ไปสัมภาษณ์ 3 งานในวันเดียว หลากหลายอารมณ์ม้ากค่ะ
ว่าจะกลับมาเล่าตั้งแต่กลับมาแล้ว
แต่เหนื่อยมาก + suffer มาก + เครียดมาก
แล้วเล่าประมาณ 7 รอบได้
ใครโทรมาวันนั้นโดนกรูใส่หมด ไม่ว่าเมิงจะอยากฟังหรือไม่ก็ตาม
รอบนึงเล่าซะละเอียดไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
เพราะเหตุการณ์มันผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ
แต่กว่าจะเอามาเขียนก็จำไม่ค่อยได้แล้ว แหะ ๆ
เพราะมันผ่านมาร่วม 2 อาทิตย์แล้วนั่นเอง
จากเรื่องเล่าคราวนี้แล้วว่าเหมือนจะโดนเลย์ออฟกลาย ๆ
คือให้เขียนใบสมัครใหม่ สอบสัมภาษณ์ใหม่
แล้วด้วยความที่ไม่อยากแข่งกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในออฟฟิศเดียวกัน
บวกกับขี้เกียจเขียนใบสมัคร
เพราะว่าใบสมัครต้องเขียนเยอะมาก
เพราะเป็น Competency based job application and interview
แล้วแต่ละ Competency ต้องเขียนประมาณ 200 words
เวลาเขียนก็ต้องมี format ด้วยนะ
คือก็บอกว่า situation เป็นยังไง
target เราคือเมื่อไหร่
แล้ว action เราเป็นยังไง
สุดท้าย result ออกมาเป็นยังไง
มี 5 Competencies ก็ 1,000 words เข้าไปแล้ว
แถมยังต้องเขียน general Competencies อีก 4-5 Competencies
ก็อีก 1,000 words
รวม ๆ ต้องเขียนประมาณ 2,000 words
แล้วเราเป็นคนเขียนไม่เก่งเลย ไม่รู้จะเริ่มยังไง
เรียบเรียงให้สละสลวยเป็นทางการก็ไม่เป็น
เวลาตอบ email ก็จะตอบแบบสั้น ห้วน ๆ เพราะเขียนอะไรยาว ๆ อธิบายยาว ๆ ไม่เป็นอ่ะ
แล้วอีกอย่าง
สัมภาษณ์แบบ internal เนี่ย
เราไม่สามารถตอแหลได้เลย
เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไรมาบ้าง มี skill แค่ไหน
อย่ากระนั้นเลย
หว่านใบสมัครอย่างนอกง่ายกว่านะ
แค่ส่ง resume กับรูปแล้วก็เขียน cover letter เท่านั้น
แล้วมันก็ไม่มีกฎตายตัวด้วยว่าต้องเขียนแบบไหน
ก็ก๊อป ๆ ที่เค้ามีตัวอย่างจากในเน็ท แล้ว edit ให้มันเข้ากับเรา
ทำรอบเดียว ส่งได้ 100 บริษัท
ง่ายจะตาย
แล้วอีกอย่าง
เราค่อนข้างตอแหลเก่งเวลาสัมภาษณ์งานนะ
แบบว่าสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษหมดนี่ไม่กลัวเลย
ตอบคล่องปรื๋อ ผ่านตลอด ดิ้นได้ตลอดเวลา
สามารถพูดอะไรก็ได้ เพราะเค้าไม่รู้หรอกว่าเราทำอะไร ทำแบบนั้นจริงรึเปล่าเนอะ
วันนั้นเลยลางานไปสัมภาษณ์งาน
บอกกับเจ้านายตามตรงแบบนี้เลย
เพราะตอนนี้ใคร ๆ ก็ต่างดิ้นรนหางานใหม่กันทั้งนั้น
ถึงไม่บอก เค้าก็รู้ว่าต้องไปสัมภาษณ์งานแน่นอนเลยไม่อยากโกหก
เราก็ตั้งเป้าไว้ 5 ที่
เป็นบริษัท 3 ที่
recrui 2 ที่ แต่ไปก็ได้ไม่ไปก็ได้ เพราะไปทำข้อสอบกับสัมภาณ์กินเวลาเยอะ
แล้วก็หาเวลาตรงไหนที่เสร็จเร็วไปโรงพยาบาลด้วย เพราะเมื่อวานถ่ายเป็นเลือดสด ๆ ทั้งเช้าทั้งเย็นเลย
ตัวก็ซีดอยู่แล้ว ก็ซีดได้อีกน่ะนะ
เราก็เริ่มจากที่แรกเลย
เป็นบริษัทเล็ก ๆ มีคนทำงานประมาณ 10 กว่าคนได้
มันไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้าอ่ะ
ต้องนั่งมอร์ไซด์เข้าไปไกลด้วย ผ่านถนนตั้งหลายเส้น
แล้วขากลับก็ลำบาก เพราะมันเป็นวันเวย์ ไม่มีรถกลับเลย
ไปถึงนึกว่าจะสัมภาษณ์เลย เพราะเค้าบอกว่าประมาณชั่วโมงนึง
แต่เค้าให้กรอกใบสมัคร + ทำ test เป็น essay ภาษาอังกฤษทุกหน้า ประมาณปึกนึง เกือบ 10 หน้าได้
แล้วเค้าบอกว่าเค้าจะไม่สัมภาษณ์วันนี้นะ
ให้เราทำชุดนี้ให้เสร็จก่อน แล้วดูว่าเรามี personality ยังไง
แล้วค่อยจัดการสัมภาษณ์ให้ตรงตาม personality ของเรา
ได้ไอ้ปึกนั้นมาก็ลองเปิด ๆ ดู
อุแม่เจ้า
จะเอาอะไรกะกูนักหนาวะ
อารมณ์ว่ามีโจทย์อยู่ 3-4 บรรทัดแล้วให้เขียนทั้งหน้ากระดาษโล่ง ๆ นั้นให้เต็มอ่ะ
ทั้งให้เขียนจดหมายหลายแบบ ทั้ง complain, apologize, ทวงหนี้, ฯลฯ ประมาณ 4-5 ฉบับอ่ะ
ไหนจะมี logical test อีกนะ
คล้าย ๆ กับไอ้พวก forward mail อ่ะ
ว่าควรจะย้ายสัตว์ตัวไหนก่อน ตัวไหนหลัง เพราะอะไร เพราะอะไร แล้วห้ามให้ตัวนี้อยู่กับตัวนี้ อะไรอย่างเงี้ยอ่ะ
แม่ง
เคยได้เมลไอ้กบอ่ะ ให้ย้ายกบ กระโดดได้ทีละช่อง ห้ามกระโดดกลับ เงื่อนไขบ้าบอคอแตก
แค่ไอ้มาเปิดอ่านกติกา เรายังลบทิ้งเล้ย
ประสาอะไรกับต้องมานั่งทำเพื่อสมัครงานวะ
ยัง
ยังไม่หมด
ข้างหลังอีก 2-3 หน้าเป็น attitude test
เป็น choice อีกเป็น 100 ร้อย
ฮ่วย
กูไปสมัครบริษัทข้ามชาติ มีพนักงานเป็นแสนคนทั่วโลกยังไม่ต้องมานั่งทำ test ที่ใช้สมองเยอะขนาดนี้เลย
ประเมินแล้วคงใช้เวลาอย่างเร็วก็ครึ่งวัน
อย่างช้าคงทั้งวัน
(ถ้ากรูนั่งทำ test นี่ กรูเอาเวลาไปเขียนใบสมัครที่เดิมดีกว่า)
แล้วไม่มีสมองไปทำทั้งหมดนี่ด้วย
เลยไม่ทำเลย
กลัวโชว์โง่ด้วย
เลยบอกไปว่าไม่ทำ ใบสมัครงานก็ไม่เขียนแม่งเลย เสียเวลา
เพระให้มาทำคงไม่มาแล้ว
แล้วถึงได้งานก็คงไม่เอา เพราะเค่ามอร์ไซด์เข้า ออก ก็เกือบ 100 บาทแล้ว
ยังไม่รวมค่ารถไฟฟ้านะเนี่ย
เขียนไปเขียนมาชักจะยาว
คนอ่านคงเหนื่อยกันแล้ว
งั้น เดี๋ยวที่ ๆ 2 กับ 3 ค่อยไปเขียนรอบหน้าแล้วกัน อิอิ
| Create Date : 18 มกราคม 2552 |
| Last Update : 18 มกราคม 2552 14:08:33 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 1668 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
เดี๋ยวมาอ่าน ที่ 2 กับ 3 นะคะ