90% ของความทุกข์มาจาก...
ช่วงนี้เหนื่อย วุ่นวายใจ รุ่มร้อนจากคนที่ไม่ยอมจบ ไม่ยอมวาง ทำได้แค่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่โต้ตอบ เพราะยิ่งโต้ตอบก็คงเหมือนเอาน้ำมันสาดเข้าไปในกองไฟ ยิ่งเค้าเดือด เรายิ่งต้องพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะสงบเย็น แต่บางครั้งมันก็ทำแทบไม่ได้มาหลายวันแล้ว
จนได้มาเจอน้องคนนึงจากกระทู้นี้
แชร์ประสบการณ์เรื่องราวแย่ๆที่ได้พบเจอมาค่ะ อยากให้สาวๆห้องแป้งได้อ่านและรับรู้ด้านมืดในสังคมอีกด้านค่ะ
(จริง ๆ ห้องแป้งนี่ไม่ค่อยได้อ่านเหมือนเมื่อหลายปีก่อนละ อ่านที่ที่เป็นกระทู้แนะนำ 4-5 กระทู้ต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง)
กระทู้นี้
มีคนเข้าไปว่า จิกกัด พูดไม่ค่อยดี หรือทำให้น้องเค้าเสียความรู้สึกเยอะแยะมากมาย แต่เด็กคนนี้ซึ่งอายุห่างจากเราตั้ง 10 ปีกลับสงบนิ่ง น้อมรับ ไม่วีน ไม่เหวี่ยง ไม่ตอบโต้กลับ
แล้วยิ่งได้อ่านความเห็น 191 ที่น้องเค้าตอบกลับว่า
"และก็ขอบคุณบางคห.นะคะ ที่ให้กำลังใจ ที่หนูโดนว่าแรงๆแล้วก็ยังไม่โต้ตอบ คือจริงๆหนูก็ไม่จำเป็นต้องโต้ตอบอะไรอะค่ะ แต่ก็บ่อยนะคะเวลาโดนใครว่าแล้วมันปรี๊ดอะค่ะ แต่ก็เก็บความรู้สึกบ่อยอะค่ะ มันสนุกดีนะคะ เวลาเอาชนะใจตัวเองไม่ให้โต้ตอบกลับ เพราะคนพูดเค้าไม่ได้มายินดียินร้ายกับความรู้สึกคนฟังเลยค่ะ เอาความสะใจของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ก็เลยเฉยๆแล้วค่ะ กับคำพูดดูถูกหรืออะไรหยาบๆ"
มันจุกเลย ไม่คิดว่าเด็กอายุ 18 จะคิดได้ขนาดนี้
แล้วเราล่ะ อายุมากกว่าเค้า 10 ปี ยังวุ่นวายใจกับคนที่ไม่ยอมจบ ไม่ยอมวางกับเรา
เราต้องคิดว่าเป็เรื่องสนุกบ้างแล้วในการ "เอาชนะใจตัวเองไม่ให้โต้ตอบกลับ"
ก็เหมือนหนังสือที่เคยอ่าน หรือพรที่เคยได้รับ ว่า ขอให้เราได้ทำสิ่งที่ควรทำ ขอให้เราไม่ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ และขอให้เราแยกแยะทั้ง 2 สิ่งข้างบนออก
แต่ตอนนี้เรากำลังแยกไม่ค่อยจะออก ว่าควรทำอะไร หรือ ไม่ควรทำอะไร การกระทำบางอย่างมันอาจจะถูกใจ แต่ถูกต้องรึเปล่าก็แล้วแต่คนจะมอง
เคยอ่านหนังสือธรรมะเมื่อนานมาแล้ว เค้าบอกว่า
90% ของความทุกข์มาจากการที่เราคิดปรุงแต่ง เราควรจะคิดอยู่กับตัวเราเอง อย่าหลุดไปคิดเรื่องคนอื่น
เมื่อฟังธรรม ก็ควรคิดว่า จะนำไปใช้อย่างไร ถ้ายังทุกข์อยู่ ให้คิดถึงความตาย ถ้าเราเหลือเวลาไม่มาก จะมีเรื่องอะไรสำคัญอีกเล่า ทุกเรื่องจึงเหมือนสายลมพัดผ่าน ผ่านมาก็ผ่านไป หยุดคิด ก็หยุดทุกข์
พูดเรื่อง 90% แล้วนึกถึงประโยคของพี่เอ๋ นิ้วกลมใน facebook ที่บอกว่า
90% ของสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตน่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกจดจำ มีเพียง 10% (หรือน้อยกว่านั้น) เท่านั้นที่ถูกจดจำเอาไว้ แต่ 10% ที่จดจำได้มีผลต่อชีวิตของเรามากกว่า 90% ที่เหลือมากมายนัก
ขอบคุณความเห็นของน้องเค้า ที่มาปลุกให้เราตื่นจากความวุ่นวายใจ ให้เรานึกถึงธรรมะ
แค่หยุดคิด ก็หยุดทุกข์ ให้เค้าเต้นไป ถ้าเต้นไปแล้วเรานิ่ง ไม่โต้กลับ เดี๋ยวเค้าก็คงหยุดไปเอง แค่มีคนไม่กี่คนรู้ว่าจริง ๆ แล้วความจริงมันเป็นอย่างไรก็พอ
ถ้าเราตายวันนี้ เรื่องนี้มันขี้ผงมาก เราคงมองข้ามมันไป
ต่อไปนี้เราจะเล่นเกมส์เอาชนะใจตัวเอง (ไม่ให้ตอบโต้กลับ)
ขอให้ตัวเองมีความอดทนอดกลั้นรับวาเลนไทน์ และขอตอบแทนความอดทนอดกลั้นนี้ด้วยการจะพาตัวเองไปดู NORWEGIAN WOOD คนเดียวที่ลิโด้ 17 กุมภานี้ดีกว่า
แค่อ่านคำโปรยหนังจากลิโด้ที่บอกว่า
NORWEGIAN WOOD คือหนังรัก ที่สร้างมาจากหนังสือที่เศร้าที่สุดของ ฮารุกิ มูราคามิ นักเขียนที่เขียนเรื่องราวกัดกินหัวใจที่สุดของญี่ปุ่น และนอกจากยอดขายที่ถือว่าสูงที่สุด หนังสือเล่มนี้ยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ แล้วถึง 40 ภาษาทั่วโลก
กับประโยคที่ว่า
ระหว่าง ...รักแล้วหัวใจสลาย กับ หัวใจสลายเพราะไม่รัก คุณเลือกแบบไหน ?
NORWEGIAN WOOD แล้วเราจะได้เจอกัน
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2554 20:54:22 น. |
|
10 comments
|
Counter : 3219 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ