หมอนวดพูดมากจัง บ่นแต่ลูกค้าให้ทิปน้อย รู้น่ะว่าจะดักคอว่าต้องให้ทิปเค้านะ
English version on how to stretch piriformis syndrome, buttocks, hip pain, groin pain?
Please visit the below link:
Best Thai massage in Bangkok with cheap price
คือจริง ๆ ก็นวดร้านหน้าหมู่บ้านอยู่แล้วนะประมาณเดือนละครั้ง แต่พอดีไปทำธุระที่อื่น เลยไปนวดที่อื่นเพื่อฆ่าเวลารอเพื่อน แต่ว่าก็ปวดไหล่จริง ๆ แหละ ปวดจากที่นั่งเล่นคอมแล้วคลิ๊กเม้าตรงไหล่ขวา กับปวดจากที่สะพายกระเป๋าถือตรงไหล่ซ้าย
นวดทีไร หมอนวดประจำแถวบ้านก็จะบอกว่า โห ไหล่เป็นก้อนอย่างกะนักมวย ไปทำอะไรมาคะหนู อะไรประมาณนี้
ครั้งนี้ก็เข้าไปนวดที่ใหม่ คือก็แอบไปซื้อของแถวนั้นก่อน แล้วอาศัยถามแม่ค้าเอาว่าร้านไหนนวดดี เพราะซอยนั้น มีร้านนวดประมาณ 6-7 ร้านติด ๆ กันได้
เค้าก็บอกว่าเจ้านี้สะอาดสุด ก็เลยเลือกเจ้านี้ ก็ดีนะ เสื้อผ้าที่เปลี่ยนก็ของใหม่ดี แล้วก็เปลี่ยนปลอกหมอนทุกครั้งให้ด้วย
ส่วนใหญ่เราจะนวดแค่ชั่วโมงเดียวหรือชั่วโมงครึ่ง เพราะแค่นี้ก็ระบมจะแย่เพราะความที่ผิวขาวและบางเกิ๊น หลังนวดทุกครั้ง เป็นจ้ำ ๆ รอยนิ้วสีม่วง ๆ ทั้งตัวเลย แบบว่า บางที่เค้าก็ไม่ได้นวดนะ แต่เอามืออีกข้างจับเราไว้น่ะ ไอ้ที่แค่จับเนี่ยก็ขึ้นช้ำตามรอย 5 นิ้วเลย 555
ที่ใหม่นี่เราเลยนวดแค่ 1 ชั่วโมงสำหรับพอดีกับเรานัดเจอเพื่อนด้วย เราก็บอกเค้าว่านวดไทยชั่วโมงนึงค่ะ แต่ช่วยเน้นที่ไหล่ให้หน่อยนะคะ เค้าก็ถามว่า งั้นนวดแบบแก้อาการดีกว่ามั้ย เพิ่มเงินอีกเท่าตัวแต่เค้าแก้อาการให้ แต่เราไม่เอาอ่ะ เพราะเคยนวดแบบนั้นแล้ว เค้าก็จี้ไหล่อย่างเดียวให้ทั้งชั่วโมง กลับบ้านมาระบมไปเป็นอาทิตย์เลย แบบว่าหลังนี่เป็นจ้ำเสมือนโดนปั๋วซ้อมเลย (อ้าว รู้ได้ไงฟระ สามีก็ไม่เคยจะมีกะเค้า)
เราก็เลยขอเป็นนวดไทยธรรมดาดีกว่า เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่านวดไทยธรรมดาที่อื่นเนี่ย เราสามารถขอหมอนวดให้เน้นจุดไหนได้รึเปล่า เพราะเรานวดแถวบ้าน เราจะบอกเค้าให้เน้นไหล่ให้หน่อย ไม่ต้องนวดขากับแขนมากหรอก เพราะเราจั๊กจี้ นวดไปหัวเราะไป หมอนวดเค้าก็เข้าใจ เพราะเค้าจับไหล่เราปุ๊บก็รู้เลยว่ามันต้องการการนวดมากกว่าจุดอื่นจริง ๆ
แต่มานวดที่ใหม่นี่เลยบอกเค้าว่าขอนวดไหล่มากหน่อยนะคะ แล้วเค้าก็เริ่มนวด ก็นวดตามสเตปอ่านะ ขา แขน ไป 45 นาที หลัง 14 นาที หัว + ไหล่ 1 นาทีสุดท้าย อารายฟระเนี่ย ป้าแกนวดไหล่ให้ข้างละ 15 วินาทีเอง จริง ๆ นะ
แล้วป้าแกก็ชวนคุยตั้งแต่เริ่มนวดว่าเคยนวดที่นี่รึเปล่า ก็ตอบไปว่าไม่เคย
แล้วแกก็ต้องไซโคตามสเตปหมอนวดเลย ว่าเนี่ย คนนู้น คนนี้มานวดนะ ให้ทิปน้อยมากเลย ดูสิ นวดเป็นชั่วโมง หมอนวดก็เมื่อยเองนะ ไม่เหมือนฝรั่ง นวดทีให้ทิปเป็นร้อย หรือหลายร้อย ฯลฯ
คือเรารู้น่ะ ว่านวดเนี่ยต้องให้ทิป เราเองก็มีทิปในใจอยู่แล้วว่าให้ 50 บาททุกครั้งถ้านวด 1-1.5 ชั่วโมงอย่างที่เคยทำประจำกับหมอนวดแถวบ้าน แต่ป้าแกก็ไม่หยุดพูดเรื่องทิป นินทาคนนู้นแล้วก็แอบด่าคนที่ให้ทิปน้อยประมาณ 10 นาที จนเราต้องแกล้งหลับ ป้าแกถึงหยุดพูด
เราไม่รู้ว่าหมอนวดพวกนี้เค้าพูดไซโคแบบนี้ทุกสำนักรึเปล่านะ เพราะตอนเราไปนวด Health Land เราก็เจอหมอนวดพูดไซโคแบบนี้ประจำเลย Health Land ยิ่งแล้วใหญ่ เราซื้อบัตรนวดไทย 2 ชั่วโมงแบบโปรโมชั่น เราต้องฟังหมอนวดไซโคแบบนี้เกือบ 2 ชั่วโมงเลย แล้วตอนที่ยังไร้เดียงสาไปนวดครั้งแรก หลังนวดเสร็จก็จะให้เค้า 100 บาทใช่มะ แต่ด้วยความที่ในห้องนวดมันมืดมาก มองไม่ออกเลยว่าแบงค์ที่หยิบให้เนี่ยมันแบงค์อะไร พอดีหมอนวดบอกว่าให้เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วออกมาดื่มน้ำก่อนข้างนอกที่สว่าง ๆ แล้วค่อยให้ทิป เดชะบุญนะเนี่ย เพราะไอ้แบงค์ที่จะหยิบให้หมอนวดเนี่ย มันเป็นแบงค์ 500 ไม่ใช่แบงค์ร้อย
เกือบได้จ่ายทิปแพงกว่าค่านวดแล้วมั้ยละตู
ไม่รู้ว่าเพราะเราหน้าเด็กรึเปล่า เค้าเลยคิดว่าเราไม่รู้ธรรมเนียมว่าต้องให้ทิป แล้วกลัวว่าเราไม่รู้ว่าควรจะให้ทิปเท่าไหร่ เลยต้องมาหลอกด่าพวกให้ทิปน้อย แล้วชมพวกให้ทิปหลายร้อยกับเราเกือบทุกครั้งสำหรับการนวดที่ใหม่ของเรา
แล้วสุดท้าย เราก็ตัดสินใจไม่นวดที่ใหม่ดีกว่า กลับมานวดแถวบ้านดีกว่า เน้นไหล่ให้ด้วย ไม่พูดมากถ้าเป็นหมอนวดคนเดิมที่เราให้ทิปเค้าทุกครั้ง แต่พอเป็นหมอนวดที่เราไม่เคยนวดด้วย เค้าก็จะเริ่มไซโคเรื่องทิปอีกเหมือนกัน สงสัยเวลาเรียนการนวดเนี่ย เค้าคงสอนวิธีการพูดไซโคลูกค้าเรียกทิปอยู่ในหลักสูตรด้วยล่ะมั้ง
อัพเดท ณ วันที่ 21 ก.ย. 56
เรายังเป็นอยู่ค่ะ ก็อย่างที่บอก เรานั่งทำงานตั้ง 8 ชม. ต่อวัน บริหารแค่ไม่ถึง 1 ชม. แก้ออกได้แค่เสี้ยวเดียวของที่เราสะสมในแต่ละวันเอง แถมเรายังสะสมมาตั้งหลายปีเนอะ จะให้หายเลยคงเป็นไปได้ยาก นอกจากเปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยได้นั่งอาจจะดีขึ้น แฮ่
แอบมาสารภาพว่า หลัง ๆ นี่เราไม่ค่อยได้บริหารเลย แต่มันดีขึ้น แปลกมั้ย ก็อย่างที่บอกว่า เราทำทั้งหมดแล้ว ทั้งหาหมอแผนปัจจุับัน แผนโบราณ แผนจีน ระบบไฮเทค โลเทค กินสมุนไพรพวกเถาวัลย์เปรียงที่มันช่วยสลายพังผืด ทั้งกิน ทั้งฉีด ทั้งนวด ทั้งกายภาพ สารพัด มันก็ไม่หาย เราก็เข้าใจว่ามันต้องใช้เวลา แต่เราให้เวลามันมาปีกว่าตั้งแต่เราก่อนเราเขียนบล็อคนี้อีก มันก็ดีขึ้นนิดหน่อย แล้วก็กลับมาเป็นอีกเรื้อรัง
แต่หลัง ๆ มานี้ ร่างกายเรากลับดีขึ้น คือว่าเราไปปฏิบัติเตโชวิปัสสนากรรมฐานที่แก่งคอย สระบุรี 7 คืน 8 วันมาค่ะ ดังที่เราเพิ่งอัพบล็อคไปด้านล่างนี้
8 วันสำหรับความเจ็บปวดอันคุ้มค่า กับการไปปฏิบัติเตโชวิปัสนาของคนหนักไม่เอา เบาไม่สู้และรักสบายอย่างเรา แฮ่
คือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเนี่ย เป็นบุญใหญ่มาก สูงกว่าการทำทาน การรักษาศีล การฟังและอ่านธรรมะ เพราะเราต้องมานั่งเอง ปฏิบัติเอง มารับทุกขเวทนาให้จิตมันเกิดปัญญา ผลบุญเลยสูงกว่ามากมายมหาศาล
แล้วหลังจากปฏิบัติธรรมกลับมา เราก็กลับมาปฏิบัติเองที่บ้านวันละ 1 ชั่วโมงวันธรรมดา และเพิ่มอีก 1-2 รอบวันหยุดถ้าเราไม่ได้ออกไปไหน แล้วอุทิศบุญทั้งหมดในแต่ละรอบให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เราเจ็บปวดที่ก้นและสะโพก แล้วก็อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ดวงตาเรามีปัญหา (เราเป็นท่อน้ำตาอุดตันเรื้อรังด้วยค่ะ) พอทำไปเรื่อย ๆ บริเวณที่มีปัญหาก็ค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างอัศจรรย์
ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะคะ แต่ถ้าัมันดีขึ้น ลองรับเป็นอีก 1 ทางเลือกดูมั้ยคะ อาการปวดจากการนั่งปฏิบัติธรรม 8 วันที่ไป เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่หลายคนเป็นกันเรื้อรังกันหลายเดือน หลายปีอยู่นี่ มันปวดน้อยกว่าสิ่งที่พวกเราเป็นอยู่แน่นอนค่ะ แล้วจิตเราก็เป็นกุศล ได้เผากิเลสที่อยู่ในจิตของเราให้เบาบาง
เราไปนั่ง ไปชดใช้กรรมให้เค้าให้จบกันไปภายในชาตินี้ เราสร้างกุศล เราแบ่งบุญให้เค้า เค้าก็ได้บุญ เราก็ได้บุญและทุเลาจากโรคที่เป็น win win ทั้งคู่ แล้วเราเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าคุณได้ไป คุณได้อะไรมากกว่าจะไปรักษาโรคที่คุณเป็นแน่นอนค่ะ 8 วันหลังจากปฏิบัติ ชีวิตและวิธีคิดของคุณจะเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย เราสามารถวางอุเบกขาได้ สิ่งต่าง ๆ ก็ล้วนแต่ไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เกิดดับ ๆ ตลอดเวลา เราจะสามารถจัดการกับความทุกข์ของร่างกายเราได้มากขึ้นเพราะวิธีคิดเราเปลี่ยนไป เราสามารถวางใจให้ถูกที่ เราแค่เห็น แต่ไม่ได้เข้าไปเป็น รู้แล้ววาง เพราะมนุษย์เราทุกข์อยู่ 2 อย่าง อยากได้แล้วไม่ได้ก็เป็นทุกข์ ได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ก็เป็นทุกข์ แล้วเราจะจัดการกับความทุกข์ที่เป็นธรรมชาติแบบนี้ยังไง คิดเสียว่าการรักษาโรคนี่เป็นผลพลอยได้แล้วกันนะคะ
การไปปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่ยาก เพราะมันเป็นทางที่ประเสริฐ มารและเจ้ากรรมนายเวรจะขวางไม่ให้คุณไปในทุกวิถีทาง แม้ว่าคุณจะคอนเฟิร์มไปแล้ว คุณก็อาจจะไม่ได้ไป เพราะอยู่ดี ๆ งานคุณเข้า ตัวคุณ คนในครอบครัวคุณอาจจะป่วยกระทันหัน หรือเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้คุณต้องยกเลิกการไป แต่ถ้าคุณตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไปและได้ไป ได้ปฏิบัติจริง ๆ คุณจะเข้าใจสิ่งที่เราบอกค่ะ
ของทุกอย่างมีเหตุและปัจจัยของมัน ถ้าเราทำทุกอย่างแล้วมันไม่ดีขึ้น เหตุนั้นคงเกินกว่าสิ่งที่มนุษย์อย่างเราจะล่วงรู้ เพราะมันคือกฎแห่งกรรม เราอาจจะไปทำเค้าไว้ในชาติใด ชาติหนึ่ง มันก็อาจจะสาสมแล้วที่เราได้รับทุกเวทนาอยู่ในทุกวันนี้
ลองคิดดูว่าเค้าเราไปทรมานเขาจนตาย เขาจะให้อภัยมั้ย ถ้าเราตักบาตรหรือทำสังฆทานแล้วบอกว่า ฉันให้ข้าวเธอ 1 มื้อพร้อมข้าวของเครื่องใช้นี้ เธอให้อภัยฉันแล้วกันนะที่ฉันฆ่าเธอตายอย่างทรมาน เลิกแล้วต่อกันนะ เป็นเรา ๆ จะยอมมั้ย แต่ถ้า เราได้ไปนั่งสร้างกุศลและแบ่งบุญให้เขาบ่อย ๆ และขออโหสิกรรมกันไป การเจริญวิปัสนามีอานิสงค์สูง มันน่าจะสมน้ำสมเนื้อกว่า
รูปทั้งหมด เราไม่ได้ถ่ายเอง แล้วก็ไม่ใช่รูปรุ่นเรานะ เราเอามาจาก facebook คุยกับศิษย์เตโชวิปัสสนา
ใครที่สนใจ ลองเข้าไปดูรูป ดูกิจกรรมและอ่านประสบการณ์ของท่านผู้ปฏิบัติอื่น ๆ กันได้นะคะ บอกได้เลยว่า ประสบการณ์อันกิ๊กก๊อกของเรา เทียบไม่ได้เลยกับของท่านอื่นที่ปฏิบัติมานานกว่าหรือสูงกว่า หรือแม้กระทั่งครั้งแรกเหมือนกัน แต่ได้สะสมบุญมามากกว่าเรา แซบเว่อร์กันทุกคนค่า
ใครสนใจไปปฏิบัติ สามารถเข้าไปดูกฎระเบียบ ตารางการอบรม ใบสมัคร แผนที่ แฟ้มภาพ ได้ที่
//www.schooloflifethailand.org/techovipassana.html
และสามารถเข้าไปอ่านบทความที่ท่านอาจารย์โพสอัพเดททุกวันพุธได้ที่
//techovipassana.org
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ เราอ่านทุกวันค่ะ
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 21 กันยายน 2556 19:29:46 น. |
|
4 comments
|
Counter : 8322 Pageviews. |
|
|
|