Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
รีวิวแป้งพัฟญี่ปุ่น 4 ตลับรวด Kiss me, Kanebo, Shiseido, Integrate

เป็นรีวิวที่กว่าจะเขียนได้ ใช้เวลานานมาก
เพราะอยากลองใช้แต่ละตัวให้แน่ใจจริง ๆ ว่ามันมีข้อดี ข้อเสียยังไง
เลยลองใช้แต่ละยี่ห้ออย่างละอาทิตย์ ถึงได้นำมารีวิวกัน
เป็นข้อมูลสำหรับคนที่สนใจฝากชาวบ้านซื้อแป้งที่ญี่ปุ่นหรือไปเอง
ก็อยากให้ซื้อมาแล้วไม่ผิดหวัง ไม่ต้องโยนทิ้งให้ชาวบ้านให้เปลืองเงินทอง

ตอนเราฝากเพื่อนสนิทซื้อแป้งผสมรองพื้นจากญี่ปุ่น
ไม่ได้บอกอะไรมาก แค่บอกว่า
แป้งทุกตัวขอเป็นรีฟิล เบอร์ขาวสุด และไม่เกิน 1 พันเยน
มีปัญญาหาได้ แบกได้กี่ย้อห้อก็เอามาโลด ชั้นรับหมด ฮา ๆ
ก็เลยได้มา 4 ยี่ห้อนี้ Kiss me, Kanebo, Shiseido, Integrate
โดยที่เราก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละตัวมันเท่าไหร่
เพราะเพื่อนมันไม่เก็บตัง เพราะเราก็มีให้สิ่งอื่นตอบแทนกันไปกันมาอยู่บ่อย ๆ ในราคาใกล้เคียงกัน อิอิ




มาเริ่มกันเลยแล้วกัน
ขอบอกตัวแปรก่อนรีวิวเหมือนทุกที


สภาพสีหน้า : อาหมวยหน้าขาวมาก ขวมอมชมพูด้วย เทียบแป้งแมคคือ NW15 ดังนั้นแป้งที่เรารีวิวจะเบอร์ขาวสุดตลอด ๆ
สภาพหนังหน้า : หน้ามันมาก มีรอยสิวและกระบาง ๆ
วิธีการลงแป้ง : จะทากันแดดก่อน แล้วตบด้วยแป้งฝุ่นบาง ๆ แล้วค่อยตามด้วยแป้งที่จะรีวิว ซึ่งการทาก็จะทาหนาหน่อยแต่ชั้นเดียว เพราะทาแป้งตอนเช้าก่อนไปทำงานรอบเดียวแล้วอยู่ทั้งวัน จะทาย้ำ ๆ ตรงจมูกซึ่งเป็นที่ ๆ หน้ามันเร็วสุดอีก 1 รอบ
สภาพแวดล้อมหลังจากลงแป้ง : อยู่ออฟฟิศห้องแอร์ทั้งวัน ไม่ได้ออกไปสู้แดดที่ไหน



ซื้อแบบรีฟิลมันก็ถูกดีนะ สำหรับคนที่ตบแป้งรอบเดียวตอนเช้าก่อนออกจากบ้านอย่างเรา เพราะเราก็ไม่ได้พกแป้งติดตัวไปไหนด้วยอยู่แล้ว
แล้วรีฟิลเค้าก็แถมพัฟมาให้ทุกยีห้อ

ขอบอกว่าพัฟของแป้งญี่ปุ่นดีมาก เนื้อหนา แน่น ทุกยี่ห้อ
บางยี่ห้อก็แถมมาให้อีก 1 อันด้วยคือ Kiss me
แล้วก็ไม่มีน้ำหอมฉุนให้รำคาญใจเวลาตบแป้งลงไปด้วย

สำหรับเรื่องสีแป้ง




เรียงตามรูปจากซ้ายไปขวาคือ Kiss me, Selfit จาก Shiseido, Kanebo, Integrate
Selfit จาก Shiseido คล้ำที่สุด แล้วคล้ำโทนชมพูจ๋า ทาแล้วหน้าหลอกหลอนที่สุดเลย
จะเห็นได้ว่า Kiss me จะขาวสุด ขาวมาก ขาววอกโทนชมพู
Kanebo จะไม่ขาววอก เป็นโทนส้มแบบว่าจะส้มไปไหน
Integrate สีจะดีที่สุด คือสีเนื้อ โทนเหลือง เหมาะสำหรับผิวเอเชีย





ส่วนเรื่องความหนาของแป้ง แป้งทุกตัวค่อนข้างหนา เนียน ปกปิดทุกตัวเหมือนกันหมดค่ะ แต่ตัว Selfit จาก Shiseido จะดูบางที่สุดใน 4 ตัว แต่ก็ยังเนียน ปกปิดได้โอเคเวลาทาเสร็จใหม่ ๆ

เรื่องความเนียนละเอียดของแป้ง เราขอยกให้ Kanebo ค่ะ ที่เนียน ละเอียดกว่าอีก 3 ตัวอย่างเห็นได้ชัด รองลงมาตามลำดับก็คือ Integrate > Selfit จาก Shiseido > Kiss me แต่กระซิบนิดนึงว่า ต่อให้ Kanebo เนียนแล้วนะ เทียบกับมิสทีนนี่คนละเรื่องเลย เพราะมิสทีนทุกรุ่นเนียนกว่าแป้งสัญชาติญี่ปุ่นพวกนี้เยอะ





เรื่องการควบคุมความมัน ตัว Kiss me ทำให้ดีกว่าตัวอื่นค่ะ คุมความมันบนหน้าเราได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมงเลยก่อนที่หน้าจะมันเยิ้ม พอซับความันออก เหมือนแป้งแทบจะหายหมดไปจากหน้าเลย

ส่วน Kanebo ทำได้ดีรองลงมา ควบคุมความมันบนได้เราได้ประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนจะมันเยิ้ม แล้วด้วยความที่แป้งมันส้ม พอหน้ามันนี่ อย่าให้พูด เหมือนเอาหน้าไปจุ่มบรอนเซอร์ที่ไหนมา ส้มซ้า... พอซับน้ำมันออก แป้งยังติดทน หน้ายังดูเนียนเหมือนเราทาแป้งบาง ๆ อยู่

ส่วน Integrate ทำได้โอเค ควบคุมความมันบนได้เราได้ประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนจะมันเยิ้ม พอซับน้ำมันออก แป้งยังติดทน หน้ายังดูเนียนเหมือนเราทาแป้งบาง ๆ อยู่

แย่สุดคงจะเป็น Selfit จาก Shiseido ที่เราไม่โอตั้งแต่สีแป้งแล้ว แถมควบคุมความมันได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ตอนทาเสร็จใหม่ ๆ สีก็ทั้งก็คล้ำแล้วนะ พอน้ำมันออกมาเท่านั้นแหละ หน้าดำไปเลย เราไม่รู้ว่าเรียกว่าหมองได้รึเปล่า เพราะสีแป้งมันคล้ำกว่าหน้าเราไป 2 เบอร์เลยทีเดียวทั้ง ๆ ที่มันเป็นสีขาวสุดของยี่ห้อนี้แล้วนะ


อ่อสรุปซะหน่อย
ในความเห็นส่วนตัวของเรา
ถ้าเทียบทั้ง 4 ตัวนี้
เราชอบ Kanebo ที่สุด




เพราะแป้งเนื้อเนียนละเอียดที่สุด ควบคุมความมันได้โอเค เวลาซับหน้าออก แป้งก็ยังติดอยู่ แต่ก็ติดที่ว่าสีแป้งมันจะส้มไปไหน ทาบนหน้าเราก็ดูหลอกเล็กน้อยเพราะหน้าเราขาวโทนชมพูน่ะนะ

รองลงมาคือ Integrate ซึ่งแพงที่สุดใน 4 ยี่ห้อแต่ก็ไม่คุ้มราคา อาจจะแพงเพราะพัฟรึเปล่า








เพราะพัฟของ Integrate จะมี 2 แบบ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือไว้สำหรับทาแบบบางก็ได้ หรือหนาก็ได้ เพราะพัฟฝั่งนึงจะเป็นแบบกำมะหยี่ ไม่รู้ว่ามันทำให้เนียนขึ้นหรือไว้ทำให้ดูบางใสก็ไม่รู้ แล้วอีกฝั่งก็เป็นพัฟแบบทางแป้งผสมรองพื้นเนี่ยแหละ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ฝั่งกำมะหยี่เลย แถมเวลาหยิบขึ้นมาทามันใช้ยากด้วย เพราะฝั่งกำมะหยี่มันลื่น

รองลงมาคือ Kiss me ที่ชอบอย่างเดียวคือคุมความมันได้ดี แต่แป้งมันขาววอกเกินหน้ามนุษย์ และเนื้อแป้งก็ค่อนข้างหยาบด้วย

สุดท้ายก็คือ Selfit จาก Shiseido ที่จริง ๆ แล้วได้ยินคำว่า Shiseido มันน่าจะดีเนอะ แต่ไม่โอเลยตั้งแต่สีแป้ง เราว่าหน้าคนไทยไม่ควรซื้อแป้งตัวนี้เลยนะ เพราะมันมีสีค่อนข้างคล้ำก็จริง แต่มันโทนชมพูน่ะ เราว่าทาแล้วจะหมองซะเปล่า ๆ





โอ๊ย เหนื่อย
เหนื่อยตั้งแต่ถ่ายรูป ลองลูบแป้งแต่ละตัวกลับไปกลับมาเพื่อแบ่งอยากความแตกต่าง แล้วก็มาทาบนหน้าอาทิตย์ละตัว ดูคุณสมบัติ ส่องกระจกเกือบทุกชั่วโมง
และสุดท้าย เหนื่อยพิมพ์ ฮา ๆ (ใครบังคับเธอเหรอ)
แต่เพื่อความละเอียดในการรีวิว เจ้าแม่แป้งพัฟอย่างเรายอมจ้ะ
เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเสียเงินฟรี ได้แป้งที่เหมาะสมกับหน้าตัวเอง

แต่พูดก็พูดเถอะ
คุณภาพแป้งทั้ง 4 ตัวนี้นะ
เทียบไม่ได้เลยกับคุณภาพของแป้งมิสทีนและ 12plus ที่เราได้รีวิวเอาไว้ด้านล่างนี้


หวังว่ารีวิวอย่างละเอียดของเราคงช่วยให้ทุกคนตัดสินใจกับแป้งตัวนี้ได้ง่ายขึ้นนะคะ อ่านแล้วก็คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันได้นะคะ
เราอ่านคอมเม้นท์ทุกวันจ้า


อันนี้เป็นกองแป้งแป้งมิสทีนบางส่วนที่เราใช้หมดในปี 2011-2012 ที่เรายังเก็บตลับไว้เกือบหมดทุกรุ่นที่เราได้รีวิวมานะคะ
จะเห็นได้ว่ามีตัวนึงที่ใช้ไม่หมด คือตัว HD ไฮ เดฟินิทชั่น เพราะเราใช้ไปได้อาทิตย์นึงแล้วแพ้
เพราะสิวอักเสบค่อย ๆ ขึ้นมาวันละเม็ด 2 เม็ด เลยไม่ได้ใช้ต่อ
แต่มันหนา เนียน คุมมันได้ดีเลยนะ เสียดายที่สีแป้งมันออกส้มไปเยอะหน่อยเท่านั้นเอง




จากจำนวนแป้งมิสทีนทั้งหมดทุกรุ่น






บางครั้ง
เวลาเลือกแป้ง
อย่าเลือกที่คุณสมบัติอย่างเดียวนะคะ
เพราะบางครั้งสีแป้งอาจจะไม่เข้ากับหน้าเราก็ได้
จากที่ลองใช้แป้งพัฟมิสทีนเกือบทุกรุ่น
บอกได้เลยว่า
ไม่มีแป้งรุ่นไหนที่สีแป้งเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ
ทุกรุ่น สีแป้งต่างกันหมดเลย
อย่าเชื่อสีแป้งในรูปนะคะ
แล้วถ้าคนขายคะยั้นคะยอว่าเอาไปเหอะ สีแป้งมันเหมือนกับอีกรุ่น
อย่าไปเชื่อค่ะ
เพราะแต่ละรุ่น สีมันไม่เหมือนกันเป๊ะ
ถ้าเป็นไปได้ ขอตัวทดลองเค้ามาลูบ ๆ เทียบ ๆ ดูค่ะ ถ้ามี
หลายคนอาจจะ อ้าว แล้วถ้ามันไม่มีแล้วเค้าไม่ให้แกะกล่องเปิดให้ดูล่ะ
เราพอสรุปได้คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ (เป็นการสรุปจากเบอร์ขาวสุดของแต่ละรุ่นที่เราซื้อนะคะ)






รุ่นที่มีวิ้งมี 2 รุ่นคือ นัมเบอร์วัน คริสตัลเคลียร์ กับ เพอร์โกล์ด ซึ่งเพอร์โกล์ดโทนเหลือง นัมเบอร์วัน คริสตัลเคลียร์โทนอมชมพู
นอกนั้น รุ่นที่เหลือง ไม่มีวิ้ง

รุ่นที่ไม่มีวิ้งแบ่งได้ 3 โทน

โทนส้มจะมี HD High Definition
โทนชมพูจะมี บีบี แองเจิ้ลรุ่นตลับขาว, เลดี้ เอ็ม วีเชฟ, แป้ง CEZANNE, แพลตตินั่มก็ออกชมพูอมส้มนะ, ซุปเปอร์ สตาร์
โทนเหลืองจะมีที่เหลือง แต่จะเหลืองมาก เหลืองน้อย
ถ้าเหลืองมากหน่อยจะเป็นบีบี ไดมอนด์
เหลืองเหมาะกับทุกคนจะเป็นรุ่นฟลาวเวอร์ กับ ดีว่า ริบบอนก็โอเคนะแต่มันอมชมพูนิด ๆ เหมือนกัน และทเวลฟ์พลัส มิราเคิล บีบี เพอร์เฟค พาวเดอร์

และโทนเหลืองวอกหลอกหลอนที่สุดใน 3 โลกสำหรับแป้งเบอร์ขาวสุด ซึ่งเป็นทุกรุ่นที่ออกใหม่ภายใน 2-3 ปีนี้ที่คนบ้าเกาหลี นั่นคือ แป้งญาญ่าทุกรุ่น (บีบีแองเจิ้ล, แองเจิ้ลออร่า,ไอแอมออยล์คอนโทรล, คัพเค้ก), แป้งปูเลอชาร์แดง, แป้งมินวิวิด, แป้งพลอยวิงส์


เรื่องการปกปิด

แป้งทุกรุ่นของมิสทีนผสมรองพื้นค่ะ
แต่การปกปิดไม่เท่ากัน แต่ส่วนใหญ่ปกปิดได้ดี
ยกเว้นแป้งญาญ่าทุกรุ่นที่จะเน้นความเนียน บาง ไม่ปกปิด
แต่รุ่นอื่น ๆ ปกปิดได้ดีค่ะ


ส่วนเรื่องการคุมมัน (ในความคิดของคนหน้ามันอย่างเรา) ไม่รวมแป้งวิ้ง 2 ตัวนะคะ เพราะเราไม่ใช้

คุมมันได้น้อย จะมีญาญ่าทุกรุ่น (บีบีแองเจิ้ล, แองเจิ้ล ออร่า,คัพเค้ก), ดีว่า, ฟลาวเวอร์ (สามารถแก้ไขได้โดยทารองพื้นหรือบีบีที่คุมมันก่อนแล้วตบแป้งเหล่านี้ตาม เพราะแป้งที่คุมมันได้น้อยจะเนียน)
คุมมันปานกลาง จะมีแพลตตินั่ม บีบีไดมอนด์, เลดี้ เอ็ม วีเชฟ, ไอ แอม ออยล์ คอนโทรล, แป้ง CEZANNE, ซุปเปอร์ สตาร์, แป้งพลอย วิงส์
คุมมันขั้นเทพ จะมี HD High Definition, ริบบอน, เลอ ชาร์แดง, วิวิด รวมถึงทเวลฟ์พลัส มิราเคิล บีบี เพอร์เฟค พาวเดอร์


เรามีรีวิวแป้งมิสทีนทุกรุ่นเอาไว้ในบล็อคเก่า ๆ ลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ


รีวิวแป้งพัฟมิสทีน คัพเค้ก


รีวิวแป้งมิสทีนพลอย หรือแป้งมิสทีน วิงส์


รีวิวแป้งมิสทีนซุปเปอร์ สตาร์



รีวิวแป้งมิสทีน วิวิด



รีวิวแป้งมิสทีน เลอ ชาร์แดง



รีวิวแป้งมิสทีนไอ แอม ออยล์ คอนโทรล



รีวิวแป้งมิสทีนหน้าเรียว Lady M V-shape



รีวิวแป้งมิสทีน แองเจิ้ล ออร่า บีบี เพาเดอร์ (Review Mistine Angel aura BB powder SPF25 PA++)


รีวิวแป้งมิสทิน ริบบอน บีบี เพาเดอร์และแป้งมิสทีนทุกรุ่นที่เคยใช้มาค่ะ


แถมแป้งที่ไม่ใช่มิสทีนอีกตัวที่ซื้อมาใช้แล้วเอามารีวิว เพราะดูคลิปจบปุ๊บ วิ่งไปซื้อปั๊บคือ



รีวิวแป้ง CEZANNE UV Foundation EX Plus Powder SPF23 PA++



รีวิวแป้งพัฟญี่ปุ่น 4 ตลับรวด Kiss me, Kanebo, Shiseido, Integrate



รีวิวแป้ง cezanne สีชมพูหรือ Cezanne Ultra Cover UV Foundation II SPF35 PA++


แป้งลูกรักตัวใหม่ของเรา คุณสมบัติเยี่ยมทุกอย่าง แถมมีคนชมตั้งแต่วันแรกที่เปลี่ยนแป้ง ทั้ง ๆ ที่คนชมไม่รู้ว่าเราเปลี่ยนแป้ง แบบนี้ไม่รักได้ยังไง



รีวิวแป้งเทวลฟ์ พลัส มิราเคิล บีบี เพอร์เฟค พาวเดอร์




แอบเอามาให้ดูแป้งรุ่นต่อ ๆ ไปที่ซื้อภายในปี 2013 นี้แล้วยังไม่ได้รีวิว
จะทยอยไปทาแล้วเอามารีวิวนะจ๊ะ
ไม่รู้ว่าจะใช้เวลากี่ปีถึงจะใช้แป้งพวกนี้หมด ฮา ๆ







สุดท้ายนี้
ฝากไว้นิดนึง
ไม่ต้องไปอยากได้หรอกแป้งญี่ปุ่นน่ะ ทั้งแพงกว่าแล้วห่วยกว่าด้วย
ของไทยถูกและดีมีจริง ๆ นะ



Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 20:46:48 น. 8 comments
Counter : 133452 Pageviews.

 
ขอบใจจ้า


โดย: supereve99 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:58:15 น.  

 
อ่านแล้วน่าสนใจไปหมดเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะคะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:25:27 น.  

 
คุณหนูลี review ได้ดึมากๆเลยค่ะ

ไม่ต้องเสียเวลา เสียทรัพย์ เพื่อ ทดลองแป้งเอง

ขอบคุณค่ะ


โดย: hot oil IP: 223.207.221.7 วันที่: 9 ธันวาคม 2556 เวลา:11:30:01 น.  

 
กำลังตัดสินใจซื้อแป้งตลับใหม่ค่ะแต่เป็นคนผิวขาวมาก ใช้ยี่ห้อดีแค่ไหน ทาออกมาก้อดูหลอกหลอน ไม่เป็นธรรมชาติค่ะวันนี้โชคดีที่ได้เข้ามาเจอรีวิว

ขอบคุณนะค่ะ


โดย: candy IP: 49.230.189.3 วันที่: 14 เมษายน 2557 เวลา:8:21:39 น.  

 
ดีมาก ๆ เลยจ้า ขอบคุณค่ะ กะลังจะฝากเพื่อนซื้อมาญี่ปุ่นพอดี ไม่ฝากดีฝ่า


โดย: Maekai IP: 157.7.205.214 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:40:02 น.  

 
จริงแล้วเราใช้มา. 3 _4 ปีละ. ของ kanabo. แต่ซื้อเกรด 3000 เยน. ดีมากเลย


โดย: นิด IP: 114.109.123.204 วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:00:42 น.  

 
ผิวคล้ำและแห้งใช้cezanneทั้งฟ้าและชมพู ตามโอกาส โดยใช้หลังลงมอยเจอร์ไรเซอร์ ใช้แล้วหน้าเนียน ไม่หลอน ไม่ตกร่องค่ะ


โดย: บัว IP: 182.232.5.209 วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:7:14:05 น.  

 
ผิวคล้ำและแห้งมากใช้cezanneเบอร์3สีเขียวและชมพูแล้วแต่โอกาส ใช้หลังลงมอยเจอร์ไรเซอร์ หน้าเนียน ไม่ตกร่องชอบสีชมพูมากกว่าเพร่าะสีเขียวดูคล้ำไปนิด


โดย: Mali IP: 49.230.227.185 วันที่: 22 ตุลาคม 2560 เวลา:0:22:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.