เยือนพังงา เมืองภูผาแปลก
เอ็นทรี่นี้ปิดท้ายทริปกระบี่-พังงาเมื่อปลายปีที่ผ่านมาครับ (26-30 ธ.ค. 67) หลังเที่ยวเกาะลันตาและกระบี่ไปหน่อยนึง ผมก็ดิ่งเข้าพังงา ปกติจะขับลงมาจากระนอง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เข้าพังงาจากฝั่งกระบี่ และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าตัวเมืองพังงาด้วยครับ ก็เพิ่งรู้ว่าจังหวัดที่ฮ็อตด้านท่องเที่ยวขนาดนี้จะมีตัวเมืองที่เงียบเหงาได้ถึงเพียงนี้
ศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่า (Phang-Nga City Hall) วันที่ 27 ธ.ค. หลังออกจากถ้ำผีหัวโต ใช้เวลาขับรถต่อมาอีกครึ่ง ชม. ก็ถึงพังงา และนี่คือศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่า สร้างในปี พ.ศ.2473 หลังควบรวมเมืองตะกั่วป่ามาขึ้นกับจังหวัดพังงาในสมัย ร.7 และย้ายที่ตั้งศาลากลางมาที่นี่ ก่อนย้ายไปหน้าถ้ำพุงช้าง และย้ายอีกทีไปศูนย์ราชการถนนพังงา-ทับปุด จนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา ของจัดแสดงมีไม่ค่อยมาก มีพัฒนาการของเมืองพังงา สถาปัตยกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นนิดหน่อย
โบราณสถานถ้ำซำ (Tham Sam Rock Art) ขับขึ้นเหนือผ่านตัวเมืองขึ้นไปด้านบน จะมีโบราณสถานถ้ำซำ เป็นถ้ำหินปูนเล็กๆ หน้าบึงหนองหารซำ จอดรถแล้วเดินเข้าถ้ำได้เลย เที่ยวง่ายมากครับ สิ่งน่าสนใจคือภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัย ร.4-5 เป็นภาพลายเส้นลงสีขาว ดำ แดง แสดงเรื่องราวพุทธศาสนาและวิถีชีวิตผู้คน ทั้งรูปคน เด็ก ชาวจีน ฝรั่ง ยักษ์ นก ม้า ดอกไม้ คนมือบอนไปวาดปนๆ กับเค้าก็มี น่าจับไปมัดกับปากถ้ำ ให้ลิงแถวนั้นตบกบาล ไม่ค่อยได้เห็นภาพเขียนแบบนี้ตามธรรมชาตินะครับ ปกติจะวาดบนผนังวัดมากกว่า หน้าถ้ำมีโกลนพระพุทธรูปอยู่ คิดว่าที่นี่น่าจะเคยใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมสมัยนั้นด้วย ไม่ค่อยได้เห็นภาพเขียนแบบนี้ตามธรรมชาตินะครับ ปกติจะวาดบนผนังวัดมากกว่า หน้าถ้ำมีโกลนพระพุทธรูปอยู่ คิดว่าที่นี่น่าจะเคยใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมสมัยนั้นด้วย |  |
ถ้ำพุงช้าง (Phung Chang Cave) ในเมืองยังมีที่เที่ยวธรรมชาติน่าสนใจอีกแห่งคือถ้ำพุงช้าง อันนี้สะดุดตาป้ายทางเข้าที่สวยงามอลังการ แต่เวลาเที่ยวไม่ค่อยมี เลยกะเข้าไปวนดูแป๊บๆ ถ้ำพุงช้าง อยู่ใต้เขาช้าง เป็นถ้ำหินปูนที่เพิ่งถูกสำรวจในปี 2544 เองนะครับ หน้าถ้ำมีศาลเจ้าพ่อเขาช้างที่คนพังงาเคารพนับถือ ตัวถ้ำมีความยาวถึง 1,200 เมตร ใช้เวลาเข้าชม 1 ชม.ครึ่ง และต้องนั่งเรือยางเข้าไปตามลำน้ำที่ลอดผ่านถ้ำ ใช้เวลาเอาเรื่องอยู่ เลยขอถ่ายแค่หน้าถ้ำแล้วไปสเตชั่นถัดไปครับ ใครมีเวลาลองแวะเที่ยวดูนะ
ช่วงเย็นวันที่ 27 ธ.ค. กินร้านนี้ครับ ดวง๑ เป็นร้านอาหารท้องถิ่นริมถนนเพชรเกษม อร่อยและให้เยอะในราคาไม่แพง เจ้าของร้านยิ้มแย้มรับแขกดีมาก ช่วงเย็นคนยังไม่แน่นรอกับข้าวไม่นาน หน้าร้านมีที่จอดริมถนนได้ 2-3 คัน หรือไปจอดในตลาดสดกราภูงาฝั่งตรงข้ามแล้วข้ามถนนมาก็ได้ ร้านอาหารในพังงาที่ผมกิน 3 มื้ออยู่ในตัวเมืองหมดเลย ขอไล่ให้ครบก่อนเลยแล้วกันครับ มื้อเช้าวันที่ 28 ธ.ค. มากินข้าวขาหมู ร้านอยู่แถววงเวียนศาลากลาง หน้าที่พักเลย เดินมากินได้สบาย ขาหมูแม่ศรี เป็นร้านขาหมูชื่อดังและเปิดแต่เช้า มีทั้งขาหมู หมูทอด หมูแดง ข้าวมันไก่ ก๋วยจั๊บ โจ๊ก หมี่ซั่ว ต้มเลือดหมู และติ่มซำ เหมาะเป็นมื้อเช้าก่อนเดินทาง ข้าวขาหมูแยกน้ำราดให้ราดปริมาณตามชอบ ขาหมูหนังเปื่อย เนื้อนุ่มไม่สากเป็นเส้น ไส้หมูไม่มีกลิ่น มีพริกและกระเทียมแกะให้แบบไม่หวงของ ปลื้มเลยมื้อนี้ เที่ยงวันที่ 28 กลับจากพิพิธภัณฑ์เบญญารัญเข้ามาในตัวเมือง ตั้งใจมากินขนมจีนป้าศลหน้าศาลเจ้าแม่ม่าจ้อโป๋ เป็นเจ้าดังของพังงา พอไปถึงไอ๊ย่า... อย่างกับโรงทาน เป็นบริการตัวเอง ที่นั่งแน่นขนัดเลยครับ ขอไม่สู้  เลยไปกินบะหมี่ตลาดขวางเจ้าเก่า เริ่มขายตั้งแต่ปี พ.ศ.2458 นำสูตรบะหมี่กวางตุ้งจากประเทศจีนมาขายบนถนนตลาดขวาง เส้นบะหมี่ใส่ไข่ไก่เยอะพิเศษและทำสดวันต่อวัน กินกับหมูแดงและขาหมูตุ๋น ตอนนี้เปิดกิจการมาถึงรุ่นที่ 4 แล้ว ในตัวเมืองพังงามีสตรีทอาร์ทดูพอเพลินๆ นะครับ ผลงาน Alex Face หลายรูปเลย และนี่คือวงเวียนเขาตะปู จำลองเขาตะปูแลนด์มาร์คชื่อดังของจังหวัด เรียกว่าอยู่ประมาณศูนย์กลางของเมืองพังงาแล้วนะครับ แต่บรรยากาศยังเงียบสงบขนาดนี้ พักที่ราชาวดีเฮ้าส์ครับ เป็นบ้านหลังๆ อยู่ตรงวงเวียนเลย บรรยากาศขนาบด้วยเขาหินปูนกลางเมือง มีที่จอดรถให้พอดีห้อง ปลั๊กไฟในห้องเยอะ เตียงและหมอนนุ่มสบาย ราคาไม่แพง เดินออกไปถนนเพชรเกษมมีปั๊ม มีร้านอาหาร สะดวกมากครับ เป็นที่พักที่ชอบที่สุดในทริปนี้แล้ว
 | พิพิธภัณฑ์เบญญารัญ (Benyaran Museum) | เช้าวันที่ 28 ธ.ค. 67 ลงใต้แบบยาวๆ เลยครับ ลงไปถึงตะกั่วทุ่ง ห่างจากตัวเมืองพังงา 50 กม. จะมีพิพิธภัณฑ์เบญญารัญ ก่อตั้งในปี พ.ศ.2551 โดยคุณรณชัย จินดาพล นายกสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทย รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีต และมรดกตกทอดของตระกูลจินดาพล เช่น เงินตราโบราณ อาหารการกิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นาฬิกา โทรทัศน์ ฟิล์ม ร้านตัดผม ร้านขายยา ร้านทอง โรงภาพยนตร์ อาวุธสงคราม อุปกรณ์ทำเหมือง ฯลฯ ของเก่าจะเก็บอยู่หลายอาคารและยังคงขยายไปเรื่อยๆ ไม่มีพิพิธภัณฑ์ไหนแม้แต่ในกรุงเทพที่จะมีของเก่าละลานตาขนาดนี้แล้วครับ เปิด 9.00 - 17.00 น. ทุกวัน ค่าเข้าคนละ 100 บาท เบญญารัญ มาจากชื่อของมารดาและบิดาคุณรณชัย (เบญญา+อรัญ) รวมกันมีความหมายว่าป่าที่รุ่งเรืองด้วยปัญญา  อาคารเก็บของเก่าเรียงราย ไล่เดินดูทีละอาคารได้เลยครับ |  อุปกรณ์ทำครัวโบราณ | และนี่คืออาคาร 4 อาคารที่เก็บข้าวของมากมายหลายโซนที่สุดในพิพิธภัณฑ์นี้ แค่ตึกนี้ตึกเดียวใช้เวลาเป็นชั่วโมงได้เลยครับ  ห้องเก็บเหรียญและธนบัตรโบราณ ในภาพคือเหรียญตระกูลเจ้าสัว |  ภาพบรรพบุรุษตระกูลจินดาพล |  โต๊ะกินข้าวจากไม้ตะเคียงทองแผ่นเดียว บนโต๊ะจำลองเมนูอาหารพื้นเมืองของภูเก็ตและพังงา |  วิทยุและโทรทัศน์โบราณ |  แผ่นหนังและเครื่องเล่นเทป |  โรงภาพยนตร์โบราณ |  ห้องเหล้าและยาดอง |  ร้านตัดผมโบราณ |  ล็อตเตอรี่โบราณ ตั้งแต่รุ่นแรกสมัยพระยาชัยสุรินทร์เป็นประธานกองสลาก พ.ศ.2484 |  ภาพถ่ายเมืองภูเก็ตในอดีต |  ออกมาอาคารด้านหลัง ตึกนี้รวบรวมอุปกรณ์ทำเหมือง |  ตึกพิพิธภัณฑ์ 4 เหล่าทัพ มีรันเวย์ฉุกเฉินและเครื่องบินที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากญี่ปุ่น |  อาคารฟอสซิล มีหินแร่และภาชนะโบราณ ส่วนฟอสซิลจะอยู่ด้านหลัง ถ่ายภาพไม่ได้ แต่ก็เป็นหินชิ้นๆ ดูไม่ค่อยออกครับ มีใบอนุญาตครอบครองอย่างถูกต้องนะ |  อุปกรณ์กีฬาดำน้ำและของที่ระลึกของสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทย |  นาฬิกาโบราณและนาฬิกาปลุก |  กล้องถ่ายรูปโบราณ |  เสื้อทีมดอร์ทมุนต์พร้อมลายเซ็นนักเตะที่เกิร์ด บรอสกี้ โค้ชของทีม มอบให้คุณรณชัย |  ของเล่นโบราณ |  รถพระที่นั่งของในหลวง ร.9 |  บัลลังก์ศาล ในตึกนี้จะมีข่าวคดีที่เกี่ยวข้องกับ คุณเรวุฒิ จินดาพล อดีต สส.ภูเก็ต | และยังมีตึกด้านหลังอีกเพียบ เก็บสแตมป์ อุปกรณ์กรีดยาง ปั๊มน้ำมันเก่า โต๊ะเรียน ฯลฯ ยาวเป็นร้อยเมตรเลยครับ ขยายออกไปเรื่อยๆ สักวันคงยาวไปถึงถนนเพชรเกษม สรุปว่าขนาดดูไวๆ ยังใช้เวลาไปสองชั่วโมงเต็ม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุ้มค่ามาก 
เสม็ดนางชี (Samet Nangshe) เลยจากพิพิธภัณฑ์ไปไม่ไกล จะมีจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของตะกั่วทุ่งคือเสม็ดนางชี เป็นที่ท่องเที่ยวที่เอกชนเพิ่งพัฒนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2559 นี้เอง ขึ้นรถสองแถวขึ้นไปส่งด้านบน ค่ารถไป-กลับคนละ 90 บาท ใช้เวลาสิบนาทีก็ถึงด้านบน  |  | และนี่คือความงดงามของจุดชมวิวเสม็ดนางชีครับ อยู่บนยอดเขาสูง 800 เมตร มองลงมาเห็นอ่าวพังงา ที่มีเขาหินปูนเรียงราย ข้างบนให้บริการที่พักและจุดกางเต๊นท์ด้วย ส่วนผมขึ้นไปต่อคิวถ่ายรูปมุมสวยๆ สักครึ่ง ชม. ก็นั่งรถกลับลงมา สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของพังงาก็คืออุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาที่เห็นจากเสม็ดนางชีนี่ละครับ มีแลนด์มาร์คที่สำคัญอย่างเขาตาปูและเขาพิงกันอยู่ เคยไปและอัพบล็อกมานานมากแล้ว รอบหลังๆ ไม่ได้ไปแล้วครับ รอบนี้ขอเที่ยวบนบกเน้นๆ
 | เมืองเก่าตะกั่วป่า (Takuapa Old Town) | ที่เที่ยวอีกแห่งในพังงาที่เที่ยวบ่อยคือเมืองเก่าตะกั่วป่า อยู่ตรงทางลงจากระนองขับรถผ่านไปภูเก็ตทางนี้ เมืองตะกั่วป่าเป็นเส้นทางค้าขายมานับพันปี และยังเป็นพื้นที่ที่มีเหมืองแร่ดีบุกเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวพื้นเมืองเรียกดีบุกว่าตะกั่วดำ จึงเป็นที่มาของชื่อเมืองตะกั่วป่า ในช่วง ร.5 อุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกเติบโตมาก ได้มีชาวจีนเข้ามาค้าขายเป็นจำนวนมาก จึงสร้างบ้านเรือนขึ้น แม้เมืองจะเงียบเหงาลงหลังมีการใช้พลาสติกทดแทนจนเหมืองดีบุกปิดตัวไป แต่ก็ยังคงเหลืออาคารแบบชิโนโปรตุกีสเรียงรายเป็นหลักฐานแสดงความรุ่งเรืองในอดีต อาคารเก่าจะเรียงอยู่ตามถนนอุดมธาราและถนนศรีตะกั่วป่า เย็นวันอาทิตย์จะมีถนนคนเดิน ส่วนวันอื่นร้านค้าขายของค่อนข้างหงอย แต่มุมถ่ายรูปสวยๆ แบบวินเทจก็เยอะครับ ทางตะวันออกของเมืองเก่าจะมีซากกำแพงของจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่า สร้างในสมัยพระยาเสนาพิชิต (นุช) เป็นเจ้าเมืองราวปี พ.ศ.2383-2424 ไว้ป้องกันเวลามีการจลาจลจากชาวจีนที่มีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ในเหมืองแร่กันบ่อยๆ ที่เที่ยวอีกที่ที่ชอบของตะกั่วป่าคือแหลมปะการังที่มีซากปะการังเรียงราย แต่เคยอัพบล็อกไปแล้ว และไม่ได้ไปมานานมากแล้วครับ ที่เพิ่งไปมาไม่นานจะมีสวนอนุสรณ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม สืบเนื่องจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 47 ทำให้สวนสาธารณะของบ้านน้ำเค็มได้รับความเสียหาย จึงมีการปรับสวนเป็นอนุสรณ์รำลึกผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์ มีทางเดินอนุสรณ์ติดรายชื่อผู้เสียชีวิตและสูญหายบนกำแพง กลับจากพังงาไปกระบี่ อีกที่ที่วางแผนว่าจะไปคือเหมืองหินทับปุดที่น้ำขังละลายแร่ธาตุออกมาจนกลายเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวย แต่น้องฝนไม่อนุญาตครับ หนีกลับกระบี่แทบไม่ทัน
แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนบก พังงาก็มีความน่าสนใจ เหมือนเอาความเมืองเก่าของภูเก็ต ผสมผสานกับความเขาหินปูนของกระบี่ นอกจากเขาหลักและอ่าวพังงาที่คนนิยมเที่ยวกันแล้ว ตัวเมืองเองก็สงบและสวยงาม ควรหาโอกาสผ่านชมสักครั้งนะครับ 
Create Date : 05 กรกฎาคม 2568 |
|
2 comments |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2568 21:00:50 น. |
Counter : 37 Pageviews. |
|
 |
|