สอบใบขับขี่ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ?
ไหนใครที่กำลังจะไปสอบใบขับขี่บ้างยกมือขึ้น! ซึ่งเราต้องขอบอกเลยว่าการสอบใบขับขี่อาจจะเป็นเรื่องที่ดูเล็กน้อยสำหรับใครหลายๆ คน แต่! มันคือเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับมือใหม่หัดขับเลยก็ว่าได้ เพราะมันจะมีทั้งความกลัวและความตื่นเต้นผสมผสานปนเปกันไปหมด อีกทั้งคำเล่าขานที่ว่าการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัตินั้นหินแบบสุดๆ ก็ยิ่งทำให้มือใหม่หัดขับหลายๆ คน เกิดอาการประหม่าเพิ่มขึ้นไปอีก แต่! เราอยากจะให้คุณใจเย็นๆ กันก่อน เพราะในบทความนี้เราได้นำรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบใบขับขี่มาฝาก ซึ่งเราขอรับรองเลยว่าหากคุณเตรียมตัวตามที่เราแนะนำ มันจะทำให้การสอบใบขับขี่ของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายๆ จนคุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ
5 ขั้นตอนการเตรียมไปสอบใบขับขี่ 1.จองคิวเข้าอบรมเพื่อสอบใบขับขี่
อันดับแรกก่อนที่คุณจะไปสอบใบขับขี่นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องเข้าไปนั่งอบรมให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งคุณสามารถจองคิวเข้าอบรมผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ได้เลยทันที ซึ่งวิธีนี้ถือได้ว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกรมขนส่ง
2.จัดเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปขนส่ง
เมื่อคุณทำการอบรมครบชั่วโมงตามที่ทางขนส่งกำหนดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนไปสอบจริง! โดยเอกสารที่คุณจำเป็นจะต้องเตรียมให้ครบเลยก็คือ
2.1บัตรประชาชนตัวจริง
2.2สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
2.3ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (จากคลินิก หรือโรงพยาบาลก็ได้)
2.4ใบรับรองการอบรม (กรณีอบรมนอกกรมขนส่ง)
3.ทำการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย
เมื่ออบรมแล้ว! เอกสารครบแล้ว! ลำดับถัดมาก่อนเข้าสอบใบขับขี่เลยก็คือ “การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย” เพื่อรับรองว่าคุณสามารถควบคุมรถยนต์ได้หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นบนท้องถนน โดยการทดสอบสรรถภาพร่างกายประกอบไปด้วย
3.1ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
3.2ทดสอบสายตาทางลึก
3.3ทดสอบสายตาทางกว้าง
3.4ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความเร็วในการเหยียบเบรกรถยนต์)
(ก่อนที่จะไปขั้นตอนถัดไป สำหรับใครที่ยังอบรมไม่ครบ 5 ชั่วโมง คุณสามารถเข้าอบรมได้ต่อหลังจากตรวจสมรรถภาพร่างกายเสร็จ)
4.เริ่มสอบใบขับขี่ออนไลน์แบบข้อเขียน
และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! ซึ่งนั่นก็คือการเริ่มทำข้อสอบออนไลน์ โดยผู้สอบจะต้องทำข้อสอบผ่านทางระบบ Electronic Examination (E-exam) ข้อสอบจะมีทั้งหมด 50 ข้อ แบบปรนัย ให้ตัวเลือก (ก-ง) และต้องทำให้ได้ 45 ข้อขึ้นไป ภายในระยะเวลา 60 นาที (ข้อมูลที่ออกสอบส่วนใหญ่จะอยู่ในเอกสารที่แจกในช่วงที่คุณนั่งอบรมอยู่เป็นหลัก) และเมื่อคุณสอบผ่านภาคทฤษฎีแล้วเราก็ไปต่อที่ภาคปฏิบัติกันเลย
5.ลงสนามจริงเพื่อสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ
เรียกได้ว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนปราบเซียนที่ทำให้หลายๆ คน สอบตกมาแล้ว! โดยทริคที่จะทำให้คุณสอบผ่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้นก็คือ นำรถยนต์ส่วนตัวไปสอบ เพื่อความคุ้นชินและคล่องมือในการเข้าท่าต่างๆ นั่นเอง โดยการสอบจะมี 3 ท่า หลักๆ เลยก็คือ
5.1ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
5.2ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า
5.3ขับรถถอยเข้าซอง
(ฝึกทั้ง 3 ท่านี้ให้คล่องเพื่อที่คุณจะได้ไม่ตื่นเต้นและไม่ต้องเดินทางมาสอบใหม่)
ซึ่งถ้าคุณสอบผ่านทั้ง 3 ท่านี้ ก็ถือได้ว่าเป็นอันเสร็จสิ้นการสอบใบขับขี่แล้วล่ะ โดยหลังจากนั้นก็จะเป็นการเตรียมตัวถ่ายรูปและชำระค่าธรรมเนียม พร้อมรับใบขับขี่กลับบ้านไปได้เลย
หากคุณเตรียมตัวตามคำแนะนำที่เราได้กล่าวไป รับรองเลยว่าคุณจะได้ใบขับขี่มานอนกอดอย่างแน่นอน! และสิ่งที่มือใหม่หัดขับอย่างคุณไม่ควรที่จะมองข้ามอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ "
การทำประกันรถยนต์" เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขับรถในช่วงแรกๆ นั้น บางคนอาจจะยังไม่คุ้นชินกับการจอดรถในที่แคบจนทำให้เกิดการเฉี่ยวชน หรือเกิดอาการประหม่าเมื่อเจอเหตุการฉุกเฉินบนท้องถนนจนอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเอาได้ง่ายๆ ซึ่งการทำประกันรถยนต์จะเข้ามาช่วยดูแลและรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกชมกรมธรรม์ประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำเจ้าต่างๆ ได้ที่ Rabbit Care เว็บไซต์ที่รวบรวมประกันภัยรถยนต์ไว้มากที่สุดแห่งยุค!