happy memories
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๙o




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto









"สามัคคีศิลป์ ณ วิหารเทพวิทยาคม จากพระไตรปิฎกสู่มหาประติมากรรมเซรามิก”


ถ้าใครเคยไป “วัดบ้านไร่” หรือวัดหลวงพ่อคูณ ที่ตั้งอยู่ใน ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในช่วง ๑-๒ ปีที่ผ่านมา จะพบกับงานสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์ขนาดใหญ่นั่นก็คือ “วิหารเทพวิทยาคม” อุทยานธรรมกลางน้ำอันน่าตื่นตาตื่นใจ


วิหารเทพวิทยาคม เป็นอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ ก่อสร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ที่ต้องการจะให้เป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก หรืออีกนัยหนึ่งคือดินแดนที่รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด






วิหารเทพแห่งนี้สร้างบนพื้นที่กลางบึงน้ำขนาด ๓o ไร่ ส่วนบริเวณวิหารมีขนาดกว้าง ๖o เมตร ยาว ๖o เมตร องค์วิหารเป็นอาคารลักษณะทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง ๓o เมตร สูงประมาณ ๔๒ เมตร มีทั้งหมด ๔ ชั้น ประกอบด้วยสิ่งน่าสนใจ ได้แก่ “สะพานพญานาค” ที่ทอดกายเป็นสะพานแห่งศรัทธาเดินข้ามผ่านโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม, “ซุ้มประตูบารมีทั้ง ๔ ทิศ” ได้แก่ ซุ้มพระอินทร์ ซุ้มพระยม ซุ้มพระพิรุณ และซุ้มพระกุเวร (ท้าวเวสสุวรรณ), “เสารอบอาคาร” เป็นเสาที่บรรจุภพชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิดทั้ง ๕๒๓ ชาติไว้รอบๆ ด้านผนังรอบนอกนำเสนอจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง “ทศชาติชาดก” เป็นจิตรกรรมเขียนสีแผ่นเซรามิก


ขณะที่ภายในวิหารยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกมากมาย อาทิ เรื่องราวพุทธประวัติ ตั้งแต่สมัยกำเนิดพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระวินัยปิฎกและวิวัฒนาการของพระพุทธศาสนาหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน เรื่องราวของพระธรรมปิฎก เป็นต้น






ล่าสุดทางวิหารเทพวิทยาคมมีการรวมใจของศิลปินและชาวบ้านมากกว่า ๕oo ชีวิต มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานพุทธศิลป์ล้ำค่า เพื่อบอกเล่าเรื่องราวธรรมะในแบบที่เข้าใจง่าย สู่พุทธศาสนิกชนผ่านงานสถาปัตยกรรมเชิงประติมากรรม/จิตรกรรม และเซรามิก ที่รวบรวมศิลปะไว้ถึง ๔ แขนง ได้แก่ จิตรกรรม, ประติมากรรม, เซรามิก และวิศวกรรม ซึ่งทางทีมงานของวิหารได้เรียกรวมการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์ทั้ง ๔ ว่า “สามัคคีศิลป์”






เพี้ยง-สัมพันธ์ สารารักษ์ ผู้ออกแบบและที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรมศิลปะของวิหารเทพวิทยาคม ให้ข้อมูลว่า


“ชีวิตนี้ไม่เคยทำงานด้านการออกแบบอะไรเลย ขนาดตัวเองยังไม่ออกแบบเลย เพราะเราเป็นจิตรกรทำงานวาดรูปเป็นหลัก ไม่มีความสามารถด้านสถาปัตย์(สถาปัตยกรรม) แต่เมื่อคุณเกรียงไกร จารุทวี รองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ที่เราคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดีมากว่า ๒o ปี เป็นดั่งพ่อที่คอยชี้แนะเมตตาให้ในทุกด้าน บอกว่าอยากจะสร้างสถาปัตยกรรมอะไรสักอย่างเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ. นครราชสีมา หรือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเลยก็ว่าได้





เพี้ยง-สัมพันธ์ สารารักษ์



ทั้งนี้โจทย์หลักของวิหารแห่งนี้ คืออยากให้เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมะที่เข้าใจง่าย ๆ ซึ่งเพี้ยงกล่าวว่า


“เราน่าจะออกแบบได้ แต่จะสร้างได้หรือเปล่าตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะเราเองไม่มีความรู้ด้านสถาปัตย์ ก็เริ่มลงมือเขียนแนวคิดแบบร่างกันเป็นร้อย ๆ รูปเลยทีเดียว กว่าจะสรุปและให้เขาปั้นโมเดลขึ้นมาได้ แต่ที่หนักกว่านั้นก็คือเรื่องราวของธรรมะนี่สิ เพราะเป็นเรื่องที่ห่างตัวเรา หรือเรียกง่าย ๆ ว่าศิลปินเองก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ แต่ยังโชคดีที่มีโอกาสถือว่าบุญยังมีเลยได้ทำ”


เพี้ยงให้ข้อมูลต่อว่า พวกเขาทุกคนต้องอ่านพระไตรปิฎกก่อน เพื่อให้เข้าใจความหมายและสามารถสร้างสรรค์งานศิลป์ที่จะถ่ายทอดออกมาอย่างถูกต้อง


“ช่วงแรกก็อาจจะยากหน่อย เพราะต้องอ่านพระไตปิฎกเป็นเล่ม ๆ หนาเตอะ แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะหากไม่เข้าใจ มันก็สร้างสรรค์งานออกมาเป็นรูปเป็นร่างไม่ได้ ดีอย่างที่สมัยเรียนเป็นคนชอบสะสมหนังสือพระ หนังสือธรรมมะต่าง ๆ เวลาคุยกับเพื่อน ก็ต้องอ่านบ้างจะได้คุยกันได้ ปกติผมไม่ชอบอ่านหนังสือแต่ผมชอบซื้อหนังสือ ซื้อมาเก็บไว้ อ่านนิด ๆ หน่อย ๆ ซึ่งพอได้รับมอบหมายงานนี้ ผมถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ทำงานที่ชอบและฝึกฝนทำความเข้าใจในหลักธรรมะมากขึ้น” เพี้ยงกล่าว






ทั้งนี้สิ่งสำคัญของงานนี้คือ การจัดวางดีไซน์ศิลปกรรมเพื่อร้อยเรียงเรื่องราวให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักธรรมของพระไตรปิฎก เรียกว่าทั้งออกแบบดีไซน์และลงมือวาดด้วย ส่วนงานนี้จะสำเร็จไม่ได้เลยถ้าไม่มีการร่วมมือร่วมใจของพลพรรคศิลปินเพื่อนพ้องน้องพี่ ลูกศิษย์ลูกหาที่มาช่วยกันจนก่อเกิดเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่สวยงาม ทั้งงานภาพเขียน เซรามิก จิตรกรรม วิศวกรรม และประติมากรรม ถือเป็นความภูมิใจมากที่ “วิหารเทพวิทยาคม” จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาที่ทุกคน ประชาชนทุกคน เด็ก ๆ ไปจนคนเฒ่าคนแก่ ก็สามารถเข้าถึงหลักธรรมในพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น





ขุนสว่าง อนุศิลป์



ด้าน “ขุนสว่าง อนุศิลป์” ผู้ควบคุมดูแลงานประติมากรรมทั้งหมดของวิหารเทพฯ กล่าวว่า


“มันเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทาย เริ่มแรกเกิดจากความเชื่อใจเพื่อนคือคุณเพี้ยงที่นำภาพสเกตช์มาให้ผมขยายเป็นโมเดล เป็นรูปสามมิติก่อนนำมาสร้างจริง ซึ่งแต่ละงานมันก็มีอุปสรรคบ้าง แต่มาทำปูนปั้นที่วิหารเทพฯ นี้ อุปสรรคกลับน้อยมาก เราใช้เทคนิคงานปั้นสด คือใช้ปูนซีเมนต์ปั้นสด สิ่งที่น่ากลัวคือฝน หากตกลงมาจะโทษใครก็ไม่ได้ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ที่น่าอัศจรรย์คือตอนผมกำลังปั้นเห็นฝนมาดำมืดไปหมด คิดว่าต้องตกแน่แต่สุดท้ายไม่ตก ไปตกรอบ ๆ วิหารเทพฯ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวเกิดขึ้นหลายครั้งมาก ซึ่งถือเป็นบุญญาธิการของหลวงพ่อคูณ เพราะถ้าฝนตกก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่






จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ผมภูมิใจมากที่ได้สร้างศิลปะร่วมสมัยแห่งรัตนโกสินทร์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ในความหมายคือ รวมทุกอย่างที่เป็นศิลปะที่สัมผัสได้...ก้าวแรกการเดินทางมันค่อนข้างน่ากลัว ยากและลึก ซึ่งตรงนี้มีความหมายในหลักธรรมที่มาช่วยพยุง เพราะคนทำงานศิลปะมันสามารถทะเลาะกันได้ง่าย ๆ แต่เพราะมีหลักธรรม ศิลปินทุกคนที่นี่จึงอ่อนน้อมและผ่อนปรน อภินิหารเกิดขึ้นได้จากความศรัทธา”





ธิติพงศ์ ทับทิม



ในส่วนของงานเซรามิกอันสวยงามอลังการนั้น “ธิติพงศ์ ทับทิม” ผู้เชี่ยวชาญด้านเซรามิก ๑ ใน ๕ ผู้ดูแลควบคุมการจัดวางเซรามิก อธิบายว่า


“เสน่ห์ของเซรามิกมันไม่เหมือนใคร ความสวยงามเกิดจากการเรียงร้อยของวัสดุเคลือบเงาชิ้นเล็กก่อเกิดเป็นรูปต่าง ๆ ตามจินตนาการที่วางไว้ มันดูพิเศษและนุ่มนวลยามต้องแสงอาทิตย์ ซึ่งที่วิหารเทพฯ นี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคนจริง ๆ โดยเฉพาะชาวบ้านละแวกนี้ ที่มาเรียนรู้การติดเซรามิก ซึ่งทุกคนตั้งใจมาก เพื่อทำถวายหลวงพ่อคูณ มันไม่ใช่เล็ก ๆ แต่ใช้เซรามิกรวม ๆ มากขนาด ๑๘o ตันเลยทีเดียว หรือราว ๆ ๒o ล้านชิ้นได้ ซึ่งตอนแรกไม่เชื่อว่าจะออกมาแบบนี้ มันเกินความคาดหมาย สวยงามอลังการ และจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมะของทุกคนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ที่นี่สอนธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างน้อยมาที่นี่ได้กลับไปข้อหนึ่งก็ยังดี”





ช่างนัท-สมยศ แพผึ้ง



ขณะที่ผู้ดูแลและควบคุมงานโครงสร้างทั้งหมด ช่างนัท-สมยศ แพผึ้ง ให้ข้อมูลว่า


“วิหารเทพวิทยาคมสร้างขึ้นมาโดยไม่มีแบบสถาปัตย์มีแต่แบบโครงสร้าง โดยจะขึ้นรูปมาจากโรงงานที่กรุงเทพฯ บางส่วน แล้วนำมาปรับให้ได้ขนาดและรูปแบบที่หน้างานอีกครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ให้มันลงตัวและสมบูรณ์ อย่างชั้นที่ ๑ จะไม่มีแอร์ จะใช้วิธีธรรมชาติให้ลมไหลเวียนเพื่อสร้างความเย็น แล้วหลังคาก็เป็นรูปกลีบมะเฟืองที่รับลมได้เยอะถ่ายเทเร็ว"






“ตอนนี้โครงสร้างทั้งหมดของวิหารเทพวิทยาคมเสร็จ ๑oo% แล้ว ตอนนี้จะเป็นการพัฒนาพื้นที่รอบนอก คือในส่วนของสถานที่นั่งพัก, หมู่บ้านศิลปิน ฯลฯ ซึ่งผมว่าใครที่มาที่นี่ชอบธรรมมะ ชอบถ่ายภาพ ความสวยงามของแต่ละมุมเพื่อเก็บเกี่ยวและบันทึกความทรงจำ รับรองว่าใช้เวลาวันเดียวไม่พอแน่นอนครับ” ช่างนัทกล่าว






ด้าน เพี้ยง กล่าวปิดท้ายว่า “ผมและเหล่าคณะทำงานรู้สึกดีใจมาก ที่คนศิลป์ต่างรวมตัวมาช่วยกันเยอะขนาดนี้ ผมมีหน้าที่ควบคุมดูแลในเรื่องของเนื้อหารูปแบบศิลปกรรมเทคนิค ทิศทางเรื่องราวต่าง ๆ ที่มาจากพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด ต้องมีเนื้อหาควบคุมหมด


จุดเด่นก็คือ การทำให้ศิลปะที่นี่เกิดขึ้นแบบไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ว่าจะเป็นศิลปินอาชีพหรือน้องใหม่ นักศึกษา หรือน้อง ๆ ระดับเด็กนักเรียน เพียงแต่ตั้งใจและอยากมาสร้างงานร่วมกัน แม้กระทั่งชาวบ้านไร่ในชุมชน ที่พวกเราสอนเค้าติดเซรามิกต่าง ๆ นับสิบล้านชิ้นลงบนวิหาร ด้วยจิตศรัทธาเป็นพุทธศิลป์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา อย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับการเก็บเกี่ยวบุญด้วยศิลปะเป็นธรรมบูชา ที่จะมีโอกาสซึมซับหลักธรรมทางศาสนาเข้าจิตใจไปด้วยในตัว ภายใต้ความสมัครสมานร่วมใจกัน หรือเรียกได้ว่าสามัคคีศิลป์”






นี่ก็คืออีกหนึ่งเสน่ห์ความน่าสนใจในงานพุทธศิลป์ของ วิหารเทพวิทยาคม จ.นครราชสีมา สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม และแหล่งเรียนรู้ธรรมะที่เข้าใจง่าย ซึ่งตั้งเด่นอลังการให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสกัน


วิหารเทพวิทยาคม ตั้งอยู่ที่ “วัดบ้านไร่” หรือวัดหลวงพ่อคูณ ใน ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เป็นอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ ก่อสร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.o๘-๑๘๒๘-๗๖๑๖ หรือดูที่ //www.watbaanrai.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














"งานเสวนา แอดเลอร์ ศุภโชค แกลอรี่”


ขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติในแวดวงศิลปะ,ผู้หลงใหลชื่นชอบในงานศิลปะ ร่วมงานเปิดตัว Grand Opening  “แอดเลอร์ ศุภโชค แกลอรี่” แกลอรี่แห่งใหม่ระดับโลก พร้อมเปิดตัว ๒ นิทรรศการ จากศิลปินรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ “มานิต ศรีวานิชภูมิ” และ นิทรรศการกลุ่ม MOI/SOI โดยศิลปิน ๘ ท่านที่น่าจับตามอง ได้แก่ กิติคุณ หมั่นกิจ,ประดิษฐ์ ตั้งประสาทวงศ์,พัชรพงษ์ มีศิลป์,ลำพู กันเสนาะ, เกียรติอนันต์ เอี่ยมจัน, พลุตม์ มารอด, ไมเคิล เชาวนาศัย, ศิลาวิทย์ พูลสวัสดิ์ ภายในงานพบกับการเสวนาพิเศษ ในหัวข้อ  “แอดเลอร์ ศุภโชค แกลอรี่ กับแนวทางการพัฒนาศิลปินไทยสู่การเป็นที่ยอมรับในระดับสากล”


ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ 
คุณศุภโชค อังคสุวรรณศิริ เจ้าของ Subhashok The Arts Centre : S.A.C. 
คุณโจเอล โคเฮน และ คุณอาร์แมล โคเฮน เจ้าของ Adler Gallry Paris,France
คุณโลรองต์ เดอร์ ปาส ผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปะในตลาดโลกกว่า ๒o ปี
คุณไมเคิล เชาวนาศัย ศิลปินอิสระและผู้กำกับ/นักแสดง
คุณปี๊ป รวิชญ์ เทิดวงศ์ ศิลปินอิสระ / นักแสดง / อาจารย์ด้านศิลปะ


ดำเนินการเสวนา โดย
หนิง ศรัยฉัตร จีระแพทย์ (กุญชร ณ อยุธยา) และพิเศษสุดกับ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ พูดคุยในหัวข้อ “มาลงทุนกับงานศิลปะ รวยได้ยังไง?”


พร้อมชมการแสดง Performance ระดับโลกชุดพิเศษจากประเทศฝรั่งเศส โดย Scarlette Diamond และชมการเดี่ยวไวโอลิน สลับกับช่วงดีเจ. ในบรรยากาศคอลเทลปาร์ตี้พร้อมเครื่องดื่ม ร่วมพูดคุยตามประสาคนศิลปะ


ร่วมด้วยเซเลบริตี้ แขกผู้ร่วมงาน ได้แก่

กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์, กรกนก ยงสกุล, คุณบุญชัย เบญจรงคกุล, จีน กษิดิษฐ์,จุฑาวรรณ ไกรฤกษ์, ชนัดดา จิราธิวัฒน์, ชัชชฎา ก้องธรนินทร์, ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ, ณัฐพัชร์ ลีนุตพงษ์, นนท์ วีระไวทยะ, นาขวัญ รายนานนท์, ประกาศิต – นภัสนันท์ พรประภา, ปัญญชลี เพ็ญชาติ, ปัทมวดี เสนาณรงค์, ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก, พราวพุธ ลิปตพัลลภ, พลพัฒน์ อัศวประภา, พิมพ์เลิศ ใบหยก, พิมพิศา จิราธิวัฒน์,เพ็ญสุภา คชเสนี, เพลินจันทร์ รุ่นประพันธ์, แพร วัชราภัย,พาย ภัทรียา ณ นคร, ภูวดี คุนผลิน, ม.ล.รังษิธร ภาณุพันธุ์, มรว.ศรีคำรุ้ง ยุคล, มล.รจนาธร ณ สงขลา, มล.ลักษสุภา กฤดากร,มล. อรรถดิศ ดิศกุล, เมตตา สันติสัจจธรรม, ลีลา สุนทรวิเนตร์,ศรัณฐ์ หวั่งหลี, ศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ, ศิรนุช โรจนเสถียร, สุภี พงษ์พานิช, สุริยน-เมก้า ศรีอรทัยกุล, โสรัส อมาตยกุล, อมาตย์ นิมิตภาคย์ ฯลฯ






หมายเหตุ : ผลงานของศิลปินทั้ง ๙ ท่าน จะเป็นตัวแทนศิลปินไทย ไปร่วมจัดแสดงผลงานศิลปะในงาน “Art Paris Art Fair 2014” งานนิทรรศการศิลปะ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส งานนี้เป็นแหล่งรวมศิลปินและงานศิลปะยุคใหม่ที่น่าจับตามอง โดยในปีนี้ “Adler Subhashok Gallery Bangkok” เป็นแกลอรี่เดียวจากประเทศไทย ที่จะนำงานศิลปะคุณภาพของศิลปินไทย ไปเปิดตัวสู่สายตาระดับโลก ในวันที่ ๒๗-๓o มีนาคม ๒๕๕๗ ที่จะถึงนี้


งานเสวนาจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.oo-๒๒.oo น. ณ แอดเลอร์ ศุภโชค แกลอรี่ ซ.สุขุมวิท ๓๓ 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร : o๒-๖๖๒-o๒๙๙
Email : info@adlersubhashok.com
Facebook : //www.facebook.com/adlersubhashokgallery



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"ศิลปินไทยเข้าร่วม 'AIAE' โชว์ผลงานศิลปะ”


"งานศิลปะ" แต่ละประเทศ แต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) หน่วยงานที่มีบทบาทส่งเสริมผลงานศิลปกรรมร่วมสมัยของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักระดับนานาประเทศ พยายามสนับสนุน เปิดโอกาสให้ศิลปินไทยแสดงศักยภาพ นำเสนอผลงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ ล่าสุด สศร.ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งศิลปินเข้าร่วม การแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติแห่งเอเชีย (Asian International Art Exhibition) หรือที่เรียกว่า AIAE ครั้งที่ ๒๘ ณ เกาะไต้หวัน ระหว่างวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ Historical Folk Museum, Cultural Park, Konmen Island


นายเขมชาติ เทพไชย ผู้อำนวยการ สศร. เล่าว่าปี ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดโครงการอีไอเออี โดยครั้งนั้นทำให้ประเทศไทยได้ผลงานศิลปะจากศิลปินที่เข้าร่วม ๒o ประเทศ กว่า ๔o ชิ้น ขณะที่ศิลปินไทยได้รับประโยชน์มากมาย ทั้งการเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้แสดงผลงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินในแถบประเทศเอเชีย และเป็นที่รู้จักในระดับนานาประเทศมากขึ้น ดังนั้น เมื่อมีโครงการอีไอเออี ครั้งที่ ๒๘ จึงส่งศิลปินไปร่วมแสดงผลงานทั้งหมด ๑๕ คน ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ชลูด นิ่มเสมอ, ศ.กมล ทัศนาญชลี, นายชวน หลีกภัย, นายชวลิต เสริมปรุงสุข, นายธงชัย รักปทุม, นายสมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์, รศ.กัญญา เจริญศุภกุล, รศ.ดร.ศุภกรณ์ ดิษฐพันธุ์, นายเฉลิมศักดิ์ รัตนจันทร์, นายพิชิต ตั้งเจริญ, นายพงศ์ศิริ คิดดี, นายวิวิชชา ยอดนิล, น.ส.ลำพู กันเสนาะ น.ส.ยามีล๊ะ หะยี และน.ส.อัญชลี อารยะพงศ์พาณิชย์ โดยแต่ละคนได้นำเสนอผลงานของตนเองตามความชอบ กระบวนการคิด และเทคนิคที่แตกต่างกันไปเฉพาะบุคคล


การแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติแห่งเอเชีย เป็นความร่วมมือของศิลปินอิสระมาตั้งปี ๒๕๒๙ มีสมาชิก ๑๔ ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย มองโกเลีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลี เวียดนาม จีน มาเก๊า ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย


นายธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เล่าว่า ศิลปะเป็นรสนิยม คุณงามความดีที่ทำให้โลกสงบสุข เพราะต่อให้นำเสนอผลงานศิลปะแตกต่างกันตามความงาม รากเหง้าของวิถีชีวิต วัฒนธรรม อุดมคติ ไอเดียของศิลปิน แต่งานศิลปะทุกชิ้นล้วนสื่อสาร ถ่ายทอดไปยังผู้ที่ได้ชม สัมผัสอย่างเข้าใจ เชื่อมความสัมพันธ์แบบมิตรไมตรี ไม่เกิดความขัดแย้งต่อกัน


"เป็นโอกาสดีที่ศิลปินได้เรียนรู้งานศิลปะในไต้หวัน ช่วยเปิดมุมมองความคิดอันนำไปสู่การสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ ๆ สร้างเครือข่ายศิลปินไทยกับศิลปินนานาประเทศ โดยเฉพาะศิลปินรุ่นใหม่ การที่พวกเขาได้ไปเห็น เรียนรู้งานศิลปะในรูปแบบที่หลากหลายนอกเหนือจากตำรา จะทำให้เขาเกิดความคิด แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะรูปแบบใหม่ ๆ ตามแบบฉบับของตนเอง ภายใต้การยอมรับจากคนไทยและนานาประเทศ"


ปัจจุบันงานศิลป์ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ตอนนี้มีเด็กเยาวชนจำนวนมากหันมาเรียนรู้งานด้านศิลปะ นายธงชัย บอกว่า การเรียนรู้ด้านศิลปะไม่ว่าแขนงไหน ต้องเป็นการเรียนรู้ให้ลึก และรู้รักษา ให้เป็นแบบฉบับของตนเอง มีเอกลักษณ์ เพราะงานศิลปะที่อยู่ได้นานต้องมีเอกลักษณ์ ไม่ใช่เป็นงานก๊อบปี้ของผู้อื่น ซึ่งประเทศไทยถือได้ว่าโชคดีที่เยาวชน ศิลปินรุ่นใหม่สนใจ มุ่งมั่น ตั้งใจจริง ศึกษาค้นคว้า และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน ตอนนี้เด็กไทยมีโอกาสเยอะ มีการประกวดที่จะทำให้เด็กได้มีโอกาสแสดงผลงานด้านศิลปะมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้บางคนอาจหลงลืมไปว่า การทำงานศิลปะต้องเป็นไปตามอัตลักษณ์ ความเป็นตัวตนของตนเอง ไม่ใช่เป็นไปตามกฎกติกา เกณฑ์การประกวด อย่างไรก็ตาม อยากให้ สศร. สนับสนุนโครงการอีไอเออีต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้แสดงผลงานและเป็นที่รู้จักในระดับนานาประเทศ


แม้เวทีการแสดงงานด้านศิลปะมีจำนวนมาก แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสเข้าร่วม น.ส.ลำพู กันเสนาะ ศิลปินรุ่นใหม่ที่นำเสนอภาพน้องเหม่งในงานแสดงครั้งนี้ เล่าว่า รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง เพราะนอกจากเปิดโอกาสเรียนรู้งานศิลปะของศิลปินประเทศอื่น ๆ ยังสานสัมพันธ์ระหว่างศิลปินรุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานศิลปะร่วมกัน โดยเฉพาะศิลปินจากประเทศเดียวกันถ้าไม่ได้มาร่วมงานก็อาจจะไม่รู้จักไม่คุ้นเคยกัน แต่พอมีโอกาสมาแสดงผลงาน ทำให้รู้จัก สนิทสนมกัน ซึ่งอนาคตอาจนำไปสู่ความร่วมมือในการแสดงผลงานศิลปะต่อไป



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














"๘o ปี ธรรมศาสตร์ เป็น…อยู่…คือ! เมื่อวาน...วันนี้ และพรุ่งนี้”


เนื่องในวาระที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครบรอบ 80 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย จึงได้มีการจัดประกวดภาพถ่าย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


หัวข้อการประกวดภาพถ่าย : “๘๐ ปี ธรรมศาสตร์ เป็น...อยู่...คือ! เมื่อวาน...วันนี้ และพรุ่งนี้"


แนวคิด : คณะกรรมการฝ่ายจัดประกวด ๘๐ ปี ธรรมศาสตร์ จัดโครงการประกวดภาพถ่ายหัวข้อ “๘๐ ปี ธรรมศาสตร์ เป็น...อยู่...คือ! เมื่อวาน...วันนี้ และพรุ่งนี้” ซึ่งแบ่งเป็น ภาพเก่า ภาพใหม่ และภาพปริศนา โดยเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปส่งภาพถ่ายธรรมศาสตร์ พร้อมบรรยายความประทับใจในการถ่ายภาพ เพื่อชิงรางวัลมูลค่า ๑๘o,ooo บาท


โดยในช่วงนี้จะเป็นการประกวด "ภาพเก่า" ร่วมเล่าเรื่องเรา "ธรรมศาสตร์" พร้อมคำบรรยายประกอบภาพ ชิงเงินรางวัลกว่า ๘o,ooo บาท


ภาพเก่าที่เข้าร่วมประกวดจะต้องเป็นภาพที่ถ่ายตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ ลงไปเท่านั้น


คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวด
- นักศึกษา ศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ผู้ที่สนใจในการถ่ายภาพ
- บุคคลทั่วไป
- ไม่จำกัดเพศและวัย


หมดเขตรับผลงาน ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗
ประกาศการตัดสินภาพเก่าผลวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๗


ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่
https://www.facebook.com/thammasat80th.contest/app_208195102528120


รางวัล
รางวัลชนะเลิศ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๕o,ooo บาท
รางวัลรองชนะเลิศ จำนวน ๒ รางวัล รางวัลละ ๒๕,ooo บาท
รางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ ๑o,ooo บาท


สามารถส่งผลงานมาได้ที่
จักรชัย หิรัณยะวสิต
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารทรัพยากรมนุษย์และกฎหมายกองการเจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
๙๙ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ๑๒๑๒๑


หลักเกณฑ์การส่งภาพเข้าประกวด

ประเภทภาพที่ส่งเข้าประกวด – ภาพถ่ายจากกลองดิจิทัล หรือฟิล์ม
ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ผู้ส่งจะต้องถ่ายภาพธรรมศาสตร์/ สะท้อนความเป็นธรรมศาสตร์/ เกี่ยวข้องกับธรรมศาสตร์ หรือภาพอะไรก็ได้ (บุคคล สถานที่ สิ่งของ ฯลฯ) ที่สามารถสะท้อนมุมมองของผู้ถ่ายภายใต้หัวข้อ ๘๐ ปี ธรรมศาสตร์ เป็น อยู่ คือ! เมื่อวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นภาพถ่ายของธรรมสาสตร์โดยตรงก็ได้


ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ผู้ส่งจะต้องตั้งชื่อภาพ และบรรยายถึงแรงบันดาลใจหรือความประทับใจในการถ่ายภาพเพื่อสะท้อนความหมายของหัวข้อการประกวด ชื่อของภาพไม่มีผลต่อการตัดสิน


ผู้ส่งภาพถ่ายจะต้องกรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์มที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำหนดติดไว้ที่ด้านหลังของภาพ ระบุชื่อ-สกุล ผู้ถ่ายภาพ ที่อยู่ หมายโทรศัพท์ที่ติดต่อได้โดยสะดวก และ Email address ระบุสถานที่ถ่ายภาพ วัน เดือน ปีที่ถายภาพ


ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด จะต้องเป็นผู้ถ่ายภาพที่ส่งเข้าประกวดดวยตัวเอง ห้ามมิให้นำผลงานของผูอื่นส่งเข้าประกวด


ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด จะต้องเป็นภาพที่ไม่เคยได้รับรางวัลใด ๆ มาก่อน และไม่เคยทำขึ้นเพื่อการจำหน่ายหรือเพื่อโฆษณามาก่อน


ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด จะต้องไม่มีการต่อเติม เปลี่ยนแปลง หรือบิดเบือนภาพไปจากเดิมยกเว้นการปรับสี และแสงของภาพอย่างสมเหตุสมผล เท่านั้น


ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดเป็นภาพสีหรือขาวดำ ขนาดของภาพด้านใดด้านหนึ่งไม่เกิน ๒๔ นิ้ว อีกด้านหนึ่งไมต่ำกว่า ๘ นิ้ว


ภาพทั้งสองประเภท ให้ส่งไฟล์ดิจิทัลในแบบมาตรฐาน TIFF หรือ JPEG ความละเอียดไมต่ำกวา ๕ ล้านพิกเซล หากถ่ายด้วยฟิล์ม ให้แสกนเป็นไฟล์ดิจิตอลในแบบมาตรฐาน TIFF หรือ JPEG ความละเอียดไมต่ำกวา ๕ ล้านพิกเซลเช่นกัน โดยบันทึกไฟล์ภาพถ่ายลงแผ่นซีดีรอม ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดต้องระบุชื่อ-สกุล อย่างชัดเจนลงบนแผนซีดี และบรรจุในวัสดุกันกระแทกเพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อแผนซีดี


คณะกรรมการมีสิทธิ์คัดเลือกภาพที่ส่งเข้าประกวดไปจัดแสดงที่ต่าง ๆ รวมถึงทำซ้ำ ดัดแปลงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณะชนไม่ว่าจะในเอกสาร สื่อ หรือ สิ่งพิมพ์ทุกประเภท ทั้งนี้คณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีบุคคลอื่นกระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในภาพที่ส่งเข้าประกวด


ผลงานที่ส่งเข้าประกวด ทางผู้จัดสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืน ไม่ว่ากรณีใด ๆ


การส่งผลงานเข้าประกวด ส่งได้ไมเกิน ๔ ภาพ และต้องไมเป็นมุมภาพที่ซ้ำกัน และติดกรอบวัสดุฟิวเจอร์บอร์ดสีดำ ขนาดฟิวเจอร์บอร์ด ๒o x ๒๘ นิ้ว


ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดหากไม่ถูกต้องตามกติกาการประกวดข้อใดข้อหนึ่ง จะถูกตัดสิทธิ์ในการพิจารณา แม้ว่าจะได้รับการพิจารณารางวัลหนึ่งรางวัลใดไปแล้ว หากมีการท้วงติงถึงการทำผิดกติกาข้อใดข้อหนึ่งของภาพที่ได้รับรางวัลไปแล้ว และสามารถพิสูจน์ได้ว่าทำผิดกติกา คณะกรรมการสามารถยกเลิกและเปลี่ยนแปลงการตัดสินรวมทั้งขอคืนรางวัลได้ ภายใน ๑ เดือน นับจากวันที่ประกาศผลการตัดสิน


การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นการสิ้นสุด


การส่งภาพเข้าประกวด ให้ถือว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้างต้นคณะกรรมการของสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและกติกาตามความเหมาะสม


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
//www.facebook.com/thammasat80th.contest
tu80th.contest@gmail.com
o๘๑-๙๑๙-๘๙๕๖ คุณอำพน แปลงไธสง
o๘๙-๗๗๖-๒๘๘๗ คุณพัทน์นลิน อรุโณทัยพิพัฒน์
o๘๙-๒๑๖-๗๘๘๗ คุณจินตนา คำพฤกษ์
o๘๙-๖๘๖-๒๘๑๕ คุณพงศกร ฉิมท้วม



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค
contestwar.com














"งานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ ๑o”


ททท.พระนครศรีอยุธยา เชิญร่วมชวนนักท่องเที่ยวเข้าชมงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ ๑๑ และมหกรรมศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวแบบไทย” ระหว่างวันที่ ๑๒-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


วันนี้ (๔ มี.ค.) นายปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย สมาคมครูมวยไทยและสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ ๑o และมหกรรมศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวแบบไทย” ระหว่างวันที่ ๑๒-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


ทั้งนี้ เพื่อยกย่องและส่งเสริมศิลปะป้องกันตัวของไทย อันเป็นมรดกโลกที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพชนไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างจากชนชาติอื่น


นายปราโมทย์ กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมีนักมวยชาวต่างชาติเดินทางมาจาก ๖o ประเทศ ประมาณ ๖oo คน ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม โดย ททท.จัดพิธีไหว้ครูมวยไทยโลกในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


พร้อมชมการสาธิตหัตถศิลป์ไทย การสักยันต์ การเขียนยันต์ การตีดาบอรัญญิก การแสดงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย การสาธิตอาหารไทย และการออกค่ายมวยไทยที่มีมาตรฐาน และชมการแข่งขันชกมวย ศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก ณ วัดหลังคาขาว และพลาดไม่ได้พบกับขวัญใจนักมวยชาวไทย บัวขาว บัญชาเมฆ ในงานนี้แน่นอน


นายพิชัย เปี่ยมทองคำ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กิจกรรมระหว่างวันที่ ๑๒-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณอนุสาวรีย์นายขนมต้ม สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชมการแข่งขันชกมวยไทยระหว่างนักมวยไทย และนักมวยต่างชาติ การแข่งขันชิงเข็มขัดนายขนมต้ม


การแข่งขันชกมวยไทยสมัครเล่นของนักมวยนานาชาติ และกำหนดจัดพิธีบวงสรวง บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์นายขนมต้มในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗ วันที่ ๑๘-๒๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ช่วงเย็นชมมหรสพสมโภช ภาพยนตร์ ดนตรี และอื่น ๆ อีกมากมาย


- พิธีบวงสรวงนายขนมต้ม ณ อนุสาวรีย์นายขนมต้ม สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินงานโดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


- งานชกมวยไทยอาชีพ “ศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก” ณ วัดหลังคาขาว (ตรงข้ามวัดมหาธาตุ) ดำเนินงานโดยความร่วมมือระหว่าง ททท. และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย โดยในปีนี้จัดให้มีการชกมวยไทยคู่พิเศษคือ คู่บัวขาว บัญชาเมฆ และ Weichao Chen


- กิจกรรมสาธิตหัตถศิลป์ไทย ทั้งการสักยันต์ การเขียนยันต์ การตีดาบอรัญญิก การแสดงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย


- พิธีไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ ๑o โดยมีแนวคิดการนำเสนอจัดพิธีไหว้ครูมวยไทย พิธีครอบครูมวยไทย ให้ถูกต้องตามขั้นตอนประเพณีไหว้ครูมวยไทย การจัดพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ไทยและทหารกล้าของไทย ที่ร่วมปกป้องแผ่นดินไทยไว้ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าเสือ และพระยาพิชัยดาบหัก การรำไหว้ครูโดยนักกีฬามวยไทยที่เข้าร่วมพิธีทุกคน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th
tourismthailand.org














"เทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ”


ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)


จัดงาน "เทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ ๒๕๕๗"


ในวันที่ ๒๗-๓o มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo-๒o.oo น.


ณ Hall EH103-104 BITEC บางนา



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคศูยน์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ














"นิทรรศการภาพถ่ายของ Rene Burri”


โอกาสดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป

พบกับภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของ Rene Burri ศิลปินช่างภาพอาวุโสชาวสวิสเซอร์แลนด์

หนึ่งในสมาชิกอันทรงเกียรติของชมรมถ่ายภาพแม็กนัม

โรงแรมดาราเทวีเชียงใหม่ร่วมกับบริษัท โพรเจ็คโต้กรุ๊ป จำกัด ประเทศไทย

จัดงานนิทรรศการภาพถ่าย ผลงานบันลือโลกของ Rene Burri จำนวนกว่า ๑oo รูป

โดยจัดแสดงระหว่างวันที่ ๑ มีนาคม ถึง ๑๕ เมษายน ๒๕๕๗ ณ โรงแรมดาราเทวี จังหวัดเชียงใหม่

(เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น)















ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Khunchild














"เทศกาลภาพยนตร์เยอรมันสุดสัปดาห์”


สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทยร่วมกับโรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก จัดฉายภาพยนตร์เยอรมันหลากหลายแนว ให้ประชาชนที่สนใจเข้าชมภาพยนตร์เยอรมัน ณ โรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก


จากสองครั้งที่ผ่านมามีการจัดฉายภาพยนตร์ ๗ วัน ๗ เรื่อง ภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ในครั้งที่สามนี้ เทศกาลภาพยนตร์เยอรมัน เปลี่ยนสถานที่มาจัดที่เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก และเปลี่ยนการฉายภาพยนตร์มาฉายในวันสุดสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ถึง ๓o มีนาคม โดยมีพิธีเปิดเทศกาลในวันพุธที่ ๑๒ มีนาคม เวลา ๑๗.๓o น. ณ โรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก ชั้น ๑ โดยได้รับเกียรติจากคุณวิกเตอร์ จาก World Film Festival ที่จะมาร่วมแบ่งปัน เล่าประสบการณ์จาก เทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติ Berlinale 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมกับชมฉายภาพยนตร์เปิดเรื่อง Lessons of a Dream (Der ganz große Traum) ฉายเวลา ๑๙.oo น. เป็นเรื่องที่สร้างจากชีวิตจริงของ คอนราด นำแสดงโดย Daniel Brühl ในเรื่องสวมบทบาท ค๊อค (Koch) ครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ผันตัวเองกลายเป็นผู้บุกเบิกกีฬาฟุตบอลในประเทศเยอรมนีในช่วงศตวรรษที่ ๑๙ นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มเยอรมันที่เป็นที่รู้จักกันดี Deniel Brühl จากเรื่อง Goodbye Lenin






เทศกาลภาพยนตร์เยอรมันสุดสัปดาห์ จะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม จนถึงวันอาทิตย์ที่ ๓o มีนาคม โดยจัดฉายวันละ ๑ รอบ ซึ่งภาพยนตร์ทุกเรื่องจะจัดฉายในเวลา ๑๖.oo น. โดยภาพยนตร์ทั้ง ๗ เรื่องนี้ได้ถูกคัดสรรให้มีเนื้อหา และสไตล์ที่แตกต่าง เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้ชม มีทั้งภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ระหว่างเยอรมันตะวันออกและตะวันตกในเรื่อง Westwind และ เรื่อง Barbara จากผู้กำกับชื่อดัง คริสเตียน เพ็ทซอลด์ ซึ่งคว้ารางวัลมากมาย และพิเศษสุดในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ มีนาคม ห้ามพลาดกับ collection ภาพยนตร์เรื่องสั้น Short und Sweet in Hollywood ทั้งหมด ๙ เรื่อง ปิดท้ายเทศกาลด้วยภาพยนตร์เด็ก (ขาว-ดำ) เรื่อง ลอทตี้กับหลุยเซอ (Two Times Lotte) จากนักเขียนวรรณกรรมเด็กชื่อดัง Erick Kästner.






All films except the opening film will be shown at 4 PM in German with English subtitles.

Thursday, March 12, 7 PM:
Lessons of a Dream
(Der ganz große Traum)

Saturday, March 15, 4 PM:
Westwind

Sunday, March 16, 4 PM:
Short and Sweet in Hollywood
(Kurz und Gut in Hollywood)

Saturday, March 22, 4 PM:
Sunday, March 23, 4 PM:
Barbara
Cracks in the Shell
(Die Unsichtbare)

Saturday, March 29, 4 PM:
Hotel Lux
Sunday, March 30, 4 PM:
Two Times Lotte
(Das doppelte Lottchen)


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทศกาล หรือขั้นตอนการจองตั๋วสามารถสอบถามได้ที่ : น.ส.กุลยา ศรีวัฒนาโรทัย ผู้ประสานงานด้านประชาสัมพันธ์

โทรศัพท์ : o๒-๒๘๗-o๙๔๒-๔ ต่อ ๘o หรือ ๘๒

อีเมล์ : pr@bangkok.goehte.org

เวปไซต์ : //www.goethe.de/ins/th/ban/th12360684v.htm

ภาพยนตร์ทุกเรื่องฉายเป็นภาษาเยอรมัน พร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ ฉายเวลา ๑๖.oo น. ชมฟรีทุกเรื่อง

***ภาพยนตร์เปิดเทศกาล สามารถจองล่วงหน้า หรือ walk-in รับตั๋วได้ที่หน้างานชั้น 1 เอสพลานาด รัชดาภิเษก



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














"ภาพถ่ายไม่เคยโกหก (มาก)”


วันที่ : วันนี้ - ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๗
สถานที่: People's Gallery P1-P3 ชั้น ๒
นิทรรศการภาพถ่ายโดย ฉัต ไชยคุตร, อำพรรณี สะเตาะ, ณัฐณิชา แก้วชื่น, ทวีวิทย์ กิจธนสุนทร
คัดสรรโดย ดร. เตยงาม คุปตะบุตร


นิทรรศการ ‘ภาพถ่ายไม่เคยโกหก (มาก)’ (๒๕๕๗) มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ ‘ความเป็นจริง’ และ ‘ความจริง’ ในบริบทของสังคมในเวลาปัจจุบัน โดยสำรวจผ่านผลงานศิลปะภาพถ่าย ศิลปินทั้งสี่คนตั้งใจเล่า ‘ความจริง’ ที่พวกเขาพบเห็นผ่านศิลปะภาพถ่ายของเขาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ภาพถ่ายของพวกแสดง ‘ความเป็นจริง’ ที่กำลังเล่า ‘ความจริง’ ชุดเดียวกันกับที่เรารู้อยู่ก่อนหรือไม่?



ภาพและข้อมูลจากเวบ
trueplookpanya.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 13 มีนาคม 2557
Last Update : 29 เมษายน 2557 22:09:46 น. 0 comments
Counter : 3712 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.