รู้สึกซึมเศร้าหลังจากกลับมาจากเที่ยวญี่ปุ่นกับเมกา
กลับมาจากทริปญี่ปุ่น + เมกาแล้ว หลังจาก jet lag ไปเป็นอาทิตย์ เสาร์-อาทิตย์นอนมัน 16 ชั่วโมง ไม่ปลุกไม่ตื่น วันทำงานก็ง่วงนอนตลอดเวลา ปวดหัว กินอาหารไม่ลง หน้ามืด ตาลาย รู้สึกว่าตัวเอง depressed อย่างแรง รู้สึกว่าตัวเองซึมเศร้าจริง ๆ พูดเลย มันเป็นการเที่ยวญี่ปุ่นและเมกาครั้งแรกของเรา เราชอบทุกอย่างที่เป็นญี่ปุ่น และ บางส่วนของเมกา
จากใจคนที่ 5 ปีจะได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนอกซักครั้งนึง และตลอดชีวิตยังเที่ยวไม่ได้ไม่ถึง 10 ประเทศอย่างเรา ไม่ได้กระแดะนะ แต่อยากจะบอกว่า ยิ่งเราเที่ยวเมืองนอกหลายประเทศมากเท่าไหร่ เรายิ่งไม่อยากอยู่เมืองไทยมากเท่านั้น รู้สึกว่าทำไมคุณภาพชีวิตคนเมืองนอกที่พัฒนาแล้วมันถึงได้ดีขนาดนี้ เทียบกับประเทศเรา เราชอบความีวินัย ความสะอาด ต้นไม้ การเคารพในสิทธิ์ของคนอื่น ความสะดวกสบาย กฎหมายที่เงินซื้อไม่ได้ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกันหมด ความเขียวของบ้านเมืองเค้า ความสงบ ความชิล และอีกหลาย ๆ ความที่บรรยายไม่หมด
หลายปีก่อน ไปปฏิบัติธรรม เจอเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เค้าเล่าให้ฟังว่าไปเป็น au pair เลี้ยงเด็กอยู่เมกามาปีนึง ทั้ง ๆ ที่ต้องได้อยู่ 2 ปี แต่มีปัญหาเรื่องวีซ่า เลยได้อยู่แค่ปีเดียวแล้วกลับมา เค้าเศร้ามาก มากจนทำอะไรไม่ได้ พี่และครอบครัวเค้าเลยให้มาปฏิบัติธรรม กินนอนอยู่ 7 คืน 8 วัน เล่าไปน้ำตาก็ไหลไป เพราะแผลที่ยังสดใหม่ ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าก็ได้ไปอยู่ตั้งปีนึงแล้วนี่ ยังไม่พออีกเหรอ
ตอนนี้ เข้าใจแล้ว ขนาดเราไปแค่ไม่ถึงเดือน เรายังรู้สึกเศร้าได้ขนาดนี้เลย ยิ่งตอนอยู่ญี่ปุ่นยิ่งแล้วใหญ่ คือไปคนเดียว ได้เดินดูบ้านดูเมืองอย่างละเลียด ยิ่งทำให้เราอยากอยู่ญี่ปุ่น บอกอย่างไม่อายเลยว่า แค่นอนตื่นมาเช้าวันแรกที่ญี่ปุ่น ได้เดินจากบ้านโฮสไปเบียดเหล่าซาราริมังตอนเช้าชั่วโมงเร่งด่วนที่โตเกียว เราน้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะโดนเบียด แต่เพราะเราอยากอยู่ญี่ปุ่นตลอดไป แต่ทำยังไงได้ เราอยู่ได้แค่ไม่ถึงอาทิตย์ เรารู้สึกตั้งแต่เช้าวันแรกจนวันสุดท้ายที่โตเกียว เราอยากอยู่ญี่ปุ่น ประเทศที่คนรักษากฎระเบียบ และเคารพความเป็นส่วนตัวและส่วนรวมของเค้า แล้วที่สำคัญ เราเพลินมาก เพราะเหล่าซาราริมังเด็ก ๆ ที่อายุไม่เกิน 35 หน้าตาดีและหุ่นดีมาก ฟินมากกกก พูดเลย ฮา ๆ 3 พันกว่ารูปตลอด 6 วันที่โตเกียวคงพอบอกได้ว่าเรารักโตเกียวมากแค่ไหน ไว้เราหายจากอาการซึมเศร้าก่อนนะ แล้วเราจะมาเล่าและลงรูปให้ดู
เพราะตอนนี้ เราเศร้าเกินกว่าจะเล่าอะไรเกี่ยวกับการเที่ยวของเรา เพราะถ้าเราเล่าตอนนี้ เราจะยิ่งเศร้าและยิ่งคิดถึงอีกโลกหนึ่งของเรา ซึ่งตอนนี้ เราต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่เรายัง depressed อยู่มาก
กลับมาเจองานกองเต็มโต๊ะ เลยยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ ขอเวลาเคลียร์งาน เคลียร์ใจแป๊บนึงนะ แล้วจะกลับมาร่าเริง เข้มแข็งเหมือนเดิม ความรู้สึกเหมือนตอนตกหลุมรักหนุ่มแล้วเค้ากลับประเทศไปยังไงอย่างงั้น แต่คราวนี้เป็นการตกหลุมรักทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งตอนนี้แม้ว่าตัวเราจะอยู่เมืองไทย แต่ใจเรายังไม่กลับมาเลย ในฝัน ก็เห็นแต่ตัวเองอยู่ไม่เมกาก็ญี่ปุ่น กัลยาณมิตรบอกว่า จิตเรากำลังหลง ให้รีบพาจิตกลับบ้าน มันเป็นสภาวะชั่วคราว เราต้องรีบฉุดตัวเองขึ้นมา จะพยายามนะ
Create Date : 03 กันยายน 2557 |
|
3 comments |
Last Update : 6 กันยายน 2557 18:58:58 น. |
Counter : 2652 Pageviews. |
|
|
|