images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

หา เก็บ ใช้ และให้... แค่นี้จริงๆ

พรุ่งนี้มีแผนจะไปเดินตลาดนัดกองทุนรวมที่พารากอน คงใช้สองชั่วโมงสุดท้ายก่อนเลิกงานไปเดินดูโปรโมชั่นกองทุน ไปเดินดุ่มๆตามลำพังนี่แหละ ง่ายๆ สบายๆดีค่ะ

แปลกแต่จริง หาคนคุยเรื่องเงินๆทองๆแบบที่ตัวเองอยากจะคุยไม่ค่อยได้เลยค่ะ เผื่อว่าจะขอความรู้ได้บ้าง เพราะรู้ตัวว่ายังไม่ได้เก่งหรือรอบจัด
เรื่องนี้มากนัก น้องหลายคนที่เราถามถึงเรื่องเก็บเงินยังไง ล้วนแต่แบะๆแล้วบอกว่าจะกินให้ชนเดือนบางทียังยาก

เอ... แล้วเงินไปไหนหมด

เขาไม่เก็บเงินกันหรือ

ในวัยเท่าน้อง ฉันเข้าใจดีว่าเรื่องใช้เงินน่ะมักจะ 'เยอะ' เสมอ มันเยอะตาม
อะไรก็ไม่รู้แหละ รู้แต่ว่าการใช้สำคัญกว่าการเก็บ เราคิดว่าจะใช้ยังไงมากกว่าจะเก็บยังไง

ไม่แปลกเลย ถ้าพบว่าในวัยสามสิบ เงินเก็บยังมีนิดเดียว ไม่มีคำว่า
อิสรทางการเงินหรือแผนฉุกเฉินในหัว ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาละก็ อาจจะลำบากได้ ไม่มี๊ ไม่มีความคิดแบบนี้ ชีวิตยังเป็นเรื่องสนุก และเรายังมีเวลา

ซึ่งไม่จริง

ฉันมารู้เรื่องดอกเบี้ยบ้าน ว่ามันแสนจะบานแค่ไหนก็ตอนวางแผนจะซื้อบ้าน
ถ้าไม่ลงมือทำ หรือไม่ศึกษาก็ไม่รู้

ฉันใช้บัตรเครดิตแบบผิดๆ กว่าจะรู้ตัวว่าทัศนคติที่มีต่อการใช้เงินล่วงหน้ามันอันตรายมากแค่ไหน ก็ตอนที่จ่ายๆไปแล้วทำไมต้นมันลดนิดเดียว โปะเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที

ไม่มีใครแนะนำ ยังไม่เท่ากับเราดื้อ ปิดหู ปิดตาและไม่ใส่ใจ

กรี๊ด .. คำว่าไม่ใส่ใจนี่แหละแสลงใจนักค่ะ

กว่าจะรู้ตัวว่าใช้เงินผิด ไม่มีการวางแผน และบลา บลา บลา ก็เสียเวลาไปุถมถืด แล้วเชื่อไหมคะ เมื่อหันมาใส่ใจเรื่องนี้ ความรู้สึกดีต่อตัวเองก็
เพื่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ รู้สึกดีที่ดูแลตัวเอง และมั่นใจว่าตัวเองเดินถูกทางแล้ว

เมื่อกลางวันฉันคุยกับน้อง น่าจะเป็นการปรับทุกข์มากกว่า คนทำงานในระบบมักจะเจอปัญหาที่ uncontrol จากหลายๆปัจจัย และบางครั้งก็ทำให้เราลำบากใจจนอยากจะหยุดและเดินออกมา

ใช่ ฉันบอกน้องว่าต่อให้วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันยังมีเงินรองรังอยู่ได้นานเป็นปี นานพอที่จะหยุดพักและสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต มันเป็นความรู้สึกที่ดีนะคะ ที่ได้สร้างหลักประกันบางอย่างให้ตัวเอง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเรามีหลักที่รองรับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า

ในเมื่อตัวคนเดียวก็ต้องมั่นใจได้ว่า เราจะไม่ทำให้ใครมาเดือดร้อนกับเราด้วย

คำแนะนำสำหรับมือใหม่หัดเก็บที่ฉันใช้และได้ผลที่สุด คือการจ่ายให้ตัวเองก่อนตามหลักที่โค้ชการเงินหลายคนจากตำราหลายเล่มได้บอกไว้ ง่ายที่สุดแล้วคือรายได้เข้าให้หักส่วนหนึ่งออกมาก่อนแล้วเอาไปเก็บไว้ให้ไกลหูไกลตา เพื่อจะได้ไม่แตะต้องมัน จากนั้นก็ปล่อยให้มันโตด้วยวิธีการอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ

อ่านหนังสือเยอะๆ หรือใช้เว็บไซต์ให้เป็นประโยชน์ในการค้นหาข้อมูล
แล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง ด้วยวิธีที่ตัวเองทำได้ง่ายๆไม่ฝืนใจ แล้วจะสนุก อยากทำไปอีกเรื่อยๆ

ฉันบอกน้องว่าทุกเดือนฉันจะพยายามเก็บ 40% แต่ถ้าได้น้อยกว่านั้นไม่เป็นไร แค่ขอให้มีเก็บ และหาวิธีจัดการกับมัน ส่วนที่เหลือจากนั้นค่อยใช่้และคอยควบคุมมันด้วยการจดบัญชี เพื่อให้รู้ว่าใช่้อะไรไปเท่าไหร่

มันได้ผลจริงๆด้วยค่ะเพราะฉันจดทุกวันจนกลายเป็นว่าวันไหนไม่ได้จด จะลงแดงขึ้นมาทันที

นี่คือวิธีการจัดการและใส่ใจกับเงินในกระเป๋าอย่างรับผิดชอบและง่ายที่สุดแล้ว

หา เก็บ ใช้ และให้

ฉันให้มูลนิธิหักเงินเพื่อเป็นทุนสนับสนุนให้เด็กนักเรียนส่วนหนึ่ง และอีกส่วนเล็กๆหักไว้สำหรับประกันชีวิต มีประกันชีวิตสองก้อนและประกันโรคมะเร็งรวมถึงประกันชดเชยรายได้เอาไว้บ้าง รวมถึงกรมธรรม์อุบัติเหตุอีกหนึ่งก้อนไม่ใหญ่โต มีไว้เพื่อเป็นหลักรองรับ ฉันยังมีแผนจะซื้อเพิ่มเผื่อรองรับช่วงเวลาที่อาจจะออกมาทำงานนอกระบบ

เงินๆทองๆ เมื่อบริหารเข้าจริงๆ มันก็มีหลักให้จับต้องอย่างง่ายๆอยู่แค่นั้น
สำคัญอยู่ที่ความใส่ใจที่เราจะมีให้กับตัวเองหรือไม่ เมื่อก่อนก็เกลียดตัวเลขเข้าใส้เลยค่ะฉันน่ะ เพราะคิดอย่างนี้เลยเสียเวลาวางแผนไปหลายปี
ยังนึกเสียดายอยู่เลย ถ้ารู้หลักง่ายๆแล้วทำได้อย่างนี้ตั้งแต่แรก คงจะรู้สึกดีกว่านี้อีกหลายเท่า

สั้นๆแค่นี้ ... หา เก็บ ใช้และให้ ... แค่นี้เองจริงๆค่ะ

ง่ายๆค่ะถ้าจะทำ !




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2554 0:18:18 น.
Counter : 555 Pageviews.  

บนสะพานที่นำฉันข้ามไป...



ช่วงนี้ เป็นช่วงยากลำบากของฉัน ปีนี้ เป็นปีที่แสนเหนื่อยยาก
นอกจากรู้สึกว่า แต่ละวันผ่านไปอย่างยากเย็นแล้ว
บางวัน ยังรู้สึกหมดเรี่ยวแรง

ช่วงนี้ หรือช่วงที่ผ่านมา ฉันรู้สึกว่าชีวิตไม่ปราณีเลย
มีโจทย์แปลกๆ และสมองต้องคอยจัดการกับความคิดลบๆ
ที่เข้ามาในใจเรื่อยๆ
มีเรื่องมากมายที่เข้ามาให้สู้รบปรบมือด้วย จนพลิกตำราหาคำตอบ
แทบไม่ทัน

บางเรื่องแก้ไม่ได้ ฉันจะวางไว้ตรงนั้น
ไม่แยแสมันบ้าง เพราะเราควบคุมภายนอกไม่ได้เลย
ให้ใครมาคิดอย่างเราก็ไม่ได้ ให้เขาทำอย่างที่ใจเราอยากทำก็ไม่ได้
หลายเรื่องที่เข้ามากระทบ ทำให้ต้องตั้งสติคิดบวกอย่างมาก
มากจริงๆ

ไม่อย่างนั้นต้องไม่รอดแน่ๆ

ฉันน่ะเป็นมนุษย์เจ้าปัญหาที่ปัญญาไม่ค่อยมาตอนอยากให้มา
เวลามีปัญหามากระทบ ถ้าเป็นสมัยยังเด็กกว่านี้จะฟูมฟาย งอแง
ก่อนแล้ว

หวนนึกไปถึงว่า เป็นเด็กขี้โรคที่ไม่สบายบ่อย พ่อกับแม่ต้องคอยดูแล
โอ๋ไปโอ๋มา ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าต่อเมื่อเราโต เราจะไม่รู้เลยว่า
เราต้องแก้ปัญหาให้ตัวเองยังไง นอกจากมองหาใครสักคนมาเกี่ยวมือเรา
พาเราออกไป

ฉันรู้แล้ว...ไม่มีใครโอ๋เราไปได้จนตาย

เราต้องเข้มแข็งนะ ไม่มีใครบอกเรา แต่เราต้องรู้ตัวเอง

...

อานิสงฆ์ หรือเดชะบุญที่ยังมีบุญคุ้มหัว ฉันโชคดีที่ยังมีครอบครัว
รักและเป็นกำลังใจให้เสมอ โดยเฉพาะพ่อกับแม่

ชาติหน้ามีจริงจะขอเกิดเป็นลูกครอบครัวนี้ พ่อและแม่คนนี้

คนคู่นี้ทำให้ฉันรู้ว่าควรอดทน ดูแลตัวเองให้ดี และเป็นคนดี
และคนคู่นี้ทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองยังมี 'ที่ไป'

คิดถึงพ่อกับแม่จัง

บางทีเมื่อน้ำตาไหลร้องไห้ จากเรื่องภายนอกที่มากระทบไม่ว่าเรื่องอะไร
ฉันรู้ว่าพ่อกับแม่จะเข้าใจเสมอ

เข้าใจแม้กระทั่งวิถีชีวิตที่ผิดแผกแตกต่างจากขนบประเพณีของคนต่าง
จังหวัดที่ลูกสาวไม่ยอมแต่งงานมีชีวิตปกติ เข้าใจและให้กลับแม้กระทั่ง 'อิสรภาพที่ลูกมีสิทธิ์เลือก' เพราะนั่นคือชีวิตของลูก

ปัญหาบางอย่างพ่อกับแม่ไม่รู้ เพราะลูกเก็บงำเอาไว้ไม่บอก
แต่บอกกับพ่อและแม่ว่า ไม่เป็นไร.. ยังไหว อยู่ได้ อย่าห่วงเลยนะ
เพราะลูกไม่อยากให้พ่อกับแม่ทุกข์ไปกับลูกด้วย

เหนื่อยมากแล้ว ลูกยังเหนื่อยได้ไม่ถึงครึ่งของพ่อกับแม่เลย

คิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน..

ความรักของพ่อกับแม่เยียวยาใจฉัน มันเหมือนสะพานในเพลงๆนี้
เพลงด้านบนที่คุณได้ฟัง

....

ช่วงที่พบเจอเรื่องหนักๆ ฉันจะชอบทำเรื่องดีๆ เป็นต้นว่า บางวัน
มีคนมาขอยืมหนังสือเล่มที่รักมาก ฉันจะยกให้ทันที แม้จะบอกว่าขอยืม
แต่ฉันจะยกให้เลย

หรือบางวันไปค้นเล่มที่เหมาะจะให้ใครก็จะหยิบติดกระเป๋ามาให้ ให้เลยแบบไม่ลังเลหรือเสียดาย

ปวารณาว่าจะให้ ให้เท่าที่จะให้ได้ ให้กับใครก็ได้

ให้แล้วเบา สบาย ...

บางสิ่งที่หวงไว้ไม่มีประโยชน์เลย ถ้าคนอื่นจะเอาไปแล้วใช้ประโยชน์ได้ จริงๆก็คงดีกว่า การให้ทำให้เราไม่หวง แบ่งปันไปบ้าง ไม่รกบ้าน แถมยังไม่รกใจ

บางทีมันก็ยากตรงนั้นแหละ ตรงกว่าจะตัดใจหรือตัดบางสิ่งออกไปจากชีวิตเราได้ ความรู้สึกหวงของ ว่าของนั้นเป็นของเรา ก็ทำให้เรายึดติด
ปล่อยไม่ได้สักที

ของก็ไม่ต่างจากคน

จะยึดติด เก็บไว้ทำไม ถ้าคนๆนั้นไม่ได้มีคุณค่าต่อชีวิตเราเลย

คำตอบมีอยู่แล้ว บางอย่างไม่จำเป็นต้องเสียดาย !!




 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 6 กรกฎาคม 2554 22:36:24 น.
Counter : 563 Pageviews.  

เราเลือกได้ ไม่่ใช่ไม่มีทางเลือก

เลือก ??

จริงๆแล้วเราก็เลือกอยู่ตลอด ไม่ใช่แค่วันนี้
แต่ทุกวัน

เลือกจะอยู่กับความสุข
หรือความทุกข์

เลือกจะยอมจำนน หรือเลือกจะสู้

เลือกจะเป็นผู้ชนะ หรือ ผู้แพ้

เลือก
เลือก
เลือก

เราต้องเลือกตลอดเวลา

เลือกจะมีชีวิตอยู่ด้วยลมหายใจของตนเอง
หรือผู้อื่น

เลือก..
เลือก

เรามีอิสรเสรีภาพที่จะเลือก
แต่เรามักลืม

ว่าเราเลือกได้ ไม่่ใช่ไม่มีทางเลือก !!!




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2554 9:28:46 น.
Counter : 562 Pageviews.  

ชีวิตที่ใช้และดำเนินไปอย่างมีสติ ไม่ทำให้หลงทางไปไหนเลย

เดือนนี้มีทริปให้ออกเดินทางหลายทริป เกี่ยวกับงานและคนในที่ทำงานทั้งนั้น ต่อให้ไม่อยากไปก็ต้องไป ความรู้สึกแบบนี้ไม่ค่อยรื่นรมย์สำหรับฉันเลย แต่มันก็จะผ่านไปได้ ด้วยวิธีในแบบของเรา

ในเมื่อต้องอยู่หรือต้องทำในบางสิ่งที่ชอบน้อย ก็ต้องวางใจซะ ทำ ณ นาทีนั้นให้ดี แล้วทุกสิ่งจะผ่านไปเท่านั้นเอง

ฉันชอบชีวิตที่ฉันใช้ ฉันว่ามันดีแล้ว อาจเพราะตัวเองไม่ใช่คนที่มีความต้องการอะไรมากมายก็ได้ค่ะ แค่กินได้ กินอิ่ม นอนหลับ ได้ทำสิ่งที่รัก อยู่กับแมว อ่านและเขียนหนังสือ ไปเที่ยวบ้าง สิ่งเหล่านี้ ใช้เงินไม่มาก และไม่ได้เบียดเบียนใคร

แต่การเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องละสี่พันที่เคยใช้เป็น Iphone ก็ไม่ใช่เรื่องของความเห่อ อยากได้ อยากมี หรือเอาไว้อวดใคร แต่เกิดจากเห็นว่ามันทำอะไรได้มากกว่าโทรศัพท์และใช้กับงานได้สะดวก เคยบอกนะคะว่าไม่ได้ต่อต้านคนที่ใช้ของราคาแพง ถ้าคนเหล่านั้นมีปัญญาซื้อมัน ไม่ได้กิน
มาม่าทุกวันแล้วอดค่าข้่าวไปซื้อมันมา

มันคงขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้นให้ความสำคัญกับอะไร

น้องหลายคนซื้อโทรศัพท์เครื่องละสองหมื่นกว่า ( ราคามันขนาดนั้น ) ในขณะที่เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น เด็กบางคนใช้ของเกินกว่าเงินในกระเป๋า มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา แต่ไม่ธรรมดาสำหรับฉัน

อาจเพราะถูกสอนมาให้รู้ค่าของเงินมากๆค่ะ ว่ากว่าจะหามาแต่ละบาทได้ มันไม่ง่าย

แม่กับพ่อฝังชิปเอาไว้ในสมองฉันตั้งแต่เด็กๆแล้ว เขาสอนให้หยอดกระปุก
และสมทบให้ในสัดส่วนที่เท่ากัน มันเหมือนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทฯตั้งขึ้นมาให้ แต่พ่อกับแม่ใจดีกว่าเท่านั้นเองค่ะ เพราะเขาหยอดให้เรื่อยๆ จนกระทั่งเราโต และให้เราเอามาใช้ทำประโยชน์โดยไม่ต้องทอนกลับสักบาท

ฉันจึงรู้ค่าของเงินมาก และยิ่งรู้ตอนที่หาเงินใช้เอง

ถึงกระนั้นการจะซื้อของให้ตัวเองสักชิ้น โดยเฉพาะพวกเทคโนโลยีราคาแพงเช่นนี้ ฉันจึงคิดแล้วคิดอีก คิดจนต้องถามตัวเองว่าคิดไปทำไม คิดให้บ้าแล้ว !

ฉันต้องกินมาม่าไหม ถ้าคิดจะซื้อมัน.. ก็เปล่า ฉันต้องอดมื้อกินมื้อหรือรู้สึกผิดมากเชียวหรือถ้าจะใช้ของแพง (ฮา) นี่ล่ะค่ะ เพราะความที่ตลอดมาถูกปลูกฝังมาแบบนี้ การจะควักเงินออกจากกระเป๋าขนาดนี้ จึงปะปนด้วยความรู้สึกบางอย่าง กว่าจะหาเหตุผลที่ให้กับตัวเองได้ก็เล่นเอาเหนื่อย

ฉันซื้อของไม่บ่อย แต่ของที่ฉันซื้อบ่อยและมากในแต่ละเดือนคือ กับข้าว เพราะชอบเข้าครัวทำนั่นทำนี่ และหนังสือซึ่งต่อให้ไม่ได้อ่านในทันที แต่ฉันก็มีเหตุผลในการซื้อเพราะสิ่งนี้คือความสุข

เงินจึงซื้อความสุขได้ (บางอย่าง) เท่าที่เราคิดว่ามันซื้อได้ เพราะยังมีความสุขอีกหลายอย่างที่เงินก็ซื้อไม่ได้เช่นเดียวกันค่ะ อย่างน้อย แมวที่บ้านก็ไม่ได้ใช้เงินซื้อ ฉันเก็บเขามาจากร้านอาหารบ้าง หรือมีคนให้มาบ้าง
แล้วก็เลี้ยงเขาด้วยความรัก เลี้ยงดีด้วยสิ ข้าวปลาอาหารไม่มีอด

ถามว่าระหว่างแมวกับไอโฟน อะไรทำให้ฉันมีความสุขมากกว่ากัน แน่นอนว่ามันเทียบกันไม่ได้ เพราะมันคนละเรื่อง แต่ที่รู้ ทั้งสองสิ่งที่มีอยู่ในชีวิต ฉันไม่ได้หามันมาเพื่อเป็นภาระ หรือด้วยการเบียดเบียนใครหรือแม้กระทั่งตนเอง

ฉันอยู่อย่างประมาณตน อยู่อย่างรู้คุณค่าของการหาและเก็บ รวมถึงการใช้เงินกับทุกเรื่องอย่างมีสติ รู้ตัวเองเสมอ เรียกว่ารับผิดชอบกับชีวิตได้โดยไม่ต้องให้ใครมาเดือดร้อนรับผิดชอบเรา

ชีวิตที่ใช้และดำเนินไปอย่างมีสติจึงไม่ทำให้หลงทางไปไหนเลย

ช่างแสนดีเหลือเกินค่ะ !




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 21:26:13 น.
Counter : 694 Pageviews.  

บ้านในฝันไม่ได้อยู่ไกล...

เมื่อคืนนอนดึกเพราะอ่านหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาค่ะ นาฬิกาบอกเวลาตีสอง นอนอ่านหนังสือเพลินไปสองชั่วโมง เริ่มอ่านตอนเที่ยงคืนพอดี
เพราะเป็นคืนวันศุกร์ รุ่งเช้าไม่ได้มีธุระเร่งร้อน

หนำซ้ำ ฝนยังตกตลอดคืนกระทั่งเช้า

อากาศเช้านี้เย็นสบายดี เมื่อคืนก็ไม่ได้เปิดแอร์นอน อาการไอที่รังควานอยู่พอทุเลาลงได้ เพราะไม่ได้อยู่ในที่ที่เย็นมาก

หนังสือที่ตรึงฉันไว้ได้สองชั่วโมงเล่มนั้นชื่อ 'บ้านริมทะเล' ผู้เขียนคือ
คุณสุมิตรา จันทร์เงา ฉันชอบสำนวนภาษาของเธอ แค่เห็นชื่อหนังสือ
แม้ปกไม่สวยเท่าไหร่ แต่แค่ชื่อของทั้งหนังสือและคนเขียน ก็ไม่ต้องตัดสินใจนาน

คนเขียนเล่าเรื่องที่ตกหลุมรักเมืองเล็กอย่างศรีราชา และประสบการณ์ชีวิตในช่วงหนึ่งของเธอ ทั้งขมขื่น ทั้งเศร้าและสุข

ทำให้ฉันนึกถึงหลายๆเรื่องเมื่อปิดหนังสือและปิดไฟเตรียมจะนอน

นานปีมาแล้วที่ฉันเคยไปนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่สวนสาธารณะริมหาดศรีราชา บังเอิญพลัดหลงเข้าไปในเส้นทางที่ไม่คุ้น รถคันเก่งพาฉันกับพ่อไปจนถึงแนวสนริมทะเล แล้วก็ได้นอนเล่นอยู่ใต้แนวสนริมหาดแห่่งนั้น ลมทะเลพัดพรู พาเอากลิ่นไอความสุขลอยมากระทบใจ ฉันบอกตัวเองว่า .. ชอบจัง ชอบเมืองเล็กๆแบบนี้ มันสงบ แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลความเจริญ

ฉันเข้าใจว่าทำไมผู้เขียนจึงหลงรักศรีราชา เพราะเป็นอารมณ์ความรู้สึกเดียวกันนี้ เพียงแต่ฉันไม่ได้คิดไกลถึงขนาดอยากจะมาปักหลักอยู่ที่นี่ เพราะ
ในเวลานั้นใจฉันคิดถึงแต่บ้านหลังเล็กๆบนเนินเขา

แต่กระนั้น ฉันกับศรีราชาใช่ว่าจะพบกันได้บ่อย แม้บ้านฉันจะอยู่แนวถนนบางนาตราด กม.12 ไปชลบุรีใช้เวลาไม่นานก็ตามที

และบางครั้งด้วยความที่จุดหมายของการเดินทางอยู่ไกลกว่านั้น ศรีราชาจึงเป็นเมืองผ่านที่ใช้เป็นจุดพักเพื่อหาของอร่อยๆทาน ซึ่งก็มีหลายร้านที่ติดใจจนต้องจำเอาไว้ ผ่านมาเมื่อไหร่ต้องแวะ เช่นร้านมุมอร่อยที่โด่งดังนักหนา ร้านป้าหวานที่ซุกตัวอยู่ริมอ่าว หรือร้านก๋วยเตี๋ยวแกงที่ครีเอทเมนูก๋วยเตี๋ยวแปลกๆ เช่นก๋วยเตี๋ยวแกงป่า ก๋วยเตี๋ยวแกงเลียง ก๋วยเตี๋ยวแกงส้ม กินได้กินทีทุกครั้งที่แแวะทาน

ฉันนอนคิดอะไรไปเรื่อย แล้วก็อมยิ้มในความมืด ติดถึงความรู้สึกของคนเขียนที่เมื่อตกหลุมรักเมืองนี้แล้วก็อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายในบ้านริมทะเล

ส่วนฉันน่ะ ฝันถึงบ้านหลังเล็กสีขาวบนเนินเขาเตี้ยๆ มีห้องๆหนึ่งสำหรับไว้เก็บหนังสือและใช้ทำงานต่างๆนานา ห้องครัวเล็กๆสำหรับทำกับข้าว ความที่ชอบเข้าครัวทำกับข้าว ฉันยังฝันถึงครัวเล็กๆและสะอาด แน่นอนต้องเป็นครัวสีขาวด้วยค่ะ

ใช้สีขาวอย่างเดียวอาจจะเพลนๆไป บางทีอาจแซมสีฟ้าตรงนั้น ตรงนี้ ให้เป็นบ้านเล็กๆในฝัน จนบัดนี้ ยังอยากฝัน แม้ในชีวิตจริงจะไม่ได้มีบ้านอยู่บนเนินเขาที่ไหนหรือริมทะเลใดๆ แต่บางครั้งก็อยากคิดเอาไว้ว่าบั้นปลายชีวิตที่เราจะฝังตัว ใช้ชีวิตเรียบๆง่ายๆนั้น จะอยู่ตรงที่ใดกันแน่

ที่สุราษฎร์ฯบ้านฉัน พ่อกับแม่กำลังสร้างบ้านหลังใหม่ เป็นบ้านริมน้ำในหมู่บ้านชื่อบ้านน้ำสวย แม่บอกว่าเป็นบ้านในฝันของพ่อ แต่ฝันใหญ่ ราคาเลยแพง สร้างไปสร้างมาเกือบสิบล้าน อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว แต่ฝันของฉันเล็กกว่าของพ่อ ฉันอยากได้แค่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆนั้น มีพื้นที่ให้ปลูกผัก ปลูกหญ้า ให้แมวออกไปวิ่งเล่นได้ บ้านที่จะเป็นที่พักพิงซุกกายในยามที่
ปลดภาระจากการทำงานเพื่อเลี้ยงชีพลงแล้ว

ฉันจะทำงานที่รัก และมีชีวิตที่เรียบง่าย

ฉันฝันในขณะที่ลืมตา แล้วก็หวนกลับมาคิดถึงชีวิตในปัจจุบัน มันไม่ใช่ชีวิตที่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย แม้มีบางสิ่งที่ไม่ชอบหรือไม่ได้ดั่งใจ แต่มันก็ยังดำเนินไปได้เรื่อยมา

บางวันที่ผิดหวัง โศกเศร้า บ้านที่บางพลียังเป็นที่ที่ฉันซุกกายหลบเลียแผลใจได้ตลอดมา แม้ไม่มีใครบรรเทาหรือเยียวยาความเศร้าในใจได้ แต่ก็ยัง
มีแมว มีต้นไม้ ใบไม้ มีหลังคาคุ้มฝน มีที่นอนให้ซุกตัวเอนกาย พอให้คลายจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ก่อนจะออกไปผจญโลกภายนอก บอกตัวเองให้สู้ใหม่ ให้ยิ้มได้ แม้บางวันแรงจะเหลือน้อยเต็มที

บางทีบ้านที่ไหนอาจไม่สำคัญเท่ากับใจเราอยู่ที่ไหน ถ้าใจเราเป็นสุขกับการอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็คือสวรรค์ เป็นที่ที่เราจะไม่ทุกข์ร้อน เป็นที่ที่เราจะหลับตาพักและลืมตาตื่นอย่างมีความสุขได้ทุกเช้า

บ้านในฝันไม่ได้อยู่ไกล .. มันอยู่ในใจเรานี่เอง




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 10:30:27 น.
Counter : 817 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.