Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
เม้าที่ไปแอ่วเจียงฮายแบบไร้รูปเจ้า

ตั้งแต่เปิดทำงานอีกรอบหลังปีใหม่
มีแต่คนถามไถ่กันว่าไปไหนกันมาบ้าง
เราก็บอกว่าเราไปแอ่วเจียงฮายมาเจ้า
แต่แปลกแฮะ
ไปครั้งนี้ไม่เห็นกระตือรือร้นอยากเอาเรื่องมาเล่า เอารูปมาลงในบล็อกเลย
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าไปเที่ยวแบบแอบป่วย ๆ ก็ได้มั้ง
ทำให้ความสนุกมันหายไป
จริง ๆ ทุกคนในทริปหญิงล้วน 7 หน่อเป็นหวัดกันตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงเชียงรายเลย
เพราะว่าลงจากรถทัวร์ตอน 7 โมงเช้า อากาศหนาวมาก ๆ
พูดออกมาเป็นไอเลย
ไม่นึกว่าจะได้เป็นนางเอกเกาหลี อยู่ที่เกาหลีก็ตอนเนี้ย อิอิ

ยัง
ยังไม่สะใจ
พวกเราก็นั่งหอบหิ้วสัมมาระที่แบกกันมาร่วม 10 โลขึ้นสองแถวปุเลง ๆ ขึ้นภูชีฟ้ากันตั้งแต่วันแรก
กว่าจะถึงที่พักที่ใกล้กับภูชี้ฟ้าก็ล่อไปเกือบ 4 ชั่วโมงได้
หลังขดหลังแข็งสุด ๆ หนาวก็หนาว แต่แดดก็ร้อน แถมยังนั่งไม่สบายก้น ยืดขาก็ไม่ได้ ต้องนั่งหลังตรง หัวเข่าถึงไม่ติดเบาะ อึดอัดไปหมด
ไหนเช้าอีกวันต้องตีตั้งแต่ตี 4 ขึ้นภูชี้ฟ้าเย็นยะเยือกไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นเป็นชั่วโมง ๆ
อากาศข้างบน อย่าให้เซดดดดด

หนาวมากกกกกกกกกกก

นี่ขนาดว่าเราใส่อุปกรณ์เยอะที่สุดใน 7 คนแล้วนะ
ทั้งเสื้อแขนยาว 2 ชั้น เสื้อกันหนาวอย่างหนา 3 ชั้น
หมวกจากเสื้อขนปุยที่อีโน้ตเรียกว่าแม่สิงโตเผือกปิดหัว ปิดหู
ผ้าพันคออุ่น ๆ อีก 2 ผืน
ถุงมือ+ถุงเท้าอย่างหนา 2 ชั้น
ลมเย็นยะเยือกพัดตลอดเวลา รอเป็นชั่วโมงกว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์
แต่ดาวเต็มฟ้าไปหมดเลย
เยอะที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาให้ชีวิตเลย

แต่พระอาทิตย์ก็งั้น ๆ นะ
ถ้าไม่ได้ดูก็เฉย ๆ ทะเลหมอกก็งั้น ๆ เหมือนในรูปสารคดี
ในรูปยังสวยกว่่าด้วยมั้ง ไม่รู้ว่าจะแหกขี้ตาตื่นไปปะทะลมหนาวทรมานร่างกายกันทำไมเต็มภูหลายร้อยคน
แถมตอนเดินขึ้นภูนี่
ทำให้รู้เลยว่าเราอ่อนแอแค่ไหน
เราเหนื่อยแทบขาดใจ อยากจะหยุดพัก (แต่มันไม่มีทางให้พักนะ เป็นทางขึ้น 45 องศาตลอด)
แต่คนอื่นก็ยังเดินขึ้นกันไปได้อย่างช้า ๆ สม่ำเสมอ ไม่มีหยุด
การมาภูชี้ฟ้าครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเราชอบที่จะดูดาวเต็มฟ้า
มากกว่าการดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือทะเลหมอก
คราวหลังใครชวนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจะไม่แหกขี้ตาขึ้นไปแล้ว
แต่จะยอมนอนดึกไปนอนดูดาวดีกว่า

การไปรถสาธารณะตลอดการเดินทางนั้น
บางครั้งมันก็ต้องมีการร่างกายที่สมบุกสมบันและแข่งกับเวลาอยู่เยอะเลยนะ
ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะลำบากเหมือนเราตอนที่นั่งสองแถวขึ้นดอยตุงกับดอยแม่สลองเนี่ีย
แบบว่ามึีนหัวตึ้บ ๆ เมารถอ้วกแตก
ตัวเราไม่สนุกแล้ว ยังทำให้คนอื่นเค้าเที่ยวไม่สนุกไปด้วยเลย
แอบรู้สึกผิด

อีก 2 วันต่อมามีการโบกรถด้วยนะ
แต่โบกกันใกล้ ๆ เข้าเมืองน่ะ
เป็นการโบกรถครั้งแรกในชีวิตของเรา
เก้ ๆ กัง ๆ สุดชีวิต
จำได้ว่าโบกเป็น 10 คันเลยกว่าจะมีคนจอดรับพวกเราหญิงล้วนขึ้นท้ายกระบะเข้าเมือง
แล้วที่เจ็บใจกว่านั้นคือ
รถที่จอดรับเราเป็นทะเบียนกรุงเทพมหานครนี่น่ะสิ
ทะเบียนเชียงรายน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ โบกเป็นสิบคันก็ไม่มีใครจอด
ไม่เข้าใจจริง ๆ

แต่การเดินทางครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่สนุกเลยนะ
มันก็มีสนุกมั่งนั่นแหละ
แต่เราชอบที่สนุกไม่ใช่การเที่ยวตามที่ต่าง ๆ นะ
แต่เราชอบสุดเป็นการนั่งคุยกันระหว่างทางมากกว่า
เพราะการเดินทางจะอำเภอนึงไปอีกอำเภอนึงเนี่ย
มันใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยนะ
แล้วการหาเรื่องคุยไปตลอดทางเนี่ยมันสนุกที่สุดเลย

แล้วคนที่คุยสนุกที่สุดเราขอยกให้ยัย (พี่) ณัฐสุดาเลย
ผู้หญิงอะไรวะ
รอบรู้ไปซะหมด
คุยได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมีสาระหรือหลุดโลกไร้สาระแค่ไหนชีก็เม้าแตกได้ตลอดทาง
ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อเลย
ความรู้รอบตัว รอบโลกเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอังกฤษ
เพราะชีไปเรียนอังกฤษมาปีนึง
เราเลยได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนอังกฤษอีกจมเลย

การเที่ยวครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า
การเที่ยวลำบาก ๆ แล้วได้กลับรถ VIP นี่มันวิเศษยังไง
เพราะถ้าไปเที่ยวสบาย ๆ นอนโรงแรม นั่งรถตู้เที่ยวต่างอำเภออย่างดี บินไป บินกลับก็คงไม่เห็นค่าของการนั่งรถ VIP หรอก ใช่มะ
ไม่อยากบอกเลยว่าวันกลับ 11 ชั่วโมงเนี่ย
หลับเป็นตายแบบว่าไม่ตื่นเลยจนถึงหมอชิต
พี่ชิที่นั่งข้าง ๆ ลงไปตั้งแต่รังสิตยังไม่รู้ตัวเล้ย

กลับบ้านได้นอนเต็มอิ่ม 3 วัน 3 คืนยังรู้สึกเหนื่อยอยู่เลย
ไม่ค่อยโหยหา นั่งยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนไปเที่ยวทริปอื่น ๆ หรือไปรับน้องเลย
เฉยมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ได้ไปเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม ไกลจากกรุงเทพฯ ที่สุดเท่าที่เคยไปเลยมั้ง
หลังจากนั้นอาทิตย์นึงไปหาหมอเพราะว่ามีอะไรผิดปกติที่หู
หมอบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน ช่วงนี้ห้ามขึ้นเครื่องบินนะ เพราะความกดอากาศจะทำให้แก้วหูทะลุเลย
หวัดก็ไม่หาย ภูมิแพ้ก็กำเริบ
ใครอย่ามาชวนขึ้นภูนะ ไม่ไปแล้วเข็ดมากเลย



Create Date : 11 มกราคม 2550
Last Update : 11 มกราคม 2550 13:44:41 น. 1 comments
Counter : 1899 Pageviews.

 
ในฐานะคนเชียงรายครับ
ที่คุณน้องโบกรถแล้วเค้าไม่รับอะนะ โผ้มว่าเค้าอาจเดินทางใกล้ๆก็เป็นได้

ความไม่กล้าก็เป็นบุคลิกของคนภูมิภาคนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามก็ดีใจที่คุณเลือกเชียงรายเป็นเป้าหมายในการเดินทางครับ


โดย: หัวหยิกฯ (หัวหยิกหน้ากร้อคอสั้นฟันเหยิน ) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:23:15:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.