคนหนึ่ง เมื่อถูกกระทำบางอย่างมากๆ ก็อาจจะทำให้มันหมดอายุได้เหมือนกัน และเมื่อถึงเวลานั้น..มันอาจจะสายเกินกว่าที่จะแก้ไขหรือเรียกร้องอะไรกลับมาได้












ขอบคุณสำหรับการแวะมาที่บล็อกค่ะ

312503/3930/330





 

Create Date : 08 เมษายน 2552    
Last Update : 8 เมษายน 2552 16:31:15 น.
Counter : 3264 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* หน่อไม้ สามหนุ่มสามมุม (จริงๆ นา) ~* ~* ~* ~* ~* ~*





สมัยที่เรายังรีวิวหนังสืออยู่บ่อยๆ เพื่อนบล็อกอาจจะได้เห็นว่า เราเคยรีวิวงานเขียนของนิ้วกลมทั้งแบบแยกเล่มเดี่ยวอย่าง "อิฐ" และแบบฉบับรวมเล่มมาครั้งหนึ่งแล้ว (ชื่อบล็อกเทศกาลอ่านนิ้วกลม) ซึ่งขอยอมรับว่า ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบการเขียนของนิ้วกลม และคิดว่า เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่จะติดตามอ่านงานของเขาไปเรื่อยๆ


สำหรับหนังสือ "หน่อไม้" นั้น เราได้มาจาก B2S สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว จำสาเหตุที่ซื้อมา (ทั้งที่ยังมีกองดองอยู่ที่บ้าน ) ไม่ได้แล้ว จำได้เลาๆ ประมาณว่า เห็นว่ามีนิ้วกลม (ซึ่งชอบอยู่แล้ว) ทรงกลด (ซึ่งเราอ่านสองเงาในเกาหลีแล้วชอบ) และทรงศีล ซึ่งเป็นนักเขียนเพียงคนเดียวที่เรายังไม่เคยได้ "สัมผัส" ตัวตนผ่านงานของเขาเลย...ก็เลยลองซื้อมาค่ะ






ระหว่างนั้น ก็มีหลายคนที่รีวิวหนังสือเล่มนี้เรื่อยๆ แล้วเราก็เที่ยวไปประจานการดองของตัวเองประมาณว่า "มีแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่าน" / "ยังไม่อ่านรีวิวนะคะ เดี๋ยวอ่านแล้วจะมาคุยด้วยค่ะ มีหนังสือแล้ว แหะๆ" ฯลฯ


จนวันหนึ่ง (ซึ่งแสนนานมาแล้ว) ก็ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เสียที อ่านจบแล้วก็คิดว่าจะมาทำรีวิว ทว่า...ผ่านมาหลายเดือน ก็เพิ่งจะมีเวลามารีวิวนี่แหละค่ะ







หน่อม้
ผู้เขียน : นิ้วกลม ทรงกลด ทรงศีล
จำนวนหน้า : 416 หน้า
ราคาปก : 210 บาท
สำนักพิมพ์ : เดย์ โพเอทส์ (อะเดย์)










หนังสือเล่มนี้ เกิดขึ้นมาด้วยไอเดียของทรงกลด ที่จะรวบรวมบรรดาแฟนหนังสือของทั้งสามคน เดินทางไปปลูกป่ากันที่เชียงใหม่ ซึ่งระหว่างการเดินทาง จนกระทั่งเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ นั้น มีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้น ทั้งลุ้น (เมื่อตกรถไฟ) ทั้งเฮฮา (กับการเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น) เศร้าเคล้าน้ำตา (กับเรื่องราวของแม่-ลูกคู่หนึ่ง) และความรัก (ที่..แหม้..ยังกะนิยาย)






ทั้งสามหนุ่ม ต่างเล่าเรื่องออกมาในมุมของตน ด้วยสไตล์และลีลาของตน ซึ่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

นิ้วกลม ยังมีดวงตาของการมองอะไรในมุมที่ช่างสังเกตสังกา ช่างคิด และบอกเล่าได้น่าอ่าน

ทรงกลด กับมุมนุ่มๆ ละมุนๆ อุ่นๆ ตามตำรับของผู้ชายโรแมนติก

ทรงศีล กับการ์ตูนลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ มุมมองที่อาจทำให้คนอ่านอาจจะทั้งขำทั้งสงสาร กับการที่ต้องทำในสิ่งที่ตนเองก็ไม่ได้ถนัด และดูเหมือน...จะไม่ได้อินนัก





อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปกับคนกลุ่มนี้ด้วย ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ และบรรยากาศนานา ตั้งแต่เริ่มการเดินทางด้วยรถไฟ ที่ไปๆ มาๆ กลับมีคนตกรถไฟจำนวนหนึ่ง การไปปลูกป่าที่ไปๆ มาๆ ชาวบ้านกลับไปปลูกกันเองเสียมาก โปรแกรมดูดาวที่ต้องโดนงดเพราะสภาพอากาศ (แต่เจ้าของโครงการก็ยังพยายามมาสอนวิธีดูดาวให้กับน้องๆ ต่อในร่ม) ความเข้าใจผิดในตัวแม่ของผู้ร่วมเดินทางท่านหนึ่งที่ทำให้คนอ่านอึ้งในตอนท้ายเมื่อถูกเฉลยความจริง (สปอยล์หน่อยๆ นะนี่ แหะๆ) การฝังไทม์แคปซูล ที่..น่าลุ้นเหลือเกินว่า ในวันที่นัดหมายกันในอนาคตนั้น จะมีใครได้มาเปิดอ่านร่วมกันบ้างหนอ รวมทั้ง..การลุ้นในเรื่องของความรักระหว่างคนคู่หนึ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางครั้งนี้








แม้เรื่องราว..อาจจะดูเป็นเหมือนแค่เรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่า อาจจะไม่น่าสนใจสำหรับบางคน


แต่การอ่านหนังสือเล่มนี้ จะทำให้คนอ่านได้อ่านอะไรที่..แปลกและแตกต่างไปจากหนังสือเล่มอื่นๆ ค่ะ กล่าวคือ เหมือนได้กินอาหารจากพ่อครัวสามคน ซึ่งแม้จะอยู่ในครัวเดียวกัน มีวัตถุดิบอยู่ในครัวให้เห็นเหมือนๆ กัน แต่สามคนนี้กลับเลือกวัตถุดิบและนำมาทำอาหารให้คนอ่านได้ "กิน" ไม่เหมือนกัน




มันเป็นการอ่านหนังสือที่มีสามสไตล์ แต่กลับอ่านได้อย่างลื่นไหลไม่น่าเชื่อ การได้เห็นมุมมองบางมุมมองที่อาจชวนฉุกคิดว่า กับบางเรื่องราว ถ้าเรามองแต่มุมเรา แล้วตัดสินไปแล้ว บางที..มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เรามองหรือคิดก็ได้

กรณีนี้ก็คือ..เรื่องของแมงเม่า กับทรงศีลและทรงกลด - เราคิดประเด็นข้างต้นได้จากเรื่องนี้จริงๆ นะ






เรียกได้ว่า..ถ้าคุณยังไม่เคยอ่านงานของทั้งสามคนนี้ แล้วได้อ่านหนังสือเล่มนี้ น่าจะทำให้คุณอยากหาหนังสือของคนใดคนหนึ่งมาอ่าน (หากอ่านแล้วชอบสไตล์ใครสักคน) หรือบางทีอาจจะต้องไปหางานของทั้งสามคนมาอ่าน (เพราะเกิดความสนใจในตัวทั้งสามคน - เหมือนอย่างเจ้าของบล็อก 555+) เพื่อที่จะได้ "รู้จัก" แต่ละคนให้ลึกซึ้งมากขึ้น








หากเป็นอาหาร ก็เหมือนคุณได้ชิมตัวอย่างอาหารจากเชฟสามร้าน เพื่อจะทำให้คุณตามไปกินที่ร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่ เพื่อจะได้รู้ว่า..ไอ้ที่ให้ชิมน่ะ..มัน "ของจริง" แค่ไหน และเราน่าจะกลายเป็นขาประจำของร้านอาหารนั้นๆ ตลอดไปหรือไม่










ไม่อ่าน..อาจไม่เสียดาย แต่ถ้าอ่าน..ไม่คิดว่า..จะน่าเสียดายค่ะ







ไม่ได้รีวิวหนังสือเสียนาน รู้สึกเขียน (พิมพ์) ไม่ค่อยออกอย่างไรก็ไม่รู้แฮะ












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะคะ


309362/3914/328




ป.ล. รายงานการซื้อหนังสือจากงานหนังสือ ขออัพไม่วันพฤหัสก็วันศุกร์นะคะ วันนี้ลืมเอาที่จดลิสต์มาว่าซื้อเล่มไหนมาบ้างมาอะค่ะ




 

Create Date : 31 มีนาคม 2552    
Last Update : 31 มีนาคม 2552 8:37:47 น.
Counter : 2330 Pageviews.  

~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เอ็ดเวิร์ด ทูเลน หากเริ่มที่จะรัก ต้องพร้อมจะรู้จักความเสียใจ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★





เอ็ดเวิร์ด ทูเลน ตามหาหัวใจไกลสุดฟ้า




ผู้เขียน : เคท ดิคามิลโล
ผู้แปล : งามพรรณ เวชชาชีวะ
ภาพประกอบ : บักแกรม อิบาทูลลีน
สำนักพิมพ์ : เพ็ทแอนด์โฮม
ราคา : 195.00 บาท



เรื่องย่อ (สปอยล์เล็กน้อย)


ตุ๊กตากระต่ายที่ทำจากกระเบื้องเกือบทั้งตัวตัวหนึ่ง ชื่อว่า เอ็ดเวิร์ด ทูเลน ที่กำเนิดและใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักตนเองอย่างล้นเหลือ แต่แล้ว ชีวิตก็ผกผัน ตกจากเรือเดินสมุทร จมอยู่ก้นมหาสมุทร ถูกพายุพัดพาจนได้มาอยู่กับครอบครัวชาวประมง ตามติดด้วยการถูกค้นพบจากกองขยะจนทำให้ไปร่วมเดินทางกับหนุ่มนักพเนจร ถูกเตะโด่งออกจากรถไฟ จนได้ไปอยู่กับพี่น้องแสนเศร้าหนึ่งคู่ เกือบสูญเสียชีวิตและถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่




ความคิดเห็นที่ได้อ่าน



"อกหักดีกว่ารักไม่เป็น?"




ประโยคนี้ คิดว่าคงมีไม่กี่คนในโลกนี้ที่จะไม่เคยได้ยิน และเชื่อว่าหลายคนก็มีคำตอบให้กับประโยคนี้ว่า มัน "จริง" หรือไม่

หรือแม้กระทั่งกับบางคน..คำตอบก็เปลี่ยนไป เมื่อพบกับประสบการณ์บางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต






หนังสือเล่มนี้ทำเราร้องไห้ 4-5 รอบกว่าจะอ่านจบ





การเป็นตุ๊กตากระต่ายที่ไร้หัวใจ ไม่รู้จักที่จะรักแต่ก็ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่เจ็บปวด กับการรู้จักที่จะรักใคร แต่ต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส หัวใจต้องแตกร้าวนับพันชิ้น - - แบบไหนมันจะดีกว่ากันหนอ (อกหักดีกว่ารักไม่เป็น..จริงหรือ? ถ้าคนๆ นั้นไม่เข้มแข็งพอจะผ่านพ้นความอกหักนั้นไปได้ และต้องใช้ชีวิตจมอยู่กับความปวดร้าว..มันดีกว่า..งั้นหรือ?)


เอ็ดเวิร์ดกำเนิดมาอย่างไร้หัวใจและไร้รัก หากแต่เมื่อเอ็ดเวิร์ดเดินทางไปกับกาลเวลา เอ็ดเวิร์ดเริ่มเรียนรู้ที่จะ "รู้สึก" ไม่ว่าจะกลัว - ดีใจ - ผูกพัน - รัก - สูญเสีย ก่อรูปก่อร่าง จนเรียกได้ว่ามี "หัวใจ" แต่ท้ายที่สุดนั้น หัวใจที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดมีชีวิตมากกว่าเดิม กลับทำให้เอ็ดเวิร์ดปวดร้าวเจียนตาย เสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น หวนหากับความจากพรากนั้น จนท้ายที่สุดเอ็ดเวิร์ดเลือกที่จะปิดใจตนเอง เมื่อรู้สึกว่า..ความปวดร้าวจากการ "รัก" มันมากเกินไปแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงสถานะเช่นนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสจะได้เจอตุ๊กตา 100 ปี กับคำพูดธรรมดาๆ ที่ทำให้เราสามารถยอมเปิดใจได้อีกครั้ง จนท้ายที่สุด..มันก็เป็นหนทางให้หวนกลับไปสู่ "บ้าน" ได้อีกครั้ง




มนุษย์เรา..หลายครั้งก็ไม่ต่างไปจากตุ๊กตากระเบื้อง

แตกร้าวได้ง่ายดาย และต่อให้ปะติดคล้ายเดิมได้อีกครั้ง...แต่มันก็ไม่มีวันเหมือนเดิม






เป็นหนังสืออีกเล่ม ที่ตลอดเวลาที่อ่าน ค่อยๆ สร้างความเจ็บปวดให้กับหัวใจตัวเอง จนต้องร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (แต่คิดว่าไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่จะรู้สึกเช่นนั้น อาจจะสำหรับคนที่เจอประสบการณ์บางอย่างเป็นพิเศษ หรือละเอียดอ่อนกับบางเรื่องมากสักนิด)


แม้ว่าเรื่องจะจบด้วยหนทางที่..หลายๆ คนคงวาดหวังว่าอยากให้ตนเองมีปลายทางเช่นที่เอ็ดเวิร์ดได้เจอ

แต่การมีปลายทางที่สมหวัง ก็ใช่ว่าจะทำให้เราลืมรอยแผลบาดลึกที่เคยเกิดขึ้น


แต่..ก็ไม่ใช่ทุกคน..ที่จะโชคดีได้ขนาดนั้น







ชอบปกพิมพ์ครั้งแรกมากกว่าครั้งที่สองค่ะ




ตินิดหนึ่ง - หน้าสุดท้ายที่สรุปเรื่องราวทั้งหมดไว้ อีกหน้าดันเป็นใบสมัครสมาชิกสนพ. ซึ่งเอ่อ..ใครจะยอมตัดหน้าที่มีเนื้อเรื่องเพื่อสมัครสมาชิก? ถ้าคิดจะให้ซีรอกซ์ก็..นะ ไม่ต้องเอามาไว้ในหนังสือก็ได้กระมัง ไว้ในเน็ตให้โหลด หรือเป็นใบแทรกในหนังสือก็น่าจะโอเคกว่า


ไม่รู้ว่าต้นฉบับเป็นอย่างไร แต่แปลดีมาก ถ้อยคำที่เลือกสรรมา ให้ความรู้สึกเจ็บแบบนุ่มนวล (เจ็บแบบไหนหนอ) ราวกับยาพิษทีค่อยๆ หยาดหยดลงลำคอทีละหยด ทีละหยด จนท้ายที่สุดก็ตายโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

ภาพประกอบก็สวยงาม ให้อารมณ์หม่นๆ แบบนุ่มนวล เข้ากับเนื้อเรื่องเป็นที่สุด






สรุปว่า ถ้าใครอ่านรีวิวของจขบ.แล้วชอบ น่าจะไปหามาอ่านกันค่ะ (555+)








ขอบคุณที่แวะมาหากันนะคะ

279184/3752/303






รายงานความคืบหน้าเรื่องเมมโมรี่สติ๊ก

กู้รูปคืนมาได้ไม่ถึงครึ่งค่ะ (ที่ใช้ได้ แบบดูรูปได้สมบูรณ์) อยู่ที่ประมาณ 700 รูปมั้งนะ นอกนั้นมีทั้งกู้มาได้ เป็นไฟล์ 300 กว่ากิโลไบต์ (รูปที่ดูได้ราวๆ สี่ร้อยกว่ากิโลไบต์) ซึ่งดูรูปไม่ได้ กับที่กู้ไม่ได้เลย

กำลังลังเลว่า ควรไปให้ร้านอื่นลองกู้อีกทีดีมั้ย เผื่อจะได้เพิ่มขึ้น เพื่อนๆ มีร้านไหนแนะนำก็บอกมาหน่อยนะคะ




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551    
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 11:35:18 น.
Counter : 2307 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.