หา 3 หมอกับ 2 แบงค์ใน 1 วันลาพักร้อน
วันนี้เราลาหยุด เพื่อไปทำหลายอย่างภายใน 1 วัน หลัก ๆ เลยคือเราจะไปตรวจร่างกายประจำปี ไปทำฟัน แล้วก็ไปถอนสลาก ธกส ที่ต้องไปถอนถึงสำนักงานใหญ่ที่นางเลิ้งโน่น ส่วนสิ่งอื่นเป็นเรื่องรองแต่ก็อยากทำให้หมดทุกอย่างใน 1 วันลาพักร้อนให้คุ้มกับที่ต้องออกจากบ้านไปแล้ว
เตรียมตัวตั้งแต่เมื่อคืน คืองดน้ำและอาหารหลัง 4 ทุ่ม จริง ๆ ตอนเย็นก็ไม่ค่อยได้กินข้าวหรอก กินแต่น้ำ แล้วจริง ๆ เป็นคนนอนก่อน 3 ทุ่ม แล้วก็ไม่ค่อยกินน้ำก่อนนอนหรอก เพราะไม่อยากตื่นขึ้นมาฉี่ตอนกลางคืน เราเป็นคนหลับยาวถึงเช้าเลย ถ้าตื่นกลางดึก ไม่ว่าจะฝันร้าย ปวดฉี่ ใครโทรมา หลังจากนั้นเราจะนอนไม่หลับไปอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรมานมาก เลยหลีกเลี่ยงโดยการไม่กินน้ำก่อนนอนและปิดมือถือและสวดมนต์แผ่เมตตาจะได้ไม่ฝันร้าย
แต่คืนก่อนนี้แตกต่างจากคืนอื่น เพราะตื่นมาแล้วเราจะกินน้ำเลยหลังจากตื่นนอนเหมือนทุกทีที่ต้องกินน้ำเปล่าอย่างน้อย 1 ขวดโออิชิรวดเดียวหมดหลังตื่นนอน กินน้ำทั้ง ๆ ที่ตายังไม่เปิดนั่นแหละ ตื่นมาตบมือถือที่ปลุกปุ๊บ มือก็จะควานหาขวดดื่มอึก ๆ ๆ จนหมดค่อยนอนต่ออีกหน่อย ฮา ๆ (จะเล่าทำไม ไม่ค่อยเกี่ยวอะไรเล้ย)
ก็อย่างที่บอก อดข้าว อดน้ำหลัง 4 ทุ่ม ตื่นมาเกือบ 8 โมงรีบไปเจาะเลือดที่พญาไท 1 ด้วยอาการขาดน้ำสุดชีวิต เจาะเลือดเสร็จปุ๊บ รีบซื้อขนมกับน้ำดื่มกินทันที เพราะเค้าให้เก็บฉี่ด้วย
หลังจากเจาะเลือด ก็ไป x-ray ปอด ตรงนั้นจะมีขวดน้ำวางเรียงให้กินฟรีอยู่ (แผนกอื่นจะเป็นแก้วพลาสติกให้เอาหลอดเจาะ แต่มีแผนกนี้ที่มีเป็นขวด แอบสำรวจมาแล้ว) คงรู้แหละว่าคนจะยังฉี่ไม่ออก เพราะพอเจาะเลือดแล้วก็กินน้ำ กินอาหารได้ แล้วคงต้องมากินน้ำกันจุดนี้ซึ่งเป็นจุดต่อไปหลังจากเจาะเลือด
x-ray ปอดเสร็จ กินน้ำขนาด 500-600 มิลไป 2 ขวดเต็ม
ก็ยังไม่ปวดฉี่ เดินไปแผนกสูตินารีเวชเพื่อตรวจภายในต่อ ตรวจภายในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของเรา ความอายลดลงเยอะกว่าปีที่แล้วที่เป็นครั้งแรก แต่ความเจ็บเยอะกว่าหน่อย แต่มันไม่ได้เจ็บมากอย่างที่เราคิดไว้ก่อนที่จะไปตรวจภายในครั้งแรกอ่านะ ทั้ง ๆ ที่หมอก็คนเดิม อ้อ เค้าให้เราระบุหมอได้ว่าจะเอาหมอผู้หญิงรึเปล่า แล้วใครจะไม่เลือกหมอผู้หญิงล่ะเนอะ ฮา ๆ
จริง ๆ อยากพิมพ์อาการและบทสนทนาที่ใช้ตรงนั้นคุยกับหมอแทนหน้าน่ะนะ แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า คือมันไม่ใช่อะไรไม่ดีนะ เพียงแต่ว่าคุณหมอคงแทบไม่เคยเจอสาวโสดอายุ 30 มาตรวจน่ะ ตอนท้ายของบทสนทนา คุณหมอก็บอกว่าเราเป็นตัวอย่างที่ดีนะ อยากให้ชวนเพื่อน ๆ มาตรวจกันเยอะ ๆ ไม่จำเป็นว่าแต่งงานแล้วค่อยมาตรวจ บางคนโสด ๆ 40+ ก็ยังไม่กล้ามาตรวจเลย มันเป็นความอายแบบผิด ๆ ประมาณนั้น
แล้วก็กลับมาที่เจาะเลือดรอคุณหมอตรวจร่างกายอีกที จนป่านนี้ ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงหลังจากดื่มน้ำไป 1 ลิตร ก็ยังไม่ปวดฉี่เลย เลยกินน้ำไปอีก 2 แก้วพลาสติก
นั่งรออีก 45 นาทีถึงจะได้ ทั้ง ๆ ที่น่าจะไปที่อื่นได้แล้วก่อนหน้านี้ 45 นาทีน่ะนะ
เสร็จแล้วเราก็ไปหาเพื่อนกินข้าวเที่ยงแล้วก็ช้อปปิ้งแถวที่ทำงานเพื่อนก่อนเที่ยง ไม่อยากไปเที่ยงเพราะคนมันจะเยอะ การช้อปปิ้งตลาดข้างตึกตอนก่อนเที่ยงมันสวรรค์แท้ ๆ
เสร็จแล้วก็นั่ง taxi ไปถอนสลากที่ ธกส นางเลิ้ง
ซึ่งสลากที่ถอนมันหมดอายุตั้งแต่ มิ.ย. 54 โฮะ ๆ พอดีบ้านมีฐานะ (ยากจน) อ่านะ ฝากไปนิด ๆ หน่อย ๆ หมื่น ครึ่งหมื่น แหย่ ๆ มันมันมีสลากเอาโชคเท่านั้นแหละ มันหมดอายุแล้วก็ใจเย็น ไม่ถอน จริง ๆ อ่ะเงินมันนิดเดียว แค่หมื่นกว่าบาท ไม่อยากเปลืองค่า taxi ไปถอน ค่า taxi ไป-กลับก็เกินดอกเบี้ยที่ได้ตั้ง 100 กว่าบาทแล้ว วันนี้ถ่อไปถึงนั่น คนเยอะเป็นบ้า
ทำมันทั้งหมดเลย ทั้งเปิดบัญชี ถอนสลาก แล้วก็ซื้อสลากใหม่ ตอนที่ซื้อ 3 ปีที่แล้วมันมาขายหน้าตึกไง ไม่รู้ว่าตอนถอนมันต้องถ่อไปถึงที่นั่น ไม่งั้นก็ไม่ซื้อหรอก ค่ารถก็ไม่คุ้มแล้ว แล้วจะมาหวังถูกสลากก็ดูลม ๆ แล้ง ๆ ไม่ต่างกับซื้อหวยเลย มันหมดอายุก็เลยปล่อยไว้งั้นแหละ เอาเงินนี้ไปฝากที่อื่นก็ได้ดอกเบี้ยเพิ่มอีก 100 นึงอย่างมาก เลยไม่ได้สนใจ แต่รู้ว่าเค้าจะมีออกสลากใหม่เดือน พ.ค. - มิ.ย. ก็เลยตั้งใจว่าจะมาถอนแล้วก็ซื้อใหม่ทีเดียวเลยภายในเดือนนี้
รอคิวนานมากกกกก ได้โปรดเถอะ ขนาดไปถึงกดบัตรคิวเลยนะ แล้วต้องนั่งกรอกนู่น นี่ นั่นอยู่ 15-20 นาทีแล้วก็ยังรออีกเกือบชั่วโมง ระหว่างรอตรงโต๊ะกรอกขอมูลที่มีเจ้าหน้าที่ช่วยแนะนำอยู่นั้น เราเพิ่งสำเนียกตัวเองว่าเป็นชนชั้นล่างอย่างแท้จริง เพราะคุณลุง คุณป้า คุณย่า คุณยายแต่ละคน มีฐานะของแท้ แต่ละคนฝากเงินหรือซื้อสลากกันเป็นหลักล้านหรือสิบล้าน!! ไม่มีใครกระจอกฝากหลักหมื่นอย่างอิชั้นเลย ก๊อปรูปชาวบ้านมา
มีคุณป้า 2 คนคุยกัน ถามว่าฝากไปเท่าไหร่ ป้าแกบอกว่า ฝากไปนิดเดียว แค่ 2-3 แสน โอ้แม่เจ้า เอาไปซื้อหุ้น ซื้อทอง ซื้อกองทุนดีกว่ามั้ยคะป้า ได้ดอกเบี้ยเยอะกว่านี้แน่นอน แต่ว่าไม่ได้ อันนั้นมันไม่ประกันเงินต้นนี่เนอะ แล้วฝากอันนี้ดอกเบี้ยต่ำแต่เผื่อถูกรางวัลก็ได้เยอะกว่าหนิเนอะ
แล้วระหว่างรอ เราโง่มาก คิวเราเบอร์ 289 พอมันเบอร์ 285 แล้วเราคิดขึ้นได้ว่า ซื้อสลากใหม่ เราต้องถอนเงินมาเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ในกระเป๋าสตางค์เรามีเงินไม่ถึงพันเลย เลยออกไปจะกดตู้ของ ธกส หน้าตึก แต่ทั้ง 3 ตู้ดันใช้งานไม่ได้
เอาล่ะสิ นั่งรอมาเกือบชั่วโมงจะถึงคิว เดี๋ยวมันพลาดแล้วต้องไปต่อท้ายสุดเลยนะ ลองไปกดคิวใหม่ดู ได้เบอร์ 326 จะเป็นลม ก็เลยขอแลกคิวกับคู่แม่ลูกที่นั่งข้าง ๆ ที่เค้าคิว 300 แล้วรีบวิ่งออกไปกดตังค์ตู้ที่ใกล้ที่สุดแล้ววิ่งกลับมา รีบมาดูคิว มันเบอร์อะไรรู้มั้ย 287 กูจะบ้าตาย แลกคิวไปแล้วด้วย กว่าจะถึงคิว 300 กูจะบ้าตาย งี่เง่าจริง ๆ แล้วพอถึงคิวเรา คอมดันค้าง ซวยจริง ๆ รออีก 15-20 นาที
แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องมาถอนสลากที่สำนักงานใหญ่หรือ สนง ที่ระบุในสลากแล้ว สามารถถอนสาขาไหนก็ได้ อ้าววววว เซ็งเลย เพราะไรรู้มั้ย เพราะปากซอยบ้านเรามีสาขาของ ธกส!!! นี่กูจะถ่อมาทำม้ายยยยยย รอคิวเกือบ 2 ชั่วโมง อยากจะเขกหัวตัวเอง เพราะตอนเราโทรมาถามเนี่ย มัน 2 เดือนที่แล้วไง เค้าก็เลยไม่ออกมั้ง ตอนนี้มันเพิ่งออนไลน์ถึงกัน ทั้ง ๆ ที่แบงค์อื่นคงออนไลน์ทั่วไทยมาเป็น 10 ปีแล้ว ฮ่วย
เสร็จแล้วก็ข้ามไปรอ taxi ฝั่งตรงข้ามที่มันเดินรถเลนเดียว รออยู่นานมาก ประมาณ 20 นาทีได้ รอจนหงุดหงิด ร้อนก็ร้อน อารมณ์เสียตัวเองจากเรื่องแลกคิวที่ทำให้ต้องรอนานกว่าเดิมด้วย เลยทนไม่ไหวละ ขึ้นรถเมล์คันแรกที่มาเลยแล้วกัน มันไปจักรวรรดิ์ ระหว่างที่มันวิ่งถ.เจริญกรุง
เอาล่ะสิ กรูปวดฉี่ ปวดมาก ปวดจนไม่ไหวแล้ว เอาไงดี ๆ
ลงดีกว่า ลงป้ายก่อนจะถึงวัดเล่งเน่ยยี่ป้ายนึง เอาไงดี ๆ ไม่สามารถเดินไปปล่อยถึงวัดได้แน่นอน เหลือบไปเห็นไทยพาณิชย์อันสวยหรูสไตล์ยุโรปตรงหัวมุม เอาวะ เข้าไปฝากเงินซะหน่อย
เข้าไปปุ๊บ มีเจ้าหน้าที่มาต้อนรับถามว่าทำอะไร ตอนแรกบอกว่าจะถอน แต่สมุดก็ไม่ได้เอามา แล้วมันก็ไม่ make sense เพราะตู้ ATM ก็อยู่หน้าแบงค์ มึงทำไมต้องเข้ามา เลยบอกว่าจะมาซื้อกองทุน ตอนนี้มีกองอะไรบ้าง ซื้อหมื่นนึง แล้วก็รีบถามทางไปห้องน้ำ เป็นค่าบริการห้องน้ำที่แพงมากทีเดียว ฮา ๆ
แล้วก็เอาอีกแล้ว เข้าแบงค์นี้ก็ทำให้อิชั้นรู้สึกต่ำต้อยอีกแล้ว เพราะมีอาซิ่ม อาอึ้มหรือ อาม่า สุดแท้แต่จะเรียก เอาใบกองทุนมาถอน ซึ่งมาทำธุรกรรมแทน เพราะเจ้าตัวซึ่งเป็นคุณแม่อายุร่วม 90 แล้วมีลายเซ็นต์โก้หรู เพราะเป็นการปั๊มลายหัวแม่มือข้างซ้ายมาแทน แอบแหล่ดูแล้ว กองทุนที่ซื้อไม่น่าจะต่ำกว่าหลักสิบล้าน หรือร้อยล้าน!!!
แล้วตูอะไรเนี่ย หมื่นนึง ขี้ฟันมาก มิน่าเค้าถึงไม่และตูเลย ต้อนรับอิเจ๊นี่ระหว่างที่ตูไปเข้าห้องน้ำ เพราะออกมาคิดว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทุกอย่างยังกองอยู่อย่างนั้นเหมือนก่อนเข้าห้องน้ำ เพราะอิเจ๊นี่มาแรงแซงทุกโค้งด้วยเงินที่มีเลข 0 ต่อท้ายมากเกินไป
หลังจากเสียบริการเข้าห้องน้ำกับไทยพาณิชย์ไปแล้ว เราก็มุ่งหน้ากลับบ้านโดยนั่งรถเมล์หาทางไปต่อรถไฟฟ้าให้ได้ ระหว่างทางโทรเลื่อนนัดหมอฟันที่เรานัดวันนี้ตอนบ่าย 3 ไปเป็น 4 โมง แต่เค้าบอกว่าคิวเต็มแล้ว เพราะการเลื่อนคิวของ ธกส ของชั้นทีเดียว แผนทุกอย่างล้มครืนไปหมดเลย เราเลยลองร้านหมอฟัน 4-5 ป้ายก่อนถึงบ้านเรา แล้วเค้าไม่มีคิวพอดีเลยเข้าไปแล้วทำได้เลย แล้วราคาก็พอ ๆ กัน สูงกว่านิดหน่อย พอรับได้
ทำเสร็จก็ไปหาหมอนวดเลย เพราะราคามันถูกกว่าแถวบ้านหน่อย แล้วก็ทุกครั้งที่มานวดแถวนี้ซึ่งเป็นดงนวดเปิดติดกันเป็น 10 ร้าน ได้หมอนวดที่ไม่ประจำเพราะเราเป็นขาจร แล้วหมอนวดพวกนี้ก็จะต้องพูดมาก พูดดักคอเพื่อจะได้ทิปกันทุกครั้งที่ได้แขกขาจร
เหมือนมันถูกสอนมาแล้ว ให้นินทาแขกคนอื่นที่ไม่ให้ทิปแบบเนียน ๆ เพื่อจะกดดันให้เราจ่ายทิปเมื่อพี่แกนวดเสร็จ ซึ่งเราก็ให้ทิปอยู่แล้วหลังจากนวดเสร็จ
คนอื่นให้เท่าไหร่ไม่รู้ แต่เรามีเรทของเรา นวดไม่ดีหรือเฉย ๆ เราให้ 50 ถ้านวดได้ถูกใจให้ 100 ซึ่งหมอนวดขาจรของเราก็ไม่เคยมีใครได้ 100 จากเราเลย
จริง ๆ หมอนวดพวกนี้เราไม่อยากให้เลยนะ เพราะพูดมาก ชอบพูดเหน็บแล้วก็กดดันจะเอาทิป แล้วก็ชอบขายคอร์ส คือเราจะนวดไทย ก็บอกว่าทำไมไม่นวดน้ำมันล่ะ (ซึ่งมันแพงกว่าประมาณ 3 เท่าได้) ก็บอกไปว่าเราเขินที่จะต้องแก้ผ้า แล้วเราจั๊กจี้ด้วย
เค้าก็บอกว่าเขินอะไร ขาวขนาดนี้ เอิ่ม ความเขินมันขึ้นอยู่กับผิวขาวหรือดำด้วยเร๊อะ อิชั้นเพิ่งรู้
แล้วเรื่องจั๊กจี้เนี่ย เราไม่ได้อ้างเพื่อบอกปัดการขายคอร์สของเค้านะ ซึ่งเค้าก็เห็นอยู่แล้วว่า ถ้าเค้านวดต้นขา ต้นแขนหรือกลางหลังเรา เราจะจั๊กจี้หัวเราะก๊าก จนเค้าก็ขำไปด้วย เพราะกับหงุดหงิดไปด้วยที่นวดไม่ได้ จับไม่ได้
แล้วยังตะบี้ตะบันขายนวดน้ำมันกรูอี๊ก นี่ขนาดนวดไทยยังจั๊กจี้ขนาดนี้ นวดน้ำมันคงไม่ต้องนวดล่ะ นั่งขำกันทั้งคนนวดและคนถูกนวด ฮ่วย
เสร็จภารกิจ 1 วันลาพักร้อน กับ 2 แบงค์ ธกส นางเลิ้ง แล้วก็ไทยพาณิชย์เจริญกรุง กับ 3 หมอ ทั้งหมอสูฯ หมอฟัน และหมอนวด จริง ๆ มีนัดหมอตาอีกนะ เพราะโรคท่อน้ำตาอุดตันเรายังไม่หาย แล้วหมอที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับท่อน้ำตาจะมาวันจันทร์หลัง 6 โมงเย็น
ซึ่งตอนนวดเสร็จก็เกือบ 6 โมงพอดี ถ้าเรานั่งรถไปต่อก็พอดีหมอเลย เพราะหมอนัด follow up ครบ 1 เดือนที่ให้ยา
แต่ขี้เกียจไปแล้ว เหนื่อยมากตั้งแต่ 8 โมงเช้ายัน 6 โมงเย็น ไปมาไม่รู้กี่ที่ แต่ตาเราก็ยังไม่หาย ตอนนี้เวลาหาวแล้วน้ำตาคลอไม่ดูดกลับก็อาศัยเอียงคอ เทให้น้ำตามันไหลออกมานอกตาเอง ใครยังไม่รู้ว่าท่อน้ำตาอุดตันเป็นยังไง หาอ่านได้ที่บล็อคเราก่อนหน้านี้นะจ๊ะ
เอาตาไปให้หมอเอาเข็มแทง กับโรคท่อน้ำตาอุดตัน เอาตาไปให้หมอเอาเข็มแทง กับท่อน้ำตาอุดตัน
วันนี้ขอตัวไปอาบน้ำ นอนก่อนละ วันนี้ของดออกำลังกาย 1 วัน (แหม ๆ ออกวันละ 10 นาทีมาเรียกว่าออกกำลังกาย แถมก็ไม่ได้ออกทุกวัน ชิ!)
Create Date : 28 พฤษภาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2555 20:33:53 น. |
Counter : 3443 Pageviews. |
|
|
|