ว่าด้วยเรื่องวิวบนรถไฟฟ้ากับรถเมล์และการหายใจจังหวะเดียวกับน้องที่หลับข้าง ๆ
ช่วงหลังมานี้ ตั้งแต่โรงเรียนปิดเทอม เราก็มีโอกาสได้ขึ้นรถเมล์ไปทำงาน จริง ๆ แล้วเป็นคนชอบขึ้นรถเมล์มากกว่าขึ้นรถไฟฟ้านะ แล้วรู้สึกว่าการขึ้นรถไฟฟ้าบนดินลงไปต่อใต้ดินมันเสียเวลากว่าขึ้นรถเมล์ต่อเดียวถึงอีกต่างหาก
ก่อนหน้านี้เวลาไปทำงาน ต้องต่อทั้งรถไฟฟ้าไปลงอโศกแล้วก็ต่อใต้ดินไปอีกที มันก็สามารถคาดเดาเวลาที่ค่อนข้างแน่นอนนะ แต่เราไม่ชอบเลย ไม่ชอบที่ต้องขึ้นบันไดไปรอรถไฟฟ้ากว่าจะมา ถึงสถานนีก็ต้องมุดลงใต้ดินแล้วก็รอรถไฟฟ้าอีกรอบ มันเสียเวลามากกับการเดินขึ้น รอ แล้วก็เดินลง แล้วก็รอ
อันนี้ยังไม่ชอบเท่ากับการอยู่บนรถไฟฟ้า เราไม่ชอบแสงสีเหลืองบนรถไฟฟ้าเอาซะเลย ถ้าวันไหนไม่รีบจริง ๆ เราจะไม่พยายามนั่งรถไฟฟ้านะ เพราะเราเกลียดแสงสีเหลืองในขบวนรถไฟฟ้า
มันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องเร่งรีบ ทั้งแสงสีเหลืองและเก้าอี้สีเหลือง เราเห็นเมื่อไหร่ ใจเราจะเต้นเร็ว รู้สึกหงุดหงิด เหมือนต้องรีบไปให้ทันเวลาตลอด
เราเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่เราเลี่ยงไม่ได้เพราะที่ทำงานเก่าอยู่สยาม ยังไงรถเมล์ก็ช้ากว่าแน่นอนจากอ่อนนุชถึงสยาม
แต่ตอนนี้สามารถเลี่ยงการนั่งรถไฟฟ้าได้แล้ว ดีใจจริง ๆ เพิ่งจะเกิดปัญญาก็ตอนปิดเทอมรถน้อย ๆ เนี่ยแหละ ที่รู้สึกว่ารถเมล์เร็วกว่ารถไฟฟ้า 2 ต่อเยอะเลย
เรามีความสุขมากที่ได้มองวิวทางด่วนตอนรถไม่ติด
แต่ก่อนเราก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมเราชอบวิวทางด่วน แต่เราไม่ชอบวิวรถไฟฟ้า เราก็นึกว่าเราคงไม่ชอบไอ้แสงสีเหลืองนั่นเลยทำให้ไม่ชอบวิวไปด้วย
แต่เราเพิ่งได้คำตอบว่ามันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วที่เราชอบวิวทางด่วนเพราะว่า เราสามารถมองได้ไกลสุดลูกหูลูกตาโดยเห็นเพียงแค่ตึกอยู่ไกล ๆ
แต่เทียบกับวิวรถไฟฟ้า โอเคว่ามันไม่รถติดเหมือนกัน แต่ลองมองดูสิ วิวที่ได้จะเป็นตึกติด ๆ กันทั้งนั้น แถมมันอยู่ใกล้เรามากซะด้วย ทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก
ทั้งแสงสีเหลือง ทั้งวิวตึกอันอึดอัด มันคงพอที่จะทำให้เราเลี่ยงการขึ้นรถไฟฟ้า ตื่นเร็วขึ้นอีกหน่อย จากที่ตื่นตี 5.40 ก็มาตื่นตึ 5.20 แล้วนั่งชมวิวจากทางหน้าต่างรถเมล์แทน ไม่รู้อาการอย่างเราจะเรียกว่า Sky Train Phobia ได้รึเปล่า
หลังจากนั่งรถเมล์มาร่วม 2 เดือน เมื่อวานนี้เรามีเรื่องประทับใจ ที่ทำให้เราสามารถละสายตาจากวิวทางด่วนได้
คือเมื่อวานนี้ ตอนเราขึ้นรถเมล์กลับบ้าน มีผู้ชายคนนึงลุกให้เรานั่งด้วย (ไม่รู้ว่าชุดรึเปล่า เพราะมีคนลุกให้เราทั้งเช้า-เย็นเลย สงสัยนึกว่าเราท้อง)
พอได้นั่งเราก็มองวิวไปด้วย แต่มาสะดุดก็ตรงคนนั่งข้าง ๆ เนี่ยแหละ คือน้องม.ปลายที่นั่งหลับข้าง ๆ แอบหน้าตาดีไง เค้าก็นั่งหลับอยู่ (แต่รับรู้ได้ว่าน้องเค้าหน้าตาดี อิอิ)
มองข้าง ๆ น้องเค้าเหมือนจาง กึน ซอก กับน้องพิช รักแห่งสยามน่ะ (แต่ 2 คนนี้หน้าตาออกจะเหมือนกันนะเราว่า)
เมื่อวานอิชั้นก็เลยไม่ได้สนใจวิวทางด่วนเลยค่า นั่งมองน้องเค้า ค่อย ๆ มองน้องเค้า ตั้งแต่หน้าผาก คิ้ว สันจมูก ขนตา รูปปาก แก้ม ลำคอ (หื่นดีมั้ยเนี่ย)
แล้วก็ไล่ลงมามองเป้น้องเค้า มีพวกกุญแจเล็ก ๆ ของ National Folk Museum of Korea ด้วย สงสัยน้องเค้าเคยไปเที่ยวเกาหลีมา หรือมีสาวซื้อมาฝากแน่เลย
แล้วก็มองลงไปที่แหวนสีเงินวงเกลี้ยงตรงนิ้วก้อยข้างซ้าย น้องเค้ามีแผลเหมือนมีดบาดตรงหลังมือข้างซ้ายใกล้ ๆ นิ้วชี้ด้วย (จะบอกทำไมฟระ) แบบว่าตั้งใจมองไง แหะ ๆ (ตายละ บอกรายละเอียดขนาดนี้ กลัวมันถึงเจ้าตัวจังวุ้ย)
แล้วก็ไม่รู้จะมองอะไร เลยเห็นท้องเค้ากระเพื่อมอยู่ เลยลองหายใจจังหวะเดียวกับน้องเค้าดู
รู้สึกผ่อนคลายดีนะ ทำให้เรียนรู้ว่า ถ้าเวลาเราเครียด ๆ หรือกังวล ให้ลองหายใจช้า ๆ ลึก ๆ เหมือนคนกำลังหลับดู มันผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณนะน้องที่ทำให้พี่เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และทำให้รู้ว่าการนั่งรถเมล์ก็มีสิ่งที่น่าดึงดูดว่าวิวข้างทางได้อีก
ปล. น้องหลับไม่อ้าปากด้วย ดูดีมากเลยค่า กรี๊ด
Create Date : 28 เมษายน 2553 |
Last Update : 28 เมษายน 2553 11:51:08 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2089 Pageviews. |
|
|
|