ไปงานเลี้ยงรุ่น เจอเพื่อนเก่าที่ตอนนี้ทำงานได้ดิบได้ดี
Q: ไป งานเลี้ยงรุ่น เจอเพื่อนเก่าที่ตอนนี้ทำงานได้ดิบได้ดี เงินเดือนขึ้นพรวดพราด จนอดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ พาลไม่อยากไปงานเลี้ยงรุ่นอีกแล้ว
A: อย่างแรกเลยก็ต้องทำใจค่ะ หลังจากทำใจได้แล้วต้องมานั่งพิจารณาดูว่าปัญหาของคุณเข้าข่ายไหน กรณีแรกคือแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน เพื่อนอาจจะอยู่ในองค์กรเล็ก โอกาสในการเติบโตจึงมีมากกว่า ในขณะที่คุณอาจอยู่ในองค์กรใหญ่ ซึ่งต้องทำงานเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความสามารถ และใช้เวลาเพื่อก้าวไปสู่ ตำแหน่งที่สูงขึ้น ฉะนั้นต้องมององค์ประกอบหลายๆ อย่าง ทั้งผลประกอบการ นโยบายของบริษัท ฯลฯ ทุกวันนี้คนที่เพิ่งทำงานใหม่ๆ มักวัดความสำเร็จกันที่ตำแหน่งและเงินเดือน ซึ่งเป็นการมองอย่างผิวเผินและไม่ถูกต้อง อย่างตัวดิฉันเองตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ เงินเดือนเดือนละหมื่นกว่าบาท ในขณะที่เพื่อนเงินเดือนสูงลิ่วไปถึงห้าหมื่นกว่าบาท ทำให้ต้องคิดว่า “ทำไมเราด้อยกว่า” “ทำไมเพื่อนก้าวหน้าไปไกล” ทั้งๆ ที่ตอนเรียนก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน พอย้อนกลับไปมองถึงได้รู้ว่าตอนนั้นเรายังเด็ก ไม่ควรหวังเรื่องเงินทอง แต่ควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ให้แน่น เพื่อเป็นฐานในการทำงานให้พัฒนาต่อไปในอนาคต ไม่แน่ว่าเพื่อนที่ได้เงินเดือนห้าหมื่น อาจค้างเติ่งเงินเดือนอยู่ตรงนั้นจนคุณก้าวมาทันก็ได้ กรณีที่สอง คุณเองไม่เก่งพอ ถ้าหากว่าดูแล้วคุณอยู่ในองค์กรที่ดี มีสวัสดิการและการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นระบบเท่าเทียม ก็ต้องมานั่งดูว่าคุณทำงานเต็มที่แล้วหรือยัง ทุ่มเทเพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้วหรือเปล่า มีหลายคนที่มีชีวิตสุขสบาย พ่อแม่และครอบครัวเตรียมพร้อมให้ทุกสิ่งทุกอย่าง จนไม่จำเป็นต้องใฝ่หาความสำเร็จหรือเงินทองอะไรอีก นี่อาจเป็นเหตุให้คุณขาดแรงผลักดัน และอยากใช้ชีวิตเพียงแค่ทำงานไปวันๆ ถ้าคุณเป็นคนที่ขาดแรงจูงใจ การไปงานเลี้ยงรุ่นบ่อยๆ ก็นับเป็นการผลักดันตัวเองไปในตัว เหมือนกับเป็นการใส่ปุ๋ยให้ชีวิตอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี แล้วขอนัดเพื่อนเลี้ยงรุ่นปีละ 4-5 ครั้งไปเลยดีกว่าค่ะ
ที่มา : //www.sudsapda.com
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2553 13:11:44 น. |
Counter : 1626 Pageviews. |
|
|
|
นาย A เป็นคนทำงานเก่งมากมีเงินเดือนๆละ50000 บาท มีค่าใช้จ่ายรวมกันทั้ง ผ่อนรถ+บ้าน+บัตรเครดิต=45000 บาท
นาง B ทำงานดีไม่เก่งกาจเท่าไหร่ เงินเดือน 15000 บาท มีค่าใช้จ่ายรวมกันทั้ง ผ่อนรถ+บ้าน+บัตรเครดิต=5000 บาท
ถามว่าใครน่าจะมีความสุขกว่ากันครับ สิ่งที่อยากบอกก็คือเงินเดือนไม่ได้บ่งบอกว่าคนคนนั้นมีชีวิตที่ดีกว่าเรานะครับต้องลองมองให้ลึกกว่านั้นนะครับมีตัวอย่างมากมายในสังคมเราที่ดูเหมือนไม่รวยแต่รวย เช่น ครอบครัวหนึ่ง มีบ้านสองหลัง ไว้อยู่เองหนึ่งหลัง ปล่อยให้เช่าอีกหนึ่งหลัง ขับรถมือสองเก่าๆ เงินเดือนหมื่อนต้นๆ แต่ทราบมาว่าบ้านทั้งสองหลังส่งธนาคารหมดแล้ว ครอบครัวนี้จึงไม่มีหนี้สินเลยมีแต่รายรับอย่างเดียว เป็นต้น