ลูกน้องมาทำงานไม่ตรงเวลา
เฮ้อ !! เหนื่อยใจจริง ทำไมลูกน้องในฝ่ายมาทำงานสายกันจัง งานเข้าแปดโมงเช้า แต่เห็นเดินเข้ามาทำงานก็ปาเข้าไปเกือบเก้าโมงบ้าง สิบโมงบ้าง บางคนเดินเข้ามาแบบไม่รู้สึกผิด ไม่รีบทำงาน มาถึงก็เริ่มเม้าท์กับเพื่อนๆ หรือทำกิจส่วนตัว …. มีลูกน้องแบบนี้เหนื่อยใจจริงๆ เลยเนี่ย
ขอให้คุณสำรวจตนเองก่อนว่า มีพฤติกรรมการทำงานเช่นที่ว่านี้หรือไม่ ถ้าไม่มีก็ดีไปค่ะ แต่ถ้ามีหรือมีลูกน้องของตนเป็นแบบนี้ คุณจะทำอย่างไรกับพวกเขา อลิสมีเพื่อนหลายคนที่เป็นระดับหัวหน้างาน ที่เคยมาบ่นกับอลิสว่า รู้สึกเหนื่อยใจกับการมาทำงานสายเป็นประจำของลูกน้อง ซึ่งลูกน้องมักจะอ้างว่า “ เมื่อวานอยู่ดึกๆ ดื่นๆ แล้ว วันนี้มาทำงานสายได้ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” กลุ่มคนเหล่านี้จะอ้างว่าการทำงานให้ดูที่ผลงานดีกว่า พวกเขาก็ทำงานดี ส่งงานตรงหรือก่อนเวลา “ แล้วจะเอาอะไรกันอีก”
ก่อนที่อลิสจะพูดคุยกันถึงวิธีการบริหารจัดการกับกลุ่มคนเหล่านี้ อลิสอยากจะเล่าถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวบุคคล ที่มีพฤติกรรมมาทำงาน ไม่ตรงเวลา ดังนี้ค่ะ
● เป็นที่ซุบซิบของสังคม คุณจะเป็นคนมีชื่อเสีย(ง) ของคนในสังคมหรือคนที่แวดล้อมคุณเอง พวกเขาจะกล่าวถึงคุณในทางที่ไม่ดี อย่าลืมนะคะว่า คนไทยเป็นพวกขาเม้าท์ พลาดท่าเสียทีเมื่อไหร่ รับรองโดนเม้าท์แน่นอน เช่น ดูคุณงามแท้ซิ มาทำงานสายประจำเลย สงสัยรับจ็อบดึก หรือ ถ้าคุณอยากจะพบคุณสุดหล่อ ต้องมาสิบโมงนะ เพราะรายนี้ได้รับอภิสิทธิ์มาทำงานสายได้ ● ได้รับการตีตราจากหัวหน้างาน ถึงแม้ว่าจะประเมินผลการทำงานกันที่ผลสำเร็จของงานที่ทำได้ก็จริง แต่เรื่องของพฤติกรรมการมาทำงานนั้น ก็ยังเป็นหัวข้อหนึ่งที่หัวหน้างานสามารถใช้วัดได้ คุณจะได้รับคะแนนประเมินในส่วนนี้ไม่เยอะนัก พบว่าคุณอาจไม่สนใจกับคะแนนเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้น เพราะคะแนนอื่นๆ ยังไงคุณก็ทำได้มากอยู่แล้ว ความคิดเช่นนี้ไม่ผิดค่ะ แต่คุณคงลืมคิดไปว่า พฤติกรรมการมาทำงานนั้น จะเป็นภาพลักษณ์ของคุณต่อสายตาของหัวหน้างานโดยตรง และหัวหน้างานระดับสูงที่บังเอิญมาพบคุณ ขณะที่คุณกำลังเดินเข้ามาทำงาน (สายอยู่เป็นประจำ)
● เชื่อมสัมพันธภาพทางลบกับเพื่อนร่วมงาน คุณต้องอย่าลืมนะคะว่าไม่มีใครทำงานคนเดียว การมาทำงานสาย อาจทำให้เพื่อนร่วมงานที่ต้องรอสานต่องานจากคุณ เหนื่อยใจที่จะต้องรอเวลา เพื่อสอบถามข้อมูล ความคิดเห็น หรือขอความช่วยเหลือจากคุณ และสิ่งเหล่านี้เองเป็นอีกวิธีการหนึ่ง ที่จะทำให้คุณมีสัมพันธภาพที่ดีหรือ ไม่ดีกับเพื่อนร่วมงาน
● ลูกค้าไม่ H-A-P-P-Y แน่นอนว่าลูกค้าย่อมไม่พอใจ ไม่ชอบใจ หรือโกรธเคือง หากไม่สามารถติดต่อขอข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือใดๆ ได้เลย พฤติกรรมการมาทำงานสายอาจส่งผลให้ต้องสูญเสียลูกค้าไป เนื่องจากไม่สามารถสอบถามข้อมูลใดๆ ได้เลย เนื่องจากติดต่อมาเท่าไหร่ ก็ไม่เจอตัวคุณ (เพราะคุณเป็นผู้รู้ข้อมูล หรือรับผิดชอบงานนั้นๆ อยู่เพียงผู้เดียว)
เห็นไหมค่ะว่า ผลเสียเกิดขึ้นมากมายจากพฤติกรรมการมาทำงานสายของคุณเอง หากไม่รีบปรับเปลี่ยน ย่อมสร้างหรือเพาะนิสัยที่ติดตัว นิสัยแบบนี้ไม่ส่งผลทางบวกแก่คุณเลย และหากคุณมีลูกน้องที่มีพฤติกรรมเช่นที่ว่านี้ ไม่ควรเพิกเฉย หากคุณมิได้ทำงานอยู่กับองค์การที่เน้นเวลาทำงานแบบยืดหยุ่น ( Flexible Hours) คุณเองในฐานะของหัวหน้างานควรใส่ใจและหาโอกาสพูดคุยกับลูกน้องว่า พฤติกรรมการมาทำงานไม่ตรงเวลานั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง โดยยกผลเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวลูกน้องเอง มิใช่ตัวคุณ
แต่สิ่งที่ต้องระวังในระหว่างการพูดคุยกับลูกน้องนั่นก็คือ อย่าเอาตัวคุณไปเปรียบเทียบ เช่น ดูอย่างพี่ซิ ถึงแม้ว่าจะทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ เท่าไหร่ พี่ไม่เคยมาทำงานสายเลย มาทำงานเช้าเป็นประจำ และก็ยังกลับดึกอีกด้วย เป็นต้น คุณควรพูดกับลูกน้องด้วยความหวังดี เพราะไม่อยากให้พฤติกรรมเหล่านี้ติดตัว และทำให้คนอื่นๆ มองพวกเขาในทางลบ รวมถึงการสูญเสียลูกค้า เนื่องจากพวกเขาไม่พอใจที่ไม่รู้จะไปติดต่อขอข้อมูล หรือความร่วมมือได้จากใคร
* การมาทำงานที่ตรงเวลา ย่อมเสริมสร้างภาพลักษณ์และผลสำเร็จในการทำงานให้เกิดขึ้น *
บทความ เม้าท์เรื่องงาน กับอลิส พวกมาทำงานไม่ตรงเวลา โดย : อาภรณ์ ภู่วิทยพันธุ์ ที่มา : //www.hrcenter.co.th
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 20:52:33 น. |
Counter : 2939 Pageviews. |
|
|
|