ภาษากาย .... ถนนสายนี้... มีตะพาบ...หลักกิโลเมตรที่ 327 ... ภาษากาย โจทย์ครั้งนี้โดย... จันทราน็อคเทิร์น เป็นคนกำหนด ไม่จำกัดรูปแบบการเขียน ก่อนเข้าเรื่อง ผมไปเที่ยวหาข้อมูลเกียวกับภาษากายอยู่หลายชั่วโมง หรือหลายวัน ฟังดูเหมือนนานมากจริงๆ คิดถึงโจทย์ครั้งนี้ว่า ภาษากายนั้นมีอะไรมั่ง ที่ว่าคิดอยู่นาน คือวันละนิด วันละ นาที หรือสองนาที เลยทำให้ฟังดูเหมือนนานมากๆ ที่จริงเรื่องนี้ก็เพิ่งมีเรียนและทบทวน ไปเมื่อหลายเดือนก่อน แต่มันกลับเข้าไปอยู่ในหนังสือหมดแล้วฮ่า ทั่นขุนเลยต้องเข้าไปหาข้อมูลจาก วิกิพีเดีย และก็ได้เจออันนี้ว่า ... การทำให้เกิดความสับสน ระหว่าง ภาษากาย และ ภาษามือ ฉะนั้น ต้องระวังด้วยอย่าปะปนกัน ภาษากายเป็นการสื่อสารประเภทหนึ่งซึ่งใช้พฤติกรรมทางกายภาพเพื่อแสดงหรือถ่ายทอดข้อมูล ตรงข้ามกับคำพูด พฤติกรรมดังกล่าวรวมถึงการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางของร่างกาย ท่าทาง การเคลื่อนไหวของดวงตา การสัมผัส และการใช้พื้นที่ คำว่าภาษากายมักใช้กับผู้คน แต่อาจใช้กับสัตว์ด้วย การศึกษาภาษากายเรียกอีกอย่างว่าไคเนติกส์ แม้ว่าภาษากายจะเป็นส่วนสำคัญของการสื่อสาร แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยปราศจากความตระหนักรู้ "ภาษา" ของร่างกายต้องไม่สับสนกับภาษามือ ภาษามือเป็นภาษาตัวอักษร: พวกเขามีระบบไวยากรณ์ที่ซับซ้อน (ของตัวเอง) และพวกเขายังสามารถแสดงคุณสมบัติพื้นฐานที่ถือว่ามีอยู่ในภาษา (จริง) ทั้งหมด ในทางกลับกัน ภาษากายไม่มีระบบไวยากรณ์และต้องตีความอย่างกว้าง ๆ แทนที่จะมีความหมายสมบูรณ์ที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวบางอย่าง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ภาษา และเรียกง่าย ๆ ว่า "ภาษา" เนื่องจาก วัฒนธรรมสมัยนิยม ในสังคมมีการตีความพฤติกรรมเฉพาะที่ตกลงกันได้ การตีความอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือวัฒนธรรมต่อวัฒนธรรม (ในหมายเหตุนี้ ยังมีข้อถกเถียงว่าภาษากายเป็นสากลหรือไม่) ภาษากายเป็นส่วนย่อยของการสื่อสารแบบอวัจนภาษา ช่วยเสริมการสื่อสารด้วยวาจาในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ในความเป็นจริง นักวิจัยบางคนสรุปว่าการสื่อสารแบบอวัจนภาษาเป็นข้อมูลส่วนใหญ่ที่ส่งผ่านระหว่างปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนและควบคุมการมีปฏิสัมพันธ์ แต่ก็สามารถคลุมเครือได้ การแสดงออกทางสีหน้า การแสดงออกทางสีหน้าเป็นส่วนหนึ่งของภาษากายและการแสดงอารมณ์ การตีความที่ถูกต้องต้องอาศัยการตีความสัญญาณหลายอย่างร่วมกัน เช่น การเคลื่อนไหวของดวงตา คิ้ว ริมฝีปาก จมูก และแก้ม เพื่อสร้างความประทับใจต่ออารมณ์และสภาพจิตใจของบุคคล ควรพิจารณาเพิ่มเติมเสมอโดยคำนึงถึงบริบทที่เกิดขึ้นและความตั้งใจที่เป็นไปได้ของบุคคลนั้น สำหรับทั่นขุน เจอ การใช้ภาษากาย รอบๆตัวหรือการใช้ชีวิต ประจำวันแทบทุกวัน เรียกได้ว่าเจอหมดทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ความสุข ความเศร้า  คนที่มีความสุข ก็จะยิ้มร่าเริง สื่อพลังงานการแสดงออกทางสีหน้า  ส่วนความเศร้าจะสื่อออกทางใบหน้าเช่นกัน แต่ไม่ค่อยมีพลังงาน เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีความสุข มั่นใจ: ภาษากายบนใบหน้าที่มั่นใจเกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ที่มีสมาธิ มีสมาธิ และมีพลังมากขึ้น คนที่มีความมั่นใจมักจะเงยหน้าขึ้นมองและเต็มใจที่จะสบตา และมักจะยิ้มแย้มหากพูดคุยในเวลาเดียวกัน ครับผม ต้องขอขอบคุณ สำหรับโจทย์ ตะพาบน้ำ ครั้งนี้ ... อาจจะนำมาลงได้ไม่หมด หากว่าท่านใดสนใจ ก็ตามอ่านในบล็อกเพื่อนๆท่านอื่นๆ ยังมีพูดถึงภาษากาย ในรูปแบบการเขียน ที่น่าสนใจ เยอะมาก ทุกท่านเขียนได้อย่างน่าสนใจ เอาละไว้เจอกันใหม่.... ขอบคุณครับผม ขอบคุณของแต่งบล็อก โดย ญ่ามี ข้อมูลในบางตอน วิกิพีเดีย Create Date : 21 พฤษภาคม 2566 Last Update : 21 พฤษภาคม 2566 6:30:48 น. 0 comments Counter : 721 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปัญญา Dh, คุณปรศุราม, คุณmariabamboo, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณtanjira, คุณnonnoiGiwGiw, คุณกิ่งฟ้า, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณkae+aoe, คุณดอยสะเก็ด, คุณThe Kop Civil