| แกงเขียวหวานซี่โครงเนื้อตุ๋น | | | เมื่อนึกถึงอาหารไทยจานแรกคงไม่พ้น ต้มยำกุ้ง ( 340 บาท ++ ) แต่ซุปรสแซบของเชฟมอร์เทินถ้วยนี้ต้องบอกว่าแปลกใหม่ในการนำเสนอมาก เพราะหน้าตาเหมือนซุปแห้ง ๆ ที่ไม่ได้เติมน้ำต้มยำมาด้วย โดยใช้กุ้งแม่น้ำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วนำไปทอดให้พอสุก วิธีนี้จะทำให้กลิ่นของเนื้อกุ้งหอมตลบอบอวลไปทั่ว ยิ่งได้มะนาวสด ๆ ที่บีบลงในถ้วยก่อนเสิร์ฟ กลิ่นกุ้งผสานกับความหอมของมะนาวสด ผสมเป็นกลิ่นรสของต้มยำกุ้งลอยมาตั้งแต่ยังไม่ได้สัมผัสเลย จากนั้นเชฟก็รินซุปน้ำใสใส่น้ำพริกเผาลงไป ซดโฮกเดียวจัดจ้านถึงรส 3แซบคือ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม ครบรส
ยังไม่จบเพียงเท่านี้ อาหารไทยต้องมีเครื่องเคียงใช่มั๊ยะ!! เชฟจัดเต็มเครื่องเคียงแสนหรู เป็นคัสตาร์ดไข่ตุ๋นรสชาติต้มยำที่มีเนื้อปูผสมลงไป ทานคู่กับยำปลาดุกฟูกรอบ ตัก 2 อย่างใส่ปากเคี้ยว ๆ ได้รสเปรี้ยวหวานหอม อร่อยล้ำจริง ๆ | สันคอหมูพะโล้ | | | แกงเขียวหวานซี่โครงเนื้อตุ๋น ( 470 บาท++ ) เสิร์ฟมาบนชามใหญ่เกือบเท่ากาละมัง เชฟ เลือกใช้เนื้อติดซี่โครงเพราะจะทำให้น้ำเนื้อฉ่ำกว่าเนื้อที่ตุ๋นเป็นก้อน ๆ ความยากอยู่ที่การตุ๋นเนื้อให้เปื่อยซึ่งต้องใช้เวลาถึง 72 ชั่วโมง เนื้อถึงเปื่อยนุ่มกำลังเคี้ยว ลองซดน้ำแกงเขียวหวานดู ตายแล้ว!!ถ้าไม่บอกว่าฝรั่งทำจะนึกว่าเป็นสูตรชาววังเพราะหอมละมุนทั้งพริกแกงสดที่โขลกใหม่ ๆ กับเครื่องเทศที่ใส่ลงไปโขลกด้วย ใครเห็นแกงถ้วยยักษ์นี้แล้วต้องรีบขอข้างสวยร้อน ๆ มาด่วน | ซี่โครงหมูกรอบหวาน | | | เมนูที่ 3 พอเสิร์ฟมาบนโต๊ะเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่านักเปิบทั้งโต๊ะ ขนาดต้องอุทานว่า อะไรน่ะ ใหญ่มาก ๆ เพราะมันคือ แกงมัสมั่นน่องแกะ ( 690 บาท ++) ซึ่งเชฟใช้น่องแกะทั้งชิ้น( น้ำหนักน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 กิโลกรัม) ไปตุ๋น 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันจนได้เนื้อติดกระดูกที่นุ่มละมุนลิ้น ส่วนน้ำแกงมัสมั่นมีรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็มครบรส มีเม็ดบัวที่ใช้แทนถั่วลิสง เป็นอีกจานที่ไม่สั่งแล้วจะเสียดาย | ไส้อั่วไก่ | | | สันคอหมูพะโล้ ( 470บาท ++) งานถนัดของเชฟ คือการตุ๋นหรือเคี่ยวของเหนียวให้มีความนุ่มพอดีเป๊ะ!! คือนานกว่านี้ก็เละแต่ถ้าน้อยกว่านี้ก็เหนียว ที่ชอบคือกลิ่นหอมของน้ำพะโล้ที่ราดลงไปบนสันคอหมู ให้ความอร่อยแบบลงตัวมาก ๆ เชิญลิ้มลองความอร่อยกับเมนูอาหารไทยแนวร่วมสมัยได้แล้ววันนี้ ที่ห้องอาหารไทยเบญจรงค์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯบริการตั้งแต่ 12.00 - 14.30 น. และ 18.00 - 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ 02 200 9000 ต่อ 2699 ***เบญจรงค์ ซิกเนเจอร์ Tasting Journey*** เมนู 1 ปลาหมึกทอดขมิ้น ,หอยเชลล์ปรุงรสและมะละกอในน้ำกะทิ , หมูอบราดน้ำจิ้มมะเขือเทศรมควัน เมนู 2 ต้มยำกุ้ง , ยำปลาดุกฟูใส่มะม่วงเขียวและคัสตาร์ดรสต้มยำใส่เนื้อปู เมนู 3 ยำเนื้อวากิวกับเมลอนและแยมพุดดิ้ง เมนู 4 อกเป็ดย่างราดน้ำมันหอยเสิร์ฟพร้อมมะเขือยาว กะหล่ำปลีและเกี๊ยวกรอบ เมนู 5 ไอศกรีมโหระพาใส่เนื้อสับปะรดเสิร์ฟพร้อมเมอแรงรสเค็ม ปิดท้าย กาแฟและชา พร้อมขนมหวานพิเศษของเบญจรงค์ ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ |