Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
22 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

ไม่ใช่แค่ “ดูเหมือน” แต่ “เป็น” มือโปรฯตัวจริง



เมื่อ ถึงเวลาทำงาน ความคิดความอ่านบางอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยเรียนกันบ้าง
เพราะเท่ากับว่าชีวิตนี้ต้องรับมือกับความรับผิดชอบ ที่ใหม่และใหญ่กว่าเดิม

ว่ากันว่าหัวใจสำคัญที่สุดของการทำงาน ก็คือ “ความเป็นมืออาชีพ” ทั้งคิด พูด จัดการกับปัญหา
หรือแม้แต่การสร้างบุคลิก มาดูกันหน่อยไหมว่า คุณผ่านโปรฯ 3 หัวข้อเบื้องต้นนี้แล้วหรือยัง

พูดอย่างมือโปร (Talk Like a Pro)
วิธีการพูดนั้นสะท้อนหลายสิ่งหลายอย่าง
ทั้งความคิด ความมั่นใจ การเตรียมตัว ความกล้าแสดงออก ฯลฯ ของคนพูด ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาพูด อย่าลืม...

★ มั่นใจว่าสิ่งที่จะพูดเป็นข้อมูลที่ผ่านการคิดกรองมาแล้ว
อย่าให้การแสดงความคิดเห็นในโอกาสต่างๆ ของคุณล้มเหลว
เพราะขาดการเตรียมข้อมูลที่ดี หรือาจมีเครื่องมือช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายและเห็นภาพที่ชัดขึ้น

★ พูดอย่างเหมาะสม ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป
การใช้ภาษา ท่าทาง และลีลาที่พอดึงดูดสายตา เรียกความสนใจในปริมาณที่พอดี ก็จะช่วยให้การพูดนั้นดูลงตัว
ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ หรือโอเวอร์แอคติ้งจนเกินงาม

★ อย่าพยายามโชว์พาวเว่อร์
แม้ว่าการประชุม หรือการพรีเซนต์ใดๆ จะเป็นเวทีที่สามารถแสดงศักยภาพ
แต่คนพูดก็ควรสร้างความรู้สึกที่เป็นมิตร ไม่ดูเย่อหยิ่ง หรืออวดตัว

★ มีความสุขเมื่อต้องพูด
สูดหายใจเข้าลึกๆ ให้ฉ่ำปอด นอกจากเรียกความมั่นใจไม่ให้ประหม่าแล้ว สมองยังนำออกซิเจนไปใช้ได้เต็มที่
ทำให้ไม่หลงลืมข้อมูล และการพูดครั้งนั้นก็จะมีความเป็นธรรมชาติอีกด้วย

★ หาโอกาสที่จะพูด (อย่างสร้างสรรค์) ทั้งที่ทำงาน และนอกที่ทำงาน
บางครั้งบางคราที่ต้องการแสดงความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด
อย่าคิดว่า “ไม่พูดดีกว่า” เพราะสิ่งที่พูดไปอาจจะมีประโยชน์ และยังเป็นการฝึกความมั่นใจของเราด้วย

★ รับฟังฟีดแบ็ก
ถามไถ่คนรอบข้างที่กล้าพูดกับเราอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำความคิดเหล่านั้นมาปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง
แต่อย่าไปเสียเวลากับคำนินทาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

★ ไปคาราโอเกะ
ช่วยพัฒนาศักยภาพทางการพูดได้จริงๆ นะ เพราะนอกจากจะเป็นการคลายเครียดแล้ว
ยังเป็นการสร้างความมั่นใจ และฝึกการออกเสียงในเวลาเดียวกันด้วย


บุคลิกการแต่งตัว (Know What To Wear)
เช่นเดียวกับการพูดจา การแต่งตัวก็สามารถสะท้อนบุคลิก รสนิยม
รวมไปถึงอารมณ์ความรู้สึกของคุณ ณ ช่วงเวลานั้นๆ ได้ และการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูเป็นโปรเฟสชั่นนัล
ใช่ว่าจะต้องทิ้งความเป็นตัวตนไว้เบื้องหลัง
หากต้องค้นหาตัวเอง แล้วผสมผสานไปกับการแต่งตัวให้ดูดีมีสไตล์ก็พอ

★ มั่นใจว่าเมื่อใส่เสื้อผ้า
หมายความว่า ทั้งเสื้อ กางเกง และกระโปรง ควรเลือกให้พอดี ไม่หลวมหรือรัดจนเกินไปเหมือนกับว่า
ไปยืมคนอื่นเขามา อย่าลืมว่าเราอยู่ที่ทำงานยาวนานราว 8 ช.ม. ต่อวัน
เสื้อผ้าที่พอดีจะทำให้สบายและดูคล่องตัวได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ควรเลี่ยงเสื้อผ้าที่ดูเซ็กซี่ "เกินไป"

★ เลือกสีให้เหมาะ
อย่างที่รู้กันว่าสีที่เป็นเทรดิชั่นนัลสไตล์ ได้แก่ ดำ น้ำเงิน และเทา บ่งบอกถึงความเรียบเก๋ ความน่าเชื่อถือ
ยิ่งสำหรับสาวงบน้อย สีเหล่านี้สามารถแมตช์เข้ากับเสื้อผ้าสีอื่นได้หลากหลาย
จริงๆ จะใส่สีสดใสบ้างก็ได้ แต่ควรดูกาละเทศะ ไม่ใช่ว่าวันประชุมกับผู้ใหญ่เลือกใส่ผ้าลายดอกดวงดูเลอะเทอะ
อาจจะสวยเด่นจริง แต่เป็นความสวยที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาไปสักนิด

★ ประดับประดาพอควร
จริงๆ การใส่เครื่องประดับก็เหมือนการเติมการแต่งตัวให้ครบขั้นตอน
แต่หากเครื่องประดับมากเกินไป หรือชิ้นที่อู้ฟู่เกินพอดีก็จะดูรกหูรกตา
เครื่องประดับที่เหมาะสมกับชุดทำงาน อาจเลือกที่ดูเรียบเท่ หรือหากชอบสีสันก็เลือกที่ดูเก๋ๆ สักเล็กน้อยก็พอ

★ กระเป๋าคู่กาย
การเลือกกระเป๋าถือนอกจากจะดูที่สีสันให้เหมาะ และแมตช์กับเสื้อผ้าหรือแอ็กเซสซอรี่ต่างๆ แล้ว
รูปแบบหรือลวดลายของกระเป๋าก็ควรดูโปรฯ เช่นกัน
สำหรับการมาทำงาน ควรเก็บกระเป๋าลายการ์ตูน หรือแบบพิมพ์ลายสีสันจัดจ้าน เอาไว้ใช้ในวันหยุดดีกว่า

★ Casual Friday
หลายบริษัทอนุญาตให้พนักงานแต่งตัวสบายๆ ได้ในวันศุกร์
แต่ก็ไม่ควรลากแตะไปทำงาน หรือสบายกระทั่งใส่สายเดี่ยว หรือเสื้อคอผูก เกาะอก
เพราะอย่างที่บอก ความสวยเมื่ออยู่ผิดที่ผิดเวลา ก็สามารถกลายเป็นความไร้มารยาทได้เหมือนกัน


ผ่อนคลาย (Relax)
สาเหตุความเครียดของผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่คือ ปัญหาเรื่องเพื่อนร่วมงาน
ตามมาด้วยการประชุมยิบประชุมย่อยจนไม่รู้จะเริ่มทำงานไหนก่อนดี
ตามด้วยการต้องติดต่อกับผู้คนที่หลากหลายทั้งความคิด และหลายความต้องการ
เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องรู้วิธีดีๆ ที่จะล้างพิษของความกดดันออกบ้าง

★ ถอย
เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่รุมเร้ามากๆ ลองถอยออกมาจากสถานการณ์นั้นก่อน เพื่อลดความตึงเครียด
จะวางมืองานชั่วครู่สัก 10-15 นาที ไปทำอย่างอื่น แล้วค่อยตั้งสติหาทางแก้ไข
หรือเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จแล้วลาพักร้อนไปเลยก็ได้

★ ฉวยโอกาสในช่วงวันหยุดให้คุ้มค่า
เติมพลัง รีเฟรชทั้งร่างกายและจิตใจให้ฟื้นตื่นเต็มที่ อย่าแอบพกงานไปทำด้วยล่ะ

★ นอนหลับให้พอ
ไม่ว่าจะยุคไหนคำกล่าวที่ว่า นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ช.ม. ก็ยังคงเป็นอมตะ
เพราะนี่คือความจริงที่จะช่วยให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเพียงพอ พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน

★ ดื่มน้ำมากๆ
ไม่ใช่เพราะน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายเท่านั้น
แต่ยังช่วยฟื้นฟูสภาวะร่างกาย และเพิ่มความสดชื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์

★ อย่าเก็บไว้ในใจคนเดียว
การพูดคุยกับเพื่อนหรือคนสนิทที่ไว้ใจได้ ถือเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกได้
ใครจะรู้ว่าระหว่างการพูดหรือเล่า อาจเป็นการลำดับเหตุการณ์ให้เราได้คิด ทบทวน
และพบกับหนทางแก้ไขอย่างคาดไม่ถึง แต่เลือกคนคุยด้วยหน่อยก็แล้วกัน


ถ้าคุณผ่านโปรฯทุกข้อแล้วก็ขอแสดงความยินดีกับสาว Chic in the Office คนใหม่ด้วยค่ะ


ที่มา : //www.sudsapda.com




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553
2 comments
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 20:20:06 น.
Counter : 815 Pageviews.

 

ถ้าทำได้ทั้งหมดนี่ จะแจ่มมากมาย

มาใช้ประโยชน์ในธุรกิจของเราได้สบายเลย

^^ //www.easieload.ws

 

โดย: 1O8C 23 กุมภาพันธ์ 2553 21:10:42 น.  

 

 

โดย: thanitsita 27 มีนาคม 2553 17:54:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.