Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
สิ่งที่ได้จากการเข้าคลาส "วิชาอะไร" กับ อ.ยงยุทธ จรรยารักษ์

เมื่อวันพุธ พุธที่ 18 พ.ย. 52 มีโอกาสได้เข้าคลาส “วิชาอะไร” ครั้งที่ 7 ตอน “คำถาม” ของอาจารย์ยงยุทธ จรรยารักษ์
ไม่เคยเข้าคลาสเลย แม้เค้าจะจัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว
รู้ข่าวจากเว็ปพี่ก้อง ทรงกลด บางยี่ขัน

//www.lonelytrees.net


พอดีเค้ามาใช้สถานที่ของออฟฟิศเรา
ก็เลยเข้าซะหน่อย เค้าเล่นเอาอาหารดี ๆ มีประโยชน์มาป้อนให้ถึงปากแล้ว
ไอ้เราก็ไม่ขัดศรัทธาที่จะอ้าปาก เคี้ยว แล้วก็กลืนสิ่งเหล่านั้น

อ. พูดได้เพลินมาก นั่งฟังตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 3 ทุ่ม เหมือนเวลาผ่านไปแป๊บเดียวเอง
แต่รู้สึกว่าได้ความรู้มาเพียบ จด lecture ได้ 3 หน้า อันนี้จดแบบแป๊บ ๆ เพราะตั้งใจฟังมากกว่า eye contact กับอ.ตลอดเวลา

มาดูกันดีกว่าว่าเราจดอะไรมาบ้าง

  • “คำถาม” เป็น step แรกของกระบวนการของความคิด ผลลัพธ์ของความคิดคือ “ปัญญา”

    คำถาม เป็นสะพานความคิดให้ไกลต่อไปเรื่อย ๆ สู่ความรู้

    ศักยภาพในการคิด ขึ้นอยู่กับศักยภาพในการสังเกต

    คำถามที่ไม่ควรถามคือการถามเชิงปริมาณ เช่น เท่าไหร่ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ กี่คน กี่....
    เพราะคำถามเหล่านี้ไม่ได้กระตุ้นในเกิดการสังเกตและการเรียนรู้ใด ๆ

    การเรียนรู้มี 2 แบบ คือ
    1. การพินิจ วิเคราะห์ และซึมซับ ซึ่งเป็น 90% ของการเรียนรู้
    2. การสั่งสอน ซึ่งเป็นแค่ 10% ซึ่งส่วนใหญ่สิ่งที่ถูกสั่งสอน จะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากรู้

    ถ้าเราตั้งคำถาม ๆ ตัวเรา เราจะเป็นครูเรา
    ถ้าเราตั้งคำถาม ๆ คนอื่น ๆ จะเป็นครูเรา

    “เทพ” กับ “มาร” ต่างกันตรงไหน
    ต่างกันตรงที่
    “เทพ” เป็นผู้ที่มีใจเต็ม ปราศจากความอยาก เพราะอยากได้อะไรก็จะเนรมิตขึ้นมาได้เลยไม่มีความอยาก
    ต่างจาก “มาร” ผู้ซึ่งมีใจพร่อง เต็มไปด้วยความอยาก

    การจะเลี้ยงลูกให้เป็นเทพ เราต้องไม่กระตุ้นความอยากของเด็ก ถ้าเค้าไม่เรียกร้อง เค้าจะยืนอยู่บน “เหตุ” และ “ผล”

    เราควรมีมรดกให้ลูกเรา 3 อย่าง คือ

    1. เวลา เพราะมันเป็นบ่าวที่แสนวิเศษ ถ้าทำดีวันนี้ อนาคตก็จะดี เราต้องรู้จักควบคุมเวลาให้ดี
    2. คำพูด มันสำคัญต่ออนาคตของเด็กมาก คำพูดนั้น ก่อนออกจากปากเรา เราเป็นนายมัน แต่เมื่อมันหลุดออกจากปากเราแล้ว มันเป็นนายเรา ถ้าเราปล่อยนายดี เราจะมีความสุข การใส่คำพูดที่ดีให้กับเด็ก จะทำให้เค้ามองโ่ลกให้แง่ดี
    3. งาน เพราะเด็กรุ่นใหม่สร้างงานไม่เป็น ไม่รู้ว่าอันไหนเรียกว่างาน ผู้ใหญ่สมัยนี้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก พอพ่อแม่ว่างก็จะนั่งดูทีวี อยู่กับอินเตอร์เน็ท ทำให้เด็กว่าง แล้วไม่รู้ว่างานคืออะไร จริง ๆ เวลาเราทำงานบ้านก็ควรให้เราว่าเรียนรู้ด้วยว่านี่ก็คืองานอย่างหนึ่ง

    การแต่งงานสมัยก่อนหรือที่อินเดีย คือ การรวมสกุล

    งานวิจัยหรือโพลบอกว่าคู่ที่ถูกคลุมถุงชนจะอยู่กันยืดว่าคู่ที่รักกันเองแล้วแต่งงาน

    เพราะอะไร?

    เพราะคู่ที่ถูกคลุมถงชนจะไม่เคยได้ใกล้ชิดกันมาก่อน ทำให้เกิดความเกรงอกเกรงใจกัน แล้วเค้าจะอยู่ด้วยกันด้วยความเกรงใจ
    ถ้าคู่ที่ใกล้ชิดกันมาก ความเกรงใจก็จะหมดไป ทำตามใจตัวเองสุด ๆ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่คำนึงถึงความรู้สึกอีกฝ่าย ไม่ให้เกียรติต่อกัน ทำให้กระทบกระทั่งกันง่าย

    สิ่งที่ทำให้เราสนิทกันอย่างยั่งยืนคือการที่เราพูดภาษาเดียวกัน มี Life style เหมือน ๆ กัน ชอบและรักที่สิ่งเดียวกันหรือคล้าย ๆ กัน

    คนเราทำดีด้วยความรัก แล้วจะทำชั่วด้วยความหวาดกลัว
    ความหวาดกลัวสามารถทำให้คน ๆ หนึ่งสามารถทำทุกอย่างที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

    การให้คำพูดที่ดีกับเค้า ทำให้ความหวาดกลัวลดลง แล้วเค้าจะทำให้เราเดือดร้อนน้อยลง

    เราควรหาให้เจอว่าเค้ากลัวอะไร แล้วแก้ให้เค้า แล้วเค้าจะฟังเราทุกอย่าง

    การหาให้เจอว่าเค้ากลัวอะไร ก็มาจากการ “ถาม” นั่นเอง แล้วตั้งใจฟัง

    “การฟัง” สำคัญที่สุด คนเราสมัยนี้กระหายคนที่ฟังเราอย่างตั้งใจ (แล้วอ.ก็เล่านิทานเรื่อง โมโม่ ให้ฟัง แล้วก็เล่นนิทานอีกเรื่องเกี่ยวกับภูเขาตัวหนอนให้ฟังด้วย แล้วก็เรื่องสมพรสอนลิง ที่เค้ามีวิธีสอนลิงให้ปีนขึ้นไปเก็บมะพร้าว แล้วก็การทำรังของนกกระจาบ ประวัติศาสตร์พม่า อยุธยา ทับหลังเขมร เมืองอุทัย วัดที่เชียงใหม่ แต่ขี้เกียจเล่าในนี้ มันยาว แต่อ.เล่าสนุกมาก น่าติดตามดี)

    ในโลกนี้ความจริงไม่มี เพราะการรับรู้เปลี่ยน ความจริงก็เปลี่ยน ขึ้นอยู่กับว่าเรามองจากมุมไหน

    อ.ไม่เคยเตรียมการสอน เตรียมแต่ความคิด

    ถ้าเราแก้ปัญหาแบบ compromise (ประนีประนอม) จะเป็น loss – loss เพราะต้องลดลงมาคนละส่วน
    การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือแบบ win – win

    ไม่มีสิ่งไหนเหนือกาลเวลา ทุกอย่างจะถูกเวลากลืนกินหมด (อันนี้ได้มาจากการที่อ.เห็นสถาปัตยกรรมของเขมร)

    ทั้งโลก ขาดกฏหมาย 1 มาตรา ที่ถ้ามี โลกจะมีความสุข
    มาตรานั้นคือ “ทรัพยากรธรรมชาติมีใช่บุคคลใด บุคคลหนึ่งจะนำมาซื้อขายได้”


แล้วสุดท้าย อ.ก็ฝากคำถามมาให้คิดว่าจะเฉลยในการคุยครั้งต่อไปว่า


2 คำถามที่พระพุทธเจ้าถามตัวเอง แล้วทำให้พระองค์ตรัสรู้คืออะไร?




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 13:43:43 น. 2 comments
Counter : 1759 Pageviews.

 
ทำไมต้องมีแก่มีตาย


โดย: ทักกี้ IP: 113.53.172.73 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:53:09 น.  

 
ถามว่าไรหรอค่า อยากรู้จัง


โดย: monomini IP: 124.122.185.52 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:18:28:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.