|
ชีวิตลิขิตได้ ไม่ใช่นิยายแต่เป็นเรื่องจริง
ค่ำวันพฤหัสบดี
คิดถึงบล็อกจังเลย คิดถึงช่วงเวลาที่ไม่ได้เขียน ไปทำงานและเดินทางและแทบหาเวลารื่นรมย์ไม่ได้
แต่ขึ้นชื่อว่างาน ไม่มีอะไรง่ายค่ะ งานคือสิ่งที่เราต้องทำและตั้งใจทำ เพื่อให้มันเกิดคุณค่า งานง่ายๆในโลกนี้ไม่มี (อาจมีแต่ไม่ใช่งานสุจริต) แต่งานใดที่ทำแล้วใส่ความรักเข้าไปจะยิ่งมีคุณค่า และก่อให้เกิดความสุข
ทำงานให้มีความสุขก็ต้องรักงานนะคะ
กลับมาเขียนบล็อกอีกที อยากเล่าเรื่องเงินๆทองๆ เพราะสัมผัสเรื่องเงินๆทองๆเยอะในช่วงที่ผ่านมา
ฉันเคยพูดเรื่องเงินๆทองๆมาเยอะในบล็อกนี้ และแรงบันดาลใจที่สำคัญของการที่ลุกขึ้นมาปฏิวัติเรื่องเงินเกิดจากหนังสือเรื่องเงินเรื่องใหญ่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ของพี่โจ มณฑานี
เคยเล่าไหมคะ ว่าเงินเก็บที่เคยมีไม่มาก มันโตเป็นสามเท่าได้ก็เพราะลุกขึ้นมาใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง หาทางบริหารให้มันโต
ทำไมต้องสนใจเรื่องเงินๆทองๆขนาดนี้ มีเหตุผลอยู่ไม่กี่อย่างค่ะ หนึ่ง ถ้าทำงานมาตั้งนานไม่เหลือเงินเก็บเลย อนาคตลำบากค่ะ สอง เราไม่ได้แต่งงาน ไม่มีลูก ไม่มีใครให้พึ่งนะคะ อนาคตลำบากแน่นอนถ้าเป็นคนแก่กระเป๋าแห้ง สาม เพราะเราไม่รู้วันข้างหน้าค่ะ เราไม่อาจฝากอนาคตไว้กับใครได้เลยสักคนเดียว ( แม้แต่มรดกพ่อแม่ก็เถอะ ) สี่ กลัวเจ็บป่วยแล้วต้องเป็นภาระของคนอื่นๆ ซึ่งในที่นี้ก็ไม่ใช่ใคร พ่อแม่พี่น้องเรานั่นแหละ
ฉันคิดแบบนี้เลยไม่ประมาท พยายามศึกษาและเตรียมให้ตัวเองตลอดเวลา
คนแบบฉัน คือประเภทเผื่อ เป็นคนส่วนน้อยค่ะ แต่คนส่วนมาก หรือคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนประเภทเผื่อแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่คิดยาว เขาเหล่านี้จะคิดสั้น คือวันต่อวัน เดือนต่อเดือน และไม่มีเงินเก็บ
มีคนอยู่ 2 ประเภทค่ะ
1. คนที่ฝากอนาคตไว้กับคนอื่น เช่น หวย การกู้หนี้ยืมสิน บัตรกดเงินสด อะไรแบบนี้ คนลักษณะนี้เขาจะไม่คิดให้ตัวเองมีด้วยการเก็บออม และไม่คิดถึงวันข้างหน้า เพราะไม่คิดถึง ไม่เคยอยากให้ตัวเองรวยแบบยั่งยืน ทุกเดือนจะเจียดเงินหลักพันไปไว้กับหวยใต้ดิน ฝันลอยๆไปเรื่อยๆ แล้วก็ลำบากหืดขึ้นทุกเดือน แล้วก็บอกตัวเองว่าชาตินี้คงไม่มีวันรวย ซึ่งก็จะไม่รวยจริงๆเพราะไม่เคยเก็บเงินเลย
2. คนที่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่ฝากอนาคตไว้กับสิ่งที่มองไม่เห็น คนประเภทนี้จะรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร ทำงานหนักก็ไม่บ่น ดอกผลของการทำงานหนักก็คือเงินที่ตัวเองสามารถเหลือเพื่อออมได้ มีเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้ด้วย เพราะตัวเองมีเหลือแล้ว
คนประเภทที่ 1 มีมากมาย ขนาดอายุถึง 40 กว่าๆแล้วก็มี คือไม่มีเงินเก็บเลย รอให้ฟ้าดินประทานเงินมาให้ แล้วก็เอาไปใช้ฝันลอยๆต่อไป
คุณว่าคนประเภทไหนคะที่จะไม่ลำบากตอนแก่
บางทีคำตอบของมันก็มีอยู่แล้ว อย่าโทษฟ้าดินว่าเกิดมาไม่รวยเลยค่ะ เพราะคนที่จนมาก่อนแต่วันนี้เขารวยได้ ก็เพราะเขามุ่งมั่นทำงานและเก็บเงิน เก็บอย่างเดียวไม่พอต้องรู้จักทำให้มันโต ด้วยการเอาเงินไปต่อเงิน และทำได้หลายวิธีมากในปัจจุบัน
การโทษโชคชะตาว่าทำไมฉันจนๆ ทำไมฉันไม่รวยสักที คือการปัดความรับผิดชอบไปให้คนอื่น ซึ่งในทางพุทธ พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนเราแล้ว ว่าจงอย่าเพ่งโทษคนอื่นแต่ให้ดูตัวเองเท่านั้น
เราทำอะไร หรือเราบกพร่องตรงไหนล่ะ ดูตัวเองแล้วปรับแก้ไป ไม่ใช่เพ่งโทษคนอื่นหรือโทษฟ้า เพราะนั่นคือสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้
ทุกอย่างในชีวิตเราอยู่ที่เราเลือกและกำหนด ไม่ใช่ฟ้าดิน ไม่ใช่เจ้านาย ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นตัวเราเอง
ชีวิตลิขิตได้จึงไม่ใช่นิยายแต่เป็นเรื่องจริงค่ะ !!
Create Date : 12 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2555 23:03:24 น. |
|
4 comments
|
Counter : 940 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Ndaziona IP: 199.116.173.189 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:17:40:19 น. |
|
|
|
โดย: Ndaziona IP: 86.99.215.169 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:17:40:22 น. |
|
|
|
โดย: qipjfftwi IP: 177.38.163.7 วันที่: 26 ตุลาคม 2555 เวลา:11:00:47 น. |
|
|
|
โดย: nxyotodnze IP: 189.102.242.133 วันที่: 27 ตุลาคม 2555 เวลา:12:13:55 น. |
|
|
|
| |
|
|