Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
แต่งหน้า ขัดผิวยังไงให้อ่างล้างหน้าและกระจกสะอาด เงาวับ

พอดีอยากแชร์วิธีการแต่งสวยให้ห้องน้ำสวยของเรา ที่เราทำติดเป็นนิสัยน่ะ

เวลาเรากลับบ้าน
เราก็จะไปล้างเครื่องสำอาง
แล้วพอกหน้าด้วยผงสมุนไพร
ทิ้งไว้ 15-20 นาที

(ภาพทั้งหมดที่ประกอบการเล่า เราเอามาจากในเน็ททั้งหมดนะ)





เสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าที่พอกจนแห้งติดหน้าออก
ก็วักน้ำให้ชุ่ม ๆ ให้มันพอละลายแล้วก็ครัปออก





แล้วก็เอาสก็อตไบร์ทใส่ผงซักฟอกมาขัดอ่างล้างหน้า
เพราะสีของสมุนไพรมันก็จะกระเด็นไปติดอ่างล้างหน้า
บางคนล้างแรงไปเปื้อนกระจกด้วยก็ต้องล้างและเช็คกระจกให้สะอาดด้วยนะ




ใครพอกหน้าด้วยสมุนไพรแล้วล้างหน้าที่อ่างล้างหน้าแล้วไม่ทำความสะอาดอ่างนี่
เราถือว่าเป็นผู้หญิงที่อี๋มากนะ
ทำหน้าให้สวยแต่ทำอ่างสกปรกนี่ เรารับไม่ได้
จะอ้างว่ามีคนใช้มาทำความสะอาดที่มันดูทุเรศเกินไป
จะไม่มีความรับผิดชอบอะไรในตัวเองเลยหรือไง




เราสระผมเสร็จ เราก็ต้องเก็บเศษผมที่ร่วงตรงท่อไปทิ้ง
พวกที่มีคนใช้ จะรอคนใช้มาเก็บให้หรือยังไง
เราว่าของพวกนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราต้องทำนะ
เหมือนกับเวลาเปลี่ยนผ้าอนามัย
เราก็ต้องห่อให้เรียบร้อยแล้วเอาไปทิ้งถังขยะเอง
คงไม่มีใครถอดแล้วแผ่หรา รอคนใช้มาเก็บให้หรอก
ถูกมั้ย
หรือพวกชุดชั้นในเนี่ย เราก็ต้องซักเอง ดูแลเอง (แต่บางคนก็ให้คนใช้ทำอ่านะ)
พวกทำความสะอาดอ่างล้างหน้าหรือเอาเศษผมออกจากท่อมันก็เหมือนกันนั่นแหละที่เราควรจะทำ
ไม่ใช่รอให้คนใช้มาทำ





การขัดอ่างล้างหน้าทุกวันมันเจ๋งมากเลยนะ
จะเห็นได้เลยว่าอ่างมันขาวสะอาดและลื่นน่าใช้มาก
ตรงก๊อกน้ำกับกระจกก็จะเงาวับ ไม่มีคราบน้ำ เหมือนใหม่ตลอดเวลา
คือเราล้างอ่างล้างหน้าเช้า-เย็นนะ
เพราะตอนเช้า เราก็มาแต่งหน้าหน้ากระจกอ่างล้างหน้า
เวลาตบแป้งฝุ่นมันจะได้ฟุ้งลงอ่างล้างหน้า
พอแต่งหน้าเสร็จก็จะจัดการล้างอ่างกับกระจกก่อนไปทำงานด้วย
แต่ตอนเช้าไม่ได้ลงผงซักฟอกหรอก
แค่ลูบ ๆ ขัด ๆ แล้วเช็ดให้แห้ง
ถ้าเราไม่เช็ด มันจะเป็นคราบที่ก๊อกและกระจก
มันก็จะไม่เงานะ




เราเคยไปห้องของรุ่นน้องหลายคน
คือพวกเธอแต่งหน้า แต่งตัวมันเริ่ดมาก จัดเต็ม แน่น
แต่หน้ากระจกของพวกเธอ
ทั้งที่ห้องและที่ทำงาน
สกปรกมากได้โปรดเถอะ
สารพัดคราบและร่องรอยอารยธรรมทับถมมาหลายปี
และอาจจะทับถมไปชั่วลูก ชั่วหลาน
ซึ่งเราคิดว่าพวกนางไม่รู้หรอก
เพราะชินกับกระจกเน่า ๆ ของตัวเองไง
ส่องบ่อย แล้วก็ส่องอยู่คนเดียว ไม่มีใครไปร่วมแชร์
พอเราเข้าไปเห็นก็ได้แต่เอือม
จะบอกดีรึเปล่าว้า แต่เราก็ไม่ได้จะใช้ของ ๆ พวกนางนี่นา
ปล่อยไปเถอะ
ของแบบนี้ต้องรู้ตัวเอง









แล้วกระจกในห้องน้ำของพวกเธอก็จะเป็นคราบล้างหน้าเหมือนกัน
ยิ่งอ่างล้างหน้านะ
ส่วนใหญ่จะเป็นคราบแล้วสากมาก
เหมือนไม่เคยได้ทำความสะอาดเลยตั้งแต่ได้อ่างอันนี้มา
คือจริง ๆ ล้างหน้าเสร็จก็น่าจะทำความสะอาดอ่างไปเลยทีเดียวนะ
มันไม่ได้ใช้เวลาขนาดนั้น
30 วิก็เสร็จแล้วหรืออาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ




บางคนไม่ได้แต่งหน้าในห้องน้ำเหมือนกัน
แต่งตรงโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน
เวลาลงแป้งฝุ่นเนี่ย มันจะฟุ้งกระจายลงทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งเลยนะ
แล้วไม่อยากจะบอกว่ามันทำความสะอาดยากมากไอ้ฝุ่นแป้งเนี่ย
เพราะมันฟุ้งและตกลงทุก ๆ อย่างทุกซอก ทุกมุม
บางคนมีหนังสือวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งด้วย
ไปหยิบขึ้นมาดู
โอ้วว
ฝุ่นแป้งหนาเป็นนิ้ว เสมือนเป็นหนังสือที่อยู่ในห้องใต้ดินของบ้านร้างโบราณที่ยังไม่ถูกค้นพบเลย








แต่เศษผมในห้องน้ำพวกนางยังโอเคนะ
เพราะยังไงก็ต้องเอาออกอยู่แล้ว
ไม่งั้นท่อมันก็ตัน น้ำมันก็เจิ่งนอง
แต่ก็ไม่เห็นมีใครสระเสร็จแล้วก็หยิบออกเลยนะ
รอจนมันตันนั่นแหละถึงจะหยิบออก
จริง ๆ ถ้าเราหยิบออกทุกครั้งจนเป็นนิสัยนะ
เราจะไม่เจอปัญหาท่อตันเลย






สมมุติมีชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำต่อจากเราที่เพิ่งสระผมออกมา
มันจะได้ดูแย่ในสายตาเค้าด้วย
(อันนี้เพื่อนผู้ชายเคยมาเล่าให้ฟังว่ามันเข้าไปอาบ เจอกระจุกผมผู้หญิงอยู่ตรงท่อ เล่นเอามันสยองกับสาวเจ้าเลย)






จริง ๆ ผนังห้องน้ำที่เราอาบน้ำก็สำคัญนะ
(เราอาจจะเยอะไปหน่อย)
คือถ้าคุณอยู่ห้องคนเดียว อาบน้ำอยู่คนเดียว
แล้วคุณไม่เคยขัดผนังห้องน้ำเลย
คุณลองลูบดูสิ
มันจะสากมาก
แล้วผนัง (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้อง) มันจะไม่มันเงา
ซึ่งแม่เราบ่นประจำ





แม่เราจะสอนว่า
เวลาอาบน้ำเนี่ย
พอถูสบู่เสร็จ
เปิดฝักบัวเนี่ย
ให้น้ำมันไล่คราบสบู่ออกไปให้หมดก่อน
อย่าเพิ่งเอามือขึ้นมาล้างคราบสบู่
เพราะเวลาเอาเอามือขึ้นมาถูตัวล้างคราบสบู่เนี่ย
เราก็จะสะบัดพวกคราบสบู่เราไปที่ผนัง
แล้วผนังมันก็เป็นคราบสบู่เต็มไปหมด
ซึ่งแต่ก่อนเราไม่ได้สังเกตุ
แต่แม่เราสังเกตุ ฮา ๆ






แต่เราชินซะแล้ว
แบบว่าเวลาเปิดน้ำล้างหลักฟอกสบู่ก็จะเอามือขึ้นมาถูเลย
ไม่รอให้น้ำมันชะล้างคราบสบู่ส่วนใหญ่ลงพื้นก่อนเหมือนแม่เราสอน
แต่เราก็เลยต้องล้างผนังด้วยน้ำจากฝักบัวแทน
ถ้าคุณไม่ขัดผนัง
อย่างน้อยเวลาสระหรือถูสบู่เสร็จ
ก็ให้เอาฝักบัวไปล้าง ๆ ที่ผนังให้น้ำมันล้างคราบสบู่และแชมพูของเราให้หมดไป





ยิ่งบางคนหมักผมหรือสครัปตัว (ซึ่งเราไม่ค่อยทำ ปีนึงทำทีนึง เพราะเราขี้เกียจล้างพื้นห้องน้ำ)
พวกครีมหมักผมกับสครัปตัวเนี่ย
มันจะมีความมันสูงมาก
ทำเสร็จล้างออก
เป็นไงคะ
พื้นห้องน้ำมันแผล็บ
ใครเข้าต่อลื่นล้มหัวแตกได้ง่าย ๆ
เวลาทำสวยเสร็จแล้ว
ผมนุ่มแล้ว ผิวนุ่มแล้ว
เราควรจะล้างพื้นห้องน้ำให้มันหายลื่นด้วยจ้า






ยิ่งใครขัดมะขามหรือขมิ้นหรือกากกาแฟนะ
พื้นเป็นสีด้วยจ้า




อย่ารอให้คนใช้มาทำ (ในกรณีที่มีคนใช้ แต่พอดีตอนโตเราไม่มี)
แต่ให้รีบทำก่อน
เพราะมันจะเป็นคราบจ้าาาา
แถมเป็นคราบสี ๆ ด้วยจ้าาาา
คราบสบู่ แชมพูยังพอรับได้นะ
แต่คราบสี ๆ ลื่น ๆ บนพื้นนี่ไม่ไหวจะเคลียร์
ใครทำสวยแล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดด้วยนะ






ยังไงก็ลองไปทำดูนะ
บางคนอาจจะไม่รู้และไม่เคยคิดถึงเลย
เพราะมีคนใช้มาคอยตามล้าง ตามเช็ดให้แล้วเค้าก็ไม่กล้าบอก
มันจะได้ไม่เพิ่มงานเค้าด้วย
อารมณ์คนใช้ไม่ได้เก็บ คนมาตามเก็บไม่ได้ใช้แบบเนี้ย






อาจจะดูไม่ใช่วิธีแต่งหน้าที่เกี่ยวกับความงามอะไร
แต่ความงามระหว่างแต่งหน้ามันควรมาพร้อมกับความสะอาด
ที่ไม่เดือดร้อนคนที่ใช้ห้องน้ำต่อจากเรา
หรือคนที่ต้องมาทำความสะอาดโต๊ะเครื่องแป้งของเราเนอะ

จำไว้ว่าความงามควรจะมาพร้อมความสะอาดและความรับผิดชอบเสมอ



Create Date : 13 เมษายน 2555
Last Update : 20 เมษายน 2555 8:28:33 น. 2 comments
Counter : 7000 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แวะทักทายที่ blog ค่ะ

วันนี้เลยถือโอกาสมาอ่านเรื่องราวดีๆ ที่น่าปฏิบัติมากๆ เลยค่ะ




โดย: Mameepee วันที่: 16 เมษายน 2555 เวลา:16:35:02 น.  

 
โห อ่านแล้วแบบ ดีใจที่รู้จักผู้หญิงคนนี้ มามะ มากอดที


โดย: copo de nieve วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:11:36:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.