|
จะเอาอะไรนักหนา ใช้ชีวิตให้มีความสุขก็พอแล้ว...
มาเขียนไดอารี่ประจำวันแม่ พร้อมๆกับเขียนนิยายตอน 50 ไปด้วย เล่าเรื่องที่แม่ๆลูกๆ คุยกันดีกว่าค่ะ เพราะมันเกี่ยวพันกับชีวิต ญ ร ญ แบบเราโดยเฉพาะ
วันนี้แม่มากับพ่อ ฉันไปรับแม่กับพ่อที่สนามบินตอนบ่ายเศษๆ ดีที่วันนี้ แค่ฟ้าครึ้มแต่ไม่มีฝน อากาศไม่ร้อน รับพ่อกับแม่มาแล้วก็เลยอยากพาเขาไปหาอะไรทาน นึกได้ว่าอยากไปพาราไดส์ปาร์ค เพราะวีคที่แล้วไปเดิน ยังเดินไม่ทั่วเลย
แต่คิดผิดค่ะ สำคัญผิดว่าคนออกต่างจังหวัดน่าจะเยอะ ห้างชานเมือง คนน่าจะน้อย ที่ไหนได้ คนแน่นเชียว แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับว่าร้านอาหารทุกร้านคนแน่นมาก ต้องต่อคิว โดยเฉพาะฟูจิ คนรอเยอะมาก รอจนคิดว่าอย่ารอเลย ถ้านานขนาดนี้ เลยเดินไปหาร้านอื่นดีกว่า ปรากฏว่าทุกร้าน ต้องรอทั้งนั้น เฮ้อ.. ท้ายสุดเลยกินก๋วยเตี๊ยวร้าน ปิรันย่าก็ได้ ร้านนี้ลูกชิ้นอร่อยใช้ได้เหมือนกัน
เรื่องของเรื่อง คนพากันออกมาทานข้าวนอกบ้าน มาแบบยกครอบครัว เยอะมากค่ะ อาจเพราะวันแม่ด้วย ทุกบ้านที่มีแม่ ก็พาแม่มาทานข้าว ลองคิดเล่นๆ บ้านหนึ่งมีห้าคน ก็คูณเข้าไปสิ ว่าวันนี้คนจะเยอะเป็นกี่เท่าของวันธรรมดา
กินอิ่มก็พากันเดินเล่น ซื้อผัก ซื้อผลไม้ ซื้อขนมมาตุนไว้ เพราะเขาต้องอยู่อีกหลายวัน
ได้กราบแม่กับพ่อด้วยพวงมาลัยดอกมะลิด้วย วันนี้แม่กับพ่อได้พวงมาลัยหลายพวง เพราะลูกไหว้กันครบทุกคน แม่น้ำตาไหลตามคาดค่ะ แม่สบายใจ ที่ฉันกับน้องกลับมารักกันได้เหมือนเดิม แม่มีลูกแค่สามคน สิ่งที่พ่อกับแม่ทำไว้ให้ลูกนั้นเยอะแยะมากมายเหลือเกินแล้ว และแม่ก็ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากเห็นความสุขของลูก เห็นลูกมีชีวิตที่ดี
เราไม่มีโอกาสเป็นแม่ เพราะเราไม่มีลูก แม่ก็รู้ว่าเรามีชีวิตแบบนี้ แต่แม่ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ แม่บอกว่า ลูกมีความสุขก็พอ ไม่ขออะไรไปมากกว่านี้ จะอยู่กับใครก็อยู่ให้ดี ให้มีความสุข แม่ก็ไม่เป็นกังวลอะไร
ฉันโชคดีนะคะ เพราะจะมีแม่กี่คนที่รับได้กับการที่ลูกรักเพศเดียวกันแบบนี้ แม้เขาจะไม่อยากรับ แต่เขาไม่เคยเห็นอย่างอื่นสำคัญกว่าความสุขของเรา
แล้วจะไม่ให้ซึ้งมากมายได้อย่างไรคะ พ่อแม่ฉันประเสริฐ ลูกเป็นคนดีก็พอแล้ว ส่วนลูกจะรักใคร หรือเป็นอะไร เขาไม่เคยว่า ไม่เคยห้าม แม้ไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่ขวาง ไม่เคยพูดอะไรให้เราเสียใจ
แม่เตือนว่าชีวิตแบบนี้ เราไม่มีลูก เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี มีหลานก็ต้องให้หลาน ต่อไปหลานจะได้มาดูแลเรา อย่างเราเป็นลูกเขา เราก็ดูแลเขา แต่ต่อไปใครจะดูแลเราล่ะ
ฉันไม่อยากจะคิดไกล เลยบอกแม่ว่า ฉันก็ทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ เก็บเงินไป (เพราะรู้ว่าเราไม่ควรประมาท) เผื่อไว้ใช้ตอนแก่แล้ว แล้วก็หันไปพยักเพยิดกับน้องว่า เราก็ดูแลกันเองไง เพราะเราต่างไม่มีลูกด้วยกันทั้งคู่นี่นา
แล้วพี่น้อง อย่างไรก็ไม่ทิ้งกัน อย่างไรก็ตัดกันไม่ได้ ตอนแก่ๆ คงจะได้ประคองกันไปหาหมอ เพราะเรามีกันแค่นี้เอง
คำพูดของแม่ คำเตือนของแม่ ฉันไม่เคยลืมเลย เพราะรู้ว่าเราไม่ควรประมาทกับวันเวลา ทั้งวันนี้และวันหน้า แม้เราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ไปจนอายุเท่าไหร่ จะอยู่จนแก่หง่อมแค่ไหน ตระหนักเช่นนี้ ฉันจึงพยายามไม่ประมาทกับชีวิตในทุกด้าน ส่วนวันนี้ ฉันก็ใช้ชีวิตแบบให้ตัวเองทุกข์น้อย ด้วยการปล่อยวางในเรื่องที่ต้องปล่อย คิดน้อยๆ ไม่เอาปัญหาของคนอื่นมาแบก ยังเรียนรู้อยู่ทุกวันนะคะ
ชีวิตแบบนี้ ในความคิดของแม่ อีกด้านหนึ่งคือความห่วงใยที่แม่มี จริงๆแล้วแม่อยากให้ฉันแต่งงาน จะได้มีลูก มีชีวิตครอบครัว ไม่ใช่เป็นแม่ของแมวสามตัวแบบนี้
แต่ทำอย่างไรได้คะ มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ที่สุดก็คือต้องยอมรับความจริงและดำเนินชีวิตไปให้มีความสุขมากที่สุด ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตแบบนี้ก็ไม่ได้เสียหาย แม้มันจะถูกมองว่าไม่มั่นคงในความรู้สึกของแม่ก็ตาม
จะเอาอะไรนักหนา ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดก็พอแล้ว
ที่สุดแล้วแม่ก็สรุปแบบนั้น
แล้วแม่ๆลูกๆ ก็เออออไปทางเดียวกัน สรุปลงท้าย คือเราก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้นเองค่ะ !!!!
Create Date : 12 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 12 สิงหาคม 2553 21:55:13 น. |
|
1 comments
|
Counter : 846 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หนุง IP: 119.160.215.6 วันที่: 9 สิงหาคม 2556 เวลา:10:15:13 น. |
|
|
|
| |
|
|