แม่บ่นเรื่องกุ้งมันไม่เด้ง เราพูดไปประโยคนึง เค้าเงียบไปเลย
ขอเกริ่นก่อนได้มั้ย คือบ้านเราเนี่ย เลี้ยงลูกดีมาก ดีมากในที่นี้ อาจจะไม่ได้หมายถึงเลี้ยงให้ลูกมีนิสัยดีมาก แต่พูดถึงอาหารการกินดีมากต่างหาก คือปะป๊ากะหม่าม้าบอกไว้เสมอว่า อาหารเช้าสำคัญที่สุด หม่าม้าเราจะตื่นมาทำอาหารเช้าให้เรากินทุกวัน ตั้งแต่เกิด...จนตอนนี้ 30 ก็ยังตื่นมาทำอยู่
แล้วอาหารเช้าในที่นี้ บ้านอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่บ้านเรา มีข้าวกล้อง แล้วก็กับข้าว 2 อย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นผัดผัก 1 จานแล้วก็ไข่ดาวหรือไข่เจียวอีก 1 จาน ด้วยความที่เราไม่ชอบกินผัก แล้วมีปัญหาเรื่องขับถ่ายตั้งแต่เด็ก ๆ เค้าเลยต้องบังคับให้เรากินผักที่เรากินได้โดยการทำให้ิกินด้วยตัวเอง เพราะถ้าไปซื้อกินข้างนอก แน่นอน เราซื้อแต่กับข้าวที่ไม่มีผัก เพราะเรากินผักได้น้อย แถมไม่กินเผ็ด แล้วผัดผักตัก ๆ ใส่ถุงตามร้านข้างนอกเค้าใส่พริก เราก็กินไม่ได้อีก
สมัยเรียนมัธยม รถโรงเรียนมารับตอนตี 5 ครึ่ง นั่นหมายความว่าท้องเราต้องอิ่มก่อนตี 5 ครึ่ง แล้วหม่าม้าต้องตื่นมาทำกับข้าวก่อนตี 5 นิดหน่อย ด้วยความที่ท้องเราเคยชินกับการกินข้าวตอนตี 5 เรากับน้องชายเลยไม่มีปัญหาเรื่องกินข้าวตอนเช้ามาก ๆ ไม่ได้
ตอนมหาลัยก็สบายหน่อย เพราะส่วนใหญ่เราเลือกเริ่มเรียนตอนสาย ๆ เพราะเราขี้เกียจตื่นเช้า หม่าม้าก็สบายไปด้วยเพราะไม่ต้องตื่นเช้าขึ้นมาทำ เค้าก็ตื่นได้ 7 โมงมาทำกับข้าวให้ป๊ากินไปก่อน
พอเข้าสู่โหมดทำงาน เราเปลี่ยนที่ทำงานมาหลายรอบ แต่ละครั้งเวลาเริ่มงานก็แตกต่างกันไป 9 โมงบ้าง 8 โมงบ้าง 7 โมงบ้าง เค้าก็ตื่นมาทำให้ตลอด
อย่างตอนนี้ที่ทำงานล่าสุด เราทำงานเช้า เราต้องออกจากบ้านตอน 6 โมง นั่นก็แสดงว่า หม่าม้าต้องตื่นมาทำกับข้าวตั้งแต่ตี 5 กว่า
แล้ววันนี้ หม่าม้าทำราดหน้ากุ้ง อ้อ เราไม่กินคะน้า ราดหน้าบ้านเราจะเป็นราดหน้ากุ้งบล็อคโคลี่ เรากินได้ เพราะมันเป็นผัำกไม่มีกลิ่น แล้วพอทำราดหน้ามันจะนิ่มมาก
หม่าม้าก็กินด้วยกัน ม้าก็ถามว่าวันนี้กุ้งไม่ค่อยอร่อยเนอะ เพราะม้ารีบ ๆ แล้วลืมลวกกุ้งรอบนึงก่อนจะเอามาใส่ราดหน้า กุ้งมันจะได้เด้ง ๆ แต่วันนี้กุ้งมันเละ ๆ เพราะม้าใส่กุ้งดิบ ๆ ลงไปให้หม้อซุปราดหน้าเลย ไม่ได้ลวกน้ำร้อนรอบนึงก่อน
เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่ตื่นมาทำให้ก็ดีใจจะแย่แล้ว
แล้วม้าก็เงียบไป
ขนาดเราพูดแบบเรียบ ๆ ไม่ได้ซึ้งอะไรเลยนะ แต่ในใจเนี่ย เขินจะแย่ นาน ๆ จะพูดประโยคแบบนี้ซะทีนึง ถึงแม้จะดูไม่ได้ซึ้งอะไรมากมาย แต่พอเราพิมพ์เล่าให้ฟังเนี่ย เราก็ยังซึ้งของเราเองนะเนี่ย
เห็นม้าเงียบไป เราก็บอกลาหม่าม้าเหมือนทุกเช้าก่อนออกจากบ้านและตอนเย็นเวลากลับเข้าบ้าน คือ ม้า สวัสดีค่ะ
แต่ก่อนสมัยเรียนประถมหรือมัธยมนี่ไหว้ด้วยนะ แบบว่าวางกระเป๋ายกมือไหว้ ถอนสายบัวแล้วค่อยหยิบกระเป๋าไปขึ้นรถโรงเรียน แต่ตอนนี้ แก่แล้ว ตะโกนเอา แต่ยิ่งแก่ เอ้ย ยิ่งโต ยิ่งเห็นค่า รู้คุณพ่อแม่มากกว่าแต่ก่อน ซาบซึ้งสิ่งที่สมัยก่อนเราก็มองว่ามันเป็นสิ่งธรรมดาเหมือนเป็นหน้าที่พ่อแม่ เช่น การที่เค้ายอมตื่นขึ้นมาทำกับข้าวให้เราไม่ว่ามันจะเช้าแค่ไหน ตอนเป็นเด็กก็เฉย ๆ นะ แต่ตอนแก่นี่ รู้สึกซาบซึ้งถึงความเสียสละของคนเป็นแม่มากมาย แม้้ว่าเราจะไม่ได้ไหว้เค้าแล้วก็ตาม
ไม่ได้ไหว้ ไม่ได้หมายความว่าไม่รักนะ แถมรักมากกว่าเดิมซะอีก
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2555 10:30:15 น. |
|
10 comments
|
Counter : 2144 Pageviews. |
|
|
|
เราก็มีลูกอายุ 30 อัพ ถ้าอยู่ด้วยกัน(หมายความว่าตอนนี้อยู่คนละที่) เวลาเขาจะไปทำงานเขาก็ยังไหว้สวัสดีอยู่นะ สวัสดีและกอดกันก่อนไปทำงาน ทุกที ถึงจะอายุมากก็ยังไหว้ได้อยู่นะ และกอดบ้างก็ได้ น่ารักดี