|
เมนูวันหยุด (ยิ้มอิ่มใจ)
เช้าวันนี้ ฉันตั้งใจจะเข้าครัวทำอาหารเจทานเองค่ะ ต้องขอบคุณหนังสือ 'ครัวสีเขียว' ของคุณทัทยา อนุสสาร ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันนึกครึ้ม เอาเมนูของเธอมาดัดแปลงเป็นอาหารเจได้อย่างหนึ่ง
ทำปอเปี๊ยะสดเจค่ะ ในเมื่อตำราไม่ได้ทำเป็นอาหารเจไว้ แต่ฉันก็ดัดแปลงเอา ในเมื่อใส่กุ้ง ใส่หมูยอไม่ได้ ฉันก็ใส่เต้าหู้กับเห็ดหอมแทน มันก็เลยกลายเป็นลูกผสม ระหว่างก๋วยเตี๋ยวลุยสวน กับปอเปี๊ยะสด ฮาๆดีค่ะ
ม้วนไปสามอัน ทานคนเดียวซะเกลี้ยง แหม .. อร่อย จริงๆรสชาติของผักชีฝรั่ง และโหระพา มันช่วยให้เรารู้สึกอร่อยได้ส่วนหนึ่งแล้วค่ะ มีน้ำจิ้มที่เหลือติดตู้เย็นไว้ตั้งแต่คราวไปสระแก้ว เราก็ใช้ของเหลือให้เป็นประโยชน์ ดีจะตายค่ะ
จริงๆแล้วนอกจากจะทำปอเปี๊ยะเจ ฉันยังจะทำจับฉ่ายไว้ท่านระหว่างวันหยุดด้วย จับฉ่ายนี่ เราทำไว้แล้วเก็บไว้กินได้หลายมื้อ ยิ่งอุ่น ยิ่งอร่อย
เล่าเพิ่มเติมว่าเมื่อคืน ฉันไปซื้ออาหารสดที่ฟู้ดแลนด์ ศรีนครินทร์ สำหรับสองเมนูเจที่ว่านี่แหละค่ะ นึกเบื่อตารางเวลาซ้ำๆของตัวเอง ฉันเลยแวะไปซื้อของสองเอาตอนสามทุ่มกว่าๆ เกือบสี่ทุ่มแล้ว ปรากฏว่าของสดที่ตั้งใจจะซื้อกลับมาและควรจะต้องใช้คือ เต้าหูขาวแข็ง กับ กะหล่ำปลี ไม่มีเหลือให้ซื้อเลย
ต้องใช้คำว่า โอ้แม่เจ้า !
เต้าหู้ขาวแข็งนี่ เป็นพระเอกของอาหารเจหลายๆเมนูเชียวนะคะ แต่ในเมื่อไม่มีก็ไม่เป็นไร เลือกเอาแบบที่มี ส่วนกะหล่ำปลี ก็ไม่ต้องใช้ เราจะใช้เพียงแค่กวางตุ้ง ( ขาดไม่ได้ เพราะมันจะทำให้จับฉ่ายของเราหอมสุดๆค่ะ ) คะน้า ผักกาดขาว และเห็ดหอมแห้ง
ระหว่างที่ฉันเตรียมเครื่องปอเปี๊ยะสด ก็ตั้งน้ำซุปทำจับฉ่ายไปด้วย น้ำเดือดก็โยนผักลงหม้อไปเลย เครื่องปรุงที่ใช้มีเพียงซีอิ๊วและเกลือ(ปรุงรสนิดหน่อยของ มร.จิม สูตรธรรมชาติ no msg ค่ะ ) ตุ๋นไปพักใหญ่ๆ น้ำที่เริ่มใสๆก็เปลี่ยนสีเป็นคล้ำขึ้น เริ่มใกล้เคียงร้านข้าวต้มแล้วค่ะ แล้วผักที่เราใส่เข้าไป เขาก็มีรสหวานของเขานะ พอผักเปื่อยก็ลองชิมน้ำดูอีกสักที ว่ากลมกล่อมหรือยัง
ผักที่ใช้ทำได้หนึ่งหม้อนี้ แม้มีเพียงแค่กวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาวและเห็ดหอม แต่ด้วยความที่เราใช้ของดี หม้อนี้เลยแพงค่ะ แต่ก็กินได้อย่างสนิทใจและอร่อย ถ้าซื้อเขากิน เราก็ไม่รู้ว่าเขาใส่อะไรบ้าง เป็นความสุขอย่างหนึ่งเมื่อทำกับข้าวทานเอง ทั้งสะอาด และอร่อยแบบนี้ค่ะ
อ้อ ลืมเล่าไปอีกขั้นตอนหนึ่ง ว่าต้องเอาเอาเห็ดหอมไปผัดน้ำมันและปรุงรสด้วยซีอิ๊วก่อนค่ะ แล้วค่อยนำไปใส่ในน้ำซุปที่ตั้งไฟเดือดๆไว้ (จากนั้นก็โยนผักลงไปอย่างที่บอก ) เราผัดน้ำมันไม่มาก ก็ไม่ทำให้น้ำเยิ้มๆ มันๆ ซดได้เต็มปากเต็มคำไม่เหมือนทานที่ร้าน หรือที่ซื้อมา
จับฉ่ายเจของฉัน จึงเป็นแบบที่ทานแล้วไม่เลี่ยนเหมือนกับที่ร้านเจบางร้านทำขายนะคะ คุณคงนึกออกว่ามันจะ 'มันๆ' แบบที่เรียกว่ามันแผล็บติดปากติดปลายลิ้น ซึ่งฉันไม่ชอบเลย แต่ถ้าไม่มีน้ำมันบ้าง ก็จะไม่หอมเท่าไหร่ ดังนั้นเราก็ดูเอาค่ะ ว่าระดับความมันที่เราพอจะรับไหวนั้นแค่ไหน มากเกินไปจะกลายเป็นไขมันส่วนเกิน ไม่ดีอีก ที่เขาบอกว่ากินเจแล้วจะอ้วนได้ ก็เพราะเราไม่เลือกกินนี่แหละค่ะ บางคนบอกว่ากินแล้วอ้วนได้ไง ในเมื่อไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่มีมันสักหน่อย แต่จริงๆแล้วไอ้ที่เขาทำขายกันน่ะ มันก็มีจากน้ำมันที่เขาใช้แบบนี้แหละ บางร้านราดน้ำมันตามหลังลงไปก็มี
ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอาหารเจต้องมันๆเยิ้มๆ ในเมื่อเราทำแบบน้ำมันน้อยๆ มันก็อร่อยได้ ยิ่งทำเอง ยิ่งดีเข้าไปใหญ่
สบายใจจะตาย นอกจากได้บุญอย่างที่เชื่อกันแล้ว การที่เราได้ดูแลตัวเองดีๆ ก็ทำให้มีความสุขด้วย
และยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าในวันหยุดค่ะ !
Create Date : 09 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 10:38:00 น. |
|
1 comments
|
Counter : 453 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ปดด. IP: 112.142.120.171 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:21:17:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
ขอภาพปลากรอบด่วนค่ะคุณ ^ ^