สัตว์เล็กในป่าใหญ่ - บทที่ 6




ยังไม่ทันจะรุ่งเช้าดี ล็อค-อา-ล็อค ก็ตกแต่งบานประตูเป็นครั้งสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย มาร์ตินชะโงกมองภูมิประเทศทางด้านข้างของภูเขาจากขอบช่องที่เปิดกว้างโดยยึดดินนี่ที่อยู่ข้างๆไว้แน่น

“วิวทางด้านข้างของภูเขาเป็นอย่างนี้เองนะ ดิน”
“เฮ่อ ไม่เห็นมีอะไรให้ดูมากเลยนะ มาร์เตน”

ด้านข้างของภูเขาที่ลาดยาวลงไปมองเห็นได้ชัดเจนจากช่องเปิด แต่ต่ำลงไปซึ่งเป็นพื้นดินมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากหมอกหนาทึบสุดสายตา

ลอร์ดเคเวียร์เข้ามาสมทบ “ข้าไม่รู้ว่าข้างล่างโน่นมีอะไรบ้าง” เขาบอกสหายทั้งสาม “ขอบใจมากนะ ล็อค-อา-ล็อค ที่ช่วยทำประตูที่สวยงามนั่น ต่อนี้ไปพวกของข้าคงจะปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง เราจะได้ดูแลแบท เมาท์พีทของเราได้เต็มที่ แบท เมาท์พีท”

ล็อค-อา-ล็อค สัมผัสกรอบประตูไม้หนาหนักซึ่งไม้ที่ใช้ส่วนใหญ่เก็บมาจากซากไม้ของเรือวอเตอร์วิงที่พังเสียหายไป

“ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้านกฮูกตัวนั้นเลยนะ ถึงแม้ประตูนี้จะกันมันไว้ได้ก็เถอะ นอกจากนี้ก็ยังต้องระวังนกตัวอื่นๆอีกด้วย ข้าไม่เคยชอบพวกนกฮูกเลย”


ไม่ไกลจากแคมป์วิลโล ต้นไม้เก่าแก่ตะปุ่มตะป่ำชื่อเดียวกันทอดคาคบห้อยย้อยไปเหนือแม่น้ำที่มีน้ำใสไหลเอื่อย แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องทะลุผ่านกิ่งไม้ลงไปยังบริเวณใต้ต้น ซึ่งมีร่างหลายร่างยืนเรียงรายอยู่รอบบริเวณที่จะเป็นที่พำนักแห่งสุดท้ายชั่วนิรันดร์ของมาสค์ นั่นคือกองหินหน้าเรียบเกลี้ยงเกลาตรงริมแม่น้ำ พวกนากที่มาชุมนุมเพื่อฝังศพมาสค์วางช่อดอกไม้และคันหนังสติ๊กเรียงรายไว้บนหลุมศพเพื่อไว้อาลัยสหายผู้จากไป

สกิปเปอร์ทอดถอนลมหายใจอันหนักอึ้ง เขาหันไปหาเลดี้แอมเบอร์ผู้ซึ่งกำลังฟังรายงานจากเจ้ากระรอกหนุ่มบาร์คแลด หัวหน้าพวกนากรู้สึกได้ถึงความโกรธอันรุนแรงของตนซึ่งมีอำนาจเหนือความเศร้าโศก เขายืนกรานว่าพวกนากจะรับมือกับกองทัพทหารจากโกตีร์โดยลำพัง เลดี้แอมเบอร์ฉลาดพอที่จะยินยอม



ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วและภายในอีกหนึ่งชั่วโมงแสงแดดก็จะแริ่มแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ แต่แทนที่หมอกจะสลายคัวไป มันกลับรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิม มาร์ตินและเพื่อนกระตือรือร้นที่จะเริ่มออกเดินทางกันอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาปฎิเสธข้อเสนออย่างเอื้ออารีของพวกค้างคาว ให้อยู่ในถ้ำนั้นต่อไปได้อีกนานเท่าที่ต้องการ คำปฏิเสธนั้นเป็นไปอย่างสุภาพและแฝงไว้ด้วยความซาบซึ้งในไมตรีจิตรมิตรภาพและการต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่พวกค้างคาวแห่งเมาท์พิทมอบให้

ลอร์ดเคเวียร์นำถุงผ้าบรรจุอาหารสดๆและเครื่องดื่มจนเต็มมามอบให้ ค้างคาวผู้สูงศักดิ์และบริวารของเขายืนแอบอยู่ตรงที่มืดใกล้กับช่องเปิด โดยพยายามเลี่ยงแสงอาทิตย์แรงกล้าที่ส่องผ่านเข้ามา

มาร์ตินเขย่ามือกับท่านลอร์ดอย่างซาบซึ้ง “อย่าลืมปิดประตูนั่นทันทีที่พวกเราออกไปหมดแล้วนะ ปลอดภัยเอาไว้ก่อนดีกว่า”
พวกลูกต้างคาวตัวเล็กๆเกาะแจอยู่กับดินนี่ “อย่าลืมบินจากใต้ดินมาเยี่ยมพวกเรานะฮะ” พวกเด็กๆสั่งเสียดินนี่
เจ้าตัวตุ่นรู้สึกปลื้มใจมาก “อย่าวิตกไปเลยนะ เจ้าตัวน้อยทั้งหลาย ดินนี่สัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมพวกเจ้าสักวันหนึ่ง”

ล็อค-อา-ล็อคสั่งเสียพวกค้างคาวเป็นครั้งสุดท้ายถึงวิธีใช้และดูแลรักษาประตูบานนั้น หลังจากนั้นสามสหายก็ยืนกันอยู่เงียบๆอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับสถานการณ์ที่ต้องอำลาจากเพื่อนที่ดีไป มาร์ตินเกือบจะหลุดปากพูดออกมาแล้วว่าถ้ากอนฟฟ์อยู่ด้วยในตอนนี้ เขาคงจะต้องแต่งเพลงขึ้นมาร้องสักเพลงหนึ่งเป็นแน่ แต่เขาก็ทำได้เพียงถอนใจยาวแล้วหันหน้าไปทางอื่น เพื่อปรับเชือกห้อยดาบที่คล้องคออยู่ให้เข้าที่ แล้วหันกลับไปเพื่อเผชิญกับโลกนอกถ้ำต่อไป

พวกเขาเริ่มไถลตัวลงไปตามทางลาดของภูเขาโดยมีเสียงกล่าวคำอำลาของท่านลอร์ดกระซิบแว่วๆอยู่ข้างหู

“จิตวิญญาณของพวกเราจะติดตามพวกท่านไป ขออวยพรให้ได้พบในสิ่งที่ท่านแสวงหา ที่แสวงหา”

การไถลตัวลงไปตามลาดเขาไม่ยากเหมือนที่คิด พวกเขาใช้มือเกาะจิกดิน หิน และรากไม้แถวนั้นเพื่อช่วยพยุงตัวเอาไว้แล้วครึ่งเดินครึ่งไถลตัวลงไป

“ถ้าเพียงแต่กอนฟฟ์อยู่กับเราตอนนี้” มาร์ตินอดไม่ได้ที่จะพูดถึงเจ้าหนูจอมขโมย “มันคงจะจำคำโคลงของนกกระจอก ได้แม่นยำทุกคำ รู้สึกว่าจะคล้ายๆอย่างนี้นะ ‘แผ่นดินจมหายไปในละอองหมอกสีน้ำตาลแกมเทา—‘ หรืออะไรคล้ายๆยังงี้แหละ ข้าจำไม่ได้ทุกคำหรอก”
ดินนี่หยุดตัวเองไม่ให้ชนหินก้อนใหญ่ที่หล่นลงมาจากยอดเขา “ข้าก็จำไม่ได้เหมือนกันแหละ ฮ่าฮ่า”

ล็อค-อา-ล็อคหยิบหินก้อนหนึ่งแล้วโยนออกไปห่างตัว มันลอยละลิ่วหายลงไปในหมอกเบื้องล่าง “ปกติใต้หมอกแบบนี้มักจะมีบึงหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ เราคงต้องระมัดระวังตัวกันมากหน่อยเมื่อลงไปถึงที่นั่นแล้ว” เขาเตือนสหายทั้งสอง

ทั้งหมดลงไปถึงบริเวณพื้นดินเมื่อตอนเที่ยงวัน หมอกที่ลอยอยู่เหนือหัวทั้งหนาและหนักบดบังท้องฟ้าจนหมดสิ้น รอบตัวนักเดินทางทั้งสามมีแต่เกลียวหมอกที่ลอยวนเวียนไปมา พื้นดินปกคลุมไปด้วยโคลนเละๆและหญ้าใบเรียวยาว ราที่มีกลิ่นเหม็นฉุนดารดาษอยู่ทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง มีทางน้ำเล็กๆอยู่ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้างราวกับพยายามจะหาทางออกไปให้พ้นจากเขตแดนต้องห้ามนี้

ดินนี่จ้องมองฝ่าละไอหมอกออกไป “เย่ มีอะไรเคลื่อนไหวอยู่เหนือหัวหรือเปล่า?”
ทั้งสามหยุดยืนพยายามจ้องออกไป ล็อค-อา-ล็อคขยี้ตา “อาจเป็นไปได้ แต่ก็นั่นแหละอาจจะเป็นหมอกเล่นตลกเองก็ได้ ถ้าคิดมากเกินไปก็อาจจะวาดภาพประหลาดๆหลอกตัวเองได้อีกเยอะแยะ”

ทั้งสามเอนกายพิงหินก้อนใหญ่เตรียมกินอาหารกลางวัน มาร์ตินบิขนมปัง “ข้ารู้สึกราวกับว่ามีใครหรืออะไรกำลังจ้องเราอยู่นะ” เขาพูดขณะเคี้ยวขนมปัง

ดินนี่ใช้อุ้งมือเคาะหินที่พิงอยู่ “อุ้งมือข้าก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน มาร์เตน”

ทันใดนั้น กบยักษ์หกตัวพร้อมด้วยร่างแหที่ทำจากเส้นกกถักก็กระโดดจากก้อนหินที่อยู่ด้านหลังข้ามหัวพวกเขาลงมาที่พิ้น แล้วใช้ร่างแหนั้นครอบทั้งสามเอาไว้ข้างใน กบตัวหนึ่งใช้สามง่ามที่ถืออยู่จ่อพวกเขาเอาไว้

“ครรย๋ออิค กล็อคฟลัค กลัมบัต จับได้แล้ว จับได้แล้วสามตัว!”



ทซาร์มิน่ากระตุ้นพวกทหารให้เดินทางเข้าไปในป่ามอสฟลาวเวอร์อย่างเร็วจี๋ ตัวนางเองหยุดเดินบ่อยครั้งเพื่อสูดดมกลิ่นบนพื้นดิน หรือค้นหาร่องรอยเท้าของพวกสัตว์ป่า

“ไม่ผิดหรอก ของพวกมันน่ะแหละ ดูนี่สิ นี่เป็นรอยเท้าของไอ้พี่ชายทรยศของข้า มันแบกอะไรหนักๆมาด้วย เดินต่อไปเรื่อยๆอย่าหยุด ใกล้จะสว่างแล้ว เราจะช่วยเลี้ยงอาหารให้มันแบบที่มันจะต้องจำไปจนวันตายเชียว”

สูงขึ้นไปเหนือหัวพวกทหารของนางทซาร์มิน่า กระรอกบาร์คแลดนั่งอยู่บนยอดไม้พลางบ่นพึมพำกับตัวเอง “เยอะแยะจนนับไม่ไหว สงสัยมันจะขนกันมาถล่มพวกเราจนไม่มีใครเหลืออยู่ที่ปราสาทโกตีร์เลยละมั๊ง”

กระรอกหนุ่มกระโดดแผลวๆไปตามยอดไม้เพื่อรีบไปรายงานข่าว


คลัดด์ใช้หอกที่ถืออยู่ชี้ไปที่กิ่งไม้กิ่งหนึ่ง “หยดเลือดขอรับ คุณหญิง”
นางแมวป่าสำรวจหยดเลือดเล็กๆสีแดงเข้มที่ติดอยู่บนใบของพุ่มดอกไลแลค
“พวกนากแน่ๆ คงจะเป็นของไอ้ตัวที่หลอกพวกเราว่าเป็นหมาจิ้งจอกน่ะแหละ—เจ้าแพชโค๊ตไง มันรับเคราะห์แทนเจ้าจินจิเวียร์”

คลัดด์ขบฟันดังกึกกึก “เจ้าแพชโค๊ตหรือขอรับ? กระผมขออนุญาตจัดการกับมันเอง ไม่ว่ามันจะบาดเจ็บหรือไม่ก็ตามที มันขโมยเสื้อคลุมตำแหน่งกัปตันของกระผมไป”

นางแมวป่าออกเดินต่อไป “ตามใจเจ้า แต่ข้าจะจัดการกับเจ้าจินจิเวียร์ด้วยมือของข้าเอง ปล่อยมันไว้เป็นธุระของข้า” นางออกคำสั่ง

พวกทหารเดินกันต่อไปด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะคราวนี้พวกมันมีจำนวนมากมายด้วยกัน

โอนอ่อนตามความต้องการอันแรงกล้าของสกิปเปอร์ แต่พร้อมกันนั้นเธอก็ขยายแผนการของเธอเองให้สกิปเปอร์รับรู้ด้วย
“ทำตามที่ท่านต้องการจะทำ สกิปเปอร์ และขอให้โชคดีดัวย พวกทหารโกตีร์ยกกันมาในป่ามอสฟลาวเวอร์ทั้งกอง ท่านต้องระวังตัวให้ดี แต่นี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่เราไม่ควรพลาด ข้าส่งผู้เดินสารไปที่บร็อคฮอลล์แล้ว โฟร์โมลและคณะของเขาคงยินดีที่จะมีโอกาสได้เข้าไปสำรวจภายในปราสาทโกตีร์ตอนที่นางแมวป่าไม่อยู่ ข้าและพวกของข้าจะติดตามไปสังเกตการณ์ว่าพวกเขาเข้าไปและออกจากที่นั่นอย่างปลอดภัย เห็นด้วยไหม?”
“เห็นด้วยแน่นอน!”

แอชเลคเป็นคนแรกที่เห็นแม่น้ำสายนั้นซึ่งปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง

“เราเคยมาที่แม่น้ำตรงนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว” แอชเลคเตือนความจำของทซาร์มิน่า “ตรงนี้ไงที่เราสูญเสียเจ้ากลูมเมอร์ไป ข้าคิดว่ากองบัญชาการของพวกมันคงไม่ได้อยู่แถวนี้แน่”

ราชินีแห่งตาพันดวงจ้องมองฝ่าหมอกตรงหน้าเข้าไป “นั่นไม่สำคัญหรอก ร่องรอยพวกนั้นนำเรามาที่นี่ ขณะนี้พวกมันต้องอยู่แถวๆนี้แหละ นั่นอะไรน่ะ?”
คลัดด์เดินไปข้างหน้าพร้อมกับควงหอกในมือ “เจ้านากตัวนั้นแหละขอรับ คุณหญิง มันยังทะลึ่งใส่เสื้อคลุมของกระผมอยู่เลย โปรดอนุญาตให้กระผมไปจัดการกับมันด้วย”

ทซาร์มิน่าพยักเพยิดไปยังร่างงอๆที่เห็นลางๆอยู่ในหมอก

“ไปจัดการกับมันเลย คลัดด์” นางออกคำสั่ง “เห็นได้ชัดว่าพวกมันรู้ตัวว่าเราตามมา ข้าจะไปสำรวจรอบๆให้มันประหลาดใจ เราอย่ายอมให้ถูกมันหลอกเป็นครั้งที่สอง อ้อ คลัดด์—“
“ขอรับ คุณหญิง?”
“ทำงานให้สำเร็จเรียบร้อยถ้าเจ้ายังอยากได้ตำแหน่งคืน”

คลัดด์ยกหอกขึ้นเดินตรงรี่ไปที่ร่างในเสื้อคลุมกัปตัน “โปรดเชื่อฝีมือข้า คุณหญิง เฮ้ แพชโค๊ต มาจัดการเรื่องของเราให้จบๆไปเสียที” มันร้องท้าทาย

สกิปเปอร์ก้าวออกมาจากกลุ่มหมอกพร้อมกับสลัดเสื้อคลุม “ข้าพร้อมเสมอ เจ้าวีเซอร์ นากตัวที่เจ้าเรียกว่าแพชโค๊ตคือน้องชายของข้าเอง เจ้าไม่คู่ควรกับเขาหรอก ข้านำเสื้อคลุมมามอบให้เจ้าเพื่อเจ้าจะได้เอามันติดตัวไปที่ประตูแห่งความตาย ที่นั่นมีสถานที่พิเศษสำหรับพวกขี้ขลาดตาขาวอย่างเจ้า”

คลัดด์ร้องตะโกนอย่างโกรธจัดเมื่อถูกหมิ่นศักดิ์ศรี แล้วกระโดดเข้าโจมตีทันที
สกิปเปอร์ยิ้มเครียดๆให้กับตัวเองอย่างสมใจ เขาทำตัวอ่อนแล้วกระโจนเร็วจี๋ราวกับติดสปริง เข้าใส่เจ้าวีเซอร์ที่กำลังสวนเข้ามา ทั้งสองปะทะกันมือเปล่าแล้วปล้ำกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนพื้นดิน แยกเขี้ยวคำรามและฉีกทึ้งกันไปมาราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย


มาร์ติน ดินนี่ และล็อค-อา-ล็อคต่างพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่ในร่างแหราวกับปลานอกน้ำ เมื่อมาร์ตินเริ่มรู้สึกว่ายิ่งพยายามดิ้นรนมากเท่าไหร่ ร่างแหก็ยิ่งมัดอีรุงตุงนังมากขึ้นเท่านั้น เขาจึงนอนนิ่งๆ

“ข้าคือนักรบมาร์ติน” เขาร้องตะโกนออกไป “ส่วนเพื่อนสองคนของข้านี่ชื่อดินนี่กับล็อค-อา-ล็อค ทำไมถึงทำกับพวกเราแบบนี้ล่ะ? เราไม่มีอันตรายกับพวกท่าน เราเป็นเพียงนักเดินทางที่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เท่านั้น โปรดปล่อยพวกเราออกไปเถอะนะ”

พวกกบหันไปมองกันแล้วส่งเสียงกิ๊บๆกั๊บๆที่ฟังไม่รู้เรื่องออกมา ท่าทางพวกมันตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ตัวหัวหน้าทิ่มสามง่ามเข้าไปในร่างแหเป็นทำนองเตือน “เกอออกลัก ยัคยัค! เงียบนะ เจ้าหนูมีขน แดมป์วอชบอกให้ออกมาเดี๋ยวนี้”

เชลยทั้งสามถูกลากออกไปตามพื้นดินเละๆอย่างไม่มีพิธีรีตรอง กบอีกหลายตัวออกมาจากหมอกเพื่อร่วมขบวน เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง พวกนักโทษพบตัวเองถูกห้อมล้อมไปด้วยกองทัพของสัตว์หลากหลายประเภท

หัวหน้ากบโยนชายร่างแหไปคล้องไว้ที่เสาซึ่งปักอยู่ในดิน แล้วกางมือที่มีลักษณะเป็นผังผืดติดกันเป็นพรืด “กรรพล็อค! ดูนี่ ตุ่นหนึ่งตัว หนูสองตัว มาร์ชกรีนว่าไง?”

บนดอกเห็ดขนาดใหญ่ที่ตกแต่งคล้ายบัลลังก์ มีกบตัวใหญ่กว่าเพื่อนและน่าขยะแขยงที่สุดนั่งอยู่ กบตัวนี้ไม่มีปุ่มปม ลำตัวมีน้ำเมือกเปียกๆสีเขียว ดวงตาใสแจ๋วขนาดมหึมาของมันที่เหมือนมีฝ้าคลุม กระพริบปริบๆขณะจ้องมองเชลย หิ่งห้อยเต้นรำส่องแสงวูบวาบอยู่ในกระถางทึบที่ทำหน้าที่เป็นตะเกียง กบสี่ตัวพร้อมสามง่ามในมือยืนล้อมรอบบังลังก์ เจ้ากบยักษ์กระโดดจากบัลลังก์ลงมาบนพื้นดินมายืนตรงหน้านักโทษทั้งสาม พร้อมกับกระพริบตาไม่หยุด ชีพจรตรงคอหอยของมันเต้นระริก

“กรรกล็อค! ดีมาก แด็มวอช มาร์ชกรีนชอบหนูมีขนมาก”
มาร์ตินคิดว่าถึงพยายามพูดดีๆต่อไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อันใด พวกกบทำกับพวกเขาราวกับข้าทาสที่ยึดเอาตัวมาได้

นักรบหนุ่มพูดเสียงดังด้วยความโกรธว่า “ฟังนะ เจ้ามาร์ชกรีน หรือชื่ออะไรก็ตาม เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะทำกับพวกเราแบบนี้ ปล่อยพวกเราให้เป็นอิสระเดี๋ยวนี้!”

ฝูงกบที่มาชุมนุมอยู่ตรงนั้นพากันร้องโพล่งๆออกมาอย่างตกใจ กับคำพูดที่ห้าวหาญไม่เคารพราชาของพวกมัน มาร์ชกรีนเป่าลมเข้าปากจนคอโป่งพองเหมือนลูกโป่ง ดวงตาของมันถลนออกมาราวกับดอกเห็ด

“สปลากกาฟล็อตต์! หุบปากนะเจ้าหนู สครีมโฮล จับมันโยนลงไปในสครีมโฮล!”
“ดูโน่นแน่ะ” ล็อค-อา-ล็อคกระซิบกับมาร์ติน “ข้าน่าจะรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิจะมาโดยปราศจากไอ้วัชพืชหนวดหรอมแหรมสองตัวนั่นไม่ได้”

เจ้าสองตัวนั่นก็คือตัวกิ้งก่า กับงูดินที่ชื่อวิปส์เกลกับเดธคอยล์นั่นเอง มันทั้งสองแสยะยิ้มส่งมาให้ เมื่อรู้ว่าสามสหายสังเกตเห็นพวกมันแล้ว

“ยังคิดอยากจะเหยียบหางข้าอีกไหม เจ้าสัตว์รู?”
“โฮะโฮะ พวกเจ้าเสร็จแล้วคราวนี้”
ดินนี่เขย่าร่างแห “ไปต้มหัวตัวเองซะไป๊ ไอ้พวกสัตว์สมองไหล”
เดธคอยล์ยืนอยู่เกือบบนปลายหางของมัน “ยังไม่ไปไหนหรอก ข้าจะคอยดูเจ้าถูกจับโยนลงไปให้เจ้าสเนคฟิชในบ่อสครีมโฮลด์”

ก่อนจะมีโอกาสรู้ว่าเจ้าเดธคอยล์พูดถึงอะไร สามสหายก็ถูกลากไปทั้งๆที่อยู่ในตาข่ายอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้การลากใช้เวลาไม่นานเพราะมีกบมาช่วยกันลากมากกว่าครั้งก่อนหลายตัว

ตาข่ายถูกลากมาหยุดตรงสิ่งที่มีลักษณะเหมือนบ่อ ที่มีพืชขึ้นปกคลุมหนาแน่น ก้นบ่อที่มีรูปทรงกลมจมลึกหายลงไปในดิน

มาร์ชกรีนเดินเตาะแตะเข้ามาพร้อมงูและกิ้งก่า โดยมีกบที่ถือสามง่ามซึ่งมีตะเกียงหิ่งห้อยแขวนอยู่ตรงปลายเดินตามมาเป็นขบวน

“กรรปุ๊ค! อาหารดีๆสำหรับสเนคฟิช มาร์ชกรีนเอาหนูมีขนมาให้ท่าน” หัวหน้าฝูงกบตะโกนลงไปในบ่อ

กบตัวหนึ่งนำสามง่ามที่สลักเสลาอย่างดีมาส่งให้มาร์ชกรีน ซึ่งบรรจงทิ่มเข้าไปที่เหล่าเชลยในร่างแห แล้วก็ทิ่มสามง่ามลงบนปากบ่อสามครั้ง ฝูงกบที่รายล้อมอยู่ตรงปากบ่อพากันนอนลงเอาตัวแนบพื้น แล้วร้องเพลงสวดประสานเสียงขรม

“สเนคฟิชผู้ทรงพลังที่อยู่ในบ่อสครีมโฮลด์ โปรดปล่อยแด็มช์วอชให้อยู่อย่างสบายๆ!”

มาร์ตินและเพื่อนทั้งสองนอนฟังเพลงสวดซึ่งดังขึ้นทุกทีนั้นอย่างหวาดหวั่น แล้วโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียงเพลงนั้นก็หยุดลง กบที่ถือร่างแหอยู่เปิดปากแหและกระชากมันถอยหลังไปอย่างแรง

มาร์ติน ดินนี่และล็อค-อา-ล้อคถูกเหวี่ยงผ่านกอเฟิร์นที่ขึ้นอยู่หนาแน่น กระเด็นตกลึกลงไปในบ่อ







Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2556 8:54:49 น.
Counter : 1104 Pageviews.

26 comments
  

มากด Like , Vote สาขา Literature และแปะหัวใจเพิ่มพลังค่ะ

ว่างๆจะมาอ่านต่อ วันนี้มีนัดต้องรีบไปอาจจะกลับค่ำๆค่ะ
โดย: พรไม้หอม วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:32:10 น.
  
มาอ่านต่อค่า พี่ตุ้ย
ไล้ท์ก่อนนะค่า
โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:08:19 น.
  
เมื่อวานไม่มีเวลาเข้าบล๊อกตอบเม้นท์ และคุยเฟสเท่าไร
เสร็จงานแล้วก็เลยนำสิ่งประเสริฐที่สุดในอนันตจักรวาล
มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมและกราบบูชากัน....ค่ะ

เรามากราบบูชานมัสการพระบรมสารีริกธาตุกัน...นะคะ



พระบรมสารีริกธาตุของปอป้าได้มาจากเนปาล และอินเดีย
ได้มาก็แบ่งให้เพื่อนที่รักกันมากไปบูชาด้วย
เมื่อสองสามวันก่อนปฏิบัติบูชาเสร็จแล้ว
ก็ได้อธิษฐานจิตกราบขออนุญาตเปิดผอบดู
ปรากฏว่า มีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จเพิ่มมามากกว่าเก่า
ต่างสี ต่างสัณฐานและวรรณะ อีกหลายองค์ทีเดียว
เกิดเป็นความปีติอย่างหาที่สุดมิได้ นึกถึงเพื่อน ๆ ทุกคน
ก็เลยกราบขออนุญาตถ่ายภาพอัญเชิญมาให้เพื่อน ๆ ได้บูชากัน..ค่ะ

โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:30:24 น.
  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

วันนี้มาส่งกำลังใจให้ค่ะคุณตุ้ย
โดย: AppleWi วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:42:11 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

มาเยี่ยมคุณตุ้ยบ่อยๆ ชักคุันแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog


โดย: หอมกร วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:31:45 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจไปให้พี่ตุ้ยในยามค่ำคืนครับ
โดย: **mp5** วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:46:54 น.
  
โหวตให้เลยยยยครับ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

โดย: Don't try this at home. วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:00:29 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
Don't try this at home. Funniest Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ฝันดีค่าคุณตุ้ย
โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:2:41:28 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ดอยสะเก็ด เรียบร้อยแล้วนะคะ


วิ่งมาแปะห้วใจกับโหวตค่ะ

newyorknurse

โดย: newyorknurse วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:6:39:43 น.
  
มาอ่านต่อครับ จินตนาการของคนอ่านจะต้องตามเนื้อเรื่องให้ทัน

ดอยสะเก็ด Literature Blog
โดย: Insignia_Museum วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:6:48:55 น.
  
สวัสดีครับพี่ตุ้ย
ระยะหลังนี้ผมมักไปติดอยู่ที่ เฟซบุ๊คน่ะครับ
เข้ามาบล็อกค่อนข้างน้อยครับ แต่ก็ยังระลึกถึง
พี่ตุ้ยอยู่เหมือนเดิมแหละครับพี่
หวังว่าพี่คง สบายดีนะครับ
โดย: panwat วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:31:46 น.
  
ขอแปะหัวใจสักดวงครับพี่

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ดอยสะเก็ด เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 4 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
โดย: panwat วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:57:46 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย สบายดีนะคะวันนี้


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:26:06 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ดอยสะเก็ด เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


โดย: หอมกร วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:41:52 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ดอยสะเก็ด เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 2 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

ย่านาถ sirivinit ฝากมาโหวต
เพราะเข้ามาไม่ได้ค่ะ
โดย: Letalia วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:12:00 น.
  



More Just Cartoons Comments

----------------------------------------
วันครอบครัว อากาศดีแต่เช้า แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึง หายไปเสียสามสี่วัน ยุ่งนั่นยุ่งนี่ หวังว่าคงสบายดีนะคะรักษาสุขภาพด้วยค่ะคุณตุ้ย
โดย: เกศสุริยง วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:44:47 น.
  


สวัสดีตอนบ่ายค่ะพี่ตุ้ย
มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนนะคะ
โดย: jamaica วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:13:12 น.
  

ขอบคุณที่กรุณาไปโหวตให้ค่ะ มีสลัดผลไม้เพื่อสุขภาพมาฝากค่ะ

โดย: พรไม้หอม วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:43:02 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ดอยสะเก็ด เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
มาเยี่ยมบ่อยๆ เกรงใจนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:08:56 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ดอยสะเก็ด เรียบร้อยแล้วนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย
สุขสันต์วันหยุด
มีอาหารมาฝากค่ะ



โดย: pantawan วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:08:53 น.
  
โยคา เว ชายเต ภูริ อโยคา ภูริสงฺขฺโย
เอตํ เทวธา ปถํ ญตฺวา ภวาย วิภวาย จ
ตถาตฺตานํ นิเวเสยฺย ยถา ภูริ ปวฑฺฒติ

ปัญญาเกิดมีได้เพราะความเพียร เสื่อมไปเพราะไม่พากเพียร
เมื่อรู้ทางเจริญและทางเสื่อมของปัญญาแล้ว
ควรทำตนให้ดำรงอยู่โดยวิถีทางที่ปัญญาจะเจริญ

หมั่นพากเพียรเพื่อความสำเร็จในทุกสัมมาที่ปรารถนาตลอดไป...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:15:40 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
--------------------------------------
ขอบคุณมากๆค่ะคุณตุ้ยที่แวะเวียนไปส่งกำลังใจให้กันสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:02:28 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย

แวะมาเยี่ยมและมาส่งกำลังใจให้พี่ตุ้ยด้วยค่ะ

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog


คิดถึงพี่ตุ้ยเหมือนกันค่ะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:47:37 น.
  
อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องตุ้ย แวะมาทักทายหลังจากที่ห่างหายไปนาน มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ
โดย: KeRiDa วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:40:15 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ส่งยิ้มค่ะพี่ตุ้ย
โดย: jamaica วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:07:19 น.
  
มาทักทายคุณตุ้ยตอนดึกค่ะ
นอนหลับฝันดีนะคะ
โดย: AppleWi วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:06:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
กุมภาพันธ์ 2556

 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
16
17
18
20
21
23
24
25
27
28
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com