Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

10 ท่าลดพุง

วันนี้มีท่าในการลดพุงของคุณมาให้ทำกัน 10 ท่า เริ่มจากทำท่าเหล่านี้ท่าละ 10 ครั้ง ต่อวัน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ

ท่าที่ 1


ท่าที่ 2



ท่าที่ 3




ท่าที่ 4




ท่าที่ 5




ท่าที่ 6




ท่าที่ 7




ท่าที่ 8




ท่าที่ 9




ท่าที่ 10




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2551    
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 16:45:16 น.
Counter : 633 Pageviews.  

รูปร่างดีใน 4 สัปดาห์

คุณจะดูเพรียวลงและแข็งแรงขึ้นในช่วงเวลาไม่นาน เพียงทำตามตารางต่อไปนี้แค่ 4 ครั้ง ก็เห็นผล
วันจันทร์
ตั้งเป้าไปที่ บั้นท้าย ขาและหน้าท้อง
ท่าปฏิบัติ
• ท่าบริหารหัวใจ 20 นาที หากคุณเข้าโรงยิมเป็นประจำอยู่แล้ว ลองวิ่งบนเครื่องวิ่ง หรือไม่ก็ปั่นจักรยานที่มีแรงต้านเล็กน้อย แต่หากคุณออกกำลังกายที่บ้าน ลองเดินอย่างกระฉับกระเฉงหรือไม่ก็จ็อกกิ้งดู
• ท่านั่งย่อยืด 20 ครั้ง ยืนปล่อยแขนไว้ข้างลำตัว ค่อยๆ นั่งโดยทิ้งน้ำหนักไปด้านหลังกระทั่งต้นขาขนานกับพื้น ขณะเดียวกันยกแขนขึ้นด้านหน้า เพื่อสร้างความสมดุลแล้วกลับไปไท่าเริ่มต้น
• ท่าแทงเข่า 20 ครั้ง ยืนเอามือท้าวสะโพก ใช้เท้าขวาก้าวไปด้านหน้า พร้อมย่อเข่าลงกระทั่งต้นขาขนานกับพื้น กลับไปที่ท่าเดิมแล้วเปลี่ยนเป็นขาซ้าย
• ท่าถ่วงน้ำหนัก 20 ครั้ง ยืนถือเวทขนาด 3-5 ปอนด์โดยให้มืออยู่บริเวณหน้าขา โน้มตัวไปด้านหน้าโดยใช้ช่วงเอว กระทั่งนิ้วของคุณแตะพื้นแล้วกลับไปที่ท่าเริ่มต้น
• ท่าขาตั้งฉาก 40 ครั้ง นอนราบกับพื้นมือแนบลำตัว
พยายามยกขาทั้งสองให้ตั้งฉากกับเพดาน จากนั้นค่อยๆ วางขาลงจนห่างจากพื้น 2-4 ฟุต


วันอังคาร
มุ่งไปยัง แขนและหน้าอก
ท่าปฏิบัติ
• ท่าบริหารหัวใจ 20 นาที
• ทำท่าซิทอัพ โดยชันหรือวางเข่าราบกับพื้น 15-20 ครั้งหรือพยายามทำเท่าที่คุณสามารถทำได้
• ท่าชูขึ้น 20 ครั้ง นอนราบกับพื้นในมือถือเวทหนัก 3-5 ปอนด์ งอแขนเข้าโดยให้มืออยู่บริเวณไหล่ ฝ่ามือหันเข้าหากัน ค่อยๆ ยกเวทขึ้นกระทั่งแขนตึง โดยพลิกฝ่ามือหันไปทางปลายเท้า เสร็จแล้วกลับไปที่ท่าเริ่มต้น
• ท่าโน้มตัว 20 ครั้ง นั่งลงที่ขอบเก้าอี้โดยให้เข่างอไว้ วางน้ำหนักลงที่ส้นเท้า ปลายนิ้วเท้าของคุณควรชี้ไปด้านหน้า ใช้มือจับส่วนหน้าของเก้าอี้ระหว่างขาให้แน่น พยายามตั้งหลังให้ตรงไว้ ค่อยๆโน้มตัวไปด้านหน้าโดยใช้ลำแขนช่วยดึงลำตัวลงไป กระทั่งข้อศอกของคุณอยู่ในระดับเดียวกับหัวไหล่ กลับไปที่ท่าเริ่มต้น


วันพุธ
มุ่งไปยัง หลังและไหล่
ท่าปฏิบัติ
• ท่าบริหารหัวใจ 20 นาที
• ท่ากางปีก 20 ครั้ง ยืนให้ปลายเท้ากว้างในระดับไหล่โดยมือทั้งสองถือเวทหนัก 3-5 ปอนด์ในมือ หันฝ่ามือเข้าหาลำตัว จากนั้นค่อยๆ กางแขนทั้งสองขึ้นจนกระทั่งสูงขึ้นถึงระดับไหล่ แล้วค่อยๆ วางลงอย่างช้าๆ
• ท่ายกขึ้นด้านหน้า 40 ครั้ง (ข้างละ 20 ครั้ง) ยืนตรงในมือถือเวทหนัก 3-5 ปอนด์ ค่อยๆ ยกแขนขวาขึ้นทางด้านหน้าจนถึงระดับไหล่ ค่อยๆ วางลงแล้วเปลี่ยนแขน
• ท่ายกเหยียด 20 ครั้ง ยืนตรงในมือถือเวทหนัก 3-5 ปอนด์ ค่อยๆ งอแขนเข้าหาลำตัวโดยให้ฝ่ามือหันออกด้านหน้า เหยียดแขนทั้งสองตรงเหนือศีรษะแล้วค่อยๆ วางลงอย่างช้าๆ


วันพฤหัสบดี
มุ่งไปยัง บั้นท้าย ขาและหน้าท้อง
ท่าปฏิบัติ
• ท่าบริหารหัวใจ 20 นาที
• 30 ท่าดึงถีบ (ข้างละ 15 ครั้ง) ทำท่าหมอบโดยพยายามให้หลังตรงเข้าไว้ ดึงเข่าขวาให้ขึ้นมาถึงหน้าอกแล้วถีบออกด้านหลังให้ขายืดตรง เริ่มทำใหม่โดยเปลี่ยนขา
• ท่านั่งย่อยืด 20 ครั้ง
• ท่าแทงเข่า 15 ครั้ง
• ท่ายกกระดูกเชิงกราน นอนราบกับพื้น ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นและแขนแนบลำตัว ค่อยๆ ยกบั้นท้ายขึ้นกระทั่งสูงเหนือพื้นประมาณ 3-5 นิ้ว ค่อยๆ วางลงอย่างช้าๆ
• ท่ายกบิด 40 ครั้ง (ข้างละ 20 ครั้ง) นอนราบกับพื้น ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นแล้วเอามือรองไว้ใต้ศีรษะ พยายามใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องโดยการยกศีรษะและหัวไหล่ขึ้นจากพื้น ในขณะเดียวกันหมุนลำตัวไปทางด้านขวามือ เสร็จแล้วเปลี่ยนข้าง


วันศุกร์
มุ่งไปยังส่วนที่คุณมีปัญหา
ท่าปฏิบัติ
• ท่าบริหารหัวใจ 20 นาที
• จากนั้น พิจารณาดูว่าถ้าแขนของคุณยังไม่ฟิตพอ ให้ใช้ท่าบริหารของวันอังคาร แต่หากหลังและไหล่รู้สึกอ่อนแอเหลือกำลัง ให้คุณทำท่าของวันพุธ ก้น ขา และช่องท้องเกิดต้องการการบริหารมากกว่าเท่าที่ทำไปเมื่อวันจันทร์และพฤหัสบดี ให้นำท่าของวันจันทร์มาทำอีกครั้ง ด้วยวิธีนี้คุณจะไม่ทำท่าที่ซ้กับวันก่อน ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อส่วนบนเกิดอาการเจ็บปวด


วิธีเลือกรับประทาน
หากต้องการลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องวางแผนสำหรับเมนูอาหารในเดือนนี้
• ทำอาหารมื้อกลางวัน และมื้อค่ำด้วยเนื้อไม่ติดมัน
• เลือกผักใบสีเขียวเข้ม เช่น ผักโขม แต่หลีกเลี่ยงพวกที่เป็นแป้ง อย่างมันฝรั่ง
• หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาล เมื่อสามารถทำได้
• ไม่ควรรับประทานผลไม้ เขตร้อนที่มีแคลอรีสูง อาทิ สับปะรด กล้วย และมะพร้าว
• หนีห่างขนมหวานที่มีปริมาณน้ำตาลสูง
• ลองเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งใสใส่ผลไม้ อาจช่วยบรรเทาความอยากของคุณได้




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2551    
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 16:38:10 น.
Counter : 474 Pageviews.  

5 สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำในการออกกำลังกาย

เรามีข้อปฏิบัติในการออกกำลังกายที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาฝากค่ะ

สิ่งที่ควรทำในการออกกำลังกาย
1. เช็คสมรรถภาพร่างกายตัวเอง ควรรู้ว่าสภาพร่างกายตัวเองเ)นอย่างไร มีปัญหาที่ไหนบ้าง เช่น แขน ขา ข้อ หรือเข่า เพื่อเลือกกีฬาที่เหมาะสม
2. วอร์มหรือยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังออกกำลังกาย 3-5 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อเตรียมพร้อมที่จะยืดและคลาย รวมทั้งให้เกิดการไหลเวียนโลหิตที่ดี
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าอดนอนหรือพักผ่อนไม่เต็มที่ ไม่ควรหักโหมเล่นกีฬา
4. เตรียมเวลาให้เพียงพอ อย่างน้อย 2 ชั่วโมงสำหรับการออกกำลังกายแต่ละครั้ง โดยปกติจะออกกำลังกาย 1 ชฃั่วโมง และอีก 1 ชั่วโมงสำหรับอาบน้ำ
5. ตรวจอุปกรณ์เครื่องมือที่จะใช้ให้พร้อมอยู่ในสภาพใช้การได้ดี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกกำลังกาย
1. ไม่ควรดื่มกาแฟก่อนเล่นกีฬา เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นการเต้นของหัวใจ ทำให้เต้นผิดจังหวะ จึงเหนื่อยหอบ บางรายอาจหายใจสะดุดได้
2. ไม่ควรทานอาหารมื้อหนักหรือมื้อใหญ่ 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนออกกำลังกาย
3. หลังเล่นกีฬาเสร็จแล้ว อย่าดื่มน้ำเย็นจัดหรืออาบน้ำเย็นทันที เพราะร่างกายยังชื้นเหงื่ออยู่ ควรรอให้แห้งให้ระบบร่างกายปรับอุณหภูมิให้ปกติก่อน
4. ไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมทอฟฟี่ขณะออกกำลังกาย จะทำให้ระบบหายใจผิดปกติ ออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ไม่ต่อเนื่อง ทำให้เกิดอาการล้าและง่วงหงาวหาวนอน
5. ไม่หักโหมออกกำลังกาย โดยหวังผลให้น้ำหนักลดภายในวันสองวัน เพราะมันเป็นไปไม่ได้




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2551    
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 16:36:55 น.
Counter : 492 Pageviews.  

อยากกินอะไรก็ไม่อ้วนใช่มั้ยล่ะ ไม่ยาก

การที่เรากินอะไรเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนนั้นเกิดจากการที่ร่างกายมีระบบการเผาผลาญที่เยี่ยมยอดนั่นเอง ดังนั้นหากคุณต้องการกินๆๆ โดยที่จะไม่อ้วน คุณก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหารของคุณนั่นเอง แต่การอดอาหารนั้นทำให้คุณกลับมีไขมันสะสมเพิ่มขึ้นแทนที่จะน้อยลง ด้วยความเข้าใจที่ผิดๆ นี้ ทำให้คนเรามักจะลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร

วิธีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารได้ดีที่สุดก็คือ การเพิ่มกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมัน ยิ่งกล้ามเนื้อของคุณมีไขมันน้อยเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเผาผลาญอาหารได้มาก ทว่ากล้ามเนื้อของเราจะลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้นค่ะ นั่นคือเหตุผลที่เราควบคุมน้ำหนักได้น้อยลงเมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นคุณจึงควรออกกำลังกายเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อการควบคุมน้ำหนักระยะยาว เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อเสียตั้งแต่ยังสาวๆ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญอาหารให้อยู่ในอัตราที่พอเหมาะ

การกินคือปัจจัยที่สำคัญอีกประการปนึ่งในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหาร ร่างกายจำเป้นต้องใช้พลังงานในทุกๆ นาที ซึ่งถ้าได้ไม่เพียงพอก็จะไปดึงจากที่สะสมไว้ โดยดึงจาก คาร์โบไฮเดรตก่อน ตามด้วยไขมัน และในกรณที่รุนแรงก็จะดึงออกมาจากโปรตีน การลดปริมาณแคลอรี่ในอาหารจะช่วยลดปริมาณไขมันได้ แต่ต้องระวัง!!! การอดอาหารแบบเฉียดพลันจะให้ผลตรงกันข้าม คือการลดปริมาณอาหาร ที่กินเข้าไปมากกว่า 500 แคลอรี่ขึ้นไปต่อวัน จะไปเร่งให้ร่างกายสะสมพลังงานมากขึ้น ระบบเผาผลาญพลังงานก็จะช้าลงโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันภาวะการขาดสารอาหารอุณหภูมิของร่างกายก้จะเย็น กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมไธรอยด์ซึ่งมีหน้าที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญพลังงานและช่วยพาไขมันที่สะสมในร่างกายมาใช้งานก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ แคลเซียม โปแตสเซียม วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ก็จะไม่มีเหลือ แค่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเป็นเวลา 5 ชั่วโมงติดต่อกัน ร่างกายจะคิดว่าเริ่มขาดอาหาร ดังนั้นถ้าคุณนอนยาวจนถึงเที่ยงโดยไม่ได้กินอะไรเป็นมื้อเช้า เท่ากับเป็นการสั่งร่างกายให้เก็บสะสมพลังงานในรูปไขมันแทนที่จะใช้ ดังนั้นควรกินอาหารให้เป็นเวลา 3 มื้อต่อวันค่ะ




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2551    
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 16:36:15 น.
Counter : 465 Pageviews.  

ฟิตใน 7 วัน

ต่อไปนี้เป็นโปรแกรมการออกกำลังกายที่ช่วยให้ร่างกายคุณฟิตภายใน 7 วัน ซึ่งได้รวมเอาการเผาผลาญพลังงานเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เข้ามาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ร่างกายคุรสามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างเต็มที่ และกล้ามเนื้อแข็งแรงอีกด้วยค่ะ

ตอนเช้าและบ่าย
ให้เดินตามเพลงในวิทยุสัก 3 นาที เพินไปข้างนอก 15 นาที เดินขึ้นลงบันได 5 นาที หรือออกกำลังกายเบาๆดังนี้ ย่ำอยู่กับที่ 3 นาที เพิ่มความเร็วเป็นวิ่งเหยาะๆ อีก 2 นาที กลับมาย่ำอีก 2 นาที เตะขา 2 นาที วิ่งเหยาะๆ อีก 2 นาที กระโดดอยู่กับที่ 3 นาที แล้วจบด้วยการย่ำอีก 3 นาที

ทำ 4-5 ครั้ง ต่อสัปดาห์
เลือกกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งจากการเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือเต้นแอโรบิก ถ้าไม่เคยออกกำลังายมาก่อนเลย มากกว่า 6 เดือนแล้วให้เริ่มที่ 10 นาทีก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นอีก 2 นาที ทุกๆ 3 ช่วง ถ้าออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วให้ทำครั้งละ 20 นาที จากนั้นเพิ่ม 3 นาที ทุก 3 ช่วง

ทุกวัน
ยกเวทสลับกันระหว่าง 2 กลุ่มต่อไปนี้คือวันที่ 1, 3, 5 ของแต่ละสัปดาห์ยกเวทกลุ่มที่เน้นร่างกายช่วงล่าง ส่วนวันที่ 2 และ 4 ของแต่ละสัปดาห์ยกเวทกลุ่มที่เน้นร่างกายช่วงบนและท้อง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเริ่มที่น้ำหนัก 1.5-2.5 กก กำลังดี ถ้ายกขึ้นมาแล้วเกร็งข้อมือแสดงว่าหนักเกินไป หรือยกขึ้นมาได้จนแขนปลิวแสดงว่าเบาไป

ยกเวทสำหรับกลุ่มที่เน้นร่างกายช่วงล่าง
The Squat
1. ยืนแยกขาห่างกันประมารหัวไหล่ หลังเหยียดตรง โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เกร็งกล้ามเนื้อท้อง ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงที่เท้า มือทั้งสองข้างถือเวทไว้หายใจเข้าตอนเกร็งสะโพก จากนั้นค่อยๆ ย่อตัวลงมาจนระดับเดียวกับหัวเข่า
2. ย่อตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกร็งกล้ามเนื้อก้นตลอดเวลา จากนั้นค่อยๆ ยืดตัวยืนตรง และยกเวทขึ้นระดับข้อศอกเพื่อบริหารกล้ามเนื้อด้านหน้าของต้นแขน ทำซ้ำ 15 ครั้ง
The Pile
1. ยืนแยกขาห่าง มือถือเวทเข้าหาลำตัว ย่อเข่า (หัวเข่าและหัวแม่เท้าควรหันไปทิศทางเดียวกัน)
2. ขณะที่หายใจออก เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาเพื่อให้ขาเหยียดตรง จากนั้นก็กางแขนขึ้นจนมืออยู่ระดับเดียวกับหัวไหล่ ทำซ้ำ 15 ครั้ง
The Lunge
1. ยืนตรงมือถือเวทไว้ข้างลำตัว โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ขณะที่เหยียดขาขวาไปข้างหลังเต็มที่ ยกข้อเท้าขวาไว้อย่าแตะพื้น ย่อเข่าซ้ายลง
2. กลับมายืนตรง เกร็งกล้ามเนื้อขาและก้น ทำซ้ำ 15 ครั้ง

กลุ่มที่เน้นร่างกายช่วงบนและท้อง
The overhead reach
1. ยืนติดกับขั้นบันได ถือเวทที่ระดับหัวไหล่หงายมือ
2. หายใจออก เหบียดข้อศอกให้ตึง ยกเวทขึ้น (หลังตรงตลอด) และก้าวขึ้นบันไดหายใจเข้า กลับมายืนท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 15 ครั้ง
The push up
นอนคว่ำ มือและเท้าวางราบกับพื้น หายใจออก จากนั้นยกลำตัวขึ้น พยายามให้สะโพก หน้าท้องและซี่โครงอยู่ในแนวเดียวกันเป็นเส้นตรง หายใจเข้าแล้วจึงยกตัวลง ให้มองพื้นอย่าเงยหน้ามองข้างหน้า เพื่อให้คออยุ่ในแนวเดียวกับสันหลัง ไม่งอ ทำซ้ำ 2 ครั้ง เพื่มจำนวนเมื่อชำนาญ
The abdominal curl
1. นอนหงาย ชันเข่า มือถือเวทไว้เหนือศีรษะ ยกหัวไหล่เหนือพื้น
2. หายใจออกขณะที่พับตัวไปข้างหน้าอย่าให้คางชนอก เกร็งกล้ามเนื้อท้องไว้ หายใจเข้าแล้วจึงค่อยๆ กลับมาอยู่ในท่านอนตามเดิม ทำซ้ำ 15 ครั้ง
The waist twist
1. นอนหงาย ชันเข่า มือข้างขวาวางไว้ที่ท้ายทอย พับแขนให้มือข้างซ้ายที่ถือเวทไว้ตรงกับหัวไหล่พอดี
2. ขณะที่หายใจออก ให้ยกตัวขึ้น โดยหันหัวไหล่ซ้ายไปทางต้นขาขวา ในเวลาเดียวกันก็ยกสะโพกด้านขวาไปทางหัวไหล่ซ้าย หายใจเข้าและยกลง ทำซ้า 15 ครั้ง




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2551    
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 16:35:32 น.
Counter : 456 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.