ขึ้นภูดูวิวมุกดาหาร
ทริปสามจังหวัดภาคอีสาน สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร มาถึงจังหวัดสุดท้ายแล้วนะครับ วันนี้จะพาเที่ยวมุกดาหารตระการตาชายโขงกัน
จากบล็อกที่แล้ว ดิ่งลงเส้น 212 จากจังหวัดนครพนม ผ่านพระธาตุพนมมาสักพักจะมาถึง อ.หว้านใหญ่ ที่มีวัดกึ่งเก่ากึ่งใหม่เรียงราย แต่ส่วนใหญ่อายุไม่ถึงสองร้อยปี ไม่อยู่ในข่ายโบราณสถานที่เจ้าของบล็อกสนใจ ขอเลือกเจาะเที่ยวเฉพาะวัดสองคอนที่โด่งดังจากเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวคริสต์ที่นี่ในปี พ.ศ.2483 แต่ก่อนหน้านั้นมาแวะแก่งกะเบากันก่อนครับ
แก่งกะเบา เป็นแก่งหินริมแม่น้ำโขง นิยมมาเที่ยวกันช่วงหน้าแล้ง น้ำลดจะเห็นเกาะแก่งขึ้นมาสวยงามน่าชม หรือต่อให้ช่วงหน้าน้ำ น้ำขึ้น ก็ยังมีหาดทรายให้พักผ่อนหย่อนใจ.... ซะที่ไหนฟะ ร้อนฉิบเป๋ง เดี๋ยวนี้น่าจะเป็นที่นั่งกินหมูหันมากกว่า
แถวนี้มีร้านอาหารเป็นเพิ่งเล็กๆเรียงราย ส่วนใหญ่เป็นหมูหัน ไก่ย่าง ส้มตำ ปลาเผา ฯลฯ ครับ หมูหันแถวนี้เรียกว่าหมูย่างเมืองมุกได้รับความนิยมในหมู่ชาวมุกดาหารเหมือนกัน ร้านใหญ่ที่สุดก็นี่เลย ร้านแพศิริชัย ย่างหมูหันเรียงรายหลายสิบตัว แสดงว่าขายดีแบบสุดๆ โต๊ะก็เยอะนะครับ แต่ผมมาถึงที่นี่ตอนสิบโมง ยังไม่ใช่มื้อ หรือต่อให้เป็นมื้อมากับแม่แค่สองคนกินแค่หางหมูก็อิ่มแล้วครับ หมูหันจึงไม่ใช่ช้อยส์สำหรับวันนี้จ้าาาา น่าเสียดาย ใครผ่านไปแถวนั้นช่วยไปลองหน่อยว่าอร่อยมั้ย หมูหันอร่อยๆเดี๋ยวนี้หากินยากนะ
จากแก่งกะเบาลงมาอีกประมาณ 4 กม. จะมีวัดสองคอนอยู่ริมถนนเลยครับ ชื่อเต็มคือโบสถ์พระแม่ไถ่ทาส (วัดสองคอน) เป็นสักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขีประเทศไทย (Our Lady of the Martyrs of Thailand Shrine) ชื่อเศร้ามาก มันเศร้ายังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ...
โบสถ์นี้เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ที่บ้านสองคอน อ.หว้านใหญ่ ก่อตั้งโดยบาทหลวงซาเวียร์ที่เดินทางมารักษาโรคและสอนศาสนาจนมีชาวสองคอนเข้านับถือศาสนาคริสต์มากมาย ในปี พ.ศ.2432 แต่เดิมทีเรียกว่าวัดพระแม่ไถ่ทาส (คริสต์ศาสนิกชนหลายคนเป็นทาสที่บาทหลวงซาเวียร์ไถ่ตัวให้เป็นอิสระ) และเปลี่ยนผู้อุปถัมภ์หลายคนจนมาถึงบาทหลวงเปาโลฟีเกต์ ปี พ.ศ.2483 เป็นช่วงที่รัฐบาลพยายามกำจัดอิทธิพลของฝรั่งเศสออกไปจากท้องที่ จึงได้ขับไล่บาทหลวงเปาโลออกจากประเทศไทย และบังคับให้ชาวสองคอนเลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่ชาวคริสต์ที่มีศรัทธาเหนียวแน่นไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา จึงถูกตำรวจสังหาร โดยครูฟิลิป สีฟอง ถูกสังหารที่หมู่บ้านพาลุกาในวันที่ 16 ธ.ค. และผู้ศรัทธาอีก 6 ท่านประกอบด้วยแม่ชี 2 ท่าน ผู้หญิงและเด็กหญิงชาวคริสต์อีก 4 ท่าน ได้ถูกตำรวจลวงไปสังหารในป่าด้านหลังวัดแห่งนี้ (อยู่อีกฝั่งถนนตรงข้ามโบสถ์) ในวันที่ 26 ธ.ค. นับเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์การใช้อำนาจของรัฐบาลไทยที่เลวร้ายที่สุด
ในปี พ.ศ. 2532 พระสันตะปาปาจอห์นพอลที่ 2 ได้ประกาศแต่งตั้งทั้ง 7 ท่านเป็นบุญราศี หรือมรณสักขี (martyr) ด้วยถือเป็นผู้มีศรัทธาอันแน่นแฟ้น
| | ด้านในโบสถ์พระแม่ไถ่ทาสประดิษฐานรูปพระเยซู ด้านล่างมีรูปจำลองมรณะสักขีทั้งเจ็ดในหลุมศพแบบโลงแก้ว มีคนเข้ามาเคารพวางดอกไม้ไม่น้อยเลย ส่วนร่างของทั้ง 7 ท่านฝังอยู่ที่ป่าที่ถูกสังหาร ตอนนี้ปรับปรุงเป็นสุสานและเรียกว่าป่าศักดิ์สิทธิ์ครับ
เรือนไม้ทรงอีสานสองหลัง เคยเป็นที่พักของซิสเตอร์อักเนส และซิสเตอร์ลูซีอา แม่ชีสองท่านที่ถูกสังหาร ตอนนี้อนุรักษ์ไว้เป็นนิทรรศการกลางแจ้ง
ลงมาอีกราวๆ 30 กม. จนเกือบถึงตัวเมืองมุกดาหาร จะมี สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 เชื่อมเมืองมุกดาหารกับสะหวันนะเขต (แขวงสุวรรณเขต ประเทศลาว) สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2549 และเช่นเดิม หนนี้ไม่ได้ข้ามไปฝั่งลาวนะครับ ผมเคยข้ามสะพานนี้ขากลับจากทริปเวียดนาม (นั่งรถจากเวียดนามผ่านลาวกลับมาไทย) ได้กลับมาอีกทีก็รู้สึกคิดถึงงงง.... ซะเมื่อไหร่ล่ะ ตอนนั้นหลับ จำไม่ได้ว่าแล่นไปไหนมั่ง
หาข้าวกินแถวๆใต้สะพานนี่แหละครับ สุ่มได้ร้านท้องถิ่นกินอาหารบ้านๆ บ้านๆจนขี้เกียจเอามารีวิว เข้ามาในเมืองมุกดาหารขับเลียบแม่น้ำโขงก่อนถึงตลาดอินโดจีนอันขึ้นชื่อจะมี วัดศรีมงคลใต้ วิหารมีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ภายในวิหารประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวง เป็นพระพุทธรูปปูนปางมารวิชัยและเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมุกดาหารด้วยครับ
ริมน้ำโขงของเมืองมุกดาหารคือ ตลาดอินโดจีน ที่โด่งดัง ถึงจะชื่อซ้ำกับตลาดอินโดจีนที่นครพนมและอื่นๆ แต่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยนะครับ ตลาดที่นี่ใหญ่มากๆ ขายกันมากว่า 30 ปี มีทั้งบนดินข้างถนนเลียบชายโขง และใต้ดิน สินค้ามีทั้งของไทย และนำเข้าจากจีน เวียดนาม ลาว มีทั้งอาหารแห้ง ของใช้ งานฝีมือ เสื้อผ้า สมุนไพร ฯลฯ
ทางเดินใต้ดินยาวเป็นกิโลเหมือนกัน เดินจากประตูหน้าสุดไปหลังสุดใช้เวลาสิบกว่านาที มีของที่ไม่ค่อยได้เห็นอย่างพวกสมุนไพรแปลกๆเยอะเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ซื้อแค่ของคุ้นตาอย่างยาคูลท์กับเสื้อยืดตัวนึง
แดดช่วงเที่ยงแรงมาก ขึ้นมาบนดินได้แป๊บนึงต้องรีบหลบเข้าร่มเงากันจ้าละหวั่น เดินย้อนมาที่ วัดยอดแก้วศรีวิชัย อยู่ถัดจากวัดศรีมงคลใต้ลงมา 300 เมตรครับ มีพระธาตุอยู่ริมสระน้ำหลังวัดรูปร่างคล้ายพระธาตุพนม วัดนี้เคยมาสมัยกลับจากเวียดนามหนนั้นเดินเที่ยวตลาดอินโดจีนและหลงเข้ามาโดยบังเอิญ จำพระพุทธรูปปางประทานโปรดสัตว์ได้ครับ |
|
ช่วงบ่ายๆขืนเที่ยวต่อคงเกรียมเป็นหมูย่างเมืองมุก ขอแวะเข้าที่พักดีกว่า วันนี้จองไว้ที่ ณ วันวานรีสอร์ท ตกแต่งแบบย้อนยุคหน้าตาสวยงามและทำเลอยู่ใกล้ชายโขง (แต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทำเลมันอีกเช่นเคย) คืนละ 550.- เช่นเดิมครับ สรุปว่าทริปนี้พักคืนละ 550 ทั้งสามที่เลย ถูกสุดๆ แต่ที่นี่ตัดเงินก่อนเข้าพักนะ
นอนตากแอร์จนพอใจแล้วก็ออกเที่ยวต่อยามเย็น เป้าหมายต่อไปคือ หอแก้วมุกดาหาร ที่เที่ยวชื่อดังที่สามารถขึ้นไปชมเมืองมุกดาหารได้ ปกติปิดหกโมงเย็น แต่วันนี้ปิดตั้งแต่สี่โมงเนื่องจากเจ้าหน้าที่จะเล่นสงกรานต์ แต่พอผมทำหน้าผิดหวัง ท้อแท้และสิ้นหวังกับการเดินทางมาหลายร้อยกิโลเมตรแต่ไม่ได้ขึ้นหอแก้วเพราะเจ้าหน้าที่อยากเล่นสงกรานต์ ก็มีเจ้าหน้าที่เปิดลิฟต์ให้ขึ้นไปชมชั้นบนได้นะ ค่าเข้า 20 บาทครับ
หอแก้วมุกดาหาร ใช้งบประมาณก่อสร้าง 50 ล้านบาท สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2539 เนื่องในโอกาสในหลวงรัชกาลที่ 9 ครองราชย์ครบ 50 ปี สูง 65 เมตร มี 7 ชั้น นอกจากใช้ชมวิวแล้วภายในยังจัดแสดงนิทรรศการที่รวบรวมความเป็นมุกดาหารเอาไว้ด้วย
| ชั้น 1 มีภาพถ่ายวิถีชีวิตและเครื่องมือเครื่องใช้สมัยก่อน โบราณวัตถุชิ้นสำคัญคือกลองมโหระทึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อายุ 3 พันปี |
| ชั้น 2 แสดงเครื่องแต่งกายและวิถีชีวิตของเผ่าต่างๆในมุกดาหารทั้ง 8 เผ่า และบอร์ดแสดงประวัติศาสตร์เมืองมุกดาหาร | (ชั้น 3-5 ขึ้นไม่ได้จ้ะ) ชั้น 6 เป็นหอชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา
ภูมโนรมย์ทางใต้ของตัวเมืองมุกดาหาร เห็นอะไรแว้บๆ
|
พระพุทธรูป!! เพิ่งรู้ว่ามีพระพุทธรูปใหญ่ขนาดนี้บนภูมโนรมย์ จัดเป็นเป้าหมายต่อไปเลยครับ
| | ชั้น 7 ประดิษฐานพระพุทธนวมิ่งมงคลมุกดาหาร หล่อจากเงินบริสุทธิ์ และมีพระประจำวันให้ทำบุญ
| ขับตามสาย 2034 ออกมาจากเมืองผ่านหอแก้วมุกดาหาร จะมีทางแยกเข้าบ้านเขามโนรมย์เป็นทางขึ้นภูมโนครับ นี่เป็นที่ตั้ง วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ที่เป็นลานหินกว้างและเป็นจุดชมวิวเมืองมุกดาหารยอดนิยม ถึงจะไกลตัวเมือง แต่สูงยิ่งกว่าหอแก้วมุกดาหารอีกครับ
ขึ้นไปยอดภูมโน จะมีรอยพระพุทธบาทจำลองที่ไม่ได้ใหญ่โตสวยงามหรือเก่าแก่อะไร (สร้างปี พ.ศ.2525) รีบหาจุดขายใหม่ ด่วน!
|
จัดไป... พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์สูงเกือบร้อยเมตรแล้วยังอยู่บนภูอีกทีนึง เป็นทั้งแลนด์มาร์คและสุดยอดจุดชมวิวไปในตัว
|
จากฐานบัวขึ้นไปถึงรอบองค์พระเป็นตึกสูง 5 ชั้น เดินขึ้นไปเล่นเอาหอบเลยครับ
|
ด้านบนรอบองค์พระเป็นจุดชมวิวที่แจ่มที่สุดของมุกดาหารแล้วครับ มองเห็นได้สูงกว่า ไกลกว่าจุดชมวิวที่หอแก้วหรือที่ไหนๆ ช่วงเย็นลมแรงมาก
| พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ สร้างเฉลิมฉลองในหลวงรัชกาลที่ 9 พระชนมายุ 80 พรรษา (และจนบัดนี้ยังไม่แล้วเสร็จ) รวมฐานแล้วสูง 86.5 เมตร งบประมาณ 106 ล้านบาท
วิวที่เห็นจากด้านบนแบบพาโนรามา (คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพขยาย) มองข้ามแม่น้ำโขงไปนั่นคือเมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาวครับ
มองเห็นหอแก้วมุกดาหารอยู่ลิบๆ ที่ไกลออกไปอีกนั่นคือสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 เรียกว่าจุดนี้ละครับ เห็นทั้งเมืองทั้งแลนด์มาร์คสำคัญๆของมุกดาหารครบเลย
มื้อเย็นแวะกินร้านดาข้าวต้มปลา ขากลับเข้าตัวเมืองจะอยู่เลยหอแก้วมุกดาหารมานิดหน่อย กะว่าเป็นมื้อเบาๆสำหรับตอนเย็นจะได้ไม่นอนท้องอืด ก็ปรากฏว่าไม่มีข้าวต้มปลาครับ มีแต่อาหารตามสั่ง จัดผักบุ้งไฟแดง และต้มยำพุงไข่มาอย่างละอัน (มันเป็นมื้อเบาๆตรงไหนเนี่ย?) แถมไข่ปลาจัดเต็มมาก! กลัวว่าคืนนี้จะขี้เหลวเป็นน้ำมัน แต่ไม่ใช่ไข่ปลาสลิดคงไม่เป็นไรมั้ง? คนขายเคยขายอาหารทะเลอยู่ที่ชลบุรีมาหลายปีก่อนจะกลับมาบ้านเกิดที่มุกดาหารและเปิดร้านมีชื่อเสียงโด่งดัง ร้านนี้อร่อยครับ
เข้านอนที่ ณ วันวานรีสอร์ท วันนี้กลับเข้าที่พักหกโมงครึ่ง ทริปนี้หมกตัวอยู่ในห้องพักเยอะกว่ารอบที่ขึ้นเหนือหรือลงใต้ ร้อนแบบนี้ไม่มีอารมณ์เที่ยวกลางคืนเลยครับ
16 เม.ย. 2560 เป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง วันนี้มีเป้าหมายเดียวคือขึ้นไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ่นบนภูผาเทิบ แล้วดิ่งกลับอย่างเดียวเลย รีบออกจากที่พักตั้งแต่ตีห้า มาทางใต้เส้นเดียวกับที่ไปภูมโน ไกลจากตัวเมืองประมาณ 20 กม. ถึง ภูผาเทิบ ตอน 5.15 น. |
| ที่นี่มีจุดท่องเที่ยวเยอะครับ ทั้งถ้ำที่มีพระโบราณหรือน้ำตก แต่มันเดินไกลมาก จุดที่ตั้งใจจะเที่ยวจริงๆมีแค่กลุ่มหินเทิบ ที่ออกันอยู่ปากทางขึ้นภูเลย
กลุ่มหินเทิบ เป็นโขดหินทรายขนาดใหญ่รูปร่างแปลกประหลาดเรียงรายมากมาย เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกเมื่อ 150 ล้านปีก่อน ทำให้หินจากต่างแหล่งกันมาทับถมบริเวณนี้ และถูกกัดเซาะโดยลมฝนนับล้านปี ช่วงเช้าอากาศเย็นๆ เป็นการเดินชมหินที่ฟินมากครับ ♥
ยิ่งเดินไปก็ยิ่งเจอหินรูปร่างแปลกๆสวยๆ เดินเพลินมาถึงเอาลานมุจลินทร์ซะแล้ว (นั่นคือเดินมา 500 เมตรแล้ว สำหรับการปีนผาถือว่าไกลอยู่นะ) ที่นี่เป็นลานหินทรายกว้างใหญ่ ยาว 1 กม. และมีการค้นพบชิ้นส่วนไดโนเสาร์บริเวณนี้ด้วย
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว..... วันนี้เมฆเยอะไปหน่อย รู้ตัวอีกทีตะวันก็ขึ้นไปสูงโด่ง เอาน่ะ ท้องฟ้ายังสีสวยอยู่ ตอนนี้ 6.14 น. ครับ
ถือเป็นความสวยงามส่งท้ายทริปนี้ ใครไปแถวมุกดาหารแนะนำมาเที่ยวภูผาเทิบเลยครับ
ลงจากภูผาเทิบมาหาข้าวเช้ากินในตลาดเทศบาลมุกดาหาร ก็ยังคงมีอาหารเช้าสไตล์ญวนๆ เหมือนนครพนมและสกลนครนะครับ มื้อนี้กินต้มเส้นใส่ไข่ร้านลวน พบว่าร้านนี้หมูยออร่อยมาก แม่เลยซื้อกลับไปเป็นของฝากมิตรรักแฟนเพลงทางบ้าน เอาไปกินกับกาละแมพรประเสริฐที่ซื้อจากพระธาตุพนม
ขากลับรถก็ยังติดเอาเรื่องเลยนะครับ ช่วงเทศกาลเที่ยวพร้อมกันกลับพร้อมกันมันก็ติดบรรลัยแบบนี้แหละ สายมิตรภาพแทบจะแล่นไม่ได้ เลยพยายามเลาะเอาเส้นรองๆ ผ่านตัวเมืองชัยภูมิ ทิ่มลงสาย 2 ที่ อ.สีคิ้ว ข้าวเย็นกินที่เซเว่น (สภาพของมื้อท้ายๆของการเดินทางมักจะเป็นแบบนี้แหละ) กว่าจะถึงบ้านก็สามทุ่ม ลงจากรถเดินตัวงอเป็นไมเคิลแจ็คสันเลยครับ ทริปนี้เดินทางไปทั้งสิ้น 1,845 กม. จ้าาาาา
Create Date : 28 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 3 กรกฎาคม 2560 23:38:23 น. |
|
49 comments
|
Counter : 4507 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณTui Laksi, คุณThe Kop Civil, คุณSweet_pills, คุณKavanich96, คุณmambymam, คุณกะว่าก๋า, คุณเรียวรุ้ง, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtoor36, คุณJinnyTent, คุณmoresaw, คุณRinsa Yoyolive, คุณสองแผ่นดิน, คุณปลาแห้งนอกกรอบ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกิ่งฟ้า, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณอุ้มสี, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณClose To Heaven, คุณhaiku, คุณRain_sk, คุณnewyorknurse, คุณmariabamboo, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณschnuggy, คุณtuk-tuk@korat, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณSai Eeuu, คุณkae+aoe, คุณกาบริเอล, คุณไวน์กับสายน้ำ |
โดย: Tui Laksi วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:29:04 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:31:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:43:30 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:0:18:41 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:0:26:12 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:4:25:28 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:4:37:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:6:35:54 น. |
|
|
|
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:15:45:36 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:16:15:09 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:18:11:13 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:19:11:10 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:19:59:28 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:21:51:49 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:23:47:56 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:21:51:57 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:22:51:03 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:23:01:48 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:3:30:51 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:9:28:13 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 3 กรกฎาคม 2560 เวลา:1:14:40 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 4 กรกฎาคม 2560 เวลา:4:33:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กรกฎาคม 2560 เวลา:6:24:46 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 4 กรกฎาคม 2560 เวลา:8:28:30 น. |
|
|
|
โดย: กาบริเอล วันที่: 4 กรกฎาคม 2560 เวลา:11:55:40 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 4 กรกฎาคม 2560 เวลา:20:18:21 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 5 กรกฎาคม 2560 เวลา:6:41:01 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 5 กรกฎาคม 2560 เวลา:11:13:48 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2560 เวลา:11:22:26 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 5 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:57:31 น. |
|
|
|
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2560 เวลา:20:35:28 น. |
|
|
|
|
|
ภาพประกอบสวยมากเลยนะคร้า
มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง
ขอบคุณรีวิวคะ ที่ทำให้ได้รู้จักในอีกมุมหนึ่ง