|
ของขวัญให้ตัวเองและเรื่องใหม่ๆในชีวิต
วันนี้วันเด็ก ฉันเลยแปะรูปเด็ก 'ชาวลาว' ตัวน้อยๆ ไว้ใน FB จะเห็นจากแถบด้านขวามือนี้ด้วยค่ะ
เด็กเหล่านี้ได้พบเจอระหว่างทางไปน้ำตก ในแขวงจำปาสัก เมื่อครั้งไป ลาวใต้ ปลายปี 51
เด็กที่ไหนๆ ก็เหมือนกัน พวกเขาขี้อาย แต่พอบอกว่าขอถ่ายรูปหน่อยนะ บางคนก็ยิ่งอายหนักเข้าไปใหญ่ แต่บางคนก็ยิ้มให้กล้อง เด็กชาติไหนความไร้เดียงสาของวัยคงแทบไม่ต่างกัน
เมื่อวานนี้น้องที่ทำงานคนหนึ่งมาบอกบุญว่าเธอกับกลุ่มเพื่อนๆจิตอาสาจะไป มอบของขวัญวันเด็กที่โรงเรียนแห่งหนึ่แถวสุพรรณบุรี ไปทำค่าย สอนหนังสือ เป็นต้น
ฉันเลยฝากตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆตัวหนึ่งและขอให้ลูกน้องช่วยไปซื้อขนมที่จะสามารถแจกได้หลายๆชิ้น ให้ตังค์ไปสามร้อย ได้ขนมมาถุงใหญ่เหมือนกันค่ะ แล้วก็ฝากไปกับเธอ
เราผ่านวัยวันแบบนั้นมาแล้ว ยังจำได้ว่าการได้รับของขวัญในวันที่เหมือนเป็น 'วันของเรา' แบบนั้น มันให้ความรู้สึกอิ่มเอิบใจเพียงใด
ป่านนี้เด็กๆคงได้ยิ้ม ที่ได้ของขวัญวันเด็ก แม้ของบางอย่างจะไม่ได้มีมูลค่าสูงมากมาย แต่มันก็น่าจะทำให้เขายิ้มได้ ในวันพิเศษวันหนึ่ง ที่มีเพียงแค่หนึงวันในหนึ่งปี
..
ของขวัญวันเด็ก มาใกล้ๆกับที่ฉันให้ของขวัญแก่ตัวเอง ฉันว่านี่เป็นเรื่องดีนะคะ กับการที่เราได้ให้อะไรต่ออะไรในเทศกาลเริ่มต้นปี กับคนที่เราอยากจะให้ บางคนเลือกจะให้กับตัวเองก่อน แต่บางคนเลือกให้คนอื่นก่อน
แต่ไม่ว่าจะให้อย่างไร ฉันว่ามันก็ดีทั้งนั้นค่ะ
ปีนี้ฉันให้ของขวัญกับตัวเองเป็นกรมธรรม์ประกันภัยโรคมะเร็ง อยู่ๆก็คิดว่า ทำไมฉันไม่ซื้ออะไรบางอย่างที่จะเป็นการประกันความเสี่ยงให้กับตัวเองบ้าง ในเมื่อรถอายุตั้งเก้าปี เสียค่าประกันปีละหมื่นกว่าๆยังเสียได้เลย ทั้งๆที่มันก็เสียเปล่าเหมือนกัน รวมเก้าปี ฉันจ่ายเบี้ยประกันรถไปแสนกว่าบาทแล้วนะ
จ่ายให้รถได้ ทำไมจ่ายให้ตัวเองไม่ได้ล่ะ คิดแค่นี้ แล้วก็เดินไปซื้อเลยค่ะ แปลกไหม
จริงๆฉันมีประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพที่บริษัททำให้ ประกันชดเชยรายได้กรณีเจ็บป่วย รองรับอยู่แล้ว แต่จู่ๆฉันก็นึกอยากจะมี ประกันโรคมะเร็งอีกสักฉบับ หากว่าป่วยขึ้นมา ฉันจะได้ไม่ต้องทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน
ไม่มีใครรู้ใช่ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อไหร่ การลดความเสี่ยงที่เราจะทำได้ก็คือการทำประกัน
ฉันถือว่านี่คือสิ่งที่เราพึงทำให้กับตัวเองค่ะ ทำงานมาเหนื่อยแล้ว เก็บเงิน ออมเงินจนสามารถมั่นใจได้ว่าหากเกิดอะไรขึ้นจะไม่เดือดร้อนแล้ว จะสามารถพึ่งพาตัวเองได้แล้ว โดยไม่ต้องแบกความหนักใจอะไรเอาไว้ เพิ่มอีกสักนิดก็ได้ ให้ได้เบาใจไปอีกขั้นว่าเงินเก็บจะไม่ได้หมดไปกับการเอามาจ่ายให้โรงพยาบาล ซึ่งสมัยนี้ค่ารักษาพยาบาลก็แพงเอาการอยู่นะคะ เป็นอะไรนิดเดียว ก็จ่ายเป็นพันแล้วน่ะ
ใครรวย ? ตอบได้ว่าโรงพยาบาลรวย เราสิ หาเงินมาเหนื่อย มันเจ็บใจนะนี่
แล้วเราน่ะ หากินแบบสุจริต อยู่อย่างพอเพียง มีกินมีใช้ตามอัตภาพ ไม่ต้องการจะไปทำอะไรผิดศีล ผิดคำสอนพระพุทธเจ้า เราไม่ได้หวังว่าจะรวยล้นฟ้า หาเงินมาซื้อรถเบนซ์อวดชาวบ้านว่าข้านี่รวย ( ใครหว่า ??? )
เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้ดีที่สุดนะคะ พึงอย่าประมาท ชีวิตนี้ก็หาความสุขได้ง่ายๆแล้ว
ไม่เจ็บ ไม่จน ไม่ขัดสน และเป็นสุข แค่นี้เองแหละค่ะที่ต้องการในชีวิตนี้
คิดเหมือนกันหรือเปล่าคะ ...
Create Date : 08 มกราคม 2554 |
Last Update : 8 มกราคม 2554 12:21:48 น. |
|
2 comments
|
Counter : 616 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Na Eh IP: 124.121.19.110 วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:18:04:34 น. |
|
|
|
โดย: บี (bewae1001 ) วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:18:59:58 น. |
|
|
|
| |
|
|