แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณสอดส่องสีชมพูจางๆและสีทองผ่านหมอกสีเทาลงมาบนท้องทะเลที่สงบปราศจากคลื่นลม เสียงครืดๆของตะไบที่ดังอยู่แถวกรรเชียงเรือใต้ท้องเรือข้างล่างได้ยินดังขึ้นมาถึงบนดาดฟ้า กอนฟฟ์กำลังถอดโซ่ตรวนปล่อยพวกทาสให้เป็นอิสระ
มาร์ตินกับดินนี่ช่วยพยุงพวกทาสผู้น่าสมเพชให้ขึ้นมาบนดาดฟ้า ทาสเหล่านี้แทบไม่เคยได้พบเห็นเดือนเห็นตะวันเลย พวกมันมีคละกันทั้งสัตว์รูหน้าตาโทรมๆ หนูที่ผอมโซ เม่นที่เปียกปอน และกระรอกที่ตาลึกโบ๋และผอมจนเหลือแต่กระดูก
มีด้วยหรือสัตว์ที่กระทำต่อสัตว์ด้วยกันอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้? มาร์ตินนึกในใจ เขารู้สึกเดือดดาลจนร้อนผ่าวไปทั้งตัวเมื่อเข้าไปช่วยดูแลพวกมัน
ดินนี่เอาอาหารจากตู้ครัวในเรือที่มีอุดมสมบูรณ์ออกมาแจก
พาพวกมันลงมานี่ เราต้องให้อาหารมันกินเยอะๆให้มีเนื้อมีหนังขึ้นบ้าง
มาร์ตินเข้าประคองหนูตัวหนึ่งซึ่งทำท่าเหมือนกำลังจะล้มลง
ขอบใจมากนะ มาร์ตินบุตรชายของลุค เขาพูดพร้อมกับผงกหัวขอบใจเจ้านักรบหนู
มาร์ตินเข่าอ่อน เขานั่งแผละลงไปบนพื้นดาดฟ้าเรือบลัดเวคพร้อมกับลากเอาหนูตัวนั้นให้ลงนั่งไปด้วย ทั้งสองนั่งจ้องหน้ากัน มาร์ตินพูดออกมาได้เพียงคำว่า
ทิมบัลลิสโตใช่ไหม?
น้ำตาของหนูตัวนั้นไหลรินลงมาตามหนวด มาร์ติน เพื่อนยาก
สัตว์รูตัวหนึ่งซึ่งกำลังกินขนมปังกรอบอยู่เดินเข้ามานั่งร่วมวง มาร์ติน นักรบหนู ใช่ไหม? ทิมบัลลิสโตพูดถึงเจ้าตลอดเวลา
ทิมบัลลิสโตยกมือขึ้นโอบไหล่มาร์ติน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าติดกับอยู่ในเรือรังหนูนี่?
มาร์ตินกอดทิมบัลลิสโต ข้าไม่รู้หรอก เจ้าหมาสงครามเฒ่า ข้านึกว่าเจ้าไปสู่ประตูแห่งป่าดำเสียนานแล้ว ตอนที่ต่อสู้ขับไล่ศัตรูของเราออกไปจากถ้ำในดินแดนตอนเหนือน่ะ
ระหว่างที่ทั้งสองนั่งพูดคุยกัน ล็อค-อา-ล็อคเดินออกมาจากห้องเคบินท้ายเรือของริปแฟงก์ เขากำลังพยายามศึกษาแผนที่เดินเรือซึ่งเขียนเอาไว้บนผ้าใบเรือ ทันใดนั้นมีเสียงร้องตะโกนดังมาจากสัตว์รูตัวหนึ่งที่เพิ่งถูกปล่อยเป็นอิสระ
ล็อค-อา-ล้อค! หัวหน้า นี่พวกเราเอง แก๊งเก่าของท่านจากหมู่บ้านไง!
ล็อค-อา-ล็อคซึ่งกำลังหมกมุ่นอยู่กับอะไรบางอย่างที่ค้นพบในแผนที่เพียงแต่โบกมือให้พวกสัตว์รูเหล่านั้น ฮ่า สวัสดีทุกคน กินให้เยอะๆแล้วทำตัวให้แข็งแรงเหมือนเดิม เจ้านายของพวกเจ้ากลับมาแล้ว ข้าเคยสัญญาไว้แล้วไม่ใช่หรือว่าจะมาช่วยพวกเจ้า
กอนฟฟ์ซึ่งอยู่ที่ท้องเรือข้างล่างพาตัวขึ้นมาบนดาดฟ้า ว๊าว เพื่อนเอ๋ย ข้างล่างนั่นน่าขัดให้สะอาดจัง เฮ้ ล็อค เจอรองเท้าบู๊ตบ้างไหม?
ล็อค-อา-ล็อคกางแผนที่ลงบนโต๊ะ ดูนี่สิ เส้นทางกลับบ้านอยู่ในแผนที่นี้ทั้งหมดเลย
มาร์ตินไม่ค่อยเข้าใจเส้นสายต่างๆในแผนที่นัก ชี้ให้ดูหน่อยสิ
นี่ไง ง่ายจะตาย เห็นนี่ไหม? ซาลามานดาสตรอนไง ล็อค-อา-ล็อคอธิบาย ให้ด้านที่ดวงอาทิตย์ตกอยู่ทางซ้ายของเรือแล้วแล่นไปตามชายฝั่ง จนเห็นแม่น้ำที่กำลังไหลลงทะเลทางด้านขวาของเรือ แม่น้ำมอสไงล่ะ มันไหลจากตะวันออกไปตะวันตก
ดินนี่เคาะอุ้งมือบนผ้าใบแผนที่ เฮอร์ ข้าคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับไปยืนในอุโมงค์ของข้าเสียแล้วสิ แม่น้ำมอสเป็นแม่น้ำของเราที่ไหลผ่านป่ามอสฟลาวเวอร์ ดูนี่สิ มีเครื่องหมายแผ่นดินด้วย เจ้าหนูทะเลตัวนั้นรู้ทุกอย่างเลยเนอะ
ล็อค-อา-ล็อค ตรึงแผนที่ให้ติดกับโต๊ะต้านสายลมที่พัดกรูเกรียวเข้ามา
ใช่ มันรู้ทุกอย่างแหละถึงได้ไปจับพวกของข้ามาเป็นเชลยได้ไง มีเครื่องหมายหมู่บ้านของเราในแผนที่ด้วยอยู่ติดกับมอสฟลาวเวอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ แบ็งส์เนาท์ เอาเสากระโดงขึ้นแล้วคอยจับตาดูแม่น้ำที่ไหลมาตามชายฝั่งแล้วลงทะเล กอนฟฟ์ ถือหางเสือไว้แล้วหันออกทะเลไปตรงจุดที่จะพาเราเข้าไปใกล้ฝั่ง พวกสัตว์รู ช่วยกันกางใบเรือทุกใบจะได้รับกระแสลมที่พัดมานี่
ภายใต้แสงอาทิตย์ในฤดูร้อน เรือบลัดเวควิ่งฉิวตัดฟองคลื่นสีขาวไปราวกับนกทะเล ทิมบัลลิสโตยืนพิงราวดาดฟ้าอยู่ใกล้ๆมาร์ติน
ข้าอยากมีโอกาสได้พบนักรบโบอาร์จัง ทิมบัลลิสโตถอนใจ จากที่เจ้าเล่ามาเขาเหมือนนักรบผู้ยิ่งใหญ่ แย่จังนะที่เขาจะไม่กลับมาช่วยพิทักษ์มอสฟลาวเวอร์
มาร์ตินชักดาบออกจากฝักชี้ไปยังแผ่นดินทางด้านตะวันออก เป็นหน้าที่ของข้าที่จะช่วยปกปักรักษามอสฟลาวเวอร์ ข้าสาบานกับนักรบโบอาร์ไว้แล้วและข้าต้องรักษาสัญญา
ทิมบัลลิสโตจ้องมองมาร์ตินที่กุมดาบสวยงามเล่มนั้นไว้มั่น เจ้าต้องทำได้ มาร์ติน เจ้าทำได้แน่!
เม่นตัวหนึ่งโผล่หัวออกมาจากประตูห้องเคบินด้านหน้าเรือ โอ้โฮ ในนี้มีอาวุธเยอะแยะเลย ทั้งดาบ หอก มีด มีอาวุธทุกอย่างที่กองทัพควรจะมีเลย
แล้วก็ทำให้เรือหนักขึ้นด้วย ดินนี่หัวเราะคิก กอนฟฟ์ บอกข้าหน่อยสิ เรือเล็กๆมักจะทำให้ข้าไม่สบาย เฮอรร์ แต่ลำนี้ใหญ่โตสวยงามมาก ข้าจะเรียกชื่อมันใหม่ว่าเรือไม้ คงจะเพราะดีเนอะ
กอนฟฟ์คอยระวังให้หัวเรือตอบสนองกับหางเสือ ชื่อเรือไม้ก็เพราะดีเหมือนกันนะ ดิน แต่ข้าอยากเรียกมันว่าโคลัมไบน์มากกว่า
ทรับบ์และสหายของเขาส่งเสียงประสานรับช่วงทันที
ข้าว่าชื่อนั้นมันแข็งไปหน่อยนะ เจ้ากลาสีกอนฟฟ์
ก้นของโคลัมไบน์เป็นไม้หรือเปล่า?
แล้วหูสองข้างของเธอยื่นออกมาเหมือนใบเรือหรือเปล่า?
ทั้งสามกระโดดหลบน้ำทะเลในถังที่กอนฟฟ์สาดโครมมาแทบไม่ทัน
แบ็งสเนาท์ซึ่งปีนขึ้นไปอยู่บนสายระโยงเรือเส้นที่สูงที่สุดตะโกนลงมาด้วยเสียงต่ำๆของสัตว์รูว่า อะฮอย! เห็นแม่น้ำทางเหนือของแผ่นดินแล้ว!
มาร์ตินไต่ลงไปบนไม้ยาวที่หัวเรือขึ้นไปยืนบนรูปสลักหัวปลาแล้วจ้องมองออกไปอย่างตื่นเต้น แน่นอนมีแม่น้ำไหลเลียบริมฝั่งเห็นแต่ไกล มาร์ตินหันหน้ามาทางพวกลูกเรือที่มองมาที่เขาอย่างสนใจใคร่รู้
เชิดหัวเรือขึ้นแล้วเข้าไปที่ฝั่ง กอนฟฟ์ เราถึงบ้านแล้ว!
สัตว์รู หนู เม่น กระรอก กระต่ายป่าและตุ่นหนึ่งตัวแผดเสียงประสานก้องไปทั่วท้องทะเลว่า
มอสฟลาวเวอรรรรรรรรรรรรรรร!!!
แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณสอดส่องสีชมพูจางๆและสีทองผ่านหมอกสีเทาลงมาบนท้องทะเลที่สงบปราศจากคลื่นลม เสียงครืดๆของตะไบที่ดังอยู่แถวกรรเชียงเรือใต้ท้องเรือข้างล่างได้ยินดังขึ้นมาถึงบนดาดฟ้า
กอนฟฟ์กำลังถอดโซ่ตรวนปล่อยพวกทาสให้เป็นอิสระ มาร์ตินกับดินนี่ช่วยพยุงพวกทาสผู้น่าสมเพชให้ขึ้นมาบนดาดฟ้า ทาสเหล่านี้แทบไม่เคยได้พบเห็นเดือนเห็นตะวันเลย พวกมันมีคละกันทั้งสัตว์รูหน้าตาโทรมๆ หนูที่ผอมโซ เม่นที่เปียกปอน และกระรอกที่ตาลึกโบ๋และผอมจนเหลือแต่กระดูก
มีด้วยหรือสัตว์ที่กระทำต่อสัตว์ด้วยกันอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้? มาร์ตินนึกในใจ เขารู้สึกเดือดดาลจนร้อนผ่าวไปทั้งตัวเมื่อเข้าไปช่วยดูแลพวกมัน
ดินนี่เอาอาหารจากตู้ครัวในเรือที่มีอุดมสมบูรณ์ออกมาแจก พาพวกมันลงมานี่ เราต้องให้อาหารมันกินเยอะๆให้มีเนื้อมีหนังขึ้นบ้าง
มาร์ตินเข้าประคองหนูตัวหนึ่งซึ่งทำท่าเหมือนกำลังจะล้มลง
ขอบใจมากนะ มาร์ตินบุตรชายของลุค เขาพูดพร้อมกับผงกหัวขอบใจเจ้านักรบหนู
มาร์ตินเข่าอ่อน เขานั่งแผละลงไปบนพื้นดาดฟ้าเรือบลัดเวคพร้อมกับลากเอาหนูตัวนั้นให้ลงนั่งไปด้วย ทั้งสองนั่งจ้องหน้ากัน
มาร์ตินพูดออกมาได้เพียงคำเดียวว่า ทิมบัลลิสโตใช่ไหม?
น้ำตาของหนูตัวนั้นไหลรินลงมาตามหนวด มาร์ติน เพื่อนยาก
สัตว์รูตัวหนึ่งซึ่งกำลังกินขนมปังกรอบอยู่เดินเข้ามานั่งร่วมวง มาร์ติน นักรบหนู ใช่ไหม? ทิมบัลลิสโต พูดถึงเจ้าตลอดเวลา
ทิมบัลลิสโตยกมือขึ้นโอบไหล่มาร์ติน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าติดกับอยู่ในเรือรังหนูนี่?
มาร์ตินกอดทิมบัลลิสโต ข้าไม่รู้หรอก เจ้าหมาสงครามแก่ ข้าคิดว่าเจ้าไปสู่ประตูแห่งป่าดำเสียนานแล้วตอนที่ต่อสู้ขับไล่ศัตรูของเราออกไปจากถ้ำในดินแดนตอนเหนือน่ะ
ระหว่างที่ทั้งสองนั่งพูดคุยกัน ล็อค-อา-ล็อคเดินออกมาจากห้องเคบินท้ายเรือของริปแฟงก์ เขากำลังพยายามศึกษาแผนที่เดินเรือซึ่งเขียนเอาไว้บนผ้าใบเรือ ทันใดนั้นมีเสียงร้องตะโกนดังมาจากสัตว์รูตัวหนึ่งที่เพิ่งถูกปล่อยเป็นอิสระ
ล็อค-อา-ล้อค! หัวหน้า นี่พวกเราเอง แก๊งเก่าของท่านจากหมู่บ้านไง!
ล็อค-อา-ล็อคซึ่งกำลังหมกมุ่นอยู่กับอะไรบางอย่างที่ค้นพบในแผนที่เพียงแต่โบกมือให้พวกสัตว์รูเหล่านั้น ฮ่า สวัสดีทุกคน กินให้เยอะๆแล้วทำตัวให้แข็งแรงเหมือนเดิม เจ้านายของพวกเจ้ากลับมาแล้ว ข้าเคยสัญญาไว้แล้วไม่ใช่หรือว่าจะมาช่วยพวกเจ้า
กอนฟฟ์ซึ่งอยู่ที่ท้องเรือข้างล่างพาตัวขึ้นมาบนดาดฟ้า ว๊าว เพื่อนเอ๋ย ข้างล่างนั่นน่าขัดให้สะอาดจัง เฮ้ ล็อค เจอรองเท้าบู๊ตบ้างไหม?
ล็อค-อา-ล็อคกางแผนที่ลงบนโต๊ะ ดูนี่สิ เส้นทางกลับบ้านอยู่ในแผนที่นี้ทั้งหมดเลย
มาร์ตินไม่ค่อยเข้าใจเส้นสายต่างๆในแผนที่นัก ชี้ให้ดูหน่อยสิ
นี่ไง ง่ายจะตาย เห็นนี่ไหม? ซาลามานดาสตรอนไง ล็อค-อา-ล็อคอธิบาย ให้ด้านที่ดวงอาทิตย์ตกอยู่ทางซ้ายของเรือแล้วแล่นไปตามชายฝั่งจนเห็นแม่น้ำที่กำลังไหลลงทะเลทางด้านขวาของเรือ แม่น้ำมอสไงล่ะ มันไหลจากตะวันออกไปตะวันตก
ดินนี่เคาะอุ้งมือบนผ้าใบแผนที่ เฮอร์ ข้าคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับไปยืนในอุโมงค์ของข้าเสียแล้วสิ แม่น้ำมอสเป็นแม่น้ำของเราที่ไหลผ่านป่ามอสฟลาวเวอร์ ดูนี่สิ มีเครื่องหมายแผ่นดินด้วย เจ้าหนูทะเลตัวนั้นรู้ทุกอย่างเลยเนอะ
ล็อค-อา-ล็อค ตรึงแผนที่ให้ติดกับโต๊ะต้านสายลมที่พัดกรูเกรียวเข้ามา
ใช่ มันรู้ทุกอย่างแหละ ถึงได้ไปจับพวกของข้ามาเป็นเชลยได้ไง มีเครื่องหมายหมู่บ้านของเราในแผนที่ด้วยอยู่ติดกับมอสฟลาวเวอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ แบ็งส์เนาท์ เอาเสากระโดงขึ้นแล้วคอยจับตาดูแม่น้ำที่ไหลมาตามชายฝั่งแล้วลงทะเล กอนฟฟ์ ถือหางเสือไว้แล้วหันออกทะเลไปตรงจุดที่จะพาเราเข้าไปใกล้ฝั่ง เจ้าพวกสัตว์รู ช่วยกันกางใบเรือทุกใบจะได้รับกระแสลมที่พัดมานี่
ภายใต้แสงอาทิตย์ในฤดูร้อน เรือบลัดเวควิ่งฉิวตัดฟองคลื่นสีขาวไปราวกับนกทะเล ทิมบัลลิสโตยืนพิงราวดาดฟ้าอยู่ใกล้ๆมาร์ติน
ข้าอยากมีโอกาสได้พบนักรบโบอาร์จัง ทิมบัลลิสโตถอนใจ จากที่เจ้าเล่ามาเขาเหมือนนักรบผู้ยิ่งใหญ่ แย่จังนะที่เขาจะไม่กลับมาช่วยพิทักษ์มอสฟลาวเวอร์
มาร์ตินชักดาบออกจากฝักชี้ไปยังแผ่นดินทางด้านตะวันออก เป็นหน้าที่ของข้าที่จะช่วยปกปักรักษามอสฟลาวเวอร์ ข้าสาบานกับนักรบโบอาร์ไว้แล้วและข้าต้องรักษาสัญญา
ทิมบัลลิสโตจ้องมองมาร์ตินที่กุมดาบสวยงามเล่มนั้นไว้มั่น เจ้าต้องทำได้ มาร์ติน เจ้าทำได้แน่!
เม่นตัวหนึ่งโผล่หัวออกมาจากประตูห้องเคบินด้านหน้าเรือ โอ้โฮ ในนี้มีอาวุธเยอะแยะเลย ทั้งดาบ หอก มีด มีอาวุธทุกอย่างที่กองทัพควรจะมีเลย
แล้วก็ทำให้เรือหนักขึ้นด้วย ดินนี่หัวเราะคิก กอนฟฟ์ บอกข้าหน่อยสิ เรือเล็กๆมักจะทำให้ข้าไม่สบาย เฮอรร์ แต่ลำนี้ใหญ่โตสวยงามมาก ข้าจะเรียกชื่อมันใหม่ว่าเรือไม้ คงจะเพราะดีเนอะ
กอนฟฟ์คอยระวังให้หัวเรือตอบสนองกับหางเสือ ชื่อเรือไม้ก็เพราะดีเหมือนกันนะ ดิน แต่ข้าอยากเรียกมันว่าโคลัมไบน์มากกว่า
ทรับบ์และสหายของเขาส่งเสียงประสานรับช่วงทันที
ข้าว่าชื่อนั้นมันแข็งไปหน่อยนะ เจ้ากลาสีกอนฟฟ์
ก้นของโคลัมไบน์เป็นไม้หรือเปล่า?
แล้วหูสองข้างของเธอยื่นออกมาเหมือนใบเรือหรือเปล่า?
ทั้งสามกระโดดหลบน้ำทะเลในถังที่กอนฟฟ์สาดโครมมาแทบไม่ทัน
แบ็งสเนาท์ซึ่งปีนขึ้นไปอยู่บนสายระโยงเรือเส้นที่สูงที่สุดตะโกนลงมาด้วยเสียงต่ำๆของสัตว์รูว่า อะฮอย! เห็นแม่น้ำทางเหนือของแผ่นดินแล้ว!
มาร์ตินไต่ลงไปบนไม้ยาวที่หัวเรือขึ้นไปยืนบนรูปสลักหัวปลาแล้วจ้องมองออกไปอย่างตื่นเต้น แน่นอนมีแม่น้ำไหลเลียบริมฝั่งเห็นแต่ไกล มาร์ตินหันหน้ามาทางพวกลูกเรือที่มองมาที่เขาอย่างสนใจใคร่รู้
เชิดหัวเรือขึ้นแล้วเข้าไปที่ฝั่ง กอนฟฟ์ เราถึงบ้านแล้ว!
สัตว์รู หนู เม่น กระรอก กระต่ายป่าและตุ่นหนึ่งตัวแผดเสียงประสานก้องไปทั่วท้องทะเลว่า
มอสฟลาวเวอรรรรรรรรรรรรรรร!!!
แวะมาส่งกำำลังใจให้คุณตุ้ยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog