ฝันว่าตัวเองกำลังจะตายอีกละ ยังสั่งเสียไม่เสร็จเลยนะเนี่ย ไม่กล้าลืมตาตื่นเลย
เดี๋ยวนี้ นอกจากจะฝันว่าไปสอบไม่ทันซึ่งฝังใจมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยที่เคยเล่าไปให้บล็อคนี้แล้ว ตอนนี้มีฝันบ่อยเรื่องใหม่ คือเรื่องที่ตัวเองกำลังจะตาย แล้วฝันแบบจริงจังมาก ไม่กล้าตื่นลืมตาเลยทีเดียว
เคยฝันไปรอบนึงเลยเคยเล่าไปในบล็อคอันนี้ แล้วรอบนี้ก็ฝันใหม่อีกแล้ว แต่คนละแบบกัน ครั้งนั้นฝันว่าตายไปแล้ว ๆ ได้มีโอกาสกลับเข้าร่างเดิมได้วันนึง
แต่คราวนี้ ได้รู้ตัวเองว่ากำลังจะตายเลย ตื่นมายังจำได้แจ่มชัด จริง ๆ มันดูจริงจังมากจนไม่กล้าลืมตาตื่นเลย เพราะยังสั่งเสียไม่เสร็จ
ในฝันเราใส่ชุดเดรสกำมะหยี่สีแดงหม่น ๆ ทรงประมาณนี้เลย
สีแดงประมาณนี้
แต่เราไม่เคยมีชุดแบบนี้มาก่อนเลยนะ เรารู้เพียงว่าวันนี้ เรากำลังจะตาย ผิวสีชมพูเลือดฝาดของเรากำลังคล้ำลงเป็นสีเขียวอมม่วงลงเรื่อย ๆ แรงของเราเริ่มหายลงไปเรื่อย ๆ จนเราไม่อยากเดินไปไหน แล้วตลกมั้ย คราวนี้ ในฝัน เราไม่มีแรงเลย แต่เรากลับมาพิมพ์อัพบล็อคว่าขอปิดตัวบล็อคเพราะเรากำลังจะตาย นี่ชั้นห่วงบล็อคชั้นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย หรือว่าปีนี้ตั้งปณิธานว่าจะขยันอัพบล็อคให้ได้บ่อย ๆ เกือบทุกวันก็ไม่รู้เลยห่วงจ๊างง
แต่ก็เรียกน้องชายมาสั่งเสีย ว่าเรามีทำประกันที่ไหนมาบ้าง ครอบครัวจะได้ไปเอาเงินประกันถูก แล้วที่ฮาอีกก็คือ เรานั่งบอก password เมลแต่ละเมลแล้วก็ของบล็อคเราด้วย ระหว่างนั่งบอกไป ผิวเราก็เริ่มเขียวคล้ำลงเรื่อย ๆ แรงก็หายไปเรื่อย ๆ แค่จะยกแขนเขียน password ยังไม่มีแรงเลย
ยังสั่งเสียไม่เสร็จเลย มือถือก็ปลุกตื่น เราเอื้อมไปกดปิด ตายังปิดอยู่ หัวใจเต้นแรง แต่ยังไม่กล้าลืมตา เสมือนว่าเรายังมีห่วงอยู่
เรายังสั่งเสียไม่เสร็จ!
เรายังไม่อยากตาย!!
แล้วกลัวว่าลืมตาขึ้นมาจะมีคนมารอรับวิญญาณเรา ตอนนี้ใครมาอ่านก็คงฮานะ แต่เมื่อเช้ามืด มันไม่ฮานะ เพราะเราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตี 4 ปลาย ๆ ทุกอย่างในห้องมันมืดสนิท ผู้คนยังคงหลับไหล มีเพียงเสียงแอร์เท่านั้นที่ทำงาน แต่เรากลัวว่ายังมีอีกคนที่ทำงานคือรอเอาวิญญาณเราออกจากร่างอยู่น่ะสิ
แค่คิดก็กลัวแล้ว แต่มันก็ปลงได้นะ ว่าหาเงินมาเท่าไหร่ สุดท้ายก็หอบเอาไปไม่ได้ซักบาท แล้วเกิดทีหลัง ก็ใช่ว่าจะต้องตายทีหลังหนิเนอะ
ใช่ เราไม่น่าจะตายก่อนพ่อแม่ แต่มันก็เป็นอะไรที่เราเลือกไม่ได้หนิ ดังนั้น เราควรจะทำบุญเยอะ ๆ มีสติรู้ตัวอยู่กับปัจจุบันกันเยอะ ๆ อย่าไปคิดถึงอดีต ฝันถึงอนาคต สร้างภพ สร้างชาติให้กับตัวเอง
เรายังดีใจอยู่นะ ว่าขณะที่เรารู้ตัวว่าเรากำลังจะตาย เราก็เอาสติจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา ไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ความจริง เราไม่รู้ว่าเราจะตายตอนไหน ถ้าตอนนั้นจิตเราคิดห่วง โมโห โกรธ เศร้า ฟุ้งซ่านอยู่ เราจะลงไปในอบายทันที ดังนั้น ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ พยายามตั้งแต่สติให้อยู่กับปัจจุบันให้ได้มากที่สุด ทุก ๆ นาที ทุก ๆ ขณะจิต ของแบบนี้ต้องฝึก ฝึกไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันก็จะชินไปเอง ของดี ๆ แบบนี้ทำยาก เพราะความคิดหรือจิตที่ไม่ดีมันไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ สิ่งเดียวที่จะทำให้เราใฝ่สูงขึ้นมาได้คือการฝึกปฏิบัติธรรม เราต้องว่ายทวนกระแสทุกข์ขึ้นมาให้ได้
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่กำลังพยายามว่ายทวนน้ำขึ้นมาอยู่ที่สูงทุกคนค่ะ
ปล. เพิ่งมาคิดได้ว่าทำไมถึงฝันว่าตัวเองกำลังจะตายอีกแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ไปดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง Niini no Koto wo Wasurenaide ที่พระเอกเป็นเนื้องอกในสมองตั้งแต่เป็นวัยรุ่นนั่นเอง
Create Date : 31 มกราคม 2555 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 9:59:26 น. |
|
1 comments
|
Counter : 6613 Pageviews. |
|
|
|
แล้วก็ทำใจให้สบาย
ก็เมื่อในตอนนี้ เรายังมีลมหายใจอยู่
ก็ถือซะว่าเป็นแค่ฝันร้ายเนอะ
คุณลีลี หาโอกาสทำบุญ ตักบาตร
จะช่วยทำให้ใจสงบขึ้นได้ค่ะ
ถ้ามองในแง่ดี อย่างน้อยๆ
มันทำให้เราได้เห็นถึงคุณค่าของลมหายใจเข้า-ออก
ในตอนนี้มากขึ้นกว่าเดิมที่เป็นอยู่(คิดเหมือนกันมั้ยคะ^^)
ดีซะอีกเราจะได้เร่งทำความฝันหรืออะไรหลายๆสิ่งที่เรายังคั้งต้างอยู่ให้สำเร็จไวไว
ฝันร้าย จะกลายเป็นดี