น้ำยังไม่ท่วม แต่เกือบทำไฟไหม้บ้านเพราะคัทเอ้าท์ตอนที่อยู่คนเดียวอีกต่างหาก
มีเรื่องตื่นเต้นมาเล่าให้ฟัง ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้ต้องอยู่บ้านคนเดียว เพราะทุกคนที่ไม่ต้องไปทำงานก็อพยพไปหมดแล้ว น้องก็ work from home ได้ แต่เรายังต้องไปทำงานอยู่ตลอดเพราะสีลม สาทรมันยังไม่ท่วม
แล้วทุกครั้งที่เราออกจากบ้านตอนเช้า เราก็สับคัทเอ้าท์ตัวใหญ่ แทนที่จะปิดเบรกเกอร์ตัวเล็กที่คุมทั้งบ้าน 4-5 ตัว รูปคล้าย ๆ แบบนี้ แต่ไม่เหมือนหรอกนะ
ไอ้ตัวใหญ่มันคล้าย ๆ แบบนี้ ที่มันต้องใช้แรงดันเยอะ ๆ หน่อยน่ะ
แล้วตอนกลับบ้านก็ขึ้นไปสับคัทเอ้าท์ตัวใหญ่ดันขึ้นสุดเอื้อมพอดี
แล้วทีนี้ หลังจากเราสับคัทเอาท์ใหญ่ให้มันทำงานไปซัก 2-3 ชั่วโมง ก่อนไปอาบน้ำ เราได้ยินเสียงอืออออ... ตอนนั้นก็คิดว่ามันเสียงปลวก สงสัยปลวกจะกินตู้ไฟตรงมันเป็นไม้มั้ง ก็ไม่รู้จะทำยังไง เดี๋ยวป๊ากับม้ากลับมาค่อยจัดการแล้วกัน แล้วก็เข้าไปอาบน้ำ
อาบน้ำได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไฟดับพรึ่บ แม่จ้าวววว
หลอนมากกกก
คิดดูสิ
อาบน้ำอยู่ อยู่คนเดียวตอน 2 ทุ่ม ไฟดับ มืดทั้งบ้าน เงียบสนิท มองไม่เห็นอะไรเลย
อารมณ์หนังผีเลย แม่ง ทำไมต้องมาดับตอนกรูอยู่คนเดียวแล้วกำลังอาบน้ำตอนกลางคืนด้วยฟระ จิตนี่หล่นวูบแบบรู้สึกได้เลยจริง ๆ
สิ่งที่ทำอย่างแรกหลังจากจิตตกก็คือ ค่อย ๆ เก็บมันขึ้นมา แล้วตั้งสติ มะกี๊วางผ้าเช็ดตัวไว้ตรงไหน วางแว่นตาไว้ตรงไหน
ก็ใส่แว่น ห่อผ้าเช็ดตัว แล้วค่อย ๆ เดินไปเอาไฟฉาย ส่องบ้านอื่นว่าดับเหมือนกันรึเปล่า
ปรากฎว่าไม่ดับแฮะ เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเรา โจรมันมาสับคัทเอ้าท์ตูเปล่าวะ แล้วถ้าเจอมันจะทำไงวะเนี่ย ยืนโป๊ห่มผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอยู่เนี่ย
เอาไฟฉายส่องไปรอบแล้วพร้อมกับเงี่ยหูฟังเสียงการเดินภายในบ้าน เงียบสงัด แสดงว่าคงไม่มีใครมาสับแล้วล่ะ
ก็เอาเก้าอี้ต่อตัวปีนขึ้นไปดูคัทเอ้าท์ใหญ่ ก็สับลงมาแล้วดันขึ้นไปใหม่ เฮ้ยยยยย มันมีประกายไฟว่ะ
ไฟก็ยังไม่ติด ไม่ได้การละ เริ่มกลัวตาย
เพราะตอนนี้ห่มผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เผื่อไฟดูดกลายเป็นศพ ศพแม่งไม่สวยเลยนะ ศพเปลือยอีกต่างหาก เดี๋ยวคนนึกว่าโดนข่มขืนหมกบ้าน แทนที่จะเป็นไฟช็อตตาย
ยังไงใส่เสื้อผ้าให้มันมิดชิดก่อนดีกว่า เวลาคนมาเก็บศพจะได้ไม่สมเพศเรามาก หรือเกิดอะไรจะได้วิ่งได้ทัน
ก็ค่อย ๆ ไปแต่งตัวให้มิดชิด แล้วลองปีนขึ้นไปดันคัทเอ้าท์ใหญ่อีกรอบ เฮ้ออ ไฟติดซะที ดีใจ รอดตาย
แล้วก็กลับไปอาบน้ำต่อ เปิดแอร์นอน
ตื่นเช้ามาก็ไปอาบน้ำสระผม แล้วมาเสียบไดร์เป่าผม เป่าได้ไม่ถึงนาที
ไฟดับพรึ่บอีกรอบ จิตก็ตกอีกรอบ แต่ตกน้อยกว่าเมื่อคืน เพราะมันเช้าแล้วแต่มันยังไม่สว่างหรอกตอนตี 5 ครึ่งเนี่ย เลยปีนไปดันขึ้นใหม่อีกรอบ
แล้วกะว่าวันนี้ไม่สับลงละ เพราะยังไงเราก็อยู่บ้านไป ๆ มา ๆ เช้าเย็น น้ำก็ยังมาไม่ถึง แล้วเดี๋ยวนี้น้ำมาช้ามาก
ตอนไปทำงานเลยไปเล่าเรื่องนี้ให้พี่วิศวะไฟฟ้าฟัง เค้าบอกว่าอันตรายมากเลยรู้ตัวป่ะ
เพราะตอนไฟดับครั้งแรกที่มันมีเสียงเหมือนปลวกนั่นน่ะ มันคือเสียงกระแสไฟที่เราดันคัทเอ้ท์ตัวใหญ่ขึ้นไปไม่สุด อาจเป็นเพราะเวลาดันขึ้น มันสุดเอื้อมเขย่งเราพอดี พอเห็นไฟมันติดเลยไม่ได้ใส่ใจดันมันให้แนบสนิทกัน
แล้วพอดันรอบที่ 2 ก็ไม่สนิทอีกแต่ยังดีกว่ารอบแรก กว่ามันจะดับอีกรอบมันเลยใช้เวลา แต่มันคงร้อนจัดแล้วมันเลยตัดตัวเอง เพราะเราเปิดแอร์ทั้งคืนมันก็คงทนได้ แต่พอเราเปิดไดร์เป่าผมซึ่งมันก็กินไฟพอ ๆ กับแอร์ มันก็เลยร้อนจัดจนรับไม่ไหว มันก็เลยตัดตัวเองออกมาทำให้ไฟดับรอบ 2
แล้วจริง ๆ เวลาไฟดับเนี่ย ถ้าจะสับคัทเอาท์อีกรอบ เราควรจะ reset มันด้วยการดึงมันลงมาให้สุด แล้วค่อยดันมันขึ้นไปใหม่ด้วย ไม่ใช่พอมันไม่สทิทกันก็ดันมันขึ้นไปใหม่
อ้าว แล้วทำไงเนี่ย เมื่อเช้าก็ดันโดยที่ไม่ได้ทำการ reset ด้วย แล้วเช้านี้ก็ไม่ได้สับมันลงด้วย เพราะคิดว่าไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไร ตู้เย็นก็ปิดตายเสมือนพร้อมน้ำท่วม เพราะตอนนี้ก็ใช้ชีวิตเหมือนน้ำท่วมข้างล่าง ไม่มีครัว อุดห้องน้ำและซิงค์ด้านล่างหมด
พี่เค้าก็บอกว่างั้นคงไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอก เพราะขนาดเมื่อเช้ามันร้อนจัดมันยังตัดตัวเองเลย แสดงว่ามันยังใช้การได้
เพราะถ้ามันใช้การไม่ได้เนี่ย พอมันร้อนจัด ๆ มันก็จะไหม้แล้วก็ลามไหม้บ้านอย่างที่เห็นในข่าวบ่อย ๆ นั่นแหละ ว่าไฟไหม้เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร
ก็คิดนะ ว่าถ้ามันไหม้จริง เราก็คงไม่รู้ตัวหรอก หรือกว่าจะรู้ตัวมันคงนานเลย เพราะก็นอนในห้องนอนเย็น ๆ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แถมอยู่คนเดียวด้วย สติคงหลุด ทำไรไม่ถูกเลยทีเดียว
โอย คุณพระ คุณเจ้าคุ้มครอง คิดว่ายังหลอนและกลัวอยู่เลย
คราวนี้เลยไม่สับคัทเอ้าท์ตัวใหญ่ที่มันต้องใช้แรงดันเยอะ ๆ แล้ว อาศัยปิดเบรกเกอร์เหมือนเบรอเกอร์แอร์ตัวเล็ก ๆ ประมาณนี้ให้หมดแล้วค่อยออกจากบ้านก็พอ
หูย เล่าไป ยังขนลุกอยู่เลย
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2554 9:21:42 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2601 Pageviews. |
|
|
|
โชคดีแล้วค่ะที่ปลอดภัย