a day เล่มแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับน้ำใจในโลกออนไลน์ที่ได้รับหลังจากกลับมาจากคอนเสิร์ตวง Mild
ไม่มีอะไรมาก พอดีไปอ่านเจอใน facebook ว่ามีคนนึงเค้ามี a day ทุกเล่ม ยกเว้นเล่มแรก ไอ้เราตอนนั้นก็ชอบพี่โหน่งมาก แต่ไม่มีเงินไปร่วมหุ้นทำนิตยสาร a day กับเค้า ก็เลยช่วยอุดหนุนนิตยสารของเค้าแทนตั้งแต่เล่มแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เก็บไว้อย่างดี แต่เราไม่ได้ซื้อทุกเล่มนะ เล่มไหนที่ใครบอกว่าดีก็ซื้อ เค้าออกมา 121 เล่ม ซื้อจริง ๆ ไม่ถึง 10 เล่ม ซื้อล่าสุดก็ปกนี้ a day ปีที่ 10 ฉบับ 120 ประจำเดือนสิงหาคม 2553 แบบปก: ธนญชัย ศรศรีวิชัย ภาพปก: นิติพัฒน์ สุขสวย ซื้อเพราะแสตมป์บอกว่ามันหนังสือที่ดีที่สุดเล่มนึงใน 10 ปีเลย เลยรีบไปคว้าเลย ชอบอินกับคำพูดของนักร้องหรือนักเขียนที่ชอบจริง ๆ คราวก่อนอ่าน facebook ของพี่เอ๋ นิ้วกลมเค้าขึ้นว่า "Aftershock คือหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตั้งแต่เคยดูหนังมา อยากชวนให้ไปดูกันครับ ดูเสร็จแล้วพบกับภาวะ aftershock ไปประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงจะค่อยๆ สร่าง" อ่านประโยคนี้ปุ๊บ เข้าเว็ปลิโด้จะไปดูให้ได้รอบเร็วที่สุดคนเดียวเลย แล้วทีนี้เราก็มี a day เล่มแรกอยู่ในชั้นหนังสือเก็บไว้อย่างดี เลยลอง message หาคนนั้นที่เราก็ไม่รู้จักเค้าหรอกนะ ก็ถามว่าเค้าอยากได้เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 ที่เราซื้อเมื่อ 10 ปีที่แล้วมั้ย เพราะเค้าขาดแค่เล่มเดียว อยู่กับเค้ามันคงมีค่ามากกว่าอยู่กับเรามากมายนัก เค้าก็ตอบกลับมาว่า "สวัสดีครับ...ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากๆครับสำหรับความมีน้ำใจของคุณครับและต้องบอกว่าสนใจและอยากได้อย่างแรง.. (ผมกับแฟนตื่นเต้นมาก)...ยังไงก็รบกวนด้วยนะครับ...รับรองว่าจะนำมาเก็บรักษาอย่างดีครับ...ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ..." แล้วการส่งหนังสือไปให้ทางไปรษณีย์มันก็เกิดขึ้นอย่างง่าย ๆ สั้น ๆ แบบนี้แหละ ตอนแรกว่าจะนัดเจอเพราะไม่อยากส่งทางไปรษณีย์ กลัวหนังสือมันยับ ยิ่งช่วงนี้ฝนตกถ้าโดนน้ำล่ะเสร็จเลย แล้วเห็นว่าอยู่ในกรุงเทพฯ เหมือนกันด้วย แต่ทางเค้าไม่สะดวก เราก็เลยจัดการห่อกันน้ำอย่างที่คิดว่ามันโอเคแล้วก็ส่งไปให้ตามชื่อและที่อยู่ที่เค้าส่งมาให้ ไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับมาว่า "ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วนะครับ..อยากจะบอกว่าคุณเก็บรักษาหนังสือได้เรียบร้อยและสมบูรณ์มากๆครับ(หยั่งกะหนังสือออกเมื่อวาน..ใหม่มากกกก)..ขอบคุณมากๆครับบบบบ:-)" ได้รับข้อความนี้ก็ดีใจมาก หัวใจพองโต ความรู้สึกเหมือนตอนทำบุญเสร็จใหม่ ๆ จิตใจเบิกบาน 2 วันให้หลัง ก็คือวันนี้ เรากลับบ้านดึก เพราะวันนี้มีไปดูคอนเสิร์ตวง Mild ที่ Exclusive Concert สุดพิเศษ Cool Music Alive In My Mild โดย คูล 93 ฟาเรนไฮต์ ที่เซ็นเตอร์พ้อยท์ เพลย์เฮ้าส์ แอบเม้า อุตส่าห์รีบไป เพราะนัดรับบัตร 6 โมง บัตรก็ไม่ได้มีกับเค้านะ ขอพี่ที่รู้จักให้เค้าเล่นให้เอา เพราะต้องโทรติดสายแรก แล้วพยายามหลายวันแล้วไม่ไหว ไม่ติดเลย เลยขอส่วนบุญเค้าเอา เค้าก็ให้มา 2 ใบให้ไปกับเพื่อนได้ เลยชวนรุ่นน้องขาแด๊นซ์อินดี้เหมือนกันไป เค้าเขียนว่าเล่นทุ่มนึง แต่เล่นจริง ๆ 2 ทุ่ม อุตส่าห์ไม่กินข้าวเย็นเพราะกลัวจะเดี๋ยวลุกแด๊นซ์แล้วจุก แต่ที่ไหนได้ ได้เต้นช่วงหลังแค่ 3 เพลงรวด แล้วไม่ใช่เพลงของวงมายด์ด้วยนะ ทั้ง 3 เพลงนั่นน่ะ เพิ่งรู้ว่าเพลงวงมายด์มันไม่มีเพลงเร็วเลยว่ะ นอกจากเพลงหวานเย็นที่ร้องตอนเปิดคอนเสิร์ตที่ทุกคนนั่งกันนิ่ง จริง ๆ ไม่ค่อยชอบไปคอนเสิร์ตที่มันมีที่นั่งเลย เพราะไม่ว่าเพลงจะมันส์ขนาดไหน ทุกคนก็จะนั่งกันนิ่ง อย่าว่าอะไรเลย อาทิตย์ที่แล้วไปดู Tattoo Colour ที่ Slim RCA ตอน 4 โมงเย็นที่พวกเค้ามาเล่น Music Chill Out ของคลื่น 89 Chill FM ตรงลานก็ไม่มีที่นั่งนะ ยังยืนกันนิ่งเลย ประสาอะไรกับมีที่นั่งฟระ ทุกคนก็นั่งกันนิ่งเลย ดีนะมีเพลงเร็ว 3 เพลงนั่น เลยได้ลุกมาแด๊นซ์หน่อย แล้วตลกมาก เพราะเรา 2 คนลุกขึ้นมาแด๊นซ์ตรงทางเดินกัน 2 คนเป็นคนแรก ๆ น้องเป้บนเวทีชี้มาที่เรา 2 คนด้วย แล้วข้างล่างหน้า ๆ หันขึ้นมากันหมดเลย อายโครต แต่จังหวะนั้น a show must go on ใช่มั้ย ไม่หยุดค่ะ ถ้าน้องไม่ร้องเพลงช้า พี่ก็ไม่หยุดค่ะ แด๊นซ์ 3 เพลงต่อเนื่อง รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเซเล็ป เพราะแสงแฟลชไม่รู้มาจากไหนเยอะแยะ (คือเรามากัน 2 คนแล้วไม่มีใครพกกล้องนะค้า) แถมด้วยกล้อง compact ที่ถ่ายคลิปได้มายืนถ่ายกันเหมือนอิชั้น 2 คนมาจากต่างดาว ไม่เคยเห็นคนแด๊นซ์หรือไงกันฟระ พี่เค้าบอกว่าเคย แต่ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแด๊นซ์ได้เยอะ (และคงทุเรศด้วย) เหมือนน้อง 2 คน มันแปลกมาก เอิ่ม หนูจะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย หลังจากที่เรา 2 คนลุก เรามีแถวอื่นลุกกันบ้าง (แหม เค้าอาจจะอยากลุกอยู่แล้วก็ได้ ทำเป็นคิดว่าเค้าลุกตามเราซะงั้น ฮา ๆ) อันนี้เอาเพลงตะลึง ของอนัน อันวามาร้อง คิดได้ไงเนี่ย แล้วต่อด้วยเกรงใจ ของแร๊พเตอร์ แหมเพลงดักอายุชัด ๆ สังเกตได้ว่าลุกกันแค่นี้จริง ๆ เพราะอิฉันอยู่บน ๆ หลัง ๆ มองลงมาสำรวจหมดแล้ว เหอะ ๆ นอกนั้นนั่งนิ่ง ตอนนี้ก็ฮามากที่วงมายด์ทั้ง ๆ กลายเป็นบอยแบนด์เกาหลี เต้นกันเป๊ะมั่ง ไม่เป๊ะมั่ง แต่ขำอย่างแรง มี 2PM ด้วย Super Junior ก็มา เครดิตภาพคอนเสิร์ตทั้งหมดมาจากคลื่น Cool 93 นะคะ อันนี้เป็นคลิป 2 เพลงสุดท้ายของมายด์ ไปเอาจากคนที่โพสมาอีกที แอบได้ยินเสียงตัวเองตะโกนของเพลงหวานเย็นด้วยตั้งแต่ต้นคลิป แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หวานเย็น ได้รักเราไม่เท่ากันแทน 555 จริง ๆ เริ่มเคยชินแล้วที่มีคนแปลกหน้ามายืนถ่ายคลิป เพราะตอนไปดูคอนเสิร์ตพี่เจกับ FM One ที่หัวหินก็มีคนที่ไม่รู้จักมาจากไหนไม่รู้มายืนถ่ายคลิปเหมือนกัน แต่ตอนนั้นก็ไม่สนใจ กำลังมันส์ ไม่มีเพื่อนที่แด๊นซ์ในเลเวลเดียวกันไม่เป็นไร แค่มีเพื่อน ๆ คอยยืนดูอย่างสมเพชและเคยชินกับ step เราอยู่ข้าง ๆ เราก็จัดหนัก บรรเลงได้ทุกกระบวนท่าเหมือนกัน 555 คอนเสิร์ตนี้เต้นน้อยมาก แถมที่ตรงทางเดินมันแคบมาก ก็บอกแล้วว่าเป็นคนแด๊นซ์ในพื้นที่ แด๊นซ์ ๆ ไปหน้าจะคว่ำเอาหลายรอบเพราะอยู่ค่อนข้างบน ต้องเอียงมาข้างหลัง พอเอียงมาข้างหลังก็จะหงายหลังอีก กระโดดก็ไม่ได้ด้วย เพราะตรงทางเดินที่แด๊นซ์กัน ขั้นบันไดมันก็ไม่ได้กว้าง สู้ไปแด๊นซ์กลางหาดที่หัวหิน หรือแด๊นซ์ในสนามบาสหรือหอประชุมมหาลัยไม่ได้เลย แด๊นซ์แบบนั้นจะมันส์มาก เพราะทุกคนจะยืนแล้วไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง เบียด ๆ กันหน่อย มันโคด เวลามีคอนเสิร์ตที่มหาลัยนี่อยากไปนะ ถึงแม้ว่าจะจบมาหลายปีแล้วก็ตาม เพราะด้วยวัยเรา เค้าไม่แด๊นซ์กันแล้วไง ไปแด๊นซ์กับเด็กมหาลัยที่เด็กกว่าร่วม 10 ปีนี่มันได้อารมณ์ดี แถมพวกนั้นกล้าเต้นด้วย ก็จัดไปเต็มเหนี่ยว 555 กลับมาเรื่อง a day ต่อ วันนี้ถึงบ้าน 5 ทุ่ม มีกล่องอะไรก็ไม่รู้ส่งถึงเรา กล่องใหญ่มาก แอบดูค่าส่ง โอ้วแม่เจ้า 92 บาท แค่ค่าส่งก็แพงกว่าค่าหนังสือที่เราส่งไปให้เค้าแล้ว (แต่น้องชายบอกว่าถ้าเอาไปขายอาจจะได้เป็นพัน เล่าให้น้องชายฟังน้องมันโมโห มันบอกว่าเรามี rare item ทำไมให้คนอื่นเค้าฟรี ๆ หนังสือการ์ตูนพิมพ์ครั้งแรกยังขายได้ราคาดีจะตาย เมิงโง่ป่ะเนี่ย ซะงั้น ช่างมันเถอะ ให้เค้าไปแล้ว ทำบุญแล้วอย่าเสียดาย ถ้าเสียดายเดี๋ยวเกิดชาติหน้าจะจนตอนแก่) ตอนเปิดกล่องแอบคิดว่า ระเบิดป่าววะเนี่ย กล่องใหญ่โครต ที่ไปรษณีย์เค้ามีสแกนระเบิดก่อนแล้วใช่มั้ย (อ่ะ ล้อเล่น เดี๋ยวเกิดคุณคนนั้นบังเอิญเข้ามาอ่านจะเคืองได้) เปิดออกมา น่ารักดี เป็นของ Propaganda เพื่อนปากหมาบอกว่าเทียบไม่ได้เลยกับ rare item ที่เรามี ของที่เค้าให้อาจจะเป็นของที่เค้าได้มาแล้วไม่ชอบ ไม่ได้ใช้เลยโยนมาให้เราอีกต่อก็ได้ เวงกำ ไอ้ที่ตูให้เค้าฟรี ๆ ไม่ได้เอาไปขายนี่ตูดูผิดและโง่มากเลยใช่มั้ยเนี่ย วันหลังไม่เล่าให้ฟังแล้ว แอบรู้สึกว่าตัวเองดูโง่ ๆ ลงเรื่อย ๆ เมื่อเล่าให้คนอื่นฟังหลายคนเรื่อย ๆ จริง ๆ เราไม่ค่อยได้เคยทำอะไรแบบนี้กับคนในโลก online นะ เมื่อ 15 ปีที่แล้วได้มั้ง เคยฝากที่อยู่ไว้ในเว็ปบอร์ดของ bookcyber.com แล้วแลกโปสการ์ดปีใหม่กัน เราก็เขียนให้เค้าหลายคน เค้าหลายคนก็เขียนให้เรา ช่วงนั้นจำได้ว่าเวลาบุรุษไปรษณีย์ผ่านหน้าบ้านจะใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ลุ้นว่ามีโปสการ์ดเขียนถึงเราบ้างรึเปล่า แล้วก็มีเกือบทุกวันเลย บางใบก็ลายมือน่ารัก บางใบไอเดียน่ารัก บางใบวาดรูปมาน่ารัก ทุกวันนี้ยังเก็บไว้อยู่เลย ถึงแม้ว่าคนที่เขียนมาหาเราจะไม่รู้จักเราก็เหอะ การได้ทำอะไรแบบนี้บ้างนาน ๆ ครั้งมันก็ทำให้หัวใจชุ่มชื่นดีจัง
Create Date : 02 ตุลาคม 2553
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 17:53:36 น.
4 comments
Counter : 3142 Pageviews.