Hada Labo สีน้ำเงิน ยิ่งตบยิ่งนุ่ม เด้ง ใส มีความสุขทุกครั้งที่ได้ตบเช้า ตบเย็น
ไม่ได้เว่อร์นะ พูดจริง ๆ พอดีเราฝากเพื่อนซื้อฮาดะ ลาโบะสีน้ำเงินถุงเติมมาจากญี่ปุ่น แอบงก ขวดก็ไม่มีกะเค้าหรอก ใช้เทเอาทุกครั้งที่ใช้นั่นแหละ เพราะถุงเติมเมืองไทยมันไม่มี ให้ซื้อขวดก็ไม่อยาก เพราะเห็นราคาถุงเติมที่ญี่ปุ่นแล้วซื้อแบบขวดเมืองไทยไม่ลง เพราะถุงเติมมันแค่ 700-800 เยนเอง ก็ประมาณ 250 บาทเองในปริมาณ 170 มิล เท่ากับซื้อขวดเมืองไทย 550 มั้ง
จริง ๆ เราเคยได้ซองขนาดทดลอง 2 มิลมาก่อน ลองแบบใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เพราะไม่เคยใช้ กลัวแพ้ เทออกมาตบหน้าไปได้ 2 ครั้งแบบประหยัด ๆ กลิ่นโอเคเลย เหมือน SK II แต่ไม่แรงและเหม็นเท่า เราว่ามันก็หอมดีนะ กลิ่นอ่อน ๆ น้ำหนืด ๆ ใส ๆ ซึมเร็วดีจัง ใช้ครั้งแรกก็รู้สึกถึงความแตกต่าง ใช้ก่อนนอน ตื่นเช้ามาล้างหน้า เอ๊ะ ทำไมหน้านุ่มแบบนี้เนี่ย คิดไปคิดมา สิ่งเดียวที่ใช้ใหม่ก็คือเจ้า Hada Labo Arbutin Whitening Lotion ฮาดะ ลาโบะ อาร์บูติน ไวท์เทนนิ่ง โลชั่นนี่เอง สิวไม่ขึ้นด้วย
ไม่รอช้า ฝากเพื่อนหิ้วมาทันที ได้มาก็เทเยอะกว่าเดิม ตบเช้า ตบเย็น สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ หน้าเรานุ่มและเด้งขึ้นจริง ๆ วันแรกที่ใช้ หน้าเราแพ้โลชั่นมะเฟืองมา สิวเห่อแดงเป็นปื้น 2 แก้มตรงรูขุมขนข้างจมูก ตบเจ้าตัวนี้เข้าไปแล้วนอน ตื่นขึ้นมา สิวดีขึ้นเลย ไม่ดูแดงเห่อเหมือนเมื่อคืน ไปล้างหน้าก็หน้านุ้ม นุ่มได้ใจ
แล้วอีกสิ่งนึงที่ทำให้หน้าเราดีขึ้นก็คือ มันทำให้แป้งติดหน้าเรามากขึ้น คือเราเป็นคนหน้ามันมากกกก เจ้าสิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้หน้าเรามันลดลง แต่พอน้ำมันออกมาแล้วเราซับหน้า แป้งยังติดหน้าเราอยู่ ทุกทีน่ะเหรอ พอน้ำมันออกมา เอาทิชชู่ซับหน้า แป้งหลุดออกเกือบหมดแล้ว
แล้วเราเพิ่งค้นพบข้อดีอีกอย่างนึงหลังจากใช้มันมาติดต่อกันเป็นอาทิตย์ คือเราใช้ฮาดะตอนระหว่างที่เรามีสิวพอดี พอใช้สิวก็ไม่ได้เห่อมากขึ้น แต่เราสามารถใช้ยาแต้มสิวแล้วผิวบริเวณที่โดนยาแต้มสิวไม่แดงเป็นวงเหมือนแต่ก่อน คือเรารู้สึกว่าหน้าเรา sensitive ขึ้นตั้งแต่เราใช้ SK II เมื่อหลายปีก่อน เราไม่ได้แพ้ SK II นะ มันทำให้หน้าเราใสจริง แต่พอเวลามีสิวแล้วลองแต้มยาแก้สิวแล้วหน้าบริเวณใกล้สิวก็จะแดงเป็นวงตรงยาโดนเลย แต่ก่อนเราไม่เป็นนะ แต่พอมาใช้ SK II แล้วมันเป็น แล้วเป็นมาจนถึงทุกวันนี้เลย ทั้ง ๆ ที่ใช้ SK II หมดแล้วก็ไม่ได้ใช้ต่อ แต่พอมาใช้เจ้าฮาดะ ลาโบะตัวนี้ เราลองเอายาแต้มสิวมาลองแต้มดู เฮ้ย เช้าอีกวันมาดู ไม่แดงเป็นวงเหมือนแต่ก่อนเลย เราคงต้องใช้มันไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ 555
เพื่อนเราหลายคนบอกว่าเคยใช้ตั้งแต่มันดังมาก ๆ หลายปีก่อน ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เราก็ถามว่าแล้วนางทั้งหลายใช้ยังไง เค้าก็บอกว่าก็ตบ ๆ เข้าหน้าแป๊บนึง เราบอกว่า ที่มันไม่เห็นผลก็เพราะตบแค่แป๊บนึงนั่นแหละ เห็นโฆษณาสาวญี่ปุ่นที่เค้าใช้แล้วตบหน้ามั้ย เค้าตบจนมันฝืดติดหน้าเด้งดึ๋งระหว่างฝ่ามือและแก้มเลย เราก็ต้องตบจนมันซึมขนาดนั้นนั่นแหละถึงเห็นผล จะมาเหยาะ ๆ แล้วตบ 2-3 ครั้งให้แห้งเองก็คงจะเห็นผลหรอกนะ
ทุกวันนี้ เรามีความสุขมากเวลาได้บำรุงหน้าด้วยฮาดะ ลาโบะสีน้ำเงินตัวนี้ เราตบมันทั้งเช้าและเย็นเลย เพราะเรารอคอยเวลานี้แหละในแต่ละวัน เทออกมาเยอะประมาณนึง ซัก 4-5 หยดถ้าเทียบที่เทออกมาจากขวด แล้วค่อย ๆ นาบตบ ๆ ไปทั้งหน้าจนมันซึมเข้าไปในผิวหน้า(และมือ)จนหมดจริงๆ ค่อยหยุดตบ สรุปแล้ว เราเคยนับ เราตบหน้าตั้งแต่น้ำแฉะ ๆ จนมันซึมจนหน้าฝืดติดแก้มก็ประมาณ 200-250 ครั้งได้ ขึ้นอยู่กับว่าเทออกมาเยอะน้อยขนาดไหน
ลองกันดูนะจ๊ะ ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ตบให้มันซึม อย่าใจร้อน แล้วจะมีความสุขเวลาบำรุงเจ้าตัวนี้เหมือนเรา อิอิ
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2556 17:27:44 น. |
|
3 comments
|
Counter : 4452 Pageviews. |
|
|
|
เรากำลังมองหารีวิวโฟมยี่ห้อนี้อยู่เลยค่ะ(ฮาดะ)
พอดีช่วงนี้ได้วันหยุด แต่ก็ไม่อยากออกไปไหน
สองสามวันมานี่เลยได้ของช้อปปิ้งออนไลน์มาเยอะเลยค่ะลีลี
มีแผ่นหนัง / หนังสือ /แล้วก็พวกเครื่องสำอางค์ค่ะ
(แม้จะรู้สึกสนุกกับการเดินดูเดินจับดูเครื่องสำอางค์มากกว่าก็ตาม แต่อารมณ์ไม่อยากออกไปไหนนี่มันมีอานุภาพมากกว่าค่ะ55)
เดี๋ยวเรารอให้ของหมดลอตนี้ก่อน เราจะลองหาตัวที่ลีลีบอกมาใช้ดูบ้างนะคะ เราเคยใช้ก่อนหน้านี้แบบโฟม แล้วเรารู้สึกหน้าเราแห้งมากเลย มันมีขนาดเล็กสุดมั้ยนะต้องลองไปดูที่วัตตสันก่อน(55)
ตัวที่เราสั่งซื้อมาเป็นโฟมของนารีสค่ะ (มันไม่มีเคาน์เตอร์เนอะ เราไม่เห็นเลยอ่ะค่ะในกรุงเทพ) เราติดใจโฟมของนารีสเพราะเคยมีรุ่นน้องที่ทำงานขายอยู่ เราเคยลองใช้แล้วก็ติดใจค่ะ แบบเนื้อโฟมมันนิ่มมากเลยนะคะ (เผื่อลีลีอยากลองใช้ดูบ้าง)
เวลาเราได้ทดลองใช้พวกครีม/โฟม ประทินโฉมแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็เป็นอารมณ์ฟินของผู้หญิงเราเหมือนกันนะคะ
ปล. มุไคน่ารักมากๆค่ะ (เอ้ อันนี้ไม่เกี่ยวกัน 55)