การนำเรือวูดด์ชิปป์เข้าสู่ฝั่งโดยทวนกระแสคลื่นในแม่น้ำมอสเป็นงานที่ยากลำบาก สัตว์ทุกตัวบนเรือช่วยกันกรรเชียงเรือ มาร์ตินนั่งอยู่ข้างทิมบัลลิสโต
ว๊าว! ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการกรรเชียงเรือเป็นงานที่หนักขนาดนี้ มาร์ตินคร่ำครวญ
ดันเข้าไป เพื่อนยาก ดันเข้าไป มันจะลำบากแสนสาหัสยิ่งขึ้นตอนที่ต้องกรรเชียงเรือโดยได้กินอาหารเพียงครึ่งท้อง แถมยังมีแซ่ที่เจ้าพวกหนูทะเลคอยใช้โบย แล้วยังต้องถูกล่ามโซ่เอาไว้กับกรรเชียงอีกด้วย
เรือลำนี้ถูกสร้างมาให้รับการปะทะของคลื่นลมได้อย่างดี แม้จะเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่แต่ก็มีท้องเรือที่แบนทำให้สามารถแล่นในบริเวณน้ำตื้นได้ แล้วยังล่องทวนน้ำขึ้นไปได้โดยที่กระดูกงูไม่ติดอยู่ตรงบริเวณที่น้ำตื้น
เรือแล่นเข้าไปในทะเลในโดยบางครั้งมีลมช่วยส่งเมื่อชักใบเรือขึ้น แต่บางครั้งพวกในเรือก็ต้องแบ่งกันออกเป็นสองทีมช่วยกันลากหัวเรือออกจากฝั่งแม่น้ำ
กว่าจะข้ามหาดแบนราบเข้าไปสู่สันทรายซึ่งเป็นบริเวณช่องแคบๆ และกระแสน้ำไหลเร็วรี่ที่พัดต้านเรือเอาไว้ได้ก็ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันครึ่ง ล๋อค-อา-ล็อคแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ได้ด้วยการใช้พายที่มีใบยาวตรงดาดฟ้าเรือ พายแต่ละด้ามใช้ลูกเรือสองคนทั้งถ่อและดันเรือให้ทวนกระแสน้ำผ่านสันทรายเข้าไปอย่างยากลำบาก
สันทรายค่อยๆแยกตัวออกทีละเล็กละน้อยจากแรงดันของเรือ และในที่สุดทรายก็ค่อยๆหายไป
คืนนั้นพวกเขาทั้งหมดนั่งอยู่ด้วยกันบนฝั่งแม่น้ำอย่างอ่อนล้า จ้องมองออกไปที่เรือที่ทอดสมอกระเพื่อมขึ้นๆลงๆตามกระแสคลื่นในแม่น้ำ
กอนฟฟ์โยนดินก้อนหนึ่งลงไปในน้ำซึ่งไหลเร็วรี่ เราคงทำด้วยวิธีนี้ไม่สำเร็จหรอก เพื่อน ทำไมเราไม่สละเรือแล้วเดินกันต่อไปเองล่ะ?
แฮร์แบลและเพื่อนๆยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
โธ่เอ๋ย กอนฟฟ์ ท่านนี่ช่างเขลาเสียจริงๆ เราต้องเอาเรือไปด้วย
ท่านก็เห็นไม่ใช่หรือว่าแม่น้ำสายนี้ไหลออกสู่ทะเล
แล้วถ้ามีเหตุจำเป็นเราก็ต้องใช้เรือนี้เป็นพาหนะนำเราออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
มาร์ตินหลิ่วตาให้กอนฟฟ์ ดูเหมือนว่าสุภาพสตรีพวกนี้รู้ยุทธวิธีดี อ้อ มีใครเห็นล็อค-อา-ล็อคบ้างไหม?
ราวกับตอบคำถามของมาร์ติน เจ้าสัตว์รูเดินออกมาจากความมืด
อยู่นี่ ข้าออกไปเดินสำรวจแล้วพบหมู่บ้านเก่าแก่แห่งหนึ่ง ไปกับข้าสิพวกโชคดีทั้งหลาย คืนนี้เราจะมีอาหารร้อนๆกินและที่นอนที่อบอุ่นใต้ชายคา แบงส์เนาท์ เจ้าต้องจำลูกๆของเจ้าไม่ได้แน่ตอนนี้พวกมันสูงกว่าข้าด้วยซ้ำ อ้อ มาร์ติน ข้าลืมบอกท่านไป เรามีสมาชิกใหม่เก่งๆอีกประมาณร้อยตัวแล้วนะตอนนี้
ความตื่นเต้นดีอกดีใจรอต้อนรับพวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านของพวกสัตว์รู เมื่อสมาชิกในครอบครัวได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงตะโกนต้อนรับขับสู้
พ่อจ๋า พ่อ นี่หนูเอง เอมิลี่ไง ลูกสาวตัวน้อยๆของพ่อน่ะ
โฮโฮ่ ดูสิ! ตอนนี้เจ้าตัวใหญ่กว่าแม่ของเจ้าอีกนะ
ชาร์ปเทล ท่านบอกว่าจะไปเก็บลูกโอ๊คไง สี่ปีมาแล้วนะ! ท่านไปอยู่ที่ไหนมานี่?
ขอโทษจ้ะ ที่รัก เจ้าก็รู้จักไอ้พวกหนูทะเลดีนี่นา อ้าว แล้วนี่ใครล่ะ พวกลูกหลานสัตว์รูหรือ?
ใช่แล้ว ตอนนี้ท่านเป็นปู่แล้วละ
โอ้พระผู้เป็นเจ้า! ไหนเอาเจ้าตัวเล็กอ้วนกลมนั่นมาให้ข้าอุ้มหน่อยซิ
กลักกาบัคกาลักกลู!
ฮ่าฮ่า เห็นไหมว่ามันรู้จักข้าด้วยละ
พวกกระต่ายเข้าร่วมวงกับมาร์ตินและสัตว์อื่นๆรอบกองไฟ สัตว์รูตัวป้อมๆสองตัวช่วยกันเสิร์ฟอาหารซึ่งมีพายผลไม้ร้อนๆ สลัดดอกแดนเดเลียนและนมสด กอนฟฟ์ร้องเพลงทั้งๆที่ยังมีพายร้อนๆอยู่เต็มปาก
เรือวูดด์ชิปป์ช่างเป็นเรือที่ดีเสียจริงๆ
เราจะแล่นมันไปได้ทุกหนทุกแห่ง
โดยมีหนูเป็นผู้พายและพวกสัตว์รูเป็นกลาสี
นานๆครั้งกระต่ายป่าก็ช่วยถือหางเสือ
ถอนสมอเรือเร็วๆแล้วชักใบขึ้น
ขอให้กระแสลมพัดมาไม่มีตก
แล้วเราก็จะแล่นเรือวูดด์ชิปป์ไป
จากที่นี่มุ่งสู่บร็อคฮอลล์
กอนฟฟ์ต้องร้องเพลงนั้นซ้ำอีกสองรอบ ขณะที่พวกสัตว์รูและกระต่ายป่าเต้นรำตามแบบของพวกกลาสีเรือ เมื่อไฟเริ่มมอดลงพวกเขาก็เข้านอนพร้อมท้องที่อิ่มจนแน่นและความหวังครั้งใหม่ในตอนเช้าตรู่
มาร์ตินและทิมบัลลิสโตนอนอยู่เคียงข้างกันภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ต่างก็ห่มตัวด้วยผ้าห่มของชาวรูที่ทอถักด้วยสีสันหลากหลาย
ดินนี่ช่วยขุดหลุมตื้นๆให้พวกกระต่ายป่านอน
โอ้ ขอบคุณมากจริงๆ คุณตุ่นผู้ใจดี
ช่างมีมารยาทที่งดงามและขุดดินได้อย่างรวดเร็วเสียนี่กระไร
อู๊ว์ แถมยังมีขนกำมะหยี่ที่สวยงามและอุ้งเล็บที่คมอีกต่างหาก
ดินนี่ทำหน้ายู่ยี่แล้วเอามือดึงจมูกตัวเองด้วยความเขิน เบอรร์ ขอบคุณที่ชม ข้าก็เป็นเพียงตุ่นแก่ๆตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ คุณสาวๆ
ดวงจันทร์ลอยสูงขึ้นมองดูเหมือนจานกระเบื้องเคลือบสีขาวของชาวจีนอยู่เหนือบริเวณที่เงียบสงบ เต็มไปด้วยสันติสุขริมฝั่งแม่น้ำมอส
ทซาร์มิน่ายืนเผชิญหน้ากับแถวทหารที่รวมตัวกันอยู่ในบริเวณห้องโถงใหญ่ในค่ายทหาร นางจัดการรวมพลเป็นพิเศษโดยจัดให้กองทหารรับจ้างของเบนน์เข้ามาก่อน ต่อจากนั้นเจ้าบร็อคในเสื้อคลุมกำมะหยี่สีแดงก็เดินนำหน้ากองทหารของโกร์ตีเข้ามาแล้วต้อนกองกำลังของเบนน์ไปอยู่กลางห้อง บร็อคชูดาบด้ามโค้งของเบนน์ขึ้นสูง เป็นสัญญาณให้ทหารทุกนายเงียบขณะที่ราชินีแมวป่ากำลังพูด
เบนน์ตายแล้ว พวกทหารรับจ้างที่เคยทำงานให้เขาไม่มีที่แห่งไหนให้ไปแล้ว ถ้าพวกเจ้าออกจากที่นี่ไปก็จะไม่มีทั้งเสบียงอาหารและอาวุธ แถมยังอาจถูกพวกสัตว์ในป่าที่แอบอยู่ข้างนอกโน่นจัดการอีกด้วย มีใครต้องการพูดอะไรไหม?
มีแต่ความเงียบตอบกลับมา
ถ้าเช่นนั้น นางพูดต่อไปแบบออกคำสั่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าต้องรับคำสั่งจากข้า บร็อคจะดูแลจัดการให้พวกเจ้าแต่ละคนมีอาหารและที่พัก อีกไม่นานข้าจะพิจารณาแต่งตั้งพวกนายทหารเพิ่มแล้วก็หาเครื่องแบบที่เหมาะสมให้ เอ้า บร็อค รับหน้าที่ต่อไป
เจ้ากัปตันวีเซอร์ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับแกว่งดาบในมือ ร้องพร้อมๆกันว่า ราชินีทซาร์มิน่าแห่งป่ามอสฟลาวเวอร์จงเจริญ!
เสียงร้องสรรเสริญดังกระพร่องกระแพร่ง
ทซาร์มิน่าสั่งพวกทหารให้ร้องซ้ำๆซากๆจนพอใจ ค่อยยังชั่วหน่อย ยังมีชื่อตำแหน่งของข้าอีกหลายชื่อที่พวกเจ้าจะต้องเรียนรู้
พวกทหารยืนกันอยู่เงียบๆอย่างอึดอัดใจไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี นางทซาร์มิน่าได้ยินเสียงแปลกๆอะไรบางอย่างดังขึ้นในความเงียบนั้น
เลิกแถวได้แล้ว พวกเจ้าทั้งหมด ส่วนบร็อคอยู่กับข้าก่อน
ทันทีที่ห้องโถงว่างวายลง นางแมวป่าหันหน้ามาทางเจ้าบร็อคแล้วถามอย่างตกอกตกใจว่า ฟังสิ ได้ยินอะไรไหม?
กระผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยขอรับ คุณหญิง
ฟังให้ดี! เสียงน้ำไหล หยด แล้วก็กระจายอยู่ที่ไหนสักแห่ง แหวะ!!
บร็อคพยายามเงี่ยหูฟังอย่างตั้งอกตั้งใจและในที่สุดก็ทำท่าดีใจ ฮ่าฮ่า กระผมได้ยินแล้วขอรับ คุณหญิง ท่านเข้าใจถูกแล้ว มีน้ำอยู่ที่ไหนสักแห่ง ชื้นแฉะด้วยใช่ไหมขอรับ?
เสียงน้ำมีผลอย่างรุนแรงต่อทซาร์มิน่าจนทำให้นางลืมที่จะดุด่าเจ้าบร็อคเหมือนเคย นางแมวป่าเข้าไปซุกตัวอยู่ตรงมุมห้อง ใช้อุ้งมือทั้งสองข้างปิดหูเอาไว้เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงอันน่าสยดสยองนั้น เสียงน้ำไหล เสียงน้ำเซาะ เสียงน้ำที่เลื้อยมาเป็นสายๆ น้ำสีดำสนิทเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง น้ำที่หมุนวน มีแต่น้ำทั้งนั้น!
เร็วเข้า บร็อค!! ไปรวบรวมพวกทหารมาให้มากที่สุดเท่าที่จะรวบรวมได้ นางแมวป่าออกคำสั่งอย่างท้อแท้หมดหวัง ไปหาให้เจอว่าน้ำนั่นมาจากไหนแล้วหยุดมันให้ได้!
บร็อคมองเห็นความหวาดกลัวสุดขีดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของนางราชินีแล้วก็รีบวิ่งเผ่นออกไปจากห้อง
ทหารทั้งค่ายช่วยกันค้นหาน้ำทุกหนทุกแห่งทั้งบนที่สูงและบริเวณที่ลาดต่ำ แต่ไม่มีใครแม้แต่เจ้าบร็อคคิดจะลงไปค้นหาในที่ต่ำกว่านั้นคือใต้คุก ทั้งนี้เพราะที่ตรงนั้นเป็นทะเลสาปที่ทั้งมืดและหนาวเย็น แถมยังเคยเป็นที่คุมขังเจ้ากลูมเมอร์อีกด้วย แล้วยังไม่รู้ด้วยว่าจะมีตัวอะไรอยู่แถวนั้นอีก!!!
คืนนั้นเมื่อทซาร์มิน่านั่งคุดคู้อยู่ในห้องนอนหูของนางก็ยังคงอื้ออึงไปด้วยเสียงน้ำในจินตนาการ เมื่อความกลัวน้ำเกิดขึ้นจนท่วมท้น ลูกสาวของลอร์ดเวอร์ดูกาก็ไม่มีสภาพความเป็นราชินีแห่งป่ามอสฟลาวเวอร์ หรือราชินีแห่งตาพันดวง หรือแม้แต่ผู้ปกครองปราสาทโกร์ตีหลงเหลืออยู่เลย ตอนนี้นางถูกลดสภาพลงกลายเป็นเพียงลูกแมวตัวเล็กๆที่หวาดกลัวจนแทบเป็นบ้ากับเสียงน้ำหยดติ๋งๆในความมืด เฝ้าภาวนาให้ยามเช้ามาถึงเร็วๆ
มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติกับการดึงน้ำให้เข้ามาท่วมอุโมงค์
เบลล่ากับสกิปเปอร์เดินออกไปที่ฝั่งแม่น้ำด้วยกัน
ท่านไม่สบายใจหรือ? สกิปเปอร์ถามอย่างเป็นห่วง
ข้าไม่สบายใจหรอก สกิปเปอร์ ข้ารู้สึกว่าน้ำไหลเข้าไปในอุโมงค์น้อยมาก
เลดี้แอมเบอร์เข้ามาสมทบ ตอนแรกๆมันก็ไหลดีนะ เป็นไปได้ไหมว่าเพราะตอนนี้เป็นฤดูร้อนและฝนก็ตกลงมาไม่มากนัก? นางกระรอกออกความห็น
สกิปเปอร์คว้าใบหญ้ามาเคี้ยว อาจเป็นไปได้ ถ้ายังงั้นเราก็คงทำอะไรไม่ได้
แต่เราอาจจะทำเขื่อนกั้นน้ำจากแม่น้ำให้ไหลลงไปในอุโมงค์ได้ใช่ไหม? เบลล่าเสนอแนะทางออก
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน สกิปเปอร์ค้าน จะกั้นแม่น้ำมอสทั้งสายนี่น่ะนะ? ท่านไม่ควรหวังที่จะกั้นแม่น้ำใหญ่ขนาดนั้นไม่ให้ไหลลงทะเล
โคลัมไบน์เดินเข้ามาร่วมวงปรึกษาหารือด้วย ประเดี๋ยวน้ำในอุโมงค์ก็คงค่อยๆเต็มเองแหละ
ใช่แล้ว สาวน้อย สกิปเปอร์หัวราะแหะๆ คงต้องนั่งรอกันจนแก่จนเฒ่ากว่ามันจะเต็ม เอายังงี้นะ เราคอยดูมันไปอีกสักพักหนึ่งก่อน ถ้ายังไม่ดีขึ้นคงต้องลองวิธีอื่น
เลดี้แอมเบอร์ฟาดหางลงบนพื้นอย่างเจ็บใจ พวกเราทำงานกับเกือบตาย ทั้งลงไปขุดใต้น้ำ ทั้งขุดอุโมงค์ แถมยังต้องสูญเสียกำลังพลไปอีก ฮึ คิดแล้วอยากบ้า!
แม่น้ำยังคงไหลเอื่อยไปเรื่อยๆตามปกติ แต่มีน้ำเพียงเล็กน้อยที่ไหลลงไปในอุโมงค์
เย็นวันรุ่งขึ้นแม่อธิการเจอร์เมนและโคลัมไบน์ช่วยเบน สติคเกิลพาลูกเม่นทั้งสี่ออกไปเดินเล่นแถบริมฝั่งแม่น้ำ เฟอร์ดี้และค็อกส์กำลังเล่นเรือลำจิ๋วๆที่เบนทำให้อยู่กับสไปค์และโพซี่และลูกหนูอีกหลายตัว
โคลัมไบน์เฝ้ามองพวกเด็กๆที่กระโดดขึ้นกระโดดลงส่งเสียงอึกทึกครึกโครมอยู่บนฝั่งน้ำ พวกมันสนุกสนานมีชีวิตชีวากันมากหลังจากที่ถูกเก็บตัวอุดอู้อยู่ในบร็อคฮอลล์เสียหลายวัน
ระวังหน่อยนะ สไปค์ ระวังอย่าให้ตกลงไปในแม่น้ำล่ะ เธอร้องบอก
ดูเรือของหนูสิคะคุณแม่อธิการ เร็วกว่าเรือของค็อกส์ตั้งแยะ
อู๊ว์ ดูสิ เฟอร์ดี้ขี้โกง เขาใช้ไม้ดันเรือของเขา
เปล่าซะหน่อย ลมต่างหากล่ะ เรือของข้ามีใบใหญ่กว่าลำอื่นนี่
คุณโคลัมไบน์ขา เรือของหนูตกลงไปในหลุม ช่วยไปเก็บขึ้นมาให้หน่อยได้ไหมคะ?
เสียใจจ้ะ สไปค์ มันออกไปไกลแล้วละ ประเดี๋ยวพ่อของเธอก็จะทำลำใหม่ให้เองแหละ
เบน สติคเกิลคุกเข่าชะโงกลงไปที่หลุมตรงที่เรือตกหายไปแล้วลุกขึ้นยืนเช็ดมือและสั่นหัว
อุโมงค์ที่จะให้น้ำท่วมนั่นเอง ใช้ประโยชน์ได้พอๆกับส่งตัวนากเข้าไปอยู่ในรังนกนั่นแหละ ตอนนี้ส่งน้ำเข้าอุโมงค์ไปท่วมทะเลสาปใต้ปราสาทโกร์ตีได้สูงแค่ไหนแล้วรู้ไหม? ระดับอุ้งมือ? หรือระดับหนวด?
แม่อธิการมองลำแสงอาทิตย์อัศดงที่ส่องผ่านต้นไม้ลงมา ใครจะรู้ล่ะ เบน แต่ที่แน่ๆคือตอนนี้ปราสาทโกร์ตียังอยู่เหมือนเดิม ทั้งมืดมนและชั่วร้าย น่าเสียดายที่แผนของเฒ่าดินนี่และโฟร์โมลไม่ได้ผล
แล้วทั้งหมดก็เตรียมตัวเดินทางกลับสู่บร็อคฮอลล์
เบลล่าบอกว่าไม่มีเค้าว่าฝนจะตกลงมาเลย เพราะอากาศช่วงนี้ยังดีอยู่ เบนกล่าวเสริม
เฟอร์ดี้ยัดเรือของมันไว้ตรงกระดูกซี่โครง
แผนนี้อาจจะได้ผลก็ได้นะถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว แม่อธิการให้ข้อสังเกตที่ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
เบนขยี้ผมของเฟอร์ดี้ แล้วกบก็ควรจะมีขนด้วย กลับกันเถอะเด็กๆ เก็บเรือมาด้วย กลับไปถึงบร็อคฮอลล์แล้วก็อาบน้ำอาบท่ากินอาหารเย็นกันเสียนะ
คืนนี้อากาศค่อนข้างอุ่น พวกสภาคอริมนั่งอยู่รอบๆในห้องโถงใหญ่ กลิ่นอายของความพ่ายแพ้กระจายตัวอยู่รอบห้อง
เบลล่าอ้าปากหาวหวอดบิดตัวไปมาอยู่ในเก้าอี้นวมตัวใหญ่น่าสบาย ใครมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆอีกไหมล่ะ?
ไม่มีใครมีข้อเสนอใหม่ๆ นางแบดเจอร์มองหน้าแต่ละหน้าของผู้ที่อยู่ในห้อง ถ้างั้นเราก็ต้องมองหาโอกาสที่อาจจะเป็นไปได้ แต่ขอบอกก่อนว่าข้าไม่ต้องการได้ยินแผนการใดๆที่จะเป็นการซุ่มโจมตีด้วยกำลังพลมากมาย หรือการทำสงครามอย่างเปิดเผย
สกิปเปอร์และเลดี้แอมเบอร์ขยับเนื้อขยับตัวอย่างไม่เป็นสุข
โฟร์โมลกับผู้เฒ่าดินนี่ยังเชื่อว่าแผนน้ำท่วมจะได้ผล ถ้าสามารถเปลี่ยนแผนสักเล็กน้อยได้" เบลล่าพูดต่อ ข้ารู้ว่าพวกเราหลายคนไม่เห็นด้วย แต่ส่วนตัวของข้ายังเชื่ออยู่ว่าแผนน้ำท่วมนี้เป็นความหวังอันเดียวของเรา ข้าเสนอให้พวกเราออกไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้ตอนเช้าด้วยกัน เผื่อจะมีความคิดดีๆเกิดขึ้น แล้วต่อจากนั้นก็มีสิ่งเดียวที่เราควรทำ
กู๊ดดี้ สติคเกิลเช็ดมือด้วยผ้ากันเปื้อลายดอกไม้ที่สวมอยู่ อะไรหรือ เบลล่า?
อพยพพวกสัตว์ในป่าทั้งหมดและขนทุกอย่างเท่าที่ขนได้ออกไปจากที่นี่ เราอาจอพยพไปทางด้านตะวันออกที่ฟาร์มของจินจิเวียร์ ข้าเคยเล่าให้พวกท่านฟังแล้วนี่ว่าจินจิเวียร์และแซนดินกอมม์ยินดีต้อนรับพวกเราให้พักอาศัยอยู่ด้วย ที่นั่นห่างไกลจากโกร์ตีมาก
สกิปเปอร์กระโดดลุกขึ้นยืนด้วยหน้าตาท่าทางที่ไร้ความสุขโดยสิ้นเชิง ก็แปลว่าพวกแมวชนะน่ะสิ
มีเสียงอื้ออึงเห็นด้วยกับคำพูดของหัวหน้าพวกนาก
นั่นน่ะสิ ทำไมพวกเราต้องอพยพออกไปล่ะ?
พวกเราต้องทิ้งบ้านทิ้งช่องหลบหนีกันมาอยู่ที่บร็อคฮอลล์นี่ครั้งหนึ่งแล้วนะ
ที่ไหนๆก็ไม่เหมือนบ้านหรอก
ข้าเกิดที่นี่ ข้าไม่ยอมไปอยู่ที่อื่นหรอก!
แม่อธิการเจอร์เมนใช้ถ้วยไม้ใบหนึ่งเคาะลงไปบนโต๊ะเพื่อควบคุมที่ประชุม ถ้วยแตกออกเป็นสองเสี่ยง
เงียบๆหน่อย ขอให้เบลล่าพูดบ้าง เจอร์เมนตะโกนให้ดังกว่าเสียงอื้ออึงนั้น
เบลล่าหยิบเศษถ้วยสองชิ้นนั้นมาถือไว้แล้วยิ้มเศร้าๆกับแม่อธิการ
ขอบคุณมาก แม่อธิการ เพื่อนๆทั้งหลาย แผนการของข้าลึกซึ้งกว่านั้น ลองคิดดูให้ดีว่าถ้าเราจำเป็นต้องอพยพออกไปจากที่นี่จริงๆจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกที่โกร์ตี ทซาร์มิน่าไม่มีวันชนะพวกเรา พวกของนางไม่มีวันตามไล่ล่าพวกเราเข้าไปในป่า เราอพยพออกไปจากการตัดสินใจของเราเอง การอพยพของเราจะมีผลดีอะไรบ้าง? สมมติว่าเราย้ายไปอยู่ทางตะวันออกจนถึงฤดูร้อนปีหน้าหรือแม้แค่ฤดูใบไม้ผลิ ตอนที่เราไม่อยู่น้ำก็จะยังไหลลงไปเรื่อยๆตลอดเวลาในอุโมงค์ ในฤดูใบไม้ร่วงฝนก็จะตกชุกขึ้นแล้วกระแสลมก็จะพัดน้ำในแม่น้ำให้ไหลแรงขึ้น ในช่วงฤดูหนาวกระแสน้ำก็ยังไหลเร็วอยู่ใต้น้ำแข็งบนผิวแม่น้ำ และในวันที่อากาศอุ่นขึ้นหิมะก็จะละลายแล้วไหลลงสู่แม่น้ำจนน้ำล้น แล้วในที่สุดเมื่อหิมะละลายในฤดูใบไม้ผลิน้ำก็จะล้นจนท่วมเข้าไปเต็มในอุโมงค์ของเรา ทำให้ทะเลสาปใต้ปราสาทโกร์ตีถูกน้ำท่วมไปด้วย และยิ่งกว่านั้นตั้งแตนี้ไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิหน้าข้าเชื่อว่านักรบโบอาร์พ่อของข้าจะกลับมา เขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะต่อกรกับนางทซาร์มิน่าและเอาชนะมันได้ ข้าขอพูดเท่านี้แหละ
โฟร์โมลลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาที่โต๊ะ เขาหยิบเศษถ้วยที่แตกขึ้นมาชู
พวกเราก็เหมือนกับเศษถ้วยสองเสี้ยวนี่แหละ ถ้าแตกออกจากกันอย่างนี้ก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แต่ถ้ารวมกันเป็นชิ้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างนี้ก็จะทำอะไรได้สารพัด เฮอร์ เขาประกบเศษถ้วยทั้งสองชิ้นเข้าด้วยกันให้เห็นกันโดยชัดเจน
ผู้เฒ่าดินนี่สนับสนุนเต็มที่ โฟร์โมลพูดถูกแล้ว เป็นความรู้สึกโดยสัญชาติญาณของพวกตุ่นอย่างเรา
โคลัมไบน์ได้รับอนุญาตให้ออกความเห็น เราควรจะทำอย่างที่เบลล่าพูด พรุ่งนี้พวกเราจะไปที่อุโมงค์น้ำท่วมนั่นกัน ถ้าทำอะไรไม่ได้อีกแล้วเราก็ควรจะอพยพตามแผนของเบลล่า
เสียงตอบรับเห็นด้วยดังขึ้นเซ็งแซ่
เห็นหรือยังโคลัมไบน์ แม่อธิการพูดพร้อมกับหยิบถ้วยแตกใบนั้นขึ้นมาถือไว้ในมือที่เหี่ยวย่น ถึงข้าจะแก่และไร้เรี่ยวแรง แต่บางครั้งข้าก็มีแรงที่จะทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่น่ามหัศจรรย์แบบนี้ได้ ไปนอนกันเถอะดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ช่วยกันทำความสะอาดที่นี่แล้วก็ล้างถ้วยล้างชาม ยกเว้นถ้วยใบนี้
แม่อธิการวางเศษถ้วยสองชิ้นลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง บางทีเหตุผลของพวกตุ่นอาจจะเป็นสิ่งที่พวกนางแมวป่าน่าจะได้รับเป็นบทเรียนนะ
ล้อค-อา-ล้อคกลับคืนสู่ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาปลุกสัตว์ทั้งหมู่บ้านหนึ่งชั่วโมงก่อนรุ่งอรุณเพื่อช่วยเรือให้ออกเดินทางต่อ ด้วยพละกำลังของสัตว์รูจำนวนร้อยที่เพิ่มมาทำให้เรือวูดด์ชิปป์วิ่งฉิวไปได้ตามชายฝั่ง สัตว์รูพวกนี้ถ้าไม่ได้แจวเรือ ก็จะทำงานอย่างอื่นเช่นถ่อเรือ ผลักหรือใช้เชือกลากจูงเรือไป
เร็วเข้า กางใบเรือหน่อย ล็อค-อา-ล็อคสั่ง เจ้าสองตัวนั่นมาถือหางเสือไว้ อย่านั่งว่างๆไม่ทำอะไร ไปเข้าคู่กับฝีพายตรงนั้นหน่อย เจ้าสองตัวที่นั่งอยู่ตรงนั้นน่ะยกก้นขึ้น เจ้านายกลับมาแล้วนะ แสดงฝีมือให้นางกระต่ายพวกนั้นดูหน่อยว่าจะเอาเรือลำนี้เข้าไปในแม่น้ำมอสได้อย่างไร
ขอโทษนะ ผู้เฒ่าล็อค-อา-ติ้ง
จำชื่อพวกเราให้แม่นๆหน่อยสิ ตาเฒ่าหัวหน้าผู้มีพละกำลัง
ใช่แล้ว พวกเราเป็นกระต่ายป่านะ ไม่ใช่นางกระต่าย เข้าใจเสียใหม่นะ
ทิมบัลลิสโตซึ่งนั่งเหลาไม้อยู่บนดาดฟ้าพูดว่า กระต่ายป่าพวกนั้นดูแปลกๆนะ
แต่พวกเขาเป็นนักรบตัวยงนะ มาร์ตินกล่าวขณะนับจำนวนดาบและกริช นักรบโบอาร์เป็นคนฝึกพวกเขาด้วยตัวเอง อย่าให้การพูดอะไรแบบแปลกๆโง่ๆของพวกเขามาทำให้เขวเชียวนะ ข้าไม่มีวันยอมเป็นศัตรูกับพวกเขาเป็นอันขาด แล้วข้าก็ภูมิใจมากที่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขามาแล้ว ตอนที่ต้องต่อสู้กับพวกหนูทะเล
กอนฟฟ์ทำจมูกยุกยิกสูดดมอากาศ หนวดของเขากระตุกท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมอยู่สองฟากแม่น้ำ ข้าได้กลิ่นต้นไม้ตอนนี้เราคงเข้าเขตมอสฟลาวเวอร์แล้วละ ตอนสว่างเราคงจะรู้แน่
เจ้าตัวตุ่นหนุ่มน้อยกำลังขมักเขม้นทาสีกลบชื่อเรือบลัดเวคอยู่ ตอนนี้มันชื่อวูดด์ชิปป์แล้ว ดินนี่ส่ายหัวอย่างชื่นชมในฝีมือของตัวเอง แล้วเช็ดสีที่เปื้อนมือออก
เฮอรร์ กอนฟ์เฟ่น ข้ารู้สึกว่าเราถึงบ้านแล้วละ
เสียงแหบๆของสัตว์รูตัวหนึ่งบนยอดเสากระโดงที่ดังขึ้นมาช่วยยืนยันคำพูดของดินนี่ ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นมาทางด้านตะวันออก มีต้นไม้อยู่ใกล้ๆเรา ตอนนี้เราเข้ามาในเขตป่าแล้ว
หันหัวเรือไว้ให้ตรง เสียงล็อค-อา-ล้อคตะโกนมาจากเคบินหัวเรือที่ยืนอยู่ ปลดใบเรือลงก่อนที่มันจะไประเข้ากับกิ่งไม้ กระปรี้กระเปร่ากันหน่อยสิ!
มาร์ตินขึ้นไปสมทบกับล้อค-อา-ล้อคที่หัวเรือ ถ้าไปได้เร็วขนาดนี้เราคงไปถึงแคมป์วิลโลว์ประมาณเที่ยงวัน ข้าไม่ทันเห็นตรงที่เราข้ามท่าน้ำไป
ล้อค-อา-ล้อคตบราวหัวเรือ ข้าเสี่ยงแล่นเรือผ่านไปตอนมืดๆ เรือลำนี้ดีมาก มันเลาะไปตามน้ำตื้นๆได้เพราะท้องเรือแบน ส่วนบริเวณนี้น้ำลึกและเรียบยิ่งทำให้กรรเชียงเรือกันได้อย่างสบายๆ
ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาสูงเหนือหมอกที่ปกคลุมป่าทำให้ฤดูร้อนวันนั้นอบอุ่นสดใส น้ำที่หัวเรือแตกกระจาย เงาของ ใบไม้และกิ่งไม้สาดเป็นทางๆลงมาบนดาดฟ้าเรือ กรรเชียงทุกอันจ้วงลงไปในน้ำลึกที่ไหลช้าๆเป็นจังหวะพร้อมเพรียงกันลากพาเรือผ่านลึกเข้าไปในป่ามอสฟลาวเวอร์
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pspatchiee Travel Blog ดู Blog
never the last Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย
แวะมาอ่านต่อ
โหวตและไลท์ให้ค่ะ