ปากหนอปาก ไม่น่าถามต่อเล้ย ได้คำตอบกลับมาซะ เป็นไงล่ะ
เอาอีกละ น้อยใจอีกละตู จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เรื่องเดิมเหมือนบล็อคกะโน้น แต่สามารถรับมือได้ดีกว่าครั้งที่แล้วเยอะ
พอดีว่าจะโทรไปชวนเพื่อนคนนึงไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันจันทร์ที่หยุดนี้ เค้าเป็นคนชอบเที่ยวต่างจังหวัดแบบ adventure ไง เลยไม่ค่อยใช่สไตล์เราเท่าไหร่ อารมณ์ปีนเขา นอนเต๊นท์ หญิงแกร่ง เดินหรือปั่นจักรยานสมบุกสมบันยังไงก็ไม่เหนื่อย ก็ไม่แปลกที่ช่วงนี้เค้าจะไปต่างจังหวัดเกือบทุกอาทิตย์
แล้วพอดีเค้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เค้าเลยชวนคุยว่าแล้วไม่ไปเที่ยวไหนเหรอ เราก็บอกว่าอาทิตย์หน้าไปดูคอนเสิร์ตคลื่นชิล Chill on the Beach ที่ชะอำ จองห้องไปแล้ว 2 ห้อง เค้าก็ถามว่าไปกะใคร (เพราะทุกครั้งที่ไปต่างจังหวัดก็จะไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมกลุ่มเดียวกันนี้ทุกครั้งแหละ แต่จากครั้งสุดท้ายนี่ก็ผ่านมาปีกว่าละที่เค้าไม่ได้โทรมาชวน เราก็ไม่เคยได้ออกต่างจังหวัดกะเพื่อนกลุ่มไหน เพราะสนิทอยู่กลุ่มเดียว เที่ยวมาด้วยกันหลายปี ปีละครั้ง 2 ครั้งน่ะ)
เราก็บอกว่าไปกับเพื่อนที่เคยไปเล่นเกมวิทยุมาด้วยกัน แล้วคุยกันบ่อยก็สนิทกัน เล่นได้บัตรมาหลายใบ ไอ้เราก็ไม่มีเพื่อนที่ดูคอนเสิร์ตต่างจังหวัดซะด้วย ขนาดชวนดูคอนเสริ์ตฟรี ๆ ในกรุงเทพยังหายากเลย หรือหาได้เค้าก็ดูไม่ถึงชั่วโมงก็กลับ แต่ถ้าเราไปดู เราก็ดูหลายวง หลายชั่วโมงอ่านะ ก็ร้อง ๆ อิน ๆ เอ็นจอย ๆ ไปเรื่อย ๆ ตามประสาคนไม่มีอะไรต้องทำต่ออย่างเรา
เราตอบไปเสร็จ เราก็เลยไม่รู้จะคุยอะไร เพราะก็ไม่ค่อยได้คุยกันยาว ๆ หรอก ส่วนใหญ่คุยกันในระดับชวนไปเดินเล่นที่อินดี้ ๆ กันมากกว่า เราก็เลยถามเค้ากลับว่าไอ้ที่จะไปต่างจังหวัดอาทิตย์นี้น่ะ ไปกับใครกลุ่มไหนล่ะ เพราะเค้ามีเพื่อนเที่ยวต่างจังหวัดหลายกลุ่ม ซึ่งไอ้หลายกลุ่มเราก็รู้จักหลายกลุ่มเหมือนกัน
ป๊ะ
เค้าก็อึกอักเล็กน้อย
แล้วก็บอกว่าก็กลุ่มที่ทุกทีเราต้องอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยนั่นแหละ แต่ตอนนี้เราคงไม่ได้เป็นสมาชิกละ เพราะเราก็ไม่ได้รับการชวนจากใครมาปีกว่าละ เค้าไปเที่ยวด้วยกัน 2 ทริปละ (อันนี้เฉพาะทริปเท่าที่รู้น่ะนะ) แต่ถ้ามันเยอะกว่านี้ก็ไม่อยากรู้หรอก รู้ไปมันก็พาลจะน้อยใจ
ยังเพิ่งคุยกับพี่อีกคนอยู่เลย ก็เล่าว่าจะไปชะอำกับคนที่ไม่รู้จักด้วย เพราะทั้งกลุ่มที่จะไปเนี่ย มันเป็นกลุ่มเพื่อนของเพื่อน เรารู้จักแค่เพื่อนคนเดียว นอกนั้นยังไม่รู้จักน้องสาวกับเพื่อนน้องสาวเลย พี่เค้าก็งง บอกว่าเราก็ดีเนอะ ไม่รู้จักก็ไปกับเค้าได้ เป็นพี่ ๆ ก็คงไม่ไป แต่เราอยากไปดูคอนเสิร์ตนี่นา แค่มีคนไปด้วย มีคนแชร์ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก นี่ก็ถือว่า mission complete แล้วนะ ไปกับใครก็ถือซะว่ารู้จักเพื่อนใหม่ ไปด้วยกันไม่ได้ก็จะได้เรียนรู้ไว้ก็เท่านั้นเอง
แล้วเราก็เคยไปเสม็ดกับเพื่อนประมาณนี้ตอนปี 4 มาแล้วด้วย ด้วยความที่ไม่เคยไปเสม็ด อยากไปเสม็ดมาก แล้วเพื่อนที่ทำรายงานด้วยกัน สนิทกันจากทำรายงานด้วยกันเดือนกว่า 2 เดือนชวนไป บอกว่าเค้าไปกับกลุ่มเพื่อนสมัยประถมของเค้า เราก็ยังไงก็ได้อยู่แล้ว แค่ได้ไปเสม็ด มีคนไปเสม็ดเป็นเพื่อน มีคนแชร์ค่าที่พัก น้ำมัน จบ ไป make friend ก็โอเคนะ
เออ จะว่าไป มีอีกทริปนึงที่เป็นแบบนี้นะ คือตอนเข้าทำงานที่เก่าแรก ๆ เค้าไปเชียงรายกัน 5-6 วัน แบบว่าไม่รู้จักพี่ ๆ เค้าด้วย เค้าอยู่ต่างสาขา แค่เคยเห็นหน้า แต่อยากไปเชียงรายไง ไม่เคยไป เลยขอเค้าไปด้วยทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้จักพี่เค้า โหย สุด ๆ เค้าเทีี่ยวกันโหดมากผู้หญิง 5-6 คนแล้วไม่มีใครขับรถไปเนี่ย ต่อรถแดงขึ้นดอย ไปต่างอำเภอ รวมถึง่โบกรถด้วย รู้สึกว่าจะเคยเล่าไว้ในบล็อคนะ แต่หาไม่เจอแล้ว สงสัยลบไปแล้ว
หลังจากพี่เค้าฟังจากหลายทริป พี่เค้าบอกว่า เค้าคงเที่ยวแบบเราไม่ได้ แล้วเค้าก็บอกว่าเราเฟรนลี่นะ แต่มีนิสัยบางอย่างที่มันอาจจะอินดี้หรือไม่เหมือนชาวบ้านไปหน่อย เราคงเที่ยวด้วยกันไม่ได้ แป่ว
ก็ว่าจะถามอยู่ว่า เช่นอะไรมั่ง แต่เค้าอึกอัก ๆ ไม่ค่อยอยากตอบก็โอเค ลึก ๆ เราก็ไม่กล้าอยากรู้หรอก กลัวทำใจเปลี่ยนไม่ได้ แล้วการเม้าเล่นระหว่างเรามันอาจจะไม่เหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันนะเนี่ย เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอ้สีหน้าและคำพูดอึกอัก ๆ ของพี่เค้าเนี่ย มันวนเวียนอยู่ในหัวเราตั้งแต่เช้าก่อนเข้างานที่คุยกัน ยันตอนนี้ 4 ทุ่มกว่าที่นั่งอัพบล็อคอยู่
แต่อย่างที่เราเคยบอกไป บางอย่างที่มันคลุมเครือ มันก็อาจจะสบายใจกว่าอะไรที่มันชัดเจนก็เป็นได้นะ
พี่'ปราย พันแสง นักเขียนในดวงใจเคยบอกไว้ว่า "คนเรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการหลอกตัวเองกับหลอกคนอื่นปนกันไปอย่างละนิด อย่างละหน่อย"
พิมพ์อันนี้แล้ว คิดถึงเพลง "อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม" ยังไงก็ไม่รู้
เดี๋ยวขอ advance กว่านี้หน่อยนะ ถ้าตอนไหนมีอารมณ์อยากไปที่ไหนมาก ๆ แล้วอยากมีเพื่อนไปด้วย แล้วไม่มีคนไปด้วยนะ ตูจะไปทริปหารเฉลี่ยของ Trekkingthai ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แบบว่าไปแบบไม่รู้จักใคร แต่ไปกับคนที่มีอุดมการณ์ในการจะไปเที่ยวจังหวัดนั้น จังหวัดนี้เหมือนกัน (แต่ตอนนี้ยังไม่กล้านะ เคยแอบเปิด ๆ ไปหาวันหลายรอบ แต่สุดท้ายก็ยังไม่กล้า)
คิดไปคิดมา ก็ดีนะ ได้เก็บตัง ไปต่างจังหวัดก็ใช้ตังอ่าเนอะ
อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปต่างจังหวัดกับเพื่อนกลุ่มใหม่มา คือคบกันตั้งแต่มหาลัยแล้วล่ะ หลัง ๆ ก็โทรเม้ากันบ่อยเลยจัดทริปไปซ้า แต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนื่องจากมีตัวแปรอื่นมาเกี่ยวข้อง อยากรู้ว่าตัวแปรนั้นคืออะไร กลับไปอ่านได้ที่บล็อคก่อนหน้านี้นะจ๊ะ
บอกกับตัวเองว่า ต่อไปนี้เวลาได้ยินได้ฟังเรื่องซ้ำ ๆ แบบนี้อีก จะไม่น้อยใจจนต้องมาเขียนบล็อคเป็นรอบที่ 3 แล้วนะ จะ 30 แล้ว น้อยใจเพื่อนอยู่นั่นแหละ แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนให้ได้น้อยใจแฟนมั่งเนี่ย
อ้าว ซะงั้น ฮา ๆ
แต่พี่ที่ออฟฟิศที่เค้าแต่งงานมีลูกจะบอกไว้เลยนะ ว่าถ้าแต่งงานไปเนี่ย จะไม่มีเวลามาคิดน้อยใจเรื่องเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานหรอก เค้าก็จะมาคิดปัญหาในครอบครัวมากกว่าซึ่งมันหนักหนากว่ามาก
แล้วยิ่งมีลูกด้วยนะ ทุกสิ่งทุกอย่างจะมาโฟกัสเรื่องลูกเป็นหลักเลย ป้ญหาเรื่องเพื่อนเนี่ย เบสิกมากจนไม่เคยเก็บมาคิดเลย
ที่เรามานั่งคิดเรื่องพวกนี้ได้น่ะ เพราะเราว่างไง พวกโสด ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ มีเวลามานั่งคิดโน่น คิดนี่เยอะ จนพาลเป็นคิดฟุ้งซ่าน น้อยใจชาวบ้านทั่วไปหมด พวกพี่เค้ากลับไป เห็นหน้าลูกปุ๊บก็ลืมปัญหาเกี่วกับเพื่อนหรือที่ทำงานหมดแล้ว (แต่จะมาคิดเยอะเรื่องลูกแทน) แต่ก็โอเคนะ เพราะลูกเค้าเกิดมาจากเรา ไม่ใช่คนอื่นที่เราต้องไปแคร์ให้มากมาย
แต่เป็นพี่คนเดียวกันนี้ไม่ใช่เหรอ ที่บอกเราว่า น้องโสดน่ะดีกว่า สบายตัว สบายใจ ตอนนี้นะ ถ้าพี่เลือกได้ พี่อยากเป็นโสด
นี่ล่ะนะ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าของจริง
อ้าว ขึ้นต้นเรื่องนึง ทำไมมาจบอีกเรื่องนึงได้ล่ะเนี่ย สรุปคือ พวกโสดมักจะเพ้อเจ้อ เวิ่นเว้อ ตามประสาคนว่างมากนั่นเอง
Create Date : 09 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 17 มกราคม 2555 14:26:43 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1918 Pageviews. |
|
|
|