|
หา เก็บ ใช้ และให้... แค่นี้จริงๆ
พรุ่งนี้มีแผนจะไปเดินตลาดนัดกองทุนรวมที่พารากอน คงใช้สองชั่วโมงสุดท้ายก่อนเลิกงานไปเดินดูโปรโมชั่นกองทุน ไปเดินดุ่มๆตามลำพังนี่แหละ ง่ายๆ สบายๆดีค่ะ
แปลกแต่จริง หาคนคุยเรื่องเงินๆทองๆแบบที่ตัวเองอยากจะคุยไม่ค่อยได้เลยค่ะ เผื่อว่าจะขอความรู้ได้บ้าง เพราะรู้ตัวว่ายังไม่ได้เก่งหรือรอบจัด เรื่องนี้มากนัก น้องหลายคนที่เราถามถึงเรื่องเก็บเงินยังไง ล้วนแต่แบะๆแล้วบอกว่าจะกินให้ชนเดือนบางทียังยาก
เอ... แล้วเงินไปไหนหมด
เขาไม่เก็บเงินกันหรือ
ในวัยเท่าน้อง ฉันเข้าใจดีว่าเรื่องใช้เงินน่ะมักจะ 'เยอะ' เสมอ มันเยอะตาม อะไรก็ไม่รู้แหละ รู้แต่ว่าการใช้สำคัญกว่าการเก็บ เราคิดว่าจะใช้ยังไงมากกว่าจะเก็บยังไง
ไม่แปลกเลย ถ้าพบว่าในวัยสามสิบ เงินเก็บยังมีนิดเดียว ไม่มีคำว่า อิสรทางการเงินหรือแผนฉุกเฉินในหัว ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาละก็ อาจจะลำบากได้ ไม่มี๊ ไม่มีความคิดแบบนี้ ชีวิตยังเป็นเรื่องสนุก และเรายังมีเวลา
ซึ่งไม่จริง
ฉันมารู้เรื่องดอกเบี้ยบ้าน ว่ามันแสนจะบานแค่ไหนก็ตอนวางแผนจะซื้อบ้าน ถ้าไม่ลงมือทำ หรือไม่ศึกษาก็ไม่รู้
ฉันใช้บัตรเครดิตแบบผิดๆ กว่าจะรู้ตัวว่าทัศนคติที่มีต่อการใช้เงินล่วงหน้ามันอันตรายมากแค่ไหน ก็ตอนที่จ่ายๆไปแล้วทำไมต้นมันลดนิดเดียว โปะเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที
ไม่มีใครแนะนำ ยังไม่เท่ากับเราดื้อ ปิดหู ปิดตาและไม่ใส่ใจ
กรี๊ด .. คำว่าไม่ใส่ใจนี่แหละแสลงใจนักค่ะ
กว่าจะรู้ตัวว่าใช้เงินผิด ไม่มีการวางแผน และบลา บลา บลา ก็เสียเวลาไปุถมถืด แล้วเชื่อไหมคะ เมื่อหันมาใส่ใจเรื่องนี้ ความรู้สึกดีต่อตัวเองก็ เพื่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ รู้สึกดีที่ดูแลตัวเอง และมั่นใจว่าตัวเองเดินถูกทางแล้ว
เมื่อกลางวันฉันคุยกับน้อง น่าจะเป็นการปรับทุกข์มากกว่า คนทำงานในระบบมักจะเจอปัญหาที่ uncontrol จากหลายๆปัจจัย และบางครั้งก็ทำให้เราลำบากใจจนอยากจะหยุดและเดินออกมา
ใช่ ฉันบอกน้องว่าต่อให้วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันยังมีเงินรองรังอยู่ได้นานเป็นปี นานพอที่จะหยุดพักและสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต มันเป็นความรู้สึกที่ดีนะคะ ที่ได้สร้างหลักประกันบางอย่างให้ตัวเอง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเรามีหลักที่รองรับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า
ในเมื่อตัวคนเดียวก็ต้องมั่นใจได้ว่า เราจะไม่ทำให้ใครมาเดือดร้อนกับเราด้วย
คำแนะนำสำหรับมือใหม่หัดเก็บที่ฉันใช้และได้ผลที่สุด คือการจ่ายให้ตัวเองก่อนตามหลักที่โค้ชการเงินหลายคนจากตำราหลายเล่มได้บอกไว้ ง่ายที่สุดแล้วคือรายได้เข้าให้หักส่วนหนึ่งออกมาก่อนแล้วเอาไปเก็บไว้ให้ไกลหูไกลตา เพื่อจะได้ไม่แตะต้องมัน จากนั้นก็ปล่อยให้มันโตด้วยวิธีการอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ
อ่านหนังสือเยอะๆ หรือใช้เว็บไซต์ให้เป็นประโยชน์ในการค้นหาข้อมูล แล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง ด้วยวิธีที่ตัวเองทำได้ง่ายๆไม่ฝืนใจ แล้วจะสนุก อยากทำไปอีกเรื่อยๆ
ฉันบอกน้องว่าทุกเดือนฉันจะพยายามเก็บ 40% แต่ถ้าได้น้อยกว่านั้นไม่เป็นไร แค่ขอให้มีเก็บ และหาวิธีจัดการกับมัน ส่วนที่เหลือจากนั้นค่อยใช่้และคอยควบคุมมันด้วยการจดบัญชี เพื่อให้รู้ว่าใช่้อะไรไปเท่าไหร่
มันได้ผลจริงๆด้วยค่ะเพราะฉันจดทุกวันจนกลายเป็นว่าวันไหนไม่ได้จด จะลงแดงขึ้นมาทันที
นี่คือวิธีการจัดการและใส่ใจกับเงินในกระเป๋าอย่างรับผิดชอบและง่ายที่สุดแล้ว
หา เก็บ ใช้ และให้
ฉันให้มูลนิธิหักเงินเพื่อเป็นทุนสนับสนุนให้เด็กนักเรียนส่วนหนึ่ง และอีกส่วนเล็กๆหักไว้สำหรับประกันชีวิต มีประกันชีวิตสองก้อนและประกันโรคมะเร็งรวมถึงประกันชดเชยรายได้เอาไว้บ้าง รวมถึงกรมธรรม์อุบัติเหตุอีกหนึ่งก้อนไม่ใหญ่โต มีไว้เพื่อเป็นหลักรองรับ ฉันยังมีแผนจะซื้อเพิ่มเผื่อรองรับช่วงเวลาที่อาจจะออกมาทำงานนอกระบบ
เงินๆทองๆ เมื่อบริหารเข้าจริงๆ มันก็มีหลักให้จับต้องอย่างง่ายๆอยู่แค่นั้น สำคัญอยู่ที่ความใส่ใจที่เราจะมีให้กับตัวเองหรือไม่ เมื่อก่อนก็เกลียดตัวเลขเข้าใส้เลยค่ะฉันน่ะ เพราะคิดอย่างนี้เลยเสียเวลาวางแผนไปหลายปี ยังนึกเสียดายอยู่เลย ถ้ารู้หลักง่ายๆแล้วทำได้อย่างนี้ตั้งแต่แรก คงจะรู้สึกดีกว่านี้อีกหลายเท่า
สั้นๆแค่นี้ ... หา เก็บ ใช้และให้ ... แค่นี้เองจริงๆค่ะ
ง่ายๆค่ะถ้าจะทำ !
Create Date : 07 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2554 0:18:18 น. |
|
3 comments
|
Counter : 553 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kook IP: 101.109.19.255 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:49:20 น. |
|
|
|
โดย: xyz IP: 124.122.67.51 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:52:34 น. |
|
|
|
| |
|
|
เราให้ได้เมื่อเราพอแล้ว