Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
การที่จะบอกพวกผู้ชายในออฟฟิศให้รักษาความสะอาดเนี่ย ไม่คนบอกเหนื่อยที่จะพูด คนฟังก็เหนื่อยที่จะฟังกันไปข้างนึงสินะ

ก็อย่างที่จั่วหัวไว้นั่นแหละ
คือที่ออฟฟิศเล็กแต่ละแผนกของเราไม่มีแม่บ้าน
จะมีจ้างคนมาทำความสะอาดมาอาทิตย์ละครั้ง
พี่เค้าก็แค่ปัดกวาด เช็ด ถู ล้างห้องน้ำให้ แต่ที่เหลือคือเราทำกันเอง
ไอ้ที่เหลือหลัก ๆ เนี่ยก็คือการล้างแก้ว ล้างจานของส่วนตัวของตัวเองที่ใช้กันทุกวัน
เหตุมันเกิดตรงนี้คือ
เราไปหาพี่ผู้หญิงที่สนิทกันอีกแผนกนึง
แล้วแผนกนี้ผู้ชายเยอะ (แอะ ไม่ได้ไปเพราะผู้ชายนะ เพราะแต่ละคนแต่งงานแล้วทั้งน้าน)
ไปทีไรก็เม้า ๆ อยู่ตรงโต๊ะพี่ผู้หญิงที่สนิท
แล้วมีเช้าวันนึง พี่เค้าดันไปอยู่ในครัวก็เลยไปคุยเล่นในครัว
แล้วทีนี้
มีพี่ผู้ชายคนนึงเค้าเอากับข้าวมาอุ่นในครัว
เป็นแกงอะไรซักอย่าง
เค้าก็เทใส่ชาม แล้วก็เอาเข้าไมโครเวฟเลยโดยไม่ได้ครอบอะไรทั้งนั้น
ผ่านไปไม่กี่วินาที
เป็นยังไงล่ะทีนี้
มันก็เดือนปุด ๆ แกงก็กระจายเต็มไมโครเวฟน่ะสิ






แล้วคิดเหรอว่าผู้หญิงปากไวและรักความสะอาดอย่างสุด ๆ อย่างเราจะอยู่เฉย
เราก็เริ่มเลยว่าทำไมพี่เอาแกงเข้าไปอุ่นแล้วไม่เอาฝาครอบเข้าไปครอบล่ะ
ทำงี้แกงมันก็เลอะเทอะเต็มไมโครเวฟสิ
คราวนี้พี่แกก็ปิดเวฟ แล้วเอาฝาที่เข้าไปครอบแล้วอุ่นต่อ
คราวนี้แกงมันก็ปุด ๆ กระจายเต็มฝาครอบถูกมั้ย

พออุ่นเสร็จ พี่แก็เอาชามออกมาเดินไปกินที่โต๊ะทำงานตัวเองซะอย่างงั้น
เราก็บอกว่าเฮ้ย พี่คะ
แล้วไม่คิดจะล้างไอ้ฝาครอบแล้วเช็ดไมโครเวฟที่มันเปื้อนแกงของพี่หน่อยเหรอคะ
แล้วคนที่เค้ามาใช้ต่อทำไงอ่ะคะ





พี่แกก็เริ่มไม่พอใจถามกลับมาว่า
ออฟฟิศตัวเองเหรอไง
แต่ก็ยังดีที่พี่เค้าเอาฝาครอบไปล้างตามที่เราบอกนะ
เพราะเราก็พูดแบบสงสัย ไม่ได้วีน ไม่ได้เหวี่ยง แนวขำ ๆ แล้วก็สุภาพ
เพราะรู้สึกว่ามันเป็น common sense จิตสำนึกของคนที่ใช้ของร่วมกันพึงมีน่ะนะ
แล้วพี่เค้าก็กำลังถือกับข้าวออกไปจากครัว

แล้วเราก็ถามต่อว่า
อ้าว พี่คะ
แล้วไมโครเวฟที่เปื้อนแกงพี่ล่ะคะ ไม่เช็ดเหรอคะ
พี่ผู้หญิงที่อยู่กับเราแกก็ขำนะ
คงเห็นเราไปเจ้ากี้เจ้าการพี่ที่ออฟฟิศเค้า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มาใช้ครัวนี้
พี่เค้าก็เลยต้องทำตาม
แต่ขอโทษ พี่แกใช้ผ้าแห้งเข้าไปเช็ด
คิดได้ไงเนี่ย อยู่บ้านเมียไม่สอนเหรอไงวะ หรือทำแบบนี้ตลอดให้เมียตามล้างตามเช็ดตลอด (อันนี้แอบคิดในใจ)
ก็บอกพี่เค้าว่า พี่ต้องชุบน้ำสิคะ
ไม่งั้นแกงพี่จะออกได้งั้นยัง
พี่แกก็คงเหลืออดกับเราแล้วมั้ง แต่ก็ทำตามให้มันเสร็จ ๆ ไป
เพราะทำตามยัยน้องนี่มาหลายขั้นตอนแล้ว เหลือชั้นตอนสุดท้ายละ

พี่แกทำยังไงรู้มั้ย
เอาผ้าไปซักน้ำ บิดหมาด ๆ แล้วก็สะบัดคลี่มันลงพื้นครัว!






แล้วก็เอาไปเช็ดไมโครเวฟแล้วก็ทิ้งผ้านั่นพาดไว้ตรงซิงค์แล้วเดินถืออาหารออกไปเลย
โดยไม่รอให้เราบ่นแล้ว
แต่ แต่ แต่
ทำไมไม่มีจิตสำนึกเลยว่าพื้นครัวมันก็เต็มไปด้วยน้ำที่พี่แกสะบัดเมื่อกี๊น่ะสิ
พี่ผู้หญิงเค้าก็ทนไม่ได้ ต้องไปเอาไม้ม็อบมาถูอีกรอบ

เราที่เดือดปุด ๆ แทนพี่ผู้หญิงที่เราสนิทเลย
เหมือนเค้าทำอย่างนึง แล้วต้องให้เรามาตามล้างตามเช็ดอีกอย่างนึงน่ะ
เราก็บอกว่า ออฟฟิศนี้ไม่มีใครบอกพี่เค้าเหรอไงว่าต้องทำความสะอาดของใช้ส่วนรวมด้วย
ไม่มีจิตสำนึกกันเลยแฮะ

พี่เค้าก็บอกว่า บอกแล้ว
บอกปากเปียกปากแฉะจนเลิกบอกไปแล้ว
เพราะบอกไปก็ทำตามทีนึง อีกวันก็ทำอย่างเดิมอีก
พี่เค้าก็ต้องมาคอยเช็ดทำความสะอาดเอง
เหมือนใครทนได้ก็ไม่ต้องทำ ใครทนความสกปรกไม่ได้คนนั้นก็เป็นคนทำ
เพราะคนที่เค้าทำสกปรก เค้าอยู่ได้ไม่เดือดร้อน ใครเดือดร้อนก็ทำไปแล้วกัน
ประมาณนั้น
ยังดีนะที่ห้องน้ำในออฟฟิศแยกชาย หญิง ไม่งั้น คาดว่าพี่ชั้นต้องไปล้างห้องน้ำเช้า เย็นแน่นอน
เรานี่ฟังแล้วเซ็งเลยทีเดียว




เราเข้าใจเลยว่า
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเนี่ย
เค้าจะมีความ "หยวน ๆ" เยอะมากกว่าผู้หญิงโสดอย่างเราเยอะ
เพราะที่บ้าน สามีแต่ละคนก็มีนิสัยมักง่าย ชุ่ย ๆ สกปรก เลอะเทอะแบบนี้เหมือนกันหมด
บ้านใครรวย มีคนใช้ก็ดีไป ไม่ต้องมาอารมณ์เสีย
ส่วนบ้านใครไม่มี คนเป็นเมียก็ต้องทำใจยอมรับกันไป
เพราะคาดว่าคงมีบ่น แต่บ่นแล้วไม่ทำมากเข้า ก็เลิกบ่นแล้วทำเองท่าทางจะเสียเวลาและอารมณ์น้อยกว่า
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ใช่เฉพาะกับคนไทย
เราอ่านบทความจากเมืองนอกก็มีผู้ชายประเภทนี้เยอะแยะเต็มไปหมด
มี how to ต่าง ๆ สำหรับภรรยาในการจัดการกับสามีประเภทนี้เพียบไปหมด
และก็มีบทความเกี่ยวกับผู้ชายที่ควรจะช่วยภรรยาทำงานบ้านจนอ่านไม่ไหว
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับคู่ใคร คู่มันแล้วล่ะว่าจะจัดการกับปัญหาเรื่องงานบ้านกันยังไง
เหมือนจะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ขาดสะบั้นได้เลยทีเดียวถ้ามันสั่งสมมานานจนเลยที่จะปรับกันแล้ว







ที่ออฟฟิศเราก็มีนะ แต่เป็นเพื่อนร่วมงานฝรั่งผู้ชายที่สนิทกัน
มันก็อย่างเนี้ย ไม่เช็ด ไม่ล้างอะไรทั้งนั้น
ถ้าเป็นของส่วนตัว เราโอเคนะ
แต่จาน ชาม ช้อน ส้อมที่ใช้ร่วมกันเนี่ย
เราขยะแขยงมาก ก่อนใช้เราต้องมาล้างใหม่ ลวกใหม่กันเลยทีเดียว
เพราะพี่แกกินเสร็จ ไม่ล้างนะจ๊ะ กองไว้ตรงนั้น
แต่ก่อนลูกน้องแกที่เป็นพี่ผู้หญิงจะหยวน ๆ ล้างให้เพราะเป็นนาย
ตอนนี้ไม่มีลูกน้อง ต้องล้างเอง เห็นล้างได้สกปรกมาก คือไม่ใช้น้ำยาล้างจานด้วยนะ
ล้างก็ลวก ๆ ตามประสาผู้ชาย
อันนี้คือของส่วนรวมนะ
แต่อย่างแก้วน้ำส่วนตัวน่ะเหรอ
ไม่อยากจะเม้า
คือพี่แกขี้เกียจล้างน่ะ กินเสร็จเย็นนั้นก็เอาไปแช่ไว้ในตู้เย็น
เช้าอีกวันก็เอามากินต่อไปเรื่อย ๆ แบบนั้นน่ะ





อ้อ
พูดถึงตู้เย็น
เซ็งมากกะแกเหมือนกัน
ของพี่แกเต็มตู้เย็นไปหมด
แล้วเวลาพี่แกแช่ของ พี่แกไม่ wrap อะไรเลยนะ
ล่าสุด แช่จานส้มตำทั้งอย่างนั้นน่ะ
ไม่ห่ออะไรเลย ทั้ง ๆ ที่พวกเราก็ซื้อ M Wrap มาไว้ให้ทุกคนได้ใช้นะ ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้
แต่ด้วยความขี้เกียจไง ขี้เกียจทุกอย่าง แช่มันทั้งอย่างนั้น
กลิ่นหึ่งทั้งตู้เย็นเลย ตั้งแต่ช่องแช่แข็งข้างบนยันลิ้นชักแช่ผักล่างสุด
แล้วผลไม้ สลัด หรือช็อคโกแลตของทุกคนในออฟฟิศ กลายเป็นกลิ่นส้มตำเผ็ดมากของพี่แกหมดเลย ชุ่ยแค่ไหนคิดดูแล้วกัน
แถมอีกเรื่องในตู้เย็น
บางครั้งวันเกิดคนในออฟฟิศก็จะมีซื้อเค้กมากินใช่มั้ย
เค้าก็ตัดแบ่งกัน แล้วพี่แกก็อยากกินอีก
ก็ไปเปิดเค้กมาตัด แต่ไม่ปิดใส่กล่องหรือ wrap เก็บไว้อย่างที่พวกเราเก็บน่ะ
ใส่เค้กสด ๆ เข้าไปในตู้เย็นซะอย่างงั้น
คนอื่นก็มากินต่อไม่ได้แล้วสิ เพราะเนื้อเค้กแข็งไปหมดแล้วน่ะ





แล้วอย่างพวกขนมฟัง พัฟ หรือผลไม้ของพี่ซื้อมากินนะ
กินไม่หมดแล้วแช่แบบเนี้ย มันก็แข็งหมดอ่ะเนอะ
แล้วแย่กว่านั้นคือ พี่แกเอามากินกัดคำนึงแล้วแช่ต่อ
เราเปิดตู้เย็นออกมา ไม่สงสัยเลยว่าแอ๊ปเปิ้ลหรือขนมปังใครวะเป็นรอยกัดมากเลย
เราว่าอันนี้เป็นวัฒนธรรมฝรั่งนะ
เพราะอยู่มาทั้งออฟฟิศคนยุโรปหรือเมกัน อิพวกฝรั่งมันก็ทำเงี้ย ไม่ใช่มีดตัดออกมานะ
กัดแล้วก็แช่กลับทั้งอย่างนั้นเลย

เหมือนตอนอยู่ออฟฟิศเก่า เพื่อนร่วมงานเป็นคนอังกฤษ ผู้ชายซะ 90%
เราฝากเพื่อนซื้อช็อคโกแลตมาจากเมืองนอก
ติดชื่อไว้อย่างดี แช่ไว้ในออฟฟิศ กะว่าเย็นนี้จะเอากลับบ้าน
แล้วสุดท้าย ลืม
เช้าอีกวันมาเอา เชี้ย ฝรั่งคนไหนไม่รู้มากินช็อคโกแลตบาร์ของเราไปครั้งนึง แถมเป็นรอยฟันกัดอีกต่างหาก
คือรู้เลยว่าฝรั่งแน่นอน เพราะมันชอบช็อคโกแลตอยู่แล้ว ตอนเย็นทำงานมันคงหิวมาก
แต่จับมือใครดมไม่ได้ เพราะออฟฟิศเก่าฝรั่งเยอะมาก แถมไอ้ตู้เย็นก็อยู่ตรงดงฝรั่งอีกต่างหาก
คือถ้าคนไทยกินเนี่ย มันต้องมีหักออกมากินแน่นอน ไม่มีรอยฟันกัดแบบนี้
แล้วถ้าเป็นผลไม้ เราก็ต้องเอามีดแบ่งออกมา
แต่อิฝรั่งพวกนี้มันใช้ฟันเลยจ้า





จริง ๆ นะ ผู้ชายไม่ว่าชาติไหน ก็มักง่าย ไม่รักษาความสะอาดด้วยกันทั้งนั้น
น้อยคนมากจริง ๆ ที่จะใช้ของแล้ว เก็บล้าง เช็ดทำความสะอาดอย่างดีเข้าที่เดิม
ยกเว้นผู้ชายเนี้ยบ อย่างนายเก่าเราเป็นต้น
พี่แกแต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมไปถึงทรงผม น้ำหอม หรือแม้แต่เล็บที่ต้องไปเคลือบเงา
พี่แกรักสะอาดมาก ห้องนายจะเรียบร้อยอยู่เสมอ ไม่มีเอกสารรกหู รกตา
แก้วน้ำพี่แกก็สะอาดมาก แทบจะกินแล้วล้างทุกครั้งที่ใช้งานเลย
แล้วแทบไม่เคยกินอาหารที่โต๊ะทำงานเลย
เวลาใช้จานกินขนมส่วนรวมที่เราแบ่งไปให้แก แกกินเสร็จก็เดินเอามาล้างอย่างดี
เราว่าอยู่กับผู้ชายแบบนี้จะไม่เหนื่อย
แต่เมียอาจจะเหนื่อยแทนถ้าความเนี้ยบไม่เท่าเทียมกัน

เราว่า
การอยู่ร่วมกันกับผู้ชายในออฟฟิศแล้วให้พวกเค้ารักษาความสะอาดเนี่ย ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงเลยนะ
คือถ้าเราไม่เหนื่อยที่จะบ่นเพื่อให้เค้าแก้ไข
เค้าก็เหนื่อยที่จะฟังคำบ่นจากเราแล้วก็แก้ไขตัวเอง
ซึ่งโชคดีที่ฝรั่งออฟฟิศเราเค้าเป็นอย่างหลัง แต่ก็มีหลุดเรื่องใหม่ ๆ มาบ้าง
แต่เราจะบอกตัวเองว่าเราจะไม่เหนื่อยที่จะบ่นและกำกับให้เค้ารักษาความสะอาดของส่วนรวม
ถ้าเราไม่ยอม ก็ต้องเป็นเค้าที่ต้องยอม

ด้วยเหตุนี้ เข้าใจรึยังว่าทำไมเราถึงยังเป็นโสด
แล้วก็ยินดีที่จะโสดต่อไปถ้าจะต้องเจอผู้ชายประเภทนี้ ฮา ๆ






จริง ๆ แล้ว
เรื่องพวกนี้เป็นจิตสำนึกส่วนรวมของการอยู่ร่วมกันเลยนะ
ไม่แน่ใจว่าผู้ชายพวกนี้ไม่รู้เพราะไม่มีใครบอก หรือว่ารู้แต่ไม่ทำ
อย่างน้อยการที่เราพูดเอาไป มันทำให้คนพวกนี้รู้ว่า สิ่งที่คุณทำหรือเพิกเฉย มันไม่ถูก



Create Date : 03 สิงหาคม 2556
Last Update : 3 สิงหาคม 2556 22:02:15 น. 1 comments
Counter : 3044 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ อ่านเรื่องความสะอาด เลยขออนุญาต จขบ.แอบมาบ่นด้วยนิดนึงนะคะ ^^
(เราพักกับเพื่อนรูมเมท)
>
>>
รูมเมทเราไม่เคยล้างห้องน้ำเลยค่ะ
ถ้าเคยก็นาน น๊านนน สามสี่เดือนเธอจะลุกขึ้นมาล้างมาขัดห้องน้ำทีนึง
คือเราจะบอกว่า ทุกครั้งเราจะต้องเป็นคนทนไม่ไหวต้องขัดห้องน้ำก่อนทุกครั้งเลยค่ะ คือพอมันเป็นคราบแล้วเราทนนั่งไม่ไหว เคยคิดจะพูด แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน...เลยได้แต่แอบบ่นนี่ล่ะค่ะลีลี
บางคนอาจจะแนะนำให้บอก แต่เราก็เคยคิดจะบอกหลายครั้งนะคะ แต่พอเราขัดเสร็จ เราก็ลืม จริงๆไม่ได้หนักหนาอะไร แต่ว่าบางทีก็แอบคิดว่า จะมีสักครั้งไหมนะ ที่เค้าจะเป็นคนเริ่มขัดห้องน้ำก่อน

(เห็นลีลีเขียนเกี่ยวกับความสะอาด เลยอดบ่นด้วยไม่ได้ค่ะ )


โดย: nobuta wo produce วันที่: 4 สิงหาคม 2556 เวลา:8:55:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.