Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
14 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
90% ของความทุกข์มาจาก...


ช่วงนี้เหนื่อย วุ่นวายใจ รุ่มร้อนจากคนที่ไม่ยอมจบ ไม่ยอมวาง
ทำได้แค่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่โต้ตอบ
เพราะยิ่งโต้ตอบก็คงเหมือนเอาน้ำมันสาดเข้าไปในกองไฟ
ยิ่งเค้าเดือด เรายิ่งต้องพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะสงบเย็น
แต่บางครั้งมันก็ทำแทบไม่ได้มาหลายวันแล้ว

จนได้มาเจอน้องคนนึงจากกระทู้นี้

แชร์ประสบการณ์เรื่องราวแย่ๆที่ได้พบเจอมาค่ะ อยากให้สาวๆห้องแป้งได้อ่านและรับรู้ด้านมืดในสังคมอีกด้านค่ะ

(จริง ๆ ห้องแป้งนี่ไม่ค่อยได้อ่านเหมือนเมื่อหลายปีก่อนละ อ่านที่ที่เป็นกระทู้แนะนำ 4-5 กระทู้ต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง)

กระทู้นี้

มีคนเข้าไปว่า จิกกัด พูดไม่ค่อยดี หรือทำให้น้องเค้าเสียความรู้สึกเยอะแยะมากมาย
แต่เด็กคนนี้ซึ่งอายุห่างจากเราตั้ง 10 ปีกลับสงบนิ่ง
น้อมรับ ไม่วีน ไม่เหวี่ยง ไม่ตอบโต้กลับ

แล้วยิ่งได้อ่านความเห็น 191 ที่น้องเค้าตอบกลับว่า

"และก็ขอบคุณบางคห.นะคะ ที่ให้กำลังใจ ที่หนูโดนว่าแรงๆแล้วก็ยังไม่โต้ตอบ
คือจริงๆหนูก็ไม่จำเป็นต้องโต้ตอบอะไรอะค่ะ แต่ก็บ่อยนะคะเวลาโดนใครว่าแล้วมันปรี๊ดอะค่ะ
แต่ก็เก็บความรู้สึกบ่อยอะค่ะ มันสนุกดีนะคะ เวลาเอาชนะใจตัวเองไม่ให้โต้ตอบกลับ
เพราะคนพูดเค้าไม่ได้มายินดียินร้ายกับความรู้สึกคนฟังเลยค่ะ เอาความสะใจของตัวเองเป็นส่วนใหญ่
ตอนนี้ก็เลยเฉยๆแล้วค่ะ กับคำพูดดูถูกหรืออะไรหยาบๆ"


มันจุกเลย
ไม่คิดว่าเด็กอายุ 18 จะคิดได้ขนาดนี้

แล้วเราล่ะ
อายุมากกว่าเค้า 10 ปี ยังวุ่นวายใจกับคนที่ไม่ยอมจบ ไม่ยอมวางกับเรา

เราต้องคิดว่าเป็เรื่องสนุกบ้างแล้วในการ "เอาชนะใจตัวเองไม่ให้โต้ตอบกลับ"

ก็เหมือนหนังสือที่เคยอ่าน
หรือพรที่เคยได้รับ
ว่า
ขอให้เราได้ทำสิ่งที่ควรทำ
ขอให้เราไม่ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ
และขอให้เราแยกแยะทั้ง 2 สิ่งข้างบนออก

แต่ตอนนี้เรากำลังแยกไม่ค่อยจะออก ว่าควรทำอะไร หรือ ไม่ควรทำอะไร
การกระทำบางอย่างมันอาจจะถูกใจ แต่ถูกต้องรึเปล่าก็แล้วแต่คนจะมอง


เคยอ่านหนังสือธรรมะเมื่อนานมาแล้ว
เค้าบอกว่า

90% ของความทุกข์มาจากการที่เราคิดปรุงแต่ง
เราควรจะคิดอยู่กับตัวเราเอง
อย่าหลุดไปคิดเรื่องคนอื่น

เมื่อฟังธรรม ก็ควรคิดว่า จะนำไปใช้อย่างไร
ถ้ายังทุกข์อยู่
ให้คิดถึงความตาย
ถ้าเราเหลือเวลาไม่มาก
จะมีเรื่องอะไรสำคัญอีกเล่า
ทุกเรื่องจึงเหมือนสายลมพัดผ่าน
ผ่านมาก็ผ่านไป
หยุดคิด ก็หยุดทุกข์

พูดเรื่อง 90% แล้วนึกถึงประโยคของพี่เอ๋ นิ้วกลมใน facebook ที่บอกว่า

90% ของสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตน่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกจดจำ มีเพียง 10% (หรือน้อยกว่านั้น) เท่านั้นที่ถูกจดจำเอาไว้ แต่ 10% ที่จดจำได้มีผลต่อชีวิตของเรามากกว่า 90% ที่เหลือมากมายนัก

ขอบคุณความเห็นของน้องเค้า ที่มาปลุกให้เราตื่นจากความวุ่นวายใจ ให้เรานึกถึงธรรมะ

แค่หยุดคิด ก็หยุดทุกข์
ให้เค้าเต้นไป ถ้าเต้นไปแล้วเรานิ่ง ไม่โต้กลับ
เดี๋ยวเค้าก็คงหยุดไปเอง
แค่มีคนไม่กี่คนรู้ว่าจริง ๆ แล้วความจริงมันเป็นอย่างไรก็พอ

ถ้าเราตายวันนี้
เรื่องนี้มันขี้ผงมาก เราคงมองข้ามมันไป

ต่อไปนี้เราจะเล่นเกมส์เอาชนะใจตัวเอง (ไม่ให้ตอบโต้กลับ)

ขอให้ตัวเองมีความอดทนอดกลั้นรับวาเลนไทน์
และขอตอบแทนความอดทนอดกลั้นนี้ด้วยการจะพาตัวเองไปดู NORWEGIAN WOOD คนเดียวที่ลิโด้ 17 กุมภานี้ดีกว่า




แค่อ่านคำโปรยหนังจากลิโด้ที่บอกว่า

NORWEGIAN WOOD คือหนังรัก ที่สร้างมาจากหนังสือที่เศร้าที่สุดของ ฮารุกิ มูราคามิ นักเขียนที่เขียนเรื่องราวกัดกินหัวใจที่สุดของญี่ปุ่น และนอกจากยอดขายที่ถือว่าสูงที่สุด หนังสือเล่มนี้ยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ แล้วถึง 40 ภาษาทั่วโลก

กับประโยคที่ว่า

ระหว่าง ...รักแล้วหัวใจสลาย กับ หัวใจสลายเพราะไม่รัก คุณเลือกแบบไหน ?

NORWEGIAN WOOD แล้วเราจะได้เจอกัน



Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2554 20:54:22 น. 10 comments
Counter : 3219 Pageviews.

 
บล็อกสวยจังค่ะ
ขอบคุณค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: Love At First Click วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:42:38 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วได้เตือนสติระงับใจได้บ้าง


โดย: ใบย่านาง IP: 223.205.162.97 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:29:30 น.  

 
คิดมากก็ทุกข์มาก...ไม่คิดเลยก็ไม่มีทุกข์..
เป็นกำลังใจครับ.


โดย: naray14 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:54:33 น.  

 
happy valentineDay..na
good story again and again.. ^ ^


โดย: r ri IP: 180.183.203.39 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:17:35 น.  

 
สวีดัด สวัสดี ยัยลีลี
รุสึกดี เจอคอมเมนต์ เธอมาเขียน
เรานั้นได้ แวะย่อง มาวนเวียน
เพิ่งโผล่เศียร เพราะเวลา ไม่อำนวย

เจอเรื่องทุกข์ อยู่กับทุกข์ ให้เห็นทุกข์
เจอแต่สุข ชีวิตคง ไม่สดสวย
เจอทุกข์บ้าง สุขเศร้า เบื่อเหงาด้วย
สติช่วย ตัวรุทัน ปัจจุบันไง

...

เห็นที่เธอเขียน ทำให้นึกถึงต่อยอดไปบทความนี้

//www.budnet.org/article/?p=571

ขอบคุณด้วยสำหรับความคิดถึงและคำชม
เราว่า ที่น่ารัก เพราะใจเธอมองอย่างงดงาม
มีจินตนาการบรรเจิดไง

วันพระใหญ่อย่างนี้ ไปทำบุญที่ไหนไหม
ถ้าไม่หรือไป ใช้เวลากับครอบครัว พ่อแม่ให้เยอะที่สุดนะ
โอกาส โชคดี ที่ยังอยู่ในมือนั่นล่ะ เธอเห็นอยู่แล้วนี่่นะ




โดย: เลื้อย วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:23:49 น.  

 
สวัสดี ยัยลีลี

ขอบคุณมากนะ และขออนุโมทนาบุญด้วยเน้อ


เด่วไว้วันไหน ได้บทคำ ธรรมะดีๆ จะมาบอกไว้อีกนะ

ขอให้อิ่มบุญ มีสุข ในวันพระใหญ่
และรักษาใจให้สงบ ทันทุกข์ ทุกวันนะ



โดย: เลื้อย วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:17:54 น.  

 
อยากคุยกับเจ้าของบล็อกจังคะ
เราเองก็ทุกข์มาก รักสามเศร้า เราสามคน
หนีแล้ว หยุดแล้วก็ไม่จบ
ทามมายคนต้องตัดสินว่าคนมาทีหลังแบบเราผิด
โดยม่ายรู้เรื่องทั้งหมด


โดย: จิ๊กกี้ IP: 111.84.41.78 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:56:26 น.  

 
ตลอดเวลาที่อ่านเอนทรีนี้ อยากบอกว่า มองหาปุ่ม "Like" หรือ "กดโหวต" หรือ "ให้กิ๊ฟ" แต่มันไม่มี ทำมายยยยย

Lilac อยากให้คนอื่นได้มาอ่านนะ เพราะมีหลายข้อความที่ชอบและรู้สึกว่าเป็นประโยชน์ และเชื่อจริงๆ ว่าเรื่องเบสิคแบบนี้ เป็นปัญหาที่เกือบทุกคนเคยพบเจอ

เรื่องการแยกแยะสิ่งที่ควรและไม่ควรทำก็ยาก แต่แยกเสร็จแล้วการบังคับใจให้ทำนั่นยากกว่า Lilac ก็อยากทำได้เหมือนที่ลีลีว่าเหมือนกัน

กระทู้ของน้องคนนั้น เราก็ได้อ่านนะ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ แล้วเพลียใจ รู้สึกว่า บางความเห็นก็บาดใจผู้หญิงแสนเซนซิทิฟคนนี้ที่ไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเค้าเลย และนี่มั้งที่เป็นเหตุผลให้ Lilac ยังคงแอบซุ่มอยู่แต่ในบล๊อก และแอบไปอ่านที่โต๊ะแป้งเงียบๆ อย่างไม่มีตัวตน ใครจะว่า Lilac อ่อนไหวเกินไป ไม่เป็นผู้ใหญ่ .. ก็ใช่น่ะสิ เป็นแบบนั้นเลย ก็เลยคิดว่า ไม่จำเป็นต้องสร้างความเสี่ยงให้เจ็บตัวนี่นา เพราะ Lilac เป็นพวกไม่โต้ตอบ ซึ่งไม่ใช่ว่าคิดได้ ทำใจได้ใดๆ เลย แต่เป็นพวกเกรงใจทุกคนบนโลก ก็เก็บไว้อกแตกตายคนเดียว เอิ๊กกกกก

ปล. อยากเป็น 10% ของความทรงจำที่ดีสำหรับใครสักคน (อึ๋ยยยย เค้าเปล่าน้ำเน่านะ )

ปล2 สิว เป็นเรื่องธรรมชาติ (ที่ไม่ควรจะมีในธรรมชาติเลยเนอะ) ว่าแล้วก็ไปบีบสิวดีกว่า


โดย: copo de nieve วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:58:24 น.  

 
คุณเจ้าของblogค่ะ
เราเพิ่งเข้ามาอ่าน blog คุณวันแรก
เราชอบ blog คุณจังเลย
เราได้อ่าน เรื่องบอกผู้หญิงกระโปรงถลกขึ้น, มองพฤติกรรมเด็ก, และ 90% ความทุกข์


โดย: watercolor IP: 110.169.2.177 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:27:36 น.  

 
คุณ watercolor คะ
เราก็ขอบคุณที่คุณสละเวลาอ่านเรื่องเรื่อยเปื่อยของเรานะคะ
การที่ใครอ่านเราว่าอ่านบล็อคเราหลายเรื่องนี่
มันทำให้ัหัวใจพองโตมากมายค่ะ
ขอบคุณนะคะ


โดย: ยัยลีลี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:59:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.