สัตว์เล็กในป่าใหญ่ - บทที่ 10




ดินนี่คิดว่าตัวเองโชคดีเมื่อพบร่างแหถักที่ครอบพาพวกเขาลงไปในบ่อ เขาผูกชายข้างหนึ่งของมันไว้กับรากต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วลากส่วนที่เหลือไปตรงขอบบ่อ

“พวกเจ้าข้างล่างน่ะ จับชายร่างแหนี่ไว้ให้แน่น”

แต่โชคร้ายที่แหนั้นตกลงไปไม่ถึงตรงที่สามสหายรออยู่ กอนฟฟ์กระโดดขึ้นกระโดดลงพยายามคว้าร่างแหแต่ไม่ถึง

“บรือว์ เร็วเข้า ข้ารู้สึกว่าพวกกบกำลังมาทางนี้แล้ว” ดินนี่ร้องบอก
สเนคฟิชชูหัวมหึมาของมันขึ้นมา “ขึ้นไปนั่งบนหัวข้าสิ ข้าคิดว่าหัวข้าคงถึงร่างแหนั่น!”
“อะไรนะ? ไม่เอาหรอก!” ล็อค-อา-ลอคร้องแล้วถอยกลับเข้าไปในถ้ำ
“เร็วเข้า! พวกมันมาเกือบถึงแล้ว!” ดินนี่ร้องบอก

มาร์ตินซึ่งนั่งอยู่ริมขอบบ่อวางมือลงบนหัวของปลาไหลยักษ์ แล้วสอดตัวลงตรงสันกระโหลกที่อยู่ใต้ผิวหนังเรียบรื่นของมัน

“ยกข้าขึ้นหน่อย สเนคฟิช!”

ปลาไหลยักษ์เสือกหัวขึ้น ถอยหลังออกไปพ้นระดับน้ำเล็กน้อย แล้วกระแทกตัวด้วยพลังอันมหาศาลพุ่งขึ้นข้างบนราวกับเครื่องร่อน มาร์ตินคว้าร่างแหไว้ได้และในขณะเดียวกันก็พยายามทรงตัว ไม่ให้หลุดออกจากหัวของสเนคฟิช

“กัดเร็ว!”

ฟันของปลาไหลยักษ์งับลงบนส่วนปลายของร่างแหแล้วเริ่มพองลำตัวออกให้สัมผัสกับร่างแหพร้อมๆกับเสือกตัวเข้าไปในตาข่าย

มาร์ตินดึงร่างแหขึ้นขณะที่สเนคฟิชยึดร่างแหไว้มั่นพร้อมกับตะโกนว่า “กล้วยๆ เจ้าสองตัวข้างล่างนั่นน่ะออกมาให้ข้าเห็นตัวหน่อย ข้าจะขดหางเป็นวงกลมรอบๆตัวเจ้าแล้วดึงขึ้นมา”

ล็อค-อา-ล็อคและกอนฟฟ์ยืนกอดกันแน่นหลับตาปี๋ ขณะที่รู้สึกว่ามีวงกลมๆเป็นมันปลาบแข็งเหมือนขดเหล็กมารัดตัวไว้แล้วดึงขึ้นอย่างง่ายดาย

มาร์ชกรีนและเหล่าสมุนกบของเขาโผล่ออกมาจากกลุ่มหมอกที่ขาวราวกับปุยฝ้าย กบสามตัวเดินเตาะแตะออกมาข้างหน้าพยายามจะคว้าตัวดินนี่ไว้ ขณะที่เจ้าตัวตุ่นยกอุ้งมือหนาหนักของมันชูขึ้นขู่

“เกอรรร์ อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าฟาดพวกเจ้าด้วยไอ้นี่แหละ” ดินนี่ร้องเตือน

เดธคอยล์และวิปส์เกลสังเกตเห็นร่างแหที่ผูกแน่นอยู่ตรงขอบบ่อสครีมโฮลด์ แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อมาร์ตินกระโดดพรวดออกมาจากริมบ่อพร้อมกับยิงลูกหินจากหนังสะติ๊กอย่างรวดเร็วและแม่นยำไปโดนหัวของมาร์ชกรีนอย่างจังจนมันหงายหลังล้มลง

เสียงกรีดร้องกันอย่างระเบ็งเซ็งแซ่เป็นสิ่งแรกที่ผู้ขึ้นมาใหม่จากบ่อคนต่อไปได้ยิน หัวมหึมาของสเนคฟิชโผล่ขึ้นมา มีน้ำหยดติ๋งๆราวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์จากห้วงอเวจี ตาเรียวยาวและฟันขาวเป็นแถวยาว หันมาเผชิญกับฝูงกบที่ตระหนกสุดขีด

“เนื้อกบ!” ด้วยจังหวะการเคลื่อนไหวที่ว่องไวราวกับงู ฆาตกรจากหนองน้ำดึงตัวหลุดออกจากปากบ่อ แล้วสลัดผู้โดยสารทั้งสองให้หลุดจากตัวมันอย่างรวดเร็ว

กอนฟฟ์และล็อค-อา-ล็อคกระโดดขึ้นยืน ถึงแม้ซี่โครงจะมีรอยฟกช้ำอยู่บ้างเล็กน้อย

ความเอะอะโกลาหลอลหม่านเกิดขึ้นทันทีที่สเนคฟิชกระโดดเข้าใส่พวกกบที่อยู่ใกล้ๆราวกับสายฟ้าฟาด แม้พวกกบเหล่านั้นจะมีทั้งสามง่ามและตะเกียงหิ่งห้อยอยู่ในมือ เจ้าสเนคฟิชก็ไม่ยั่น มันตั้งหน้าตั้งตาเขมือบกบราวกับตายอดตายอยากมานาน มาร์ตินเบือนหน้าหนีจากภาพน่าสยดสยองนั้น

“เจ้าเป็นยังไงบ้างล่ะ ดิน?” เขาร้องถามอย่างห่วงใย “เร็วเข้า กอนฟฟ์ ดินนี่ ล็อค-อา-ล็อค เราไปจากที่นี่กันเถอะ”
กอนฟฟ์จ้องฝ่าหมอกเข้าไปอย่างตื่นๆ “ตกลง เพื่อน แต่เราจะไปทางไหนกันล่ะ?”
“ฮู ฮา ไอ้เจ้านี่จะช่วยนำทางให้เรา” ตุ่นหนุ่มน้อยล็อคคอเจ้ากบมาร์ชกรีนไว้
มาร์ตินคว้าสามง่ามอันหนึ่งมาแล้วจิ้มเข้าไปที่หัวหน้าฝูงกบ “ดีมาก ดิน เจ้ากบนั่นน่ะมานี่ นำทางพาพวกเราไปทางตะวันตก ไม่งั้นข้าจะเอาสามง่ามนี้เสียบเจ้าแล้วโยนให้สเนคฟิชกิน”
มาร์ชกรีนเดินเตาะแตะไปพลางอ้อนวอนอย่างน่าเวทนาว่า “กรรกลอค! อย่าฆ่ามาร์ชกรีนเลยนะ เจ้าหนูมีขน มาร์ชกรีนจะนำทางให้”

เพียงครู่หนึ่งต่อมาพวกเขาก็ถูกหุ้มห่อราวกับผ้าห่มด้วยหมอกหนาทึบที่ปิดกั้นพวกเขาจากทุกสิ่ง แม้แต่เสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกเหยื่อของสเนคฟิช

ล๊อค-อา-ล็อคจ้องมองเจ้ากบตัวเขียวที่เดินเตาะแตะอยู่ข้างหน้า “อย่างน้อยมันก็รู้ว่าจะพาเราไปทางไหน โคลงบทต่อไปของเจ้าว่าอย่างไรนะ กอนฟฟ์?”

กอนฟฟ์ร่ายบทโคลงของโอลาฟ สกายเฟอร์โรว์ออกมาโดยไม่ต้องหยุดคิด

โอ สหายผู้มีขนที่อยู่ในท้องฟ้า
บินตรงไปเรื่อยๆอย่าให้ตกลงมา
บินต่อไปจนข้ามที่ราบเปียกชื้นสีทอง
ที่ซึ่งนกทะเลบินไปร้องไป

มาร์ตินใช้ด้ามสามง่ามกระทุ้งมาร์ชกรีนเบาๆ “เจ้ารู้จักที่แห่งนั้นหรือเปล่า?”
หัวหน้ากบผู้ตกเป็นเชลยหันมามองแล้วกระะพริบตาปริบๆ “กรรปล็อก! ไม่ไกล ไม่ไกล มีหาด มีนกทะเลกินเจ้า กินข้าด้วย”
มาร์ตินใช้สามง่ามเป็นที่พิงตัว “โอย เลิกร้องคร่ำครวญเสียที เจ้าตูดเขียว ข้าจะปล่อยเจ้ากลับไปเมื่อเราพ้นจากหมอกนี่ออกไปได้แล้ว ซึ่งความจริงเราก็ไม่น่าจะปล่อยเจ้าไปหรอก”

ในที่สุดทั้งหมดก็มาถึงลำธารที่มีน้ำใสไหลริน พวกเขาวักน้ำในลำธารขึ้นดื่มขณะที่ดินนี่ขุดหารากไม้มาเป็นอาหาร

“เกอรร์ รากไม้พวกนี้ไม่เหมือนพายดีปเปอร์แอนดเอเวอร์เลยเนอะ”
กอนฟฟ์ขึ้นไปนั่งจับเจ่าอยู่บนก้อนหิน “อย่ากังวลไปเลย ดิน ถ้าเรากลับไปบ้านได้อย่างปลอดภัย ข้าสัญญาว่าจะขโมยพายก้อนที่ใหญ่ที่สุดในมอสฟลาวเวอร์มาให้เจ้า”
ดินนี่หลับตาลงอย่างฝันๆ “ก้อนใหญ่และเป็นของข้าทั้งก้อนเลย”

กอนฟฟ์ร้องเพลง

พายก้อนใหญ่มาก
ข้าจะคอยเฝ้าดูเจ้านะ เพื่อน
แล้วเจ้าก็ดำดิ่งลงไป
แต่อย่าร้องเพลงตอนที่ปากเต็มไปด้วยพายนะ
พายก้อนนี้สำหรับดินเท่านั้น
แป้งเบาและนุ่มราวกับดอกผักโขม
และเต็มไปด้วยสิ่งที่เจ้าอยากได้
ผักสดๆ ผลไม้เลิศรส ราดจนชุ่มด้วยครีม

ดินนี่นอนหงายลงบนพื้นโบกมือป้อมๆของมันไปมา “โอย สนุกจังเลย โอย มีความสุขจังเลย เขาบอกว่าเป็นของข้าทั้งหมดเลยด้วย”

เส้นทางที่เดินไปทั้งไกลและน่าเบื่อหน่าย เวลาในสายหมอกหนาทึบผ่านไปอย่างเชื่องช้า มาร์ตินภาวนาให้เห็นแสงสว่างของตอนกลางวันตามปกติเสียที กลางวันที่สว่างไสวด้วยแสงอาทิตย์ มีเมฆ หรือฝนบ้างก็ได้

พวกเขากำลังวิพากษ์วิจารณ์กันถึงพื้นดินยืดยาวที่เปียกแฉะกันอยู่เมื่อล็อค-อา-ล็อคตั้งคำถามกับกอนฟฟ์ว่า “เจ้ารู้สึกไหมว่าบริเวณนี้มืดมากกว่าที่ผ่านมาเล็กน้อย?”
กอนฟฟ์กระโดดขึ้นไปบนปอยต้นอ้อแห้ง “อาจจะเป็นเพราะใกล้ค่ำแล้วก็ได้นะ เพื่อน”
มาร์ตินชี้มือไปข้างหน้า “ดูโน่นสิ ข้ามองเห็นท้องฟ้าแล้ว”

ถูกแล้ว หมอกเริ่มจางลง ท้องฟ้ายามเย็นสีจางปรากฏให้เห็นแต่ไกลจากที่ที่พวกเขายืนอยู่

กอนฟฟ์สำรวจเพิ่มเติม “ดูหญ้าตรงโน้นสิ มีทรายด้วย รู้สึกจะมีทรายไปจนสุดลูกหูลูกตาเลยนะ”

ทั้งหมดกระโดดตามกอนฟฟ์ขึ้นไปบนต้นอ้ออย่างรีบร้อนเพื่อสำรวจสิ่งที่กอนฟฟ์บอก เจ้ามาร์ชกรีนซึ่งอยู่ข้างหลังเพียงลำพังคว้าสามง่ามมาถือไว้แล้วเดินเตาะแตะกลับไปสู่หนองน้ำและหมอกหนาทึบโดยไม่บอกกล่าว

คณะผู้ค้นหาจ้องมองอย่างพิศวงออกไปที่ทัศนียภาพเบื้องหน้า บนเส้นขอบฟ้า ดวงอาทิตย์กำลังจมหายลงไปพร้อมลำแสงสุดท้ายสีเทางาช้างและสีส้ม มาร์ตินชูมือขึ้นชี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ

“ดูโน่นสิ เปลวไฟแห่งซาลามานดาสตรอน!!!”



เย็นวันเดียวกันนั้นสมาชิกสภาคอริมมารวมตัวกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ของบร็อคฮอลล์ เพราะมีเรื่องต้องปรึกษาหารือกันหลายเรื่อง กู๊ดดี้ สติคเกิลวุ่นวายอยู่กับการจัดโต๊ะอาหาร โดยมีค็อกส์เกาะชายผ้ากันเปื้อนของนางไว้แน่น เจ้าลูกเม่นไม่มีอะไรจะบ่น นอกจากนี้การพูดโดยมีขนมปังลูกโอ๊ตร้อนๆทาเนยสดกับแยมอยู่เต็มปาก ไม่ใช่มาดของนักรบและเชลยผู้หลบหนีมาได้อย่างกล้าหาญ มันจึงเพียงแต่โบกมือทักทายเมื่อเดินผ่านเฟอร์ดี้ซึ่งนั่งอยู่กับเบน สติคเกิลในเก้าอี้นวมตัวใหญ่

ระหว่างกินขนมปัง เฟอร์ดี้เล่าเรื่องการผจญภัยของมันแบบใส่สีตีไข่ตามใจชอบให้ผู้ที่อยู่แถวนั้นฟัง

“แล้วผมกับค็อกส์ก็พังประตูออกมารับมือกับเจ้าวีเซอร์สามตัวนั่น---เอ หรือว่าตัวสโต๊ท? ไม่ใช่ ตัววีเซอร์นั่นแหละ พวกมันมีตั้งหกตัวแน่ะ หน้าตาน่าเกลียดพิลึก โฮ่โฮ๋ เราทำอะไรมันบ้างล่ะ? นางราชินีแมวป่าก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่พอเห็นเรามันก็เผ่นแน่บไปเลย เราทำได้อย่างวิเศษเลย! พ่อรู้หรือเปล่าว่าผมกับค๊อกส์ต้องช่วยกันหามกระรอกสี่ตัวไปตามต้นไม้---เอ๊ะ หรือว่าตัวนากกันแน่? ไม่ใช่หรอก กระรอกน่ะแหละผมแน่ใจ ช่วยพวกมันให้รอดจากทหารโกตีร์ไง”

เบน สติคเกิลเช็ดแยมและเศษขนมปังออกจากปากของเฟอร์ดี้ “มันคงทำให้เจ้าทั้งสองหิวมากล่ะสิ พราะตั้งแต่กลับมานี่เจ้าไม่ได้ทำอะไรกันเลยนอกจากกิน อ้อ แล้วก็พูดไม่หยุดด้วย แน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ได้พูดไม่หยุดเสียจนเจ้าตัวสโต๊ททนไม่ไหวลาตายหนีไปเลย?”

โต๊ะอาหารจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในห้องเงียบกริบเมื่อเบลล่าเดินเข้ามา

“บ้านของข้าคือบ้านของพวกเจ้า” นางกล่าว “เชิญกินอาหารรสเลิศกันได้เลย ขอบใจมากนะกู๊ดดี้สำหรับฝีมือทำอาหารของเจ้า”

มีเสียงจ็อกแจ็กจอแจเกิดขึ้นเมื่ออาหารเริ่มเสิร์ฟ

“ช่วยส่งพายดีปเปอร์ แอนด์ เอเวอร์นั่นมาให้หน่อย ระวังอย่าตกลงไปในพายล่ะ”
“โฮ่โฮ่ ที่ส่งกลิ่นเตะจมูกนั่นคือซุปผักลีคกับหัวหอมใช่ไหม?”
“อืมม์ พายผลไม้ โอ๊ย ร้อนจัง!”
“เอ้า เอาครีมนี่ใส่ลงไปจะได้เย็นขึ้นหน่อย”
“ช่วยส่งเนยให้หน่อย”
“พุดดิ้งลูกนัท! แม่ข้าเคยทำให้กินเหมือนกัน”
“เออ ข้าเคยได้ยินมาว่าเจ้ากอนฟฟ์ขโมยมันจากเตาอบเลยแหละ”
“ฮ่าฮ่าฮ๋า เอ้า ลองชิมมะตูมกับแอปเปิลบดนี่ดูหน่อยสิ”
“เฮ้ ใครเอาครีมไปหมดเลย?”
“กู๊ดดี้ อย่าลืมบอกสูตรพุดดิ้งลูกพลัมนี่ให้ข้าบ้างล่ะ”
“ถามยายของเจ้าแน่ะ ข้าได้สูตรนั่นมาจากยายของเจ้าแหละ”
“เอ ตอนนี้จะดื่มอะไรดีน้า เหล้าหมักเดือนตุลาคม น้ำแอปเปิล หรือนมปั่น?”
“อย่าดีกว่า เจ้าอ้วนพอแล้ว เบน สติคเกิล”
พวกเขาร่วมวงกินอาหารค่ำกันอย่างสนุกสนานรื่นเริง

หลังจากถ้วยจานชามบนโต๊ะถูกเก็บไปหมดแล้ว แม่อธิการเจอร์เมนก็ลุกขึ้นยืน
“สวดอวยพรให้เจ้าของบ้าน” นางร้องบอก
เบลล่าพูดต่อว่า “เฟอร์ดี้ ค๊อกส์ สไปค์แล้วก้อโพซี่อยู่ไหน?”
เบนชี้มือเข้าไปที่หอพัก “เข้านอนกรนครอกไปแล้วละ มาดาม”
เบลล่าก้มหัวลงต่ำ “งั้นเราก็มาอยู่เงียบๆกันสักครู่เพื่อไว้อาลับให้แก่มาสค์ นากผู้กล้าหาญ ถ้าไม่มีเขาพวกเราอาจจะไม่มีคืนดีๆแบบนี้”

ในห้องมีแต่ความเงียบอันศักดิ์สิทธิ มีเสียงสูดจมูกของสกิปเปอร์ดังขัดขึ้นเป็นครั้งคราว

เบลล่าจิบนมปั่นแล้วใช้หลังมือหนาหนักของนางเช็ดตา “ตอนนี้ถึงเวลาปรึกษาหารือกันแล้ว ก่อนอื่นข้าขอบอกว่าวันนี้เป็นวันดีหลายอย่าง เฟอร์ดี้และค็อกส์กลับมาได้อย่างปลอดภัย และเรามีเพื่อนใหม่ที่ดีมาอยู่กับเราคือจินจิเวียร์ ข้าแน่ใจว่าพวกเราทุกคนที่นี่จะต้อนรับทำให้เขารู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านของเขา ตราบเท่าที่เขาสมัครใจจะอยู่กับเรา”

“ขอบคุณมาก เบลล่า รวมทั้งเพื่อนๆทุกคนด้วย” เขาพูดอย่างเศร้าๆ “ทซาร์มิน่าเป็นบุคคลอันตราย การที่ข้ามาอยู่ที่นี่อาจทำให้พวกท่านมีอันตรายมากขึ้น และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกท่าน ข้าคงจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย ข้าจะพักอยู่กับท่านที่นี่แค่คืนนี้เท่านั้น พรุ่งนี้เช้าข้าจะออกเดินทางไปทางตะวันออกของป่ามอสฟลาวเวอร์ให้ไกลจากปราสาทโกตีร์ให้มากที่สุด ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกเพราะจะเพิ่มปัญหาให้พวกท่านมากขึ้น ถ้าทซาร์มิน่ารู้ว่าข้าอยู่ที่นี่ นางจะต้องบ้าคลั่งหาทางแก้แค้นพวกท่านจนได้ ไม่มีใครรู้ว่านางจะใช้กลยุทธชั่วร้ายแบบใด ข้าจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ใดที่หนึ่งในมอสฟลาวเวอร์ ข้าขอบคุณพวกท่านมากสำหรับการช่วยเหลือและความเมตตาที่ให้แก่ข้า ตลอดชั่วชีวิตของข้าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนข้าจะจดจำรำลึกถึงพวกท่านเสมอ ถ้าเมื่อไหร่ที่ข้ามีโอกาสจะทดแทนบุญคุณของพวกท่านได้ ข้าจะทำทันทีโดยพวกท่านไม่ต้องร้องขอ ข้าจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพราะข้าเป็นหนี้บุญคุณสัตว์ในป่ามอสฟลาวเวอร์นี้จนท่วมท้น”

แล้วเจ้าแมวป่าหนุ่มก็ทรุดตัวลงนั่งท่ามกลางความเงียบในห้องซึ่งตามมาด้วยเสียงปรบมือกึกก้องกับคำพูดของเขา

เบน สติคเกิลจับมือจินจิเวียร์สั่น “จินจิเวียร์ เจ้าเฟอร์ดี้กับค็อกส์คงเสียใจมาก ถ้ารู้ว่าท่านจะจากพวกเราไป แต่สักวันหนึ่งเมื่อพวกมันโตพอที่จะเข้าใจแล้ว ข้าจะเล่าให้พวกมันฟังเอง ขอบคุณมากที่ท่านช่วยดูแลเจ้าสองตัวนั่นอย่างดี”

เบลล่าใช้มือตบโต๊ะ “พวกท่านคงรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนๆของเราจากลอมเฮ็ดจ์และคณะของโฟร์โมล ได้เสี่ยงชีวิตและเลือดเนื้อไปสืบเสาะที่โกตีร์ ผู้เฒ่าดินนี่ ท่านคงมีอะไรจะเล่าให้พวกเราฟังใช่ไหม?”

ตุ่นชราแตะจมูกส่งไปทางเบลล่าแล้วคลี่ม้วนเปลือกไม้วางลงบนโต๊ะ “เออรร์ นี่คือปราสาทโกตีร์ เห็นไหม ที่ผ่านมาเราคลำไม่ถูกทาง นี่คือแผนผังบริเวณที่อยู่ใต้ห้องขัง ตรงนี้คือถ้ำและทะเลสาปที่อยู่ใต้ปราสาท แล้วนี่คืออุโมงค์ที่จะพาเรามาถึงตอไม้กลวงแล้วออกมาในป่า”

มีเสียงพึมพำอย่างประหลาดใจดังไปทั่วห้อง เฒ่าดินนี่ใช้อุ้งมือเคาะโต๊ะ
“โฟร์โมลกับข้า เราเป็นนักวางแผน เดี๋ยวเขาจะเล่าให้พวกเจ้าฟังเอง ”
โฟร์โมลชูมือขึ้นแล้วประกาศด้วยสุ้มเสียงที่ชัดเจนและจริงจังว่า “เราจะใช้แผนน้ำท่วมขับไล่มันออกไป ไม่มีสัตว์ตัวใดจะอยู่ในปราสาที่ลอยอยู่ในน้ำได้หรอก”

มีเสียงเกรียวกราวดังขึ้น โคลัมไบน์วิ่งไปยืนข้างๆโฟร์โมลแล้วชูม้วนเปลือกไม้ขึ้นสูงโบกไปมา

“โปรดฟังสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้” เธอตะโกนให้ดังกว่าเสียงเกรียวกราวนั้น

แม่อธิการเจอร์เมนมองดูนางหนูสาวน้อยอย่างภูมิใจเมื่อเธอเริ่มเล่า

“ข้าอยู่กับโฟร์โมลและผู้เฒ่าดินนี่ตอนที่เราช่วยกันวางแผน ตอนแรกเราวิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่ว่าปราสาทโกตีร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำ ในขณะที่ป่ามอสฟลาวเวอร์ตั้งอยู่ในบริเวณที่สูงกว่ามาก ตุ่นทั้งสองจึงได้ไปสำรวจตรงจุดต่ำสุด”

โคลัมไบน์กางแผนที่ออกแล้วชี้ไปตรงจุดสองจุดบนโต๊ะ ราวกับกำลังอ้างอิงถึงแผนที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าในเปลือกไม้

“ตรงนี้แล้วก็ตรงนี้ แม่น้ำมอสส์ไหลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือผ่านแนวป่า แล้วไปหักโค้งมุ่งตรงไปทางด้านตะวันตก นานมาแล้วตรงที่ปราสาทโกตีร์ตั้งอยู่อาจจะเป็นทะเลสาปขนาดใหญ่ ซึ่งน้ำคงจะแห้งเหือดไปเมื่อแม่น้ำเปลี่ยนเส้นทาง เราได้พบทะเลสาปส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ในถ้ำใต้ปราสาทโกตีร์”

เลดี้แอมเบอร์ยังไม่เข้าใจ “แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับเราล่ะ โคลัมไบน์?”
“ปล่อยให้เด็กสาวนั่นพูดต่อเถอะ” สกิปเปอร์กระซิบข้างหูหัวหน้ากระรอก “ข้าคิดว่าข้าพอจะเข้าใจแผนการของพวกเขาบ้างแล้วละ”
“ถ้าพวกตุ่นขุดตรงจุดที่แม่น้ำไหลผ่านใกล้กับโกตีร์มากที่สุด” โคลัมไบน์อธิบายต่อไป “พวกเขาสามารถทำอุโมงค์จากฝั่งแม่น้ำมอสส์ ดึงให้น้ำไหลลงไปสู่พื้นที่ต่ำแล้วเข้าไปในถ้ำใต้โกตีร์ได้”

สีหน้าของเลดี้แอมเบอร์เปลี่ยนเป็นเข้าใจทันที “ทำให้ทะเลสาปเก่านั่นมีน้ำเต็มขึ้นมาเหมือนเก่า!”

เสียงจ้อกแจ้กจอแจอย่างตื่นเต้นดังกระหึ่มขึ้นมาอีก
“พวกที่โกตีร์ก็จะถูกน้ำท่วม!”
“โกตีร์ก็จะจมอยู่ใต้น้ำ!”
“แล้วก็กำจัดพวกมันไปได้!”

สกิปเปอร์ปีนขึ้นไปยืนบนโต๊ะ “ถ้าเราทำประตูระบายน้ำได้ ข้ากับพวกนากจะขนเอาไปฝังไว้แถวริมฝั่งแม่น้ำ เพื่อปิดกักน้ำเอาไว้จนกว่าอุโมงค์จะเต็ม”
เลดี้แอมเบอร์กระโดดขึ้นไปยืนเคียงข้าง “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกกระรอกเถอะ สกิป พวกเราจะสร้างประตูระบายน้ำให้ท่านเอง พวกท่านช่วยกันเอาไปฝังให้มิดชิดก็แล้วกัน”

แม้โฟร์โมลจะไม่ใช่นักกระโดดผู้เชี่ยวชาญ แต่เขาก็ขึ้นไปยืนบนโต๊ะคียงข้างเลดี้แอมเบอร์และสกิปเปอร์

“โฮ่ เออร์ แล้วพวกตุ่นก็จะช่วยกันขุดอุโมงค์ให้ ตกลงนะ!”

โคลัมไบน์คิดว่าเสียงร้องเชียร์ให้กำลังใจและเสียงทุบกำปั้น จะไม่มีวันสิ้นสุดลงเสียอีก รอบๆตัวเธอพวกสัตว์ในป่าเต้นส่ายกันไปมา บ้างก็สวมกอดกัน บ้างก็ส่งเสียงโห่ร้องกันจนสุดเสียง เบลล่าต้องใช้เวลาทุบโต๊ะอยู่นานกว่าระเบียบจะกลับคืนมา

“ขอบใจสมาชิกสภาคอริมทุกท่าน ข้าคิดว่าเป็นแผนการที่ดีมาก” เบลล่าประกาศ “และที่วิเศษที่สุดคือแผนนี้ทำให้เราไม่ต้องทำสงครามแบบเปิดเผยกับพวกมันและช่วยไม่ใครต้องเสียชีวิต พวกท่านที่อยู่ที่นี่เห็นด้วยกับแผนการนี้ไหม?”

สัตว์ในป่าที่มาชุมนุมกันอยู่ร้องตะโกนแสดงความเห็นชอบกันอึงคะนึง มือทุกคู่ยกชูขึ้นสูง “เห็นด้วย!”

“งั้นเราก็จะดำเนินการตามแผนนี้ เราต้องรีบดำเนินการเพราะมาร์ตินกับพวกไปนานจนเกินกำหนดกลับของพวกเขาแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งเสียขวัญกันไปก่อนล่ะ เพราะความจริงก็ไม่มีใครสามารถคำนวณได้แน่นอนหรอกนะ ว่าการเดินทางไปและกลับจากซาลามานดาสตรอนจะต้องใฃ้เวลาเท่าไหร่ จริงไหม? ดังนั้นเราจึงต้องมีความหวังและเชื่อมั่นในคำสัญญาของพวกเขา ที่จะทำการที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ อีกไม่นานข้าอาจจะได้พบพ่อของข้าก็ได้ นักรบโบอาร์อาจจะขี่ม้าผ่านป่ามอสฟลาวเวอร์เข้ามาพร้อมกับมาร์ติน หนุ่มน้อยดินนี่และกอนฟฟ์ เพื่อนำเราไปสู่ชัยชนะ ไม่ว่าพ่อข้าและพวกนักเดินทางทั้งสามจะอยู่แห่งหนใดในตอนนี้ ก็ขอให้พวกเราช่วยกันอวยพรให้พวกเขาโชคดี”

ขณะที่เบลล่านั่งลงและประสานมือไขว้กันกับพวกผู้นำของสภาคอริม พวกที่มาร่วมชุมนุมก็โห่ร้องกันสนั่นหวั่นไหวก้องไปทั่วบร็อคฮอลล์

เจอร์เมนลุกขึ้นพูดเป็นคนสุดท้าย

“เพื่อนๆทั้งหลาย ขอให้โชคดีจงเป็นของผู้เดินทางทั้งสามและพวกเราทั้งหมดในที่นี้ด้วย ข้าคิดว่าแผนการของเราจะได้ผลดี” แม่อธิการชรากล่าวต่อที่ประชุม “แม้ว่าตัวข้าเองและพี่น้องลอมเฮดจ์ของข้าจะไม่เคยชินกับการต่อสู้หรือสงครามก็ตาม แต่เราก็คิดเหมือนกับพวกท่าน ว่าแผนการนี้จะไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อของทั้งสองฝ่าย ทั้งมิตรและศัตรู ความตายก็คือความตาย การนองเลือดเป็นสิ่งน่าสยดสยอง จงรำลึกไว้เสมอว่าเราต่อสู้เพื่อสันติภาพ ถ้าเป็นไปได้ข้าก็ปรารถนาให้เราและพวกที่โกตีร์อยู่ร่วมกันโดยสันติ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ข้าขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าโชคดีจงมีแด่ผู้ที่ใฝ่สันติและความถูกต้องชอบธรรม ขอให้เสรีภาพและอิสรภาพ จงเป็นมรดกที่เราจะมอบให้ชนรุ่นหลังของเราต่อไป ขอให้พวกเขาได้พบสันติภาพที่แท้จริงในมอสฟลาวเวอร์”

ทั่วทั้งห้องประชุมเงียบกริบราวกับแสดงความคารวะต่อคำกล่าวที่จับใจนั้น



นักเดินทางทั้งสี่กำลังหิวโซ พวกเขาตื่นตั้งแต่ก่อนสว่างแล้วออกเดินทางไปตามแนวสันทรายเตี้ยๆ ซึ่งไม่มีพืชพันธ์ใดๆปรากฏให้เห็น นอกจากต้นหญ้าที่แข็งและแห้งแล้ง ท้องของพวกเขาแห้งกิ่วด้วยการบริโภคแต่รากไม้เล็กๆน้อยๆ ที่ดินนี่ขุดมาได้เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าตุ่นพยายามขุดลงไปในพื้นทรายเพื่อหาอะไรที่พอจะกินได้ แล้วมันก็ใช้มือที่อ่อนล้าจากการขุด ขยี้ตาเอาเศษผงที่ติดอยู่ออก

“เกอรรร์ ไม่มีประโยชน์ที่จะขุดหาอะไรในทรายแบบนี้ ขุดหลุมในแม่น้ำยังจะง่ายกว่า”
กอนฟฟ์ใช้มืออันแห้งผากเช็ดปาก “ข้าหิวน้ำมากกว่าอะไรทั้งหมดเลย เพื่อน ตอนนี้ข้าแลกได้ทั้งหมดที่ข้ามีกับน้ำแอปเปิลเย็นๆสักแก้วหนึ่ง”

มาร์ตินเดินไปเรื่อยๆอย่างอับจนปัญญา “เราอย่ามัวแต่ฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยนะ เราต้องพยายามลืมตามองหาอาหารไปเรื่อยๆ ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูถึงกลยุทธของพวกนักรบที่พ่อข้าเคยสอนไว้” เขาค้นเอากรวดเม็ดเกลี้ยงๆออกมาจากถุงที่สพายอยู่ “ลองดูดกรวดพวกนี้ดูสิ ถึงมันจะไม่ใช่เครื่องดื่มอะไร แต่กรวดจะช่วยให้ปากของเจ้าชุ่มชื้นขึ้น แล้วร่างกายก็จะไม่ขาดน้ำจนแห้งผาก”

การเป็นสัตว์ที่อยู่แต่ในป่าทำให้พวกเขาไม่ชินกับการเดินทางบนพื้นทรายที่ยวบยาบ แม้แต่ล็อค-อา-ล็อค ซึ่งเคยเดินทางไกลมาแล้วก็เถอะ ทั้งหมดรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการที่อุ้งเท้าจมลงไปในทรายตลอดเวลาที่เดิน ในที่สุดสหายทั้งสี่ก็นั่งพักอยู่บนแนวสันทรายอย่างเหนื่อยล้า

มาร์ตินคว้าทรายมากำมือหนึ่งแล้วปล่อยให้มันไหลออกมาตามซอกนิ้วลงไปที่พื้น พร้อมๆกับมองสำรวจไปยังบริเวณที่มีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ติดกันเป็นจำนวนมาก ไม่มีแสงสว่างในบริเวณนั้น แม้จะเป็นเวลากลางวันก็ตาม

กอนฟฟ์พูดออกมาดังๆว่า “ซาลามานดาสตรอนอยู่ตรงโน้นไง เพื่อน แต่เรากลับมานั่งอยู่ตรงนี้ พยายามที่จะให้ไกลจากมันมากที่สุด โดยไม่มีทั้งอาหารและน้ำ มีแต่ทรายล้อมรอบและยากสำหรับเราที่จะเดินไปตามทราย”

ล็อค-อา-ล็อคลุกขึ้นยืนสะบัดทรายออกจากขน “คอยอยู่ตรงนี้นะ ข้าเคยเดินทางในทรายมาก่อน ข้าอาจจะช่วยได้” ว่าแล้วเขาก็เดินดุ่มๆไปตามแนวสันทราย

ดินนี่ขุดหลุมเล็กๆและเฝ้ามองเมื่อทรายไหลกลับเข้ามาจนเต็มหลุมในไม่ช้า “ปู่ของข้าคงไม่เชื่อแน่เลย ทรายเข้าไปในอุโมงค์ของข้าจนเต็ม”

มาร์ตินลงนอนเหยียดยาวบนสันทราย “แต่อย่างน้อยเราก็มากันได้ไกลขนาดนี้ อย่าวิตกไปเลยเพื่อน เดี๋ยวเราก็คงจะหาทางออกได้เองแหละ”

ล็อค-อา-ล็อคกลับมาพร้อมไม้ท่อนหนาสี่ท่อนที่พบบริเวณขอบสันทราย “เอ้าช่วยกันเกลาหน่อย” เขาร้องบอก “มันจะช่วยเราให้เดินในทรายได้ง่ายขึ้น”

สี่สหายลงนั่งช่วยกันเกลาไม้ทั้งสี่ท่อนด้วยฟัน เล็บและมีด

แล้วก็เริ่มเดินทางกันอีกครั้ง ท่อนไม้เหล่านั้นช่วยได้บ้างเล็กน้อย นานๆครั้งก็จะเห็นกบตัวเล็กหรือกิ้งก่ามีครุยเดินผ่านไปจากระยะไกล พวกนั้นไม่สนใจสี่สหายและบางตัวก็รีบรุดเดินหายไประหว่างแนวสันทราย และยังมีนกหน้าตาแปลกๆที่พวกเขาต้องทำเสียงและใช้ไม้เท้าแกว่งไล่ เมื่อมันเข้ามาใกล้แบบอยากรู้อยากเห็น

ล็อค-อา-ล็อคเอาหญ้านิ่มๆมาพันเข้ากับปล้องอ้อแล้วก็เคี้ยวไปเรื่อยๆ ขณะพยายามคาดเดาถึงสิ่งที่จะเจอต่อไป

“อีกไม่นานเราก็จะพ้นสันทรายพวกนี้เข้าไปในพื้นดินแข็งแล้ว ถึงตอนนั้นเราอาจจะเจออะไรที่กินได้ แต่ก็ยังไม่มีน้ำกินอยู่ดี เพราะน้ำบนฝั่งมักจะเค็มเหมือนเกลือ กินเข้าไปจะยิ่งทำให้กระหายน้ำมากขึ้น ระหว่างเดินช่วยกันทดสอบทรายไปด้วยนะ เพราะอาจจะมีหลุมทรายดูด แล้วก็ต้องระวังเจ้านกทะเลยักษ์เอาไว้บ้าง—นกนางนวลและนกอื่นๆด้วย มันสวาปามไม่เลือกแหละ เราต้องแสดงว่าเราไม่กลัวมัน กวัดแกว่งไม้ที่ถือเข้าใส่มันเลย มันจะได้ไม่กล้ามาวุ่นวายกับเรา ถ้าพบสายน้ำอย่าดื่ม เพราะมันมักจะเป็นน้ำทะเลที่เต็มไปด้วยเกลือรสชาติแย่มาก ข้อสุดท้ายคือต้องเดินรวมกลุ่มกัน อย่าแยกตัวออกไปลำพัง”

“จบแค่นั้นหรือ ไม่มีอะไรอีกหรือ?” กอนฟฟ์หัวเราะพลางแกว่งไม้ในมือไปมา “ดีแล้ว งั้นเรามัวชักช้าอยู่ทำไมล่ะ?”

แล้วเจ้าหนูจอมขโมยก็ร้องเป็นเพลงออกมาท่ามกลางความประหลาดใจของเพื่อนฝูง

ข้าต้องไม่ดื่มน้ำ
แถมไม่มีอะไรจะกินอีกด้วย
นกนางนวลพวกนั้นอาจมองเห็นหนูจอมขโมย
และคงคิดว่าน่าจะมีรสชาติอร่อยดี
ข้าก้าวออกไปแสวงหาอย่างกล้าหาญ
เหนือแผ่นดินที่น่าตลกแห่งนี้
และเมื่อข้าสูญหายไปพวกเขาคงพูดว่า
มันถูกหลุมทรายดูดกลืนไปแล้ว

“ไม่มีอะไรทำให้เจ้ากอนฟฟ์ท้อถอยได้นานนัก” มาร์ตินว่า “ไปเถอะ เดินกันต่อไปดีกว่า”




Create Date : 18 มีนาคม 2556
Last Update : 21 มีนาคม 2556 10:30:07 น.
Counter : 1029 Pageviews.

27 comments
  
เจิม เจิม เจิม

พรุ่งนี้มาโหวตให้คุณตุ้ยนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 18 มีนาคม 2556 เวลา:21:07:44 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

งานเขียนดีๆโหวตให้เลยยยยครับ
ที่เงียบเพราะงานเยอะครับ เหอะๆ
โดย: Don't try this at home. วันที่: 18 มีนาคม 2556 เวลา:23:36:47 น.
  
สวัสดีค่ะคุณตุ้ย

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
AdrenalineRush Photo Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:0:20:08 น.
  
มาอ่านต่อค่ะ พี่ตุ้ย

ไล้ท์ก่อนนะค่ะ
โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:5:26:04 น.
  
น สีลพฺพตมตฺเตน พาหุสจฺเจน วา ปน
อถ วา สมาธิลาเภน วิวิตฺตสยเนน วา
ผุสามิ เนกฺขมฺมสุขํ อปุถุชฺชนเสวิตํ
ภิกฺขุ วิสฺสาสมาปาทิ อปฺปตฺโต อาสวกฺขยํ

ภิกษุเอย เพียงมีศีลาจารวัตร เพียงมีภูมิปริยัติคงแก่เรียน
เพียงพากเพียรปฏิบัติจนได้ฌาน เพียงอยู่ในสถานสงบอันสงัด
ได้รับสุขของพระอนาคามีที่สามัญชนทั่วไปไม่ได้สัมผัส
ถ้าขจัดกิเลสไม่ได้หมด เธออย่าพึงนิ่งนอนใจเลย

พระพุทธวจนะนี้ สมควรที่ฆราวาสเช่นเราควรน้อมนำมาพิจารณาเนือง ๆ
เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ตลอดไป...ค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:10:46:43 น.
  


ทักทายยามเที่ยงวัน อากาศร้อนๆครับ
โดย: panwat วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:12:26:16 น.
  
กำลังหาเรื่องทะลึ่งนิดๆมาเขียนอยู่ครับแต่ว่ายังไม่มีผ่านมาเลย 555
โดย: Don't try this at home. วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:23:30:36 น.
  
ข้าวผัดปลาสลิดค่ะคุณตุ้ย

โดย: schnuggy วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:23:59:24 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: เวียงแว่นฟ้า วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:12:46:18 น.
  
ขอบคุณครับที่เอามาลงให้อ่านกัน

ดอยสะเก็ด Literature Blog
โดย: Insignia_Museum วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:21:39:35 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ถปรร Photo Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
-----------------------------
แวะมาส่งกำลังใจ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะคะคุณตุ้ย
โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:21:59:02 น.
  
แวะมาเยี่ยมและเติมกำลังใจให้พี่ตุ้ยในยามค่ำคืนครับ
โดย: **mp5** วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:22:59:00 น.
  


คืนนี้มาส่งคุณตุ้ยเข้านอนก่อนนะคะ
พรุ่งนี้มาส่งกำลังใจให้เจ้าของบทประพันธ์ค่ะ
นอนหลับฝันดีนะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:23:17:56 น.
  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

แฮ่ะ..แฮ่ะ..วิ่งหอบมาเลยค่ะคุณตุ้ย
นอนหลับฝันดีนะคะ
โดย: AppleWi วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:23:52:50 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย

มาส่งกำลังใจให้ค่า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog


คิดถึงนะค่า
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:0:05:42 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ตุ้ย
แวะมาทักทายพร้อมส่งกำลังใจค่าา
โดย: jamaica วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:6:23:59 น.
  


ทักทายยามเช้าขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:6:47:04 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย มาโหวตให้เรื่องสนุกๆค่า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ขอบคุณนะคะ

โดย: mambymam วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:7:41:03 น.
  

มาอ่านสัตว์เล้กในป่าใหญ่ เขียนเก่งอ่านสนุกดีค่ะ ไล้ค์และโหวต

ค่ะ

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวัน

เท่านั้น
โดย: พรไม้หอม วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:10:29:48 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร About Weblog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
...................

ส่งกำลังใจให้คุณตุ้ยค่ะ
นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:22:06:11 น.
  
สวัสดีคุณตุ้ยค่ะ ขออนุญาตเรียกชื่อตามเพื่อนๆ
ยินดีมากค่ะ และขอแอดดด้วยเช่นกันนะคะ
เขียนเรื่องเก่งมากๆ จะเริ่มอ่านตอนนี้เริ่มจับต้นชนปลายยังไม่ถูก
แหะๆ

ขอเวลานะคะ วันนี้ขอโหวตให้เลย และส่งเข้านอนหลับฝันดีไปในตัวจ้า

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

+++++

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
IndyLand Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: anigia วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:23:39:53 น.
  
ตามมาอ่านเรื่องสัตว์เล็กในป่าใหญ่ค่ะพี่ตุ้ย
มาโหวตเป็นกำลังใจ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ปล.เอิงยังไม่มีเวลาอัพบล้อกใหม่เลยค่ะ
ช่วงนี้มีโปรเจคใหญ่ในชีวิตอีกแล้วคือย้ายบ้าน เจอบ้านถูกใจ ใหญ่กว่าเดิม
ไว้จะมาเล่าอัพเดทให้ฟังในบล็อกนะคะ
โดย: diamondsky วันที่: 22 มีนาคม 2556 เวลา:4:41:34 น.
  
images by free.in.th

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร About Weblog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
.................................................................................
ขอบคุณนะคะที่ไปทักทาย ในวันดีดี มีความสุขนะคะ
ชอบอ่าน เดิ๋ยวมาใหม่นะคะ
โดย: เขมอนันท์ วันที่: 22 มีนาคม 2556 เวลา:13:40:00 น.
  
มีหลังไมค์จ้า
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 22 มีนาคม 2556 เวลา:14:52:10 น.
  
อยสาว มลํ สมุฏฐิตํ ตทุฏฐาย ตเมว ขาทติ
เอวํ อติโธนจารินํ สานิ กมฺมนิ นยนฺติ ทุคฺคตึ

สนิมเกิดแต่เหล็กกัดกินเหล็ก ฉันใด
กรรมที่ตนทำไว้ย่อมนำคนเขลาไปทุคติ ฉันนั้น

ใช้สติปัญญาพิจารณาก่อนตัดสินใจลงมือกระทำการทุกอย่าง...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 มีนาคม 2556 เวลา:15:48:01 น.
  
สุข สุข วันศุกร์ค่ะพี่ตุ้ย


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 22 มีนาคม 2556 เวลา:20:50:34 น.
  

สว้สดีค่ะ

มาอ่านเรื่องสัตว์เล็กในป่าใหญ่ค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้


ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

newyorknurse

โดย: newyorknurse วันที่: 23 มีนาคม 2556 เวลา:2:22:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
มีนาคม 2556

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com