* + * + * + * + * โนเวเชนโต้ (Novecento) - The Legend of 1900 * + * + * + * + *











โนเวเชนโต้ (Novecento)
ผู้เขียน
อเลซซานโดร บาริกโก (Alessandro Baricco)
ผู้แปล งามพรรณ เวชชาชีวะ
สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ
จำนวนหน้า หน้า
ราคา 119 บาท






เรื่องย่อ


เรื่องราวของชายหนุ่มนาม แดนนี่ บู้ดแมนน์ ที ดี เลม่อน โนเวเชนโต้ ที่เกิด เติบโต ใช้ชีวิตอันรุ่งเรือง และจบไปพร้อมกับเรือลำหนึ่ง อัจฉริยะทางเปียโนที่ไม่สามารถก้าวขึ้นไปใช้ชีวิตบนฝั่งได้ กับสถานที่ที่เขาพบว่า..มันไม่มีจุดสิ้นสุด








ความรู้สึกที่ได้อ่าน


โอ้..เป็นนักเขียนคนเดียวเลยที่เรารีวิวทุกเล่มที่เราอ่านนะนี่ โดยเรียงตามลำดับ นั่นก็คือ ไหม ไร้เลือด และล่าสุดกับโนเวเชนโต้ค่ะ (มีเรื่องไหนของนักเขียนคนนี้ที่แปลเป็นไทยแล้วอีกบ้างนี่ สงสัยต้องตามเก็บให้ครบหมดทุกเล่มแน่ๆ)




หากไหมคือความสั่นสะเทือนแห่งความเจ็บปวดในรักที่ไม่ได้แม้แต่สัมผัส

ไร้เลือดคือความโรแมนติกประหลาดล้ำท่ามกลางฉากตามล่า-ล้าง

หนังสือเล่มนี้ก็คือภาพวาดแอบสแตร็ก ที่บางครั้งอาจยากหรือง่ายพอกันในการทำความเข้าใจ แต่มันได้ความรู้สึกเมื่อจ้องมอง





บอกไม่ถูก และไม่รู้จะบรรยายอย่างไรกับหนังสือเล่มนี้ (หนังสือของบาริกโกนี่รีวิวยากโคตรๆ วุ้ย) นอกจากจะบอกว่า..หากใครเป็นหนอน (หนังสือ) แล้ว กรุณาอ่านเถอะค่ะ

มันได้อารมณ์ที่ประหลาด มีความเฉพาะตัวสูงอย่างที่หาจากนักเขียนคนอื่นๆ ได้ยากมาก แต่ขณะเดียวกัน ทุกท่วงทำนองของตัวอักษรกลับสั่นสะเทือนถึงความรู้ึสึกของคนอ่านได้อย่างมิอาจลืมเลือนไปได้ง่ายๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีความละเอียดอ่อนกับตัวหนังสือ น่าจะรับรู้และรู้สึกได้มากเป็นพิเศษค่ะ)

ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องชื่นชมคนแปลด้วยค่ะ (คือเทียบกับต้นฉบับไม่ได้ เพราะเราคงอ่านไม่ออก) เพราะการที่อ่านได้อารมณ์และความรู้สึกเช่นนี้ ก็น่าจะมาจากการที่คนแปลสามารถคงไว้ถึงสิ่งที่ต้นฉบับถ่ายทอดออกมาได้อย่างค่อนข้างดีด้วย





ชอบฉากตอนที่มีพายุแล้วโนเวเชนโต้ปลดล็อกเปียโนพร้อมกับเ่ล่นเปียโนไปด้วยมากๆ อยากไปอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงนั้น (ในหนังทำฉากนี้อย่างไรเนี่ย มีฉากนี้หรือเปล่า แต่ไม่น่าพลาดนี่นา) แล้วก็ช็อต "ประลอง" ฝีมือเปียโนที่เรียกได้ว่า อ่านจบก็ต้องถอนหายใจเฮือกยาวหลังจากแทบจะกลั้นหายใจตั้งแต่เริ่มฉากมาตลอดค่ะ






เป็นคนเขียนที่สร้างความรู้สึกเศร้าและจารรอยบางอย่างในความทรงจำและความรู้สึกให้ทุกๆ ครั้งที่ได้อ่านหนังสือของเขาจริงๆ ค่ะ










ติดอันดับนักเขียนในดวงใจไปอีกคนแล้วนะนี่














ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

634757/4673/439




 

Create Date : 05 เมษายน 2553    
Last Update : 5 เมษายน 2553 8:19:30 น.
Counter : 2448 Pageviews.  

* + * + * + * + * รายงานความเสียหาย มหกรรมล้มละลายของคนอ่านหนังสือแห่งชาติ * + * + * + * + *






สวัสดีค่ะ





ก็ตามธรรมเนียม (ของใครก็ไม่รู้) จขบ.ได้ไปเยือนงานหนังสือมาแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมานี้เอง โดยเป็นการไปในเวลาเย็น หลังกลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัดฮ่ะ โดยมีเวลาจำกัดเนื่องจากองครักษ์เกิดอาการงอแง ง่วงนอน (เนื่องจากคืนก่อนหน้านั้นมีบอลแมนยูอะนะ) ก็เลยขอเขาว่า แค่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แล้วจะรีบกลับ ก็ได้หนังสือทั้งที่อยู่ในลิสต์และนอกลิสต์มาดังนี้

อ้อๆ ก่อนอื่นไปที่บู๊ทแจ่มใสที่ใกล้ที่สุด ปรากฏว่า บู๊ทแจ่มใสในเพลนนารีฮอลล์ไม่ได้ขายผู้เสกทราย ต้องไปซื้อที่นอกประตู (โซนดีมั้งนะ ถ้าจำไม่ผิด) ก็เลยกะว่า เดี๋ยวไปซื้อข้างในๆ ให้ครบก่อนแล้วมาเก็บทีหลัง จากนั้นก็เลยตรงไปที่โซน C




บู๊ทสถาพร


ได้ดราก้อนดีลิเวอรี่ ภาค 5 มาหนึ่งเล่ม ราคา 120 บาท





บู๊ท นายอินทร์


เดอะลอสต์ซิมโบล (เล่มล่าสุดของแดน บราวน์) 395 บาท
เห็นผู้เสกทรายที่นี่ 2 เล่มราคาเล่มละ 161 บาท (แพงกว่าแจ่มใสเล่มละ 1 บาท) ก็เลยตัดสินใจซื้อเลย รวมแล้ว 232 บาท

เดินไปดูช็อกโซน เห็นน่าสนใจหลายเล่ม แต่กะว่าจะไม่ซื้อหนังสือนอกลิสต์ ก็เลยไม่ได้หยิบมา (ฝากสำหรับผู้ที่สนใจ มีอกาธาลดครึ่งราคาอยู่หลายเล่ม เป็นเซ็ตเลย น่าสนใจมาก คิดถึงทุกปีก็ด้วย และมีเล่มที่น่าสนใจอีกหลายเล่มเลย)

จากนั้นเดินไปตรงโปรโมชั่น ยื่นใบเสร็จ พนักงาน random ได้ลด 50% และหนังสือฟรีอีก 1 เล่ม หนังสือฟรีเลือกธอร่า หนูน้อยครึ่งบกครึ่งน้ำมา ส่วนลด 50% เลือก เดอะฮิสตอเรียน จาก 459 บาท ได้มาในราคา 229 บาท






(Note : บู๊ทนี้ลืมดูผจญภัยในสุสานมา อยู่สนพ.เพิร์ล ถ้าได้ไปอีกรอบ เก็บด้วย)






จากนั้นก็ตั้งใจจะกลับ เดินมาเฉียดโซนพลาซ่า เห็นมติชนอยู่ไวๆ เลยขอแวะหน่อย (ซึ่งพลาดอย่างแรง ต่อมต้านทานดันมาแตกซะงั้น) ไปโซน 50 บาท มีแต่เล่มที่เรามีแล้ว เลยไปดู 50% ได้มาซะงั้น ดังนี้




บู๊ทมติชน


สามสายใยในเงาอดีต 155 บาท
ปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงศ์ 110 บาท
เมียเจ้า 193 บาท
ความตายของวิษณุ 95 บาท






บู๊ทมูลนิธิเด็ก


เก็บงานของนักเขียนคนโปรด (ซึ่งมีหนึ่งเรื่องในเล่มนี้)

ภาษาหัวใจ จาก 150 บาท ลดเหลือ 120 บาท




ไม่ได้ไปหาคุณลวิตร์ เพราะหาบู๊ทซิลค์เวอร์มในโบรชัวร์ไม่เจอ (เดี๋ยวจะลองนั่งหาใหม่อีกซักรอบ) เซ็งจิต กะว่าจะขอลายเซ็นซะหน่อย อีกอย่างเกรงใจบอดี้การ์ดด้วย จะเดินหาต่อเองก็กระไร ก็เลยต้องกลับแต่โดยดี





รวมแล้วหมดไปกับรอบนี้คือ 1649 บาท



ึคิดว่าถ้าจะไปอีกรอบ คงเก็บผจญภัยฯ กับอีก 2-3 เล่ม น่าจะไม่เกิน 2000 นะงานนี้ (ไปหมดเยอะอีกทีน่าจะตุลา) ที่ใช้น้อยคงเป็นเพราะเพิ่งขนซื้อมาทั้งจากดับเบิ้ลเอเมื่อเดือนม.ค.ไปเกือบสองพัน คิโนฯ อีกพันกว่าบาท แล้วก็จากร้านหนังสือใกล้ที่ทำงานอีกหน่อยหนึ่ง






หวังว่า..ถ้าไปอีกรอบ ภูมิต้านทานจะยังคงแข็งแรง เพราะไม่งั้นไม่มีตังค์กินแกลบแน่ๆ เหอๆ









ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะคะ

631553/4662/437




 

Create Date : 31 มีนาคม 2553    
Last Update : 31 มีนาคม 2553 9:50:37 น.
Counter : 2134 Pageviews.  

* + * + * + * + * นิยายที่หายไป - ความสำคัญของการเล่าเรื่อง อยู่ที่การลำดับเรื่อง * + * + * + * + *






นิยายที่หายไป (The Thirteenth Tale)
ผู้เขียน
ไดแอน เซตเตอร์ฟิลด์
ผู้แปล ศศมาภา
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า 424 หน้า
ราคา 325 บาท




เรื่องย่อ


การได้เข้าไปสัมภาษณ์เพื่อเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของวีดา วินเทอร์ นักเขียนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง กับปริศนาของนิทานเรื่องที่สิบสามที่ยังคงไม่มีใครรู้คำตอบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ และการค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ทั้งในส่วนของวีดา วินเทอร์เอง และบาดแผลที่ยังคงอยู่ในใจของคนที่จับพลัดจับผลูได้เข้าไปสัมภาษณ์อย่างมาร์กาเร็ต ลีอา






ความรู้สึกที่ได้อ่าน



โอ้..นับตั้งแต่ภาพที่ไร้เสียงแล้ว ก็มีเรื่องนี้หละค่ะที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ (แต่ไม่หม่นเศร้า โหดร้ายเท่าหรอกนะคะ) กล่าวคือ..น่าติดตามมากๆ และขอบอกว่า..เป็นเรื่องที่เราจับ clue สำคัญไม่ได้จนถึงตอนใกล้เฉลยน่ะแหละ

เรียกได้ว่าพออ่านถึงประโยคที่บอกว่า ไม่มีนิทานเรื่องที่สิบสามพร้อมๆ กับการอ่านหนังสือถึงเช้าของลีอา เราก็เริ่มถามตัวเองแล้วหละค่ะว่า...เราจะได้นอนตอนกี่โมง?



โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนแล้ว รับรองว่า จะอ่านเล่มนี้ได้อินยิ่งกว่าคนทั่วๆ ไปแน่นอนค่ะ ทั้งนี้เพราะเรื่องนี้บรรยากาศและการดำเนินเรื่อง อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เราน่าจะมีความสุขในการอ่านค่ะ นั่นก็คือ

ร้านหนังสือ บ้านของนักเขียน และหนังสือ อ๊างงงงงงงงงง





การสร้าง clue แต่ละอย่าง การค่อยๆ เปิดเผยแต่ละอัน ก็ช่างชวนติดตาม ทำให้เรากระหายหิวที่จะอ่าน อ่าน และอ่าน


ตอนแรกที่อ่านว่าหนังสือของวีดา วินเทอร์ทำให้พ่อของนางเอกจมดิ่งไปกับการอ่าน เสียจนคนอื่นมาเอียงหนังสืออย่างแผ่วเบาเพื่อดูปกก็ยังไม่รู้สึกตัวนี่มันเป็นยังไง

แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้ ถือว่าใกล้เคียงกับการที่จะทำให้เราเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ (เสียแต่ว่า เราไม่ได้อ่านรวดเดียวจบ ซึ่งขอแนะนำสำหรับท่านที่จะอ่านนะคะ หากจะอ่านเล่มนี้ แนะนำให้อ่านแบบรวดเดียวจบ ใช้เวลากับเขาอย่างต่อเนื่องจะได้อรรถรสที่เต็มเปี่ยมกว่ามากๆ ค่ะ)


การมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในหลายๆ เรื่อง แม้กระทั่งการที่วีดาเลือกที่จะเขียนนิยายด้วยมือซ้าย แต่จดหมายเรียกคนเขียนอัตชีวประวัติด้วยมือขวาที่กำความลับของความจริงเอาไว้นี่...แหม้!!!!



อ่านแล้วนอกจากจะดื่มด่ำ จมดิ่งไปกับเรื่องที่ชวนติดตามแล้วก็ทำให้เราอยากหาอีกหลายๆ เรื่องมาอ่านค่ะ (ซึ่งหนอนหลายๆ คนน่าจะได้อ่านแล้วแหละ แหะๆ) ไม่ว่าจะเป็นนางในชุดขาว ต้นรักดอกโศก ความรักของเจน แอร์ ปราสาทโอทรันโต ความลับของเลดี้ออดลีย์ เจ้าสาวปีศาจ ดอกเตอร์เจคิลล์และมิสเตอร์ไฮด์


นอกจากนั้นก็เพิ่งรู้ว่ามันมีโรคที่เกิดกับหญิงสาวที่มีจินตนาการโรแมนติก (ซึ่งคุณหมอถามอาการที่มาของโลกด้วยการถามว่า คุณอ่านต้นรักดอกโศก ความรักของเจน แอร์ เซนส์แอนด์เซนซิบิลิตี้ หลายรอบ ซ้ำแล้วซ้ำอีกใช่ไหม?) และหมอก็ให้ยาแก้ คือ สั่งให้อ่านเรื่องสั้นเชอร์ล็อก โฮล์มส์ชุดบันทึกคดีโดยเซอร์อาเธอร์ฯ โดยอ่านครั้งละสิบหน้าวันละ 2 ครั้งจนกระทั่งจบ





แต่มีข้อสงสัยหลายๆ ประการ ประการหนึ่งคงต้องรบกวนให้บรรดา Cat People ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ มีประโยคหนึ่งที่พ่อบอกกับนางเอกว่า "แมวยอร์กเชียร์จะเอาแม่น้ำไปทำอะไร มันคิดถึงทุ่งหญ้ามัวร์ต่างหาก" (ซึ่งทินา สาวที่เคยอยู่ยอร์กเชียร์บอกว่า เนื่องจากแถวๆ ยอร์กเชียร์มีแต่ทุ่งหญ้ามัวร์ ก็เลยทำให้แมวน่าจะคุ้นกับสภาพภูมิประเทศอย่างนั้นมากกว่าแม่น้ำกระมัง)


รวมทั้งในหน้า 18 ชาร์เลอมาญ - คืออะไรคะ? ไม่มีเชิงอรรถอธิบายด้วยง่ะ แหะๆ (มีเพื่อนนักอ่านบอกว่า พระเจ้าชาร์เลอมาญหรือเปล่าน่อ)


แล้วก็อยากเห็นดอกแดฟนีค่ะ อ่านที่บรรยายแล้วเราน่าจะชอบ เดี๋ยวจะลองเซิร์ชหาดูค่ะ

รวมทั้ง "สัทอักษร" - มันคืออะไร?








สำหรับคำผิดในเล่มนี้ มีดังนี้ค่ะ


หน้า 42 ...ต่างกันพียง ข้อหนึ่ง - ตกสระเอไปค่ะ เพียง

หน้า 43 นึกสงสัยว่าการตอบรับหรือปฏิเส - ตกธอธง

หน้า 155 ผู้มาใหม่หมายถึงการมีดวงตาที่ชัดแจ่มอีกคู่หนึ่ง หูอีกชัดแจ่มคู่หนึ่ง
- น่าจะเป็น หูชัดแจ่มอีกคู่หนึ่งมากกว่านะคะ

หน้า 161 พลางส่ายศีรษะอย่างเชื่อมั่นใจโชคชะตา - เชื่อมั่นในโชคชะตา?

หน้า 182 มันดุนฉันอีกเอาแก้มถูกซี่โครงของฉันและร้องเหมียวช้าๆ
- ที่จริงมันก็ใช้ได้แหละค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น ถู หรือเปล่า
(คงต้องดูต้นฉบับแหละนะคะ แหะๆ)

หน้า 192 เพียงแต่แยกจากสถานที่ที่เคยอยู่ด้วยกันเเท่านั้น - สระเอเกินมาค่ะ

หน้า 196 อะไรหรือคะ" เครื่องหมาย " (คำพูดเปิด) หาย

หน้า 269 จอนห์ - จอห์น

หน้า 293 ฉันไปยืนข้างหลังเธอย่างไม่เต็มใจ - อ.อ่างหายไปหนึ่งตัว

หน้า 362 มิสซิลมอดสลีย์ - มิสซิสค่ะ
และ ขวัญหาย๑) - เครื่องหมายคำพูดปิดเกินมา?












ปิดท้ายด้วยประโยคที่เราชอบๆ นะคะ (ซึ่งบางอย่างก็ไม่ได้เ็ห็นด้วยนะคะ )





เรื่องแต่งสนุกๆ ย่อมน่าตื่นเต้นกว่าเรื่องจริงที่ขาดวิ่นเสมอ







การอ่านก็คือการดูแลหนังสือ








...และสำหรับฉัน จะมีวิธีใดช่วยให้รู้จักใครสักคนได้ดีกว่าการดูหนังสือที่เขาเลือกและการดูแลรักษาหนังสือของเขา






...คนที่ชีวิตขาดดุลยภาพเนื่องจากปราศจากความสนใจเรื่องเงินทอง จะทุกข์ร้อนจากการถูกครอบงำด้วยคุณธรรมส่วนตัวอย่างน่ากลัวทีเดียว








"ความสุภาพ นั่นมันคุณธรรมของคนยากจนถ้าจะมีสักข้อละก็นะ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าความไม่ก้าวร้าวมีอะไรน่าชื่นชมนักหนา ในเมื่อมันทำง่ายจะตาย ไม่เห็นต้องใช้พรสวรรค์อะไรที่จะทำตัวสุภาพ ตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ การทำตัวดีน่ารักคือสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำเมื่อทำอย่างอื่นล้มเหลวมาหมดแล้วคนที่มีความทะยานอยากไม่สนใจหรอกว่าใครจะคิดอย่างไรกับเขา..."








ชีวิตคือปุ๋ยและต้องการเวลาเน่าเปื่อย ก่อนจะนำไปใช้หล่อเลี้ยงงานเขียนนิยายได้








"..เรื่องไหนๆ ก็มีตอนต้น ตอนกลางและตอนจบด้วยกันทั้งนั้น แต่การเรียงลำดับให้ถูกต้องต่างหากคือสิ่งสำคัญ นั่นคือเหตุผลที่คนชอบหนังสือของฉัน"







"...ชีวิตของเราสำคัญต่อเรามากเสียจนเรามักจะคิดว่าเรื่องราวของชีวิตเริ่มต้นพร้อมกำเนิดของเรา ก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรเลย แล้วฉันก็ถือกำเนิดขึ้น...แต่ไม่ใช่เลย ชีวิตมนุษย์มิใช่เส้นใยที่สามารถแยกออกจากเงื่อนปมของเส้นใยเส้นอื่น แล้วนำมาวางไว้ต่างหากได้ ครอบครัวคือใยแมงมุม เราไม่สามารถสัมผัสส่วนหนึ่งส่วนใดได้โดยไม่ทำให้ส่วนอื่นๆ ไหวสะเทือนไปด้วยเราไม่สามารถทำความเข้าใจส่วนหนึ่งส่วนใดได้หากไม่เข้าใจภาพรวมทั้งหมด..."








สรุปแล้ว สำหรับเรื่องนิยายที่หายไป เชียร์ให้หนอนอ่านกันนะคะ เชียร์ๆ











ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

630591/4660/436




 

Create Date : 29 มีนาคม 2553    
Last Update : 29 มีนาคม 2553 12:53:58 น.
Counter : 2086 Pageviews.  

* + * + * + * + * จอมโจรยูเจนิดิส ราชินีแห่งแอตโทเลีย ราชันย์แห่งแอตโทเลีย * + * + * + * + *










จอมโจรยูเจนิดิส
เขียนโดย
เมแกน วาเลน เทอร์เนอร์
แปลโดย ปัทมา อินทรรักขา
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
จำนวนหน้า 230 หน้า
ราคา 175 บาท


ราชินีแห่งแอตโทเลีย
จำนวนหน้า
311 หน้า
ราคา 215 บาท


ราชันแห่งแอตโทเลีย
จำนวนหน้า
329 หน้า
ราคา 255 บาท






เรื่องย่อ


อ้อๆ ขอเตือนนะคะ ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน กรุณาอย่าเพิ่งอ่านเรื่องย่อของเล่มสามนะคะ




เล่มแรก - จอมโจรยูเจนิดิส

การเปิดตัวให้เราได้รู้จักกับจอมโจรผู้กล่าวอ้างว่าตนสามารถขโมยได้ทุกอย่างกับภารกิจที่โดนมอบหมายจากประเทศซูนิสในการตามหาของขวัญแห่งฮามิอาธิสเพื่อแลกกับ "อิสรภาพ" จากการเป็นนักโทษของกษัตริย์แห่งซูนิส



เล่มสอง - ราชินีแห่งแอตโทเลีย

ราชินีผู้ที่จับกุมจอมโจรที่กระทำการเสมือนเย้ยพระนางถึงพระราชวัง จนทำให้นางต้องลงโทษเขาด้วยโทสะ ที่สร้างบาดแผลให้ทั้งแก่ตนเองและจอมโจรผู้ยิ่งยง การชิงไหวชิงพริบ การวางแผน อันเป็นการตัดสินอนาคตของประเทศ หากแต่..บางครั้ง "ผู้" ที่มีส่วนในแผนการนั้น ก็มิใช่ผู้ที่พวกเขาจะควบคุมได้



เล่มสาม - ราชันแห่งแอตโทเลีย

จอมโจรผู้กลับกลายสถานะตนเองที่ยังคงวางแผนและต้องยอมรับหน้าที่และความรับผิดชอบที่ไม่อยากรับ หากแต่..กับบางสิ่งแล้ว..คนเราไม่ได้มีทางเลือกเป็นของตนเองเสมอไป









ความรู้สึกที่ได้อ่าน

โอ้..สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ



เป็นนิยายแฟนตาซี ชิงไหวชิงพริบที่สนุกมาก และแม้ใครจะบอกว่า เล่ม 1 อืดโคตรๆ แต่สำหรับเรามันชวนติดตามตั้งแต่แรกอ่าน (แต่อาจจะเป็นความรู้สึกของคนอ่านปกติที่ไม่ชอบการปูพื้นอะไรเยอะๆ บรรยายมากๆ นะคะ) แต่สำหรับเราแล้ว แค่ขึ้นต้นมาก็ทำเอากระหายใคร่รู้แล้วว่า ไอ้จอมโจรฯ คนนี้มันเป็นใคร มันทำอะไร แล้วมันจะทำอะไรต่อไป คือ..ได้กลิ่นแปลกๆ ของมันตั้งแต่เริ่มบรรยายแล้วค่ะ ล้วยิ่งอ่านก็ยิ่งแอร๊ยยยยยส์ส์..คิดถึงหน้าป๋าเดปป์ลอยมาเป็นระยะซะงั้น



ส่วนในเล่มสองนี่เป็นอะไรที่ไม่ได้แปลกใจนักค่ะ เพราะเป็น 1 ใน 2 ที่เราคาดเดาไว้


เตือน - สปอยล์นะคะ


(ในเรื่องของความรู้สึกของจอมโจรฯ เพราะเราคิดตั้งแต่แรกว่าการทิ้งต่างหู ไม่ใช่การ "เย้ย" แน่ๆ)

ส่วนเรื่องของเทพเจ้า ตั้งแต่ตอนที่ได้ยินเสียงบอกกับราชินีว่า
"อย่าทำให้ปวงเทพเจ้าขุ่นเคือง"

กับการที่ราชินีจับได้ เราก็คิดแล้วว่า..เอ่อ..คงมีอะไรเกี่ยว ยิ่งตอนราชทูตมีดส์ ที่ราชินีถามว่า แตะไหล่ท่านหรือแค่เรียกชื่อนี่ เราก็รู้สึกว่า..อ้อๆ เล่นอย่างนี้เหรอเทพเจ้า แต่ขอบอกว่า ถึงเดาได้ก็ยังสนุกค่ะ

หมดสปอยล์ค่ะ




สำหรับเล่ม 3

การเติบโตขึ้นของเจ็นที่เราชอบอ้ะ เหมือนเด็กที่โตเป็นผู้ใหญ่ จากการมีบาดแผล สูญเสีย และรู้จักที่จะยอมสละบางสิ่งเพื่อคนที่ตนเองรัก (โรแมนติกจ๋ากันเลยทีเดียว) การชิงไหวชิงพริบ การวางหมากวางแผน ที่ยังคงฉลาดล้ำ ชอบๆ






เรารู้สึกว่าเสน่ห์ของทั้งสามเล่มนี้ นอกจากการสรรค์สร้างตัวละครที่มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน มีความกลม ทุกคนมีดี มีชั่วในตัวเอง มีบาดแผล มีการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองแล้ว การวางหมากในการเขียนบรรยายที่ทิ้ง clue ไว้เป็นระยะ (ที่แม้ว่าจะเก็บรายละเอียด วิเคราะห์และคาดเดาได้ง่ายกว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์) ซึ่งนั่นทำให้คนอ่านที่ช่างเก็บรายละเอียดก็ยังคงสนุกไปได้ค่ะ

เนื่องด้วย..คนเขียนทำให้คนอ่านหลงรักตัวละครได้ไม่ยาก และพลอยลุ้นไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย (นอกจากจอมโจรฯ แล้ว เราหลงรักคอสติสด้วยนะคะ เราชอบผู้ชายซื่อ+ตรงแบบนี้ง่ะ )

รวมทั้งอารมณ์ขันที่มีหยอดให้คนอ่านได้ขำได้อมยิ้มอยู่เรื่อยๆ และฉากความประทับใจ ที่ทำเอาซาบซึ้งอยู่ไม่น้อย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเล่ม 3 น้ำตาคลอหลายรอบเลย)



เป็นชุดหนังสือที่เขียนได้อย่างชาญฉลาด น่าอ่านและน่าติดตาม (ใครที่อ่านเล่ม 1 แล้วไปไม่รอด ช่วยพยายามอ่านต่อไปจนกว่าจะจบเล่ม 3 เถอะค่ะ สนุกจริงๆ)


เล่มอื่นที่ต่อมา (ซึ่งยังไม่ได้หาข้อมูล ตกลงว่ามันจะมีกี่เล่ม?) คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของโซฟอสกับราชินีแห่งเอ็ดดิสนะคะ เพราะตัวละครโซฟอสก็น่ารักอยู่ไม่น้อย ฮิ้วววววววว (เพิ่มเติม - มีเพื่อนนักอ่านแจ้งว่า เล่ม 4 ภาษาอังกฤษจะออกเดือนเมษายนนี้ค่ะ)





ข้อสงสัย


- อ่านพลาดไปตรงไหนเรื่องธนูที่โดนสะโพกของคอสติส?

- ฝีมือของเจ็นขนาดนั้น ทำไมด้วยมือเพียงข้างเดียวถึงไม่สามารถสังหารฮูเซเรชได้? (หรือแค่หมายถึงว่า ไม่สามารถสังหารด้วยการบีบคอได้อย่างที่ต้องการ?) เพราะการโมโหโกรธาหลังรู้ว่า เหล่านักสังหารที่ส่งมาเป็นฝีมือใคร และให้มหาดเล็กเป็นคนเฉลยบอกว่าโกรธเพราะมีมือเพียงข้างเดียวจึงไม่สามารถสังหารได้นั้น ดูเป็นน้ำหนักที่เบาบางเกินไปหน่อยค่ะ (ฝีมือดาบขนาดนั้น แม้จะมีมือข้างเดียวก็เหอะ) แต่..ถ้าหมายถึงการ "บีบคอ" ก็..โอเคค่ะ พอเข้าใจได้อยู่







ป.ล.เนื้อหาทั้งหมดเอามาจากรีวิวตอนร่วมโครงการ WWR ซึ่งได้ทอนรายละเอียดบางอย่าง แต่พอจะรีวิวลงบล็อกแล้วเอารายละเอียดมาใส่เพิ่ม ดันหาสมุดจดไม่เจอซะงั้น เหอๆ














่ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

631767/4651/435




 

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 8:14:47 น.
Counter : 2481 Pageviews.  

* + * + * + * + * แท็กหนอนหนังสือ หนังสือหนอน * + * + * + * + *




TAG: Bookworm

ทำ ณ วันที่ 15 มีนาคม 2553







1. หนังสือ



- หนังสือที่เพิ่งหยิบ และเหตุผล

ประวัติศาสตร์โลกใน 6 แก้ว เพราะอ่านค้างไว้อยู่ จะอ่านให้จบน่ะ


- หนังสือที่อ่านจบเรื่องล่าสุด

ประวัติศาสตร์โลกใน 6 แก้ว อ่านจบก่อนมาเล่นเน็ตจนเจอแท็กนี่แหละ






- หนังสือที่อยากอ่านตอนนี้แต่ยังไม่ได้อ่านสักที
เพียบเลย หนังสือในกองดองที่มีอยู่อีกประมาณ 30 กว่าเล่มนี่แหละ อยากอ่านให้จบ งานหนังสือจะได้ซื้อหนังสือมาตุนใหม่ได้อย่างสบายใจอ้ะ

- หนังสือที่หยิบมาอ่านซ้ำเรื่อย ๆ
อืมม์..สมัยก่อนน่าจะมีต้นส้มแสนรัก เพชรพระอุมา กับการเดินทางของส่วนที่หายไป
แต่ไม่ได้หยิบหนังสือมาอ่านซ้ำนานมากๆ แล้วอ้ะ

- หนังสือที่อยากแนะนำต่อให้ชาวบ้านอ่าน ได้โปรดอ่านเถอะพลีส
ในช่วงนี้เหรอ ผู้เสกทรายค่ะ






- หนังสือที่ยังอ่านไม่จบก็เขวี้ยงทิ้งไป (warning: answer at your own risk)
ไม่เคยเขวี้ยงหนังสือทิ้งอะจิ มีแต่..ไม่ตัดสินใจอ่านตั้งแต่แรก

- หนังสือที่อ่านแล้วสนุกผิดคาด (พระเจ้าตูไปอยู่รูไหนมาวะทำไมไม่อ่านมันมาตั้งแต่นานแล้วเนี่ย)
ยังไม่มีขนาด "ผิดคาด" อะจิ

- หนังสือที่ใช้เวลาอ่านยาวนานที่สุด (ยังไม่จบก็ได้)
พี่น้องคารามาซอฟ ตั้งแต่สม้ัยปอตรี จนป่านนี้ยังอ่านไม่จบ และไม่รู้ว่าจะได้อ่านจบเมื่อไหร่ เหอๆ







2. ตัวละคร


- ตัวละครล่าสุดที่อ่านแล้วจิกหมอน กรี๊ด ๆ
เอิ่ม..ไม่มีง่า

- ตัวละครที่อ่านทีไรก็จิกหมอนทุกที
เอิ่ม..ยังคงไม่มีต่อไป

- ตัวละครที่อยากเหยียบให้ตาย
นึกไม่ออกแฮะ (เอิ่ม..สงกะสัยส่วนนี้ของแท็กจะแทบไม่มีคำตอบเลย)

- ตัวละครที่ติดอยู่ในความทรงจำ ลบมันออกไปไม่ได้ ประมาณผีเกาะหลัง (จะแง่ไหนค่อยว่ากันอีกที)
เซเซ่ค่ะ

- ตัวละครที่อยากเจอสักวัน ถ้าเป็นไปได้
เจ้าชายน้อยค่้ะ อยากจับผมเจ้าชายน้อย อยากคุยด้วยสักครั้ง






- ตัวละครที่น่าสงสารที่สุด ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน (เช่น ออกมาสามฉากก็ตายเอนจอนาถ แห้วตลอดกาล ซวยอย่างไร้สติ ฯลฯ)
โิอคิตะ จากนักกี้จอมใจจอมแก่น ทำให้เราร้องไห้ได้ทุกครั้งที่นึกถึง

- ตัวละครที่มีอิทธิพลต่อตัวเรา (ประมาณว่าอ่านแล้วเกิดอยากเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งในทางสร้างสรรค์และไร้สาระ เช่น อ่านเรื่องนี้ ตัวละครไปกินพิซซ่า ทำให้เราอยากกินมากจนไปหามากิน)
บิ๊กโอ ในการเดินทางของส่วนที่หายไป






3. อื่น ๆ



- ประเทศ/ดินแดนที่อยากไปเยือน
ตอนนี้คือนิวซีแลนด์ เพราะเป็น 1 ในสองประเทศที่แม่อยากไป (อียิปต์อีกที่) ก็เลยอยากพาแม่ไปเที่ยวขณะที่แม่ยังไหวน่ะ
ถ้าเอาดินแดนแฟนตาซีก็..เกาะเกาะหนึ่งในอบารัต

- ประเทศ/ดินแดนที่อยากไปอยู่ (อันบนแค่เที่ยวเฉย ๆ อันนี้แบบว่าตั้งรกรากเลย)
ประเทศไทย ในยุคพระศรีอาริย์

- ประเทศ/ดินแดนที่โคตรไม่อยากไปเยือน
เกาะเกาะหนึ่งในอบารัตเช่นกัน

- สถานที่ที่อยากไป (ร้านขายของ บ้านตัวละคร ห้องสมุดปริศนา ฯลฯ)
อยากไปหอสมุดไอดา (ในมังกรดีลิเวอรี)เราน่าจะมีความสุขกับการอยู่ที่นั่น

- โรงเรียนที่อยากไปเรียน
ฮอกวอร์ต



ภาพจากเว็บ //www.yenta4.com/images/myalbum/4/2014404/342903/4983f90661fa8


- อาหารที่อยากกินที่สุด
ช็อกโกแลตกบ

- สัตว์เลี้ยงที่อยากเลี้ยง
มังกร

- อาวุธที่อยากลองใช้สักหน (+ตัวที่อยากเอาอาวุธนั่นไปเฉาะหัวสุด ๆ ด้วยก็ได้)
wand






ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

625788/4632/433






 

Create Date : 18 มีนาคม 2553    
Last Update : 18 มีนาคม 2553 8:54:46 น.
Counter : 2363 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.