Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
เที่ยวแดนใต้ส่งท้ายปี (พังงา-ภูเก็ต-กระบี่)



ทริปปีใหม่มาแล้วจ้า!!! (เร็วมั้ย?) อันที่จริงช่วงวันพ่อผมก็ลงใต้แถวสงขลาไปแล้ว แต่ขอดองไว้ก่อนครับ เพราะมันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เยอะ ผมยังอ่านประวัติศาสตร์ภาคใต้ไม่จบ เอามาทำบล็อกเดี๋ยวไม่ได้อรรถรส ก็ขอลัดคิวมาอัพทริปปีใหม่เลยแล้วกัน

ปีใหม่แต่ละปีที่บ้านจะเลือกเที่ยวจังหวัดเด็ดๆไกลๆ เป็นสุดยอดทริปเที่ยวไทยของปีนั้นๆครับ อย่างปี 2555 เป็นหนองคาย, 2556 เชียงราย, 2557 กาฬสินธุ์ และ 2558 ครั้งนี้....ภูเก็ต ชั้นเลือกนาย! (ทำเสียงแบบซาโตชิ) จะว่าไปที่บ้านก็ไม่ได้ลงใต้มานานแล้วเหมือนกัน ครั้งล่าสุดก็ปี 2550 นู่นเลยครับ คือรอบนั้นขากลับดันรถคว่ำน่ะ ผมเลยไม่ชอบภาคใต้ เพราะเที่ยวแล้วรถคว่ำ



คว่ำเสร็จฝนตกซ้ำอีกต่างหาก รถจมบุ๋งๆ~



อันที่จริงหลังจากนั้นมีลงใต้อยู่สองครั้ง คือพาแขกไปประชุมที่กระบี่ (ทำงานจ้ะ ไม่ได้เที่ยว) และไปบ้านเพื่อนที่ระนอง (ไม่นับเป็นทริป เพราะไปเปลี่ยนที่เล่นเกมเฉยๆ) แต่หนนี้ละครับ เราจะได้ลงใต้ครั้งใหญ่!! เราออกเดินทางวันที่ 29 ธ.ค. ช่วงบ่ายครับ เพราะน้องสะใภ้ยังทำงานที่โรงไฟฟ้าราชบุรีถึงวันจันทร์เช้า ไปกันสี่คน (ผม-แม่-น้อง-น้องสะใภ้) สลับกับน้องขับ ทริปนี้จองที่พักไว้ตลอดทาง นั่นคือต้องกะเวลาแม่นพอสมควรเลยนะครับ ถ้าค่ำแล้วยังขับไม่ถึงที่หมายก็เสียค่าโรงแรมฟรีจ้ะ ยิ่งวันแรกไม่แน่ใจว่ารถจะติดแค่ไหน เลยเซ็ตจุดหมายไว้ใกล้ๆแค่ทับสะแก เลยตัวเมืองประจวบไปนิดหน่อยพอ


DAY 1



วันนี้เดินทางอย่างเดียว ใช้เวลาครึ่งวัน วิ่งไป 388 กม. โชคดีที่รถไม่ติดมาก เพราะคนส่วนใหญ่จะออกกันวันที่ 27 หรือไม่ก็ 31 ธ.ค. มากกว่า

ระหว่างทางเห็นปากแม่น้ำปราณเลยแวะชมทะเลกันสักหน่อย หาดตรงเอวาซอนคลื่นกระแทกขอบคอนกรีตเสียงดังสนั่นสะใจมากเลยครับ นี่แหละ ทะเลภาคใต้มันต้องแบบนี้!



คืนแรกเราพักกันที่ซันไชน์พาราไดซ์รีสอร์ทครับ ติดหาดส่วนตัว ถึงคนจะจองกันเต็มทุกห้องแต่บรรยากาศก็ยังคงเงียบสงบ ห้องพักแบบถูกสุดคืนละ 1,318 บาทจ้า ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า (อาหารเช้าหัวละ 200.- เลยไปกินข้างทางเอาดีกว่า) เป็นราคาเทศกาล+จองผ่าน agoda นะ ถ้าเที่ยวช่วงอื่นและ walk in น่าจะถูกกว่านี้ แต่ก็คุ้มราคาครับ มีสายฉีดตูด //เลิกรีวิวสายฉีดตูดได้แล้วว้อย!! เอาเป็นว่ารู้กันว่าโรงแรมทุกแห่งที่ผมพักเลือกมาแล้วว่ามีสายฉีดตูดแน่นอนแล้วกัน



ใน GPS ไม่ค่อยมีข้อมูลโรงแรม กลัวจะหาโรงแรมไม่เจอเลยหาพิกัดในกูเกิ้ลไว้คีย์ลง GPS ครับ ใครสนใจซันไชน์พาราไดซ์รีสอร์ทแห่งนี้จดพิกัดไปเลยจ้า 11.411894, 99.597715

บรรยากาศยามเย็นและยามเช้าริมทะเลดีมั่กๆ แต่ดื่มด่ำบรรยากาศนานไม่ได้ครับ เดี๋ยวเที่ยวไม่ได้ตามเป้า วันที่ 30 ธ.ค. เป็นวันที่เราจะเริ่มเที่ยวจริงๆแล้วนะ วันนี้เราตั้งเป้าจะดิ่งลงให้ถึงภูเก็ต!! ไม่รู้ aim high ไปหรือเปล่านะครับ เพราะต้องผ่านระนองและพังงา ระยะทางไม่สั้น และเส้นทางส่วนใหญ่เป็นภูเขาคดเคี้ยว แต่โปรแกรมเที่ยววันนี้ยังน้อยอยู่ก็น่าจะทำเวลาได้ละน่า


DAY 2



วันนี้ระยะทางที่วิ่ง 568 กม. ครับ (ส่วนไอ้เลขที่บอกว่ากี่ชั่วโมงในกูเกิ้ลไม่ต้องไปสนใจนะ อันนั้นตะบี้ตะบันขับอย่างเดียว ไม่ยอมดื่มด่ำธรรมชาติ) หลังกินอาหารเช้าข้างทางจนสมใจแล้วเราก็เข้าเขตบ้านกรูด ไปชมเจดีย์ภักดีประกาศที่ใหญ่โตสวยงามของวัดทางสาย อยู่บนเขาธงชัย ขับรถขึ้นไปถึงด้านบนได้เลยครับ ลานด้านบนมีพระพุทธกิติสิริชัยสูง 13 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ สร้างในปี 2535 ฉลองราชินีครบรอบ 60 พรรษาครับ



จากลานจอดรถ เดินขึ้นบันไดไปนิดหน่อยก็จะมาถึงพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ สร้างในปี 2539 ฉลองในหลวงครองราชย์ครบ 50 ปี เป็นกลุ่มเจดีย์ 9 องค์ สื่อถึงรัชกาลที่ 9 เข้าไปด้านในมี 5 ชั้น แต่ห้ามถ่ายรูปยกเว้นกระจกสีถ่ายภาพได้ครับ หรือจะเข้าไปชมวิวหาดบ้านกรูดก็ได้ทิวทัศน์สวยงามจากยอดเขาธงชัย



จบจากการแวะเที่ยวข้างทางโทษฐานอยู่ใกล้ที่พักไปแล้ว คราวนี้จะดิ่งลงใต้ของจริงละครับ เราขับผ่านชุมพร (ซึ่งเที่ยวจนหนำใจไปแล้วช่วงวันพ่อ แต่ดองไว้ไม่ยอมเอามาลงบล็อก) ถ้าตรงต่อมันเป็นสาย 41 ดิ่งลงสุราษฎร์ครับ แต่เราไม่เอา เราจะเที่ยวพังงาเลยไปต่อสาย 4 ออกทางตะวันตกไประนอง ตัวจังหวัดระนองแทบไม่มีที่เที่ยวอะไรเลยครับ มีแต่ที่เล่นเกมบ้านเพื่อน เอ้ย! มีบ่อน้ำร้อนรักษะวารินแล้วก็น้ำตกหงาว แต่เคยไปแล้วเรารู้สึกเฉยๆ คงเป็นเพราะช่วงนั้นเที่ยวหน้าแล้ง น้ำตกหงาวจึงมีลักษณะคล้ายฉี่แมว

สรุปว่ารอบนี้แวะซื้อซาละเปาทับหลีแล้วดิ่งลงใต้ไปพังงาต่อเลยจ้า ถึงจะบอกว่าดิ่งแต่มันก็ทำความเร็วไม่ได้เท่าไหร่ละนะ เพราะเส้นทางเป็นภูเขาคดเคี้ยวตลอดทาง ถ้าไปภูเก็ตทางสุราษฎร์อาจระยะทางไกลกว่าแต่ทำเวลาง่ายกว่า แต่เชื่อผมเถอะว่าคนระนอง-พังงาขับรถน่ารักกว่าฝั่งนั้นเยอะ วิวก็สวยกว่าด้วยนะ และที่สำคัญเราจะเที่ยวพังงาฝั่งอันดามันที่มีเมืองตะกั่วป่าและแหลมปะการังที่น่าสนใจครับ

สมัยก่อนภาคใต้เป็นแหล่งค้าดีบุกที่สำคัญ และเมืองตะกั่วป่าก็เป็นเมืองการค้าที่มีชาวจีนเข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ที่ชื่อเมืองตะกั่วป่าเพราะคนสมัยก่อนเรียกดีบุกว่า "ตะกั่วดำ"  แต่บางส่วนเชื่อว่ามาจากคำอินเดียว่าตะโกลาซึ่งแปลว่าดำ ในสมัยอยุธยาเมืองนี้มีฐานะเป็นหัวเมืองทางใต้ที่ขึ้นกับนครศรีธรรมราช แต่ถูกพม่าทำลายในศึกเมืองถลาง ผู้คนจึงอพยพไปอยู่บริเวณที่เป็นจังหวัดพังงาในปัจจุบัน แต่การค้าดีบุกก็ทำให้ตะกั่วป่าฟื้นตัวกลับมาอีกรอบ และพอ ร.6 แบ่งการปกครองเป็นจังหวัดแล้วที่นี่ก็กลายเป็นจังหวัดตะกั่วป่า จนกระทั่ง ร.7 ยุบตะกั่วป่าไปรวมกับจังหวัดพังงาเพราะความตกต่ำทางเศรษฐกิจในยุคนั้น ยิ่งช่วงหลัง พ.ศ. 2524 เป็นต้นมาราคาดีบุกในตลาดโลกต่ำลงจนการค้าดีบุกซบเซาลงไป เมืองการค้าที่สำคัญอย่างตะกั่วป่าก็หมดบทบาท พื้นที่แถบนี้หันมาพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนเมืองตะกั่วป่าก็ย้ายเมืองไปที่เทศบาลตะกั่วป่าปัจจุบัน ห่างจากเมืองเดิม 7 กม.

เมืองเก่าตะกั่วป่าคือที่นี่ครับ ตลาดใหญ่ตะกั่วป่า ใน ต.ตลาดใหญ่ ขับรถจากตัว อ.ตะกั่วปาตามถนน 4090 มา 7 กม. ก็ถึง ขับรถชมวิวอาคารเก่าตามแนวถนนศรีตะกั่วป่าและถนนอุดมธาราได้สบายๆเลย ที่นี่ปลอดรถและไร้ผู้คนมากๆ พูดถึงตลาดร้อยปีที่มีอยู่เกลื่อนทั่วประเทศไปแล้วตอนนี้ใครอยากเห็นตลาดเก่าของแท้มาที่นี่เลยดีกว่าครับ เป็นตลาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่หลังจากย้ายเมืองตะกั่วป่าไปที่เทศบาลตะกั่วป่าปัจจุบันแล้ว เมืองเก่าก็เกือบรกร้าง มีเฉพาะวันอาทิตย์ที่จะจัดถนนคนเดิน ...แต่เราไม่ได้ผ่านเมืองนี้วันอาทิตย์นี่นะ



จุดสำคัญคือเมืองตะกั่วป่าเก่าแห่งนี้ยังคงสภาพอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส (จีนผสมโปรตุเกส) ที่สวยงามและมีอายุเกือบร้อยปีไว้มากมาย คล้ายเมืองภูเก็ต แต่ด้วยความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โลว์โปรไฟล์กว่าเมืองภูเก็ต ทำให้ตะกั่วป่าหลงเหลือกลิ่นอายเก่าๆไว้มากกว่าด้วย




อิ่มเอมกับบรรยากาศเก่าๆไปแล้วต่อไปชมธรรมชาติอันวิจิตรของภาคใต้กันบ้างครับ ที่เที่ยวทางธรรมชาติที่แรกของทริปนี้ TADA~ แหลมปะการังครับ อยู่ระหว่างหาดบางสักและหาดคึกคัก กม.ที่ 67-68 แยกจากถนนสาย 4 ออกไป 5 กม. วิวนี้คือทะเลอันดามันครับ เดี๋ยวทริปนี้เราจะได้เห็นอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดียกันจุใจเลยทีเดียว ใครเบื่ออ่าวไทยและมหาสมุทรแปซิฟิคแล้วโปรดติดตามชม



พื้นหาดนี้มีซากปะการังทับถมจำนวนมาก เดิมทะเลแถวนี้มีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์ แต่เมื่อ 30 ปีก่อนถูกพายุซัดทำลายปะการังจนขึ้นมาเกยตื้นทับถมเป็นหาดปะการังที่แปลกตาเช่นนี้เอง ที่นี่ไม่มีใครเฝ้าดูแลด้วยครับ ผมเคยเห็นภาพสมัยก่อนยิ่งทับถมเป็นเนินจนไม่เหลือพื้นทรายเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าใครมาโกยไปขายใส่ตู้ปลาบ้างหรือเปล่า ยิ่งหาดไร้ผู้คนและเจ้าหน้าที่เฝ้าด้วยแบบนี้ยิ่งโกยง่าย





ออกมาสาย 4 แล้วลงใต้ต่อครับ ขับรถข้ามสะพานท้าวเทพกระษัตรีเข้าเกาะภูเก็ตมาตอน 5 โมงเย็นกะว่าทำเวลาได้ชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพได้เป๊ะๆ ที่ไหนได้ รถติดสาหัสมากครับ! ติดยิ่งกว่าชีริวติดเกม Brave Frontier จนไม่ได้มาอัพบล็อก เอ้ย! ติดยิ่งกว่ากรุงเทพชั่วโมงเร่งด่วนซะอีก ได้ข่าวว่ามีคนมาพักแถวหาดป่าตองเยอะเพราะงานเคาท์ดาวน์ที่นี่สุดยอด แถมมีตำรวจเฝ้ารายทางไม่รู้ใครเสด็จ (ไม่อยากรถติดก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์เถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระประชาชน) สุดท้ายทำเวลาไม่ทัน เลยต้องแว่บเข้าหาดสุรินทร์ที่ใกล้ที่สุดแทน พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วเห็นแค่แสงทไวไลท์แว้บๆ มันก็พอจะสวยอยู่บ้างอะนะ



จากหาดฝ่าดงรถติดมาอีก 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงตัวเมือง โรงแรมนี้พักสองคืนเพราะพรุ่งนี้จะเที่ยวภูเก็ตเต็มวันครับ เลือกพักโรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองเพราะอยากเดินเที่ยวเมืองเก่าภูเก็ตให้หายอยาก เลยพักที่ลามูนรีโซเทล (La Moon @Phuket) เพราะโรงแรมอื่นๆ ดูรีวิวใน agoda แล้วสภาพเกินทานทน บางอันเป็นหอพักรวมอีกต่างหาก อันไหนดีหน่อยก็เต็มเร็ว ช่วงปีใหม่นี่ภูเก็ตฮิตจริงๆ คิดว่าคนแห่ขึ้นเหนือกันไปหมดแล้วซะอีก โรงแรมลามูนเองก็ไมได้ยอดเยี่ยมนักหรอกครับ ถึงจะรีโนเวทใหม่แต่ด้านในโดยเฉพาะห้องน้ำและลิฟท์ก็ยังเก่าเหมือนเดิม น้ำไหลเอื่อยเหมือนน้ำตกหงาว คืนละ 1,050 บาทรวมอาหารเช้านะครับ

GPS: 7.885899, 98.393461



ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีร้านหนังสือเส้งโห เป็นร้านหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย มี 10 สาขาทั่วภาคใต้ แต่ที่แรกก็คือที่ภูเก็ตนี้ครับ ร้านนี้ก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 ดำเนินกิจการส่งและจำหน่ายหนังสือตั้งแต่ยุคขนส่งด้วยรถไฟและเรือไฟกันเลย เส้งโหกลายเป็นศูนย์หนังสือเต็มรูปแบบในปี 2529 จุดดีที่เหนือกว่าซีเอ็ดหรือ B2S ก็คือร้านนี้มีการ์ตูนญี่ปุ่นขายแบบร้านการ์ตูนใหญ่ๆเลย เปิดถึงสามทุ่มครึ่งครับ



(ภาพนี้ถ่ายตอนเช้าของอีกวัน)

กว่าจะฝ่ารถติดถึงที่พักมาได้ก็หิวแล้วหิวอีก โชคดีในรถมีเดนม่าคุกกี้รองท้อง วันนี้กินข้าวเย็นสามทุ่มครับ แวะมั่วมาร้านขนมจีนแถวน้ำ ปรากฏว่าอร่อยครับ อร่อยจนต้องลงรูปในบล็อกเป็นร้านแรกของทริปนี้เลย เมนูมีทั้งขนมจีน ขาหมู ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า อาหารตามสั่ง และอร่อยทุกอย่าง ขนมจีนมีผักแถมให้เพียบสมเป็นอาหารภาคใต้



จากนั้นก็เดินชมเมืองภูเก็ตครับ ที่นี่คล้ายๆกับตะกั่วป่าคือเป็นเมืองเก่าที่มีคนจีนเข้ามาค้าขายมาก เมืองภูเก็ตเป็นเมืองการค้าที่สำคัญของแหลมมลายูเช่นเดียวกับมะละกา สิงคโปร์ ปีนัง และมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีสยุคอาณานิคมหลงเหลือให้ชมมากมายตามแนวถนนถลาง ถนนกระบี่ ถนนดีบุก ถนนภูเก็ต และถนนเยาวราช ผิดกันตรงที่ภูเก็ตกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ ร้านรวงและโรงแรมต่างๆก็ยังคงเปิดกันอย่างคึกคัก ใครชอบแนวย้อนยุคมากๆพักโรงแรมบางแห่งที่ใช้อาคารเก่าเปิดเป็นที่พักอย่างโรงแรมถาวรหรือไชน่าอินน์ก็ได้








DAY 3

วันที่ 31 ธ.ค. วันสุดท้ายของปี 2557 แล้วจ้า... วันนี้ขับรถเที่ยวในภูเก็ต ถ้าเทียบระยะทางกับวันอื่นๆนับว่าน้อยครับ 126 กม. เท่านั้นเอง ขนาดวนไปวนมาตั้งครึ่งเกาะแล้วนะ ถ้าเทียบให้สเกลเดียวกับแผนที่อื่นๆแล้วมันแค่นี้



แต่เนื่องจากกลัวเพื่อนๆจะเข้าใจว่าเจ้าของบล็อกเอาขี้มูกมาแปะ เลยขอขยายสเกลสิบเท่า แผนที่่ท่องเที่ยววันนี้ก็ตามนี้ครับ



ช่วงเช้าเราไปที่วัดฉลองหรือวัดไชยธาราราม วัดที่โด่งดังอลังการที่สุดของภูเก็ต อยู่ห่างตัวเมืองไปตามถนน 4021 แค่ 8 กม. วัดนี้โด่งดังตั้งแต่หลวงพ่อแช่มเจ้าอาวาสได้นำผู้คนปราบกบฏอั้งยี่ในสมัย ร.5



สิ่งก่อสร้างไฮไลท์ในยุคนี้ของวัดนี้คือพระมหาเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ สูง 61 เมตร ยอดคล้ายพระธาตุพนม ด้านในเจดีย์มีสามชั้น ชั้นบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากศรีลังกาในปี 2545



ขับรถต่อมาแถวหาดราไวย์ระหว่างทางไปแหลมพรหมเทพ จะมาถึงพิพิธภัณฑ์หอยภูเก็ตซีเชลล์ และนี่คือเป้าหมายหลักของทริปภาคใต้ครั้งนี้ครับ เพราะช่วง มิ.ย. ปีก่อนที่บ้านได้ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เปลือกหอยที่ถนนสีลม แล้วหลงใหลในความงดงามของเหล่าน้องหอย ชวนให้นึกถึงพิพิธภัณฑ์เปลือกหอยที่เคยเที่ยวที่ภูเก็ต ตั้งแต่ปี 2546 ตอนนั้นค่าเข้าจัดว่าแพงเหมือนกัน หัวละ 200 บาท แต่เข้ามาแล้วคุ้มค่าเพราะได้เห็นเปลือกหอยหลากชนิดรวมถึงฟอสซิลสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ ชิ้นนึงก็ราคาเป็นแสนเป็นล้านแล้ว เปิดพิพิธภัณฑ์แบบนี้ใจรักอย่างเดียวครับ ให้ตายก็ไม่คุ้มทุนหรอก



แต่ที่เที่ยวนี้ก็ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ไม่ปิดตัวลงครับ ค่าเข้าลดเหลือ 100 บาท ยิ่งคุ้มค่าขึ้นไปอีก เปิดตั้งแต่ 8.00 - 19.00 น. สะดวกสำหรับการเซ็ตโปรแกรมเที่ยวมากเลยครับ ไม่ต้องรอให้สายค่อยไปเที่ยว ของจัดแสดงต่างๆก็ยังคงครบถ้วน เพียงแต่ป้ายอธิบายต่างๆซีดจางลงไปตามกาลเวลา และไม่ได้เปิดเสียงคลื่นทะเลคลอแบบแต่ก่อนแล้ว



ไฮไลท์ก็คือชิ้นนี้ครับ ไข่มุกสีทองจากหอยสังข์ทะนาน ขนาด 140 กะรัต พบที่ภูเก็ตนี่ละครับ แค่ชิ้นนี้ชิ้นเดียวก็ราคาหลายล้านแล้ว นอกจากนี้พวกฟอสซิลแอมโมไนท์หรือหอยกาบสองฝายุคแรกตัวสมบูรณ์ๆ อายุเป็นร้อยล้านปีก็มีให้ดูจำนวนมาก




เปลือกหอยที่นี่นอกจากเป็นชนิดที่หายากแล้ว ยังคัดเฉพาะตัวที่สมบูรณ์ๆ ซึ่งหาซื้อไม่ได้ตามร้านค้าเปลือกหอยทั่วไปมาแสดง อย่างหอยหวีที่หายากและมีก้างละเอียดมากมายยังคัดมาเฉพาะตัวที่ก้างไม่หักแม้แต่เส้นเดียวมาทั้งนั้น หอยอื่นๆนอกจากไม่แตกหักแล้วสภาพเปลือกยังสมดุลซ้ายขวาสมบูรณ์ดี ไม่งั้นหมดสิทธิ์ขึ้นตู้ บางตัวก็สวยจนข้องใจว่าธรรมชาติทำไมสร้างสัตว์ที่วิเศษขนาดนี้ขึ้นมาได้ สัตว์ที่สวยที่สุดในโลกไม่ใช่ผีเสื้อหรือทาเนียมารีคารินกี้หรอกครับ หอยนี่แหละสวยที่สุดแล้ว อยากให้มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ไหนจัดแสดงหอยสวยๆแบบเป็นๆในตู้บ้าง







มุมจำหน่ายของที่ระลึกนี้มีเปลือกหอยนานาชนิดให้เลือกซื้อในราคาไม่แพง ตัวละ 5 บาทก็มี แถมมีฟอสซิลแอมโมไนท์ ไตรโลไบท์ และฟันปลาฉลากขายด้วยนะ ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น



ลงใต้ต่อจนสุดทางจะมาถึงแหลมพรหมเทพ ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยม แต่พระอาทิตย์ตกตอนสิ้นปีนี่คงไม่มีปัญญาแย่งที่จอดกับคนอื่นแน่ๆ เลยมาชมตอนเช้าแทน แหลมนี้เคยเห็นสมัยเด็กๆรู้สึกเฉยๆ แต่ดูดีๆแล้วก็สวยเหมือนกันนะครับ จุดปลายแหลมเป็นโขดหินลื่น มีป้ายปักให้ระวังอุบัติเหตุ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวซ่าไปตกแหลมตายเป็นระยะๆ อันที่จริงเดินไปปลายแหลมก็เห็นแต่ทะเลน่ะ มุมนี้สวยที่สุดแล้วครับ



ก่อนเที่ยงยังคงมีเวลาก็เลาะริมทะเลไปเรื่อยๆ เจอตรงไหนสวยก็จอดถ่ายครับ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูเก็ตมีหาดดังๆมากมายทั้งหาดในหาน หาดกะตะน้อย หาดกะตะใหญ่ หาดกะรน หาดป่าตอง ฯลฯ ผมว่าหาดโนเนมที่ชื่อว่า "หาดยะนุ้ย" ที่อยู่ถัดจากแหลมพรหมเทพขึ้นไปนิดเดียวนี่แหละ สวยที่สุดแล้ว โขดหินเยอะแบบที่ชอบเลย ที่นี่เป็นอ่าวเล็กๆ มีหาดสั้นๆ ที่จอดรถน้อย คนนิยมมาตกปลาเพราะมีสัตว์น้ำตามแนวโขดหินมากมาย ด้านบนมองเห็นสถานีกังหันลมของ กฟผ. ด้วยนะ น้ำฝั่งอันดามันจะใสเพราะตะกอนดินไม่ได้ไหลลงมาจากปากแม่น้ำเหมือนฝั่งอ่าวไทยครับ





ขับรถขึ้นไปบนเขาจะมีสถานีพลังงานทดแทนแหลมพรหมเทพ ที่ กฟผ. มาติดตั้งกังหันลม กังหันตัวใหญ่สุดมีขนาด 0.15 MW นับว่าใหญ่มากๆเทียบกับที่อื่นแล้วนะครับ แต่ตัวขนาดนี้ก็ผลิตไฟฟ้าไม่ได้เท่าไหร่หรอกครับ ใช้ภายในสถานีเองก็หมดแล้ว สร้างไว้เอาใจ NGO เท่านั้นเอง จ.ภูเก็ตใช้ไฟฟ้า 322 MW ไฟฟ้าในภูเก็ตส่วนใหญ่ก็ส่งมาจากพังงาซึ่งมาจากแหล่งผลิตใหญ่ภาคใต้อย่างโรงไฟฟ้าขนอม, กระบี่, จะนะ, เขื่อนรัชประภา, ฯลฯ เช่นเคย แต่จุดชมวิวบนนี้ก็เห็นวิวทะเลสวยดี



อีกหนึ่งจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากคือจุดชมวิวสามอ่าวครับ อยู่ระหว่างหาดในหานกับหาดกะตะน้อย มองเห็นหาดกะตะน้อย หาดกะตะใหญ่ และหาดกะรนเรียงกันเลย แต่ตอนขึ้นไปบนหอชมวิวคนเยอะเหมือนกัน จะโพสต์ท่าถ่ายกับมุมสวยๆต้องรอคิวครับ



เที่ยงตั้งใจจะไปกินข้าวที่เซ็นทรัลภูเก็ต แต่รถเยอะมาก ไม่มีปัญญาหาที่จอดรถได้ เลยไปกินบิ๊กซีแทนครับ เอาเถอะ เข้าร้าน MK กินห้างไหนก็เหมือนกันแหละ เสร็จกิจหาข้าวกินกันตายไปแล้วเราก็ขับรถขึ้นไปตอนกลางเกาะ เข้าเขตถลางที่เป็นเมืองเก่าของภูเก็ตเดิม คิวเที่ยวต่อไปคือวัดพระทอง ที่มีพระผุดเก่าแก่ครับ เป็นอันซีนไทยแลนด์ที่มีพระผุดขึ้นมาจากดินครึ่งองค์ เชื่อกันว่าเป็นพระที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินเองไม่ทราบว่าใครสร้างไว้ และไม่สามารถขุดเอาพระขึ้นมาทั้งองค์ได้เพราะมีตัวต่อตัวแตนเข้ามาทำร้าย สมัยนี้แล้วจะลองขุดดูเพราะอยากรู้ว่าจมอยู่หรือมีแค่ครึ่งองค์ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ให้ผุดมาครึ่งองค์เป็นสเน่ห์เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้แบบนี้ละดีแล้วครับ



ในเขตวัดมีพิพิธภัณฑสถานวัดพระทองที่รวบรวมของใช้เก่าๆไว้มากมาย คล้ายๆของที่บ้านยายผมเลย เข้าชมฟรีแต่ห้ามถ่ายรูปนะครับ (ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับไปถ่ายที่บ้านยายเอา)

ไม่ไกลจากวัดพระผุดเลี้ยวซ้ายตรงวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทรแล้วกลับรถ จะมีตรอกเล็กๆ แบบไม่มีป้ายบ่งชี้ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถลางครับ



ทีแรกผมไม่ค่อยสนใจจะมาเพราะคิดว่าจะเน้นศึกถลางอย่างเดียว แต่เห็นว่ามันอยู่ทางผ่านอยู่แล้วก็เลยแวะมา ปรากฏว่ามีของดีเยอะเกินคาดครับ เพราะรวบรวมเอาโบราณคดีของพังงาและกระบี่ไว้ด้วย ไฮไลท์ก็คือรูปสลักพระวิษณุ ฤาษีมารกัณฑยะและนางภูเทวีจากเขาพระนารายณ์ที่พังงา เป็นศิลปะอินเดียพุทธศตวรรษที่ 14 มีรูปจำลองที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช แต่ของจริงอยู่ที่นี่แล้ว ห้องอื่นๆก็มีการจัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ หุ่นจำลองเหตุการณ์ศึกถลาง และวิถีชีวิตของชาวภูเก็ต





ช่วงบ่ายเรามีเป้าหมายในการหาทำเลชมพระอาทิตย์ตกวันสิ้นปีนี้ครับ ทั้งที่พระอาทิตย์มันก็ตกอยู่ทุกวัน แต่วันนี้มันสำคัญเพราะมันเป็นวันสุดท้ายของปี
พระอาทิตย์: เฮ้ นั่นเป็นสิ่งที่มนุษย์พุงป่องอย่างพวกเจ้ากำหนดกันเองไม่ใช่รึ? Smiley
จุดชมวิวที่คนล้านแตกแบบชัวร์ๆ ก็แหลมพรหมเทพกับหาดป่าตองครับ อย่าได้เฉียดไปทางนั้นเชียว ว่าแล้วก็หาเอาแถวๆใต้ตัวเมืองภูเก็ตนี่แหละ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปเคาท์ดาวน์กันที่หาดป่าตอง แต่จุดเคาท์ดาวน์ใหญ่ของชาวภูเก็ตคือสวนสาธารณะสะพานหินครับ ซึ่งกว่าจะเคาท์ดาวน์ผมก็คงอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว แต่ขอแว้บมาดูวิวหน่อย แถวสะพานหินมีแผงลอยอาหารมากมายให้เลือกชิม แต่เรายังไม่คิดจะกินมื้อเย็นที่นี่ เลยขับรถต่อไป



เป้าหมายที่คิดไว้ก็คือแหลมพันวาที่อยู่ตอนล่างสุดของภูเก็ตฝั่งตะวันออก แต่ข้างทางมีป้ายจุดชมวิวเขาขาด เลยลองขึ้นไปดู เห็นวิวทะเลรอบด้านจริงๆครับ มีป้ายอธิบายว่าจุดไหนคืออะไรด้วย อ่ะ ลองเทียบกับรูปจริงให้ดูเลย



ตอนนี้ 16.30 น. ถ้ารอชมพระอาทิตย์ตกที่นี่คงเห็นมันตกลงเกาะไหนสักเกาะ หรือไม่ก็โดนแหลมบัง เลยขับต่อไปถึงแหลมพันวาครับ นี่ปลายสุดของฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เกาะภูเก็ตแล้ว ก็เอามันตรงนี้แหละ แถวนี้มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ตอยู่ ช่วงปีใหม่เข้าฟรีด้วยนะ แต่มันปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็นแล้วจ้า อดเข้า Smiley



ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกก็หาอะไรรองท้องกันไปก่อน ปรากฏว่าโรตีอาบังแถวนี้อร่อยระดับที่ต้องเอามารีวิวในบล็อกกันเลยครับ ทั้งโรตีปกติ โรตีใส่กล้วย โรตีกรอบ ก็ล้วนอร่อยถึงขีดจำกัดของโรตีทั้งหมด ผมคิดว่าคงไม่มีโรตีที่สามารถอร่อยได้มากกว่านี้อีกแล้ว ใครสนใจขับรถไปลองชิมกันได้นะครับ ลุงแกขายอยู่ที่จุดชมทิวทัศน์แหลมพันวาที่ภูเก็ตน่ะ



และแล้วพระอาทิตย์ก็ตกลงในเวลา 18.00 น. มันตกลงเกาะโหลน แถมอีกฝั่งยังมีแหลมพรหมเทพมาบัง ชิส์ -3- แต่ก็เป็นแสงสุดท้ายของปีที่สวยที่สุดในรอบหลายปีเลย ปีก่อนๆพระอาทิตย์ตกลงหลังคาบ้านหมด



วันนี้ร้านค้าปิดตัวไปฉลองสิ้นปีกันเกือบหมด กว่าจะหาที่กินข้าวได้ก็ออกมาชานเมืองเลยครับ มีร้านตายันต์-ยายเอียด ขายขนมจีน ก๋วยเตี๋ยวเรือ และข้าวขาหมู มีอาหารตามสั่งด้วย โอ้ มาทรงเดียวกับร้านขนมจีนแถวน้ำเมื่อวานเลย แต่กินแล้วก็อร่อยเหมือนกันครับ คนใต้ทำอาหารเก่งนะ เชื่อมือได้เลย เขาแถมก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็กให้ลองชิมดูด้วย อร่อยเลือดเข้มข้นมากเลยครับ เห็นเจ้าของบอกว่าปีใหม่จะย้ายร้านแล้ว แต่อยู่ในภูเก็ตนี่ละครับ แถวๆฟาร์มจระเข้



พออิ่มก็เดินซื้อหนังสือที่ร้านเส้งโห จากนั้นก็เข้านอนแบบไม่สนใจจะเคาท์ดาวน์หรือสวดมนต์ข้ามปีครับ มาตื่นอีกทีเพราะเสียงพลุขึ้นปีใหม่ดังสนั่นหวั่นไหว มองจากห้องที่โรงแรมลามูนเห็นวิวพลุพอดี แต่อยู่คนละทิศกับสะพานหินนะครับ อันนี้ไม่รู้ว่าใครจุด




DAY 4



ช่วงเช้าเราไปใส่บาตรวันขึ้นปีใหม่ตามที่มีป้ายเชิญชวนครับ ได้ชมแสงอาทิตย์แรกบนหลังคาของเทศบาลสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินีด้วย



พิธีใส่บาตรจัดโดยเทศบาลนครภูเก็ต เชิญพระสงฆ์ 199 รูป มีคนสนใจเข้าร่วมอย่างล้นหลาม ตามกำหนดการจะใส่บาตรตอน 6.30 น. เลยกะว่าใส่เสร็จค่อยไปกินข้าว ที่ไหนได้ รองผู้ว่าฯภูเก็ต ซึ่งดำรงตำแหน่งทั่นประธานในพิธีมาซะ 7.00 น. สวดเสร็จ ต้องฟังคำปราศรัยโดยทั่นประธาน ต่อด้วยคำปราศรัยจากทั่นนายกเทศมนตรี ต่อด้วยคำปราศรัยจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน คำปราศรัยจากเจ้าของร้านหนังสือเส้งโห และคำปราศรัยจากลุงขายโรตีที่แหลมพันวา (อันหลังๆผมล้อเล่น) ต่อด้วยการแสดงจากโรงเรียนอะไรสักอย่างแถวๆนั้น คนที่รอใส่บาตรเป็นชั่วโมงแล้วก็โห่สิครับ (สงสารเด็กอะ) เทศบาลเลยต้องปล่อยพระสงฆ์ออกมาประกอบการแสดงของเด็กๆ ให้คนใส่บาตรแล้วแยกย้ายไปปฏิบัติกิจวันปีใหม่กันสักที



เสร็จพิธีแปดโมงจ้า ใส่บาตรเชี่ยไรเสียเวลาโคตรๆ พอกินข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จก็บ๋ายบายภูเก็ตกันซะที Smiley



เราข้ามสะพานสารสินกลับมาพังงาแล้วก็ดิ่งไปอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาครับ ทะเลแถบนี้มีเกาะน่าเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะเขาตาปูที่โด่งดังเป็นสัญลักษณ์ของท้องทะเลไทยไปแล้ว หนนี้ไปขึ้นเรือหางยาวจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเลย ราคาถูกกว่าท่าเรือเอกชนเยอะ แต่รอเรือนานหน่อย นั่งกินข้าวรอก็แล้ว จิ้มเกมรอก็แล้ว กว่าจะได้ขึ้นเรือหมดไปสองชั่วโมง อัตราค่าเรือหางยาวเหมาลำ 1500 บาทสำหรับ 1-4 คน ถ้า 5-10 คนก็ 2000 บาทครับ แต่ถ้าไปขึ้นเรือเอกชนแถวๆนี้หัวละ 800 บาทขาดตัว ถูกกว่าเกินครึ่งแบบนี้ก็รอไปเถอะ

เรือแล่นออกจากท่าผ่านเขาหมาจูและเกาะปันหยี ชมทิวทัศน์ระหว่างทางมีป่าชายเลน ทิวเขาสวยงาม เกาะแก่งรูปร่างแปลกตาน่าชมมากมาย บางเกาะก็มีหินงอกหินย้อยสวยงาม นานๆทีผมจะละวางจากซากอิฐมาเที่ยวทะเลสักหน ยิ่งนั่งเรือไปเกาะด้วยแบบนี้เป็นหนที่สามในชีวิตเลยครับ



ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงมาถึงถ้ำลอดใหญ่ อันนี้เรือลอดผ่านได้สบายๆครับ ถ้ำลอดบางอันต้องผ่านช่วงน้ำลงแล้วต้องเอนกายลงหนุนตักคนข้างหลัง แบบนั้นไม่ต้องไปลอดหรอก แถวนี้มีบริการพายเรือแคนูรอบเกาะ ใครสนใจก็เล่นได้นะครับ เพิ่มอีกคนละ 200.- แต่ผมไม่สนใจ



นั่งเรือมาอีกสิบนาทีก็ถึงเขาพิงกัน-เขาตาปู เราลงจากเรือตรงนี้ เดินไปหาดของเกาะเขาพิงกันเป็นหาดสามด้านล้อมเขาตาปูที่เป็นแท่งขึ้นมาจากน้ำคล้ายตาปู จุดนี้นับว่าเป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติเลยก็ได้



ถึงคนจะขึ้นเกาะนี้กันล้นหลาม แต่มีมุมสูงให้ถ่ายเขาตาปูได้รอบด้านแบบไม่ต้องกลัวติดคน ถ่ายรูปง่ายมากเลยครับ





เกาะเขาพิงกันนี่เป็นเกาะเล็กๆ เดินลึกเข้าไปด้านหลังเกาะจะเห็นเขาพิงกันที่เขาลูกหนึ่งเกิดการทรุดตัวของเปลือกโลกลงมาพิงเขาอีกลูกหนึ่ง แปลกตาดีแท้



มีเวลาให้เดินเที่ยวเกาะ 30 นาที แล้วกลับมาที่เรือลำเดิม ตีกลับมาขึ้นเกาะปันหยีอีก 30 นาทีครับ ที่นี่มีชุมชนชาวมุสลิมทำการประมงเป็นอาชีพหลัก ร้านค้าขายของนักท่องเที่ยวก็เยอะ สินค้าที่น่าซื้อก็อาหารจำพวกกุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง ปลากรอบ น้ำพริกกุ้งเสียบ ฯลฯ จะเดินชมวิถีชีวิตชาวปันหยีก็ได้นะ เหมือนหมู่บ้านชาวเลทั่วไปนั่นละ ที่ปลายเกาะมีโรงเรียน และมีสนามฟุตบอลกลางน้ำด้วย




เสร็จแล้วก็นั่งเรือกลับเข้าฝั่ง รวมเวลาเที่ยวราวๆ 3 ชั่วโมงครับ เทียบค่าเรือไปเกาะทั่วๆไปแล้วนับว่าคุ้มมากๆ

ทีแรกตั้งใจจะขึ้นเรือที่กระบี่ไปเที่ยวชมทะเลแหวกต่อ แต่กว่าจะขึ้นฝั่งพังงาก็ล่อไปบ่ายสามโมงครึ่ง กว่าจะไปกระบี่แล้วออกเรือไปที่เกาะปอดะอีกไม่ทันน้ำลงตอนสี่โมงแน่ๆครับ เลยขอไว้โอกาสหน้าแล้วกัน เรื่องนี้ต้องโทษอีตารองผู้ว่าภูเก็ตเลย ว่าแล้วก็ลัดคิวเที่ยวไปสุสานหอย 75 ล้านปีเลยดีกว่า อยู่ที่บ้านแหลมโพธิ์ติดเมืองกระบี่เลยครับ เป็นฟอสซิลเปลือกหอยที่ทับถมกันเป็นแผ่นคอนกรีตตามธรรมชาติหนาชั้น เดิมเชื่อว่ามีอายุ 75 ล้านปี แต่จากการศึกษาล่าสุดพบว่ามันมีอายุประมาณ 30-40 ล้านปีนะ จุดที่เป็นสุสานหอยกระจายอยู่สามจุด แต่ละจุดห่างกันประมาณ 1 กม. แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปมากที่สุดคือจุดที่ 2 หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ ส่วนจุดที่ 1 และ 3 เข้าไปได้เฉพาะตอนน้ำลงจ้า แต่นี่เย็นแล้ว น้ำขึ้นมิดหอยแล้วจ้า (โทษรองผู้ว่าภูเก็ตเลยจ้า)

หอยพวกนี้ตายยังไง? ยกเลิก 112 สิแล้วผมจะเล่า...//ไม่เกี่ยวว้อย!! คือเดิมบริเวณนี้เป็นหนองน้ำจืดครับ พวกหอยๆก็เข้ามาอยู่อาศัยแพร่พันธุ์กัน แต่แผ่นดินเกิดการเปลี่ยนแปลงน้ำทะเลเข้าท่วมหนองน้ำจนน้องหอยล้มตายอย่างน่าสงสาร Smiley กลายเป็นฟอสซิลหินปูน จากนั้นทะเลเปลี่ยนระดับ ซากหอยก็ยกตัวขึ้นมาเป็นแผ่นโชว์นักท่องเที่ยว




สุสานหอยนี้ผมเคยมาหนนึง ตอนนั้นรู้สึกว่าหอยจะดูเป็นตัวกว่านี้หรือเปล่านะ? ตอนนี้คนเดินกันซะจนไม่เห็นเป็นตัวหอยแล้วครับ บางส่วนก็โดนน้ำกัดเซาะบ้าง โดนคนขึ้นไปกระทืบหักบ้าง เขากั้นเชือกไว้คงไม่ให้ลงไปเหยียบแล้วละ แต่ก็ลงไปเดินกันปกติ รวมทั้งเจ้าของบล็อกนี้ด้วย

แถวนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกเรียงราย สินค้าพวกเปลือกหอยราคาถูกดีครับ แต่ไม่ได้มีให้เลือกหลากหลายเท่าที่พิพิธภัณฑ์หอยภูเก็ต

ทีแรกตั้งใจจะไปกินข้าวเย็นแถวหาดนพรัตน์ธารา แต่หลงเข้าไปในอ่าวนาง โอววววว รถติดนรกเลยครับ ติดน้อยกว่าที่หาดป่าตองหน่อยเดียว อ่าวนางมีคนต่างชาติเยอะมากๆ ร้านอาหารเยอะก็จริง แต่ราคาขายต่างชาติทั้งนั้นละน่อ อาหารอินเดียก็เยอะนะครับ ตั้งแต่เที่ยวฝั่งอันดามันมา แถวไหนที่ต่างชาติเที่ยวกันเยอะๆต้องเจอร้านอาหารอินเดียทุกที่ แสดงว่าฝรั่งชอบกินอาหารอินเดียกันเยอะเหมือนกัน

สังเกตนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาตินะครับ มีทั้งฝรั่งและจีน คนจีนมาเลย์เที่ยวภาคใต้กันเยอะมากๆ (ทะเลบ้านลื้อสวยสู้ที่นี่ไม่ได้ละซี แบร่ๆ :P) โดยเฉพาะช่วงหยุดยาวๆแบบนี้ ภาคใต้อย่างกับต่างประเทศเลยครับ ส่วนคนไทยขึ้นเหนือหมด

หลุดจากอ่าวนาง เข้าหาดนพรัตน์ธาราได้ แต่รถก็ยังไม่เลิกติดครับ ร้านดังของกระบี่อย่างร้านวังทรายก็มีลูกค้าล้นทะลัก ที่จอดรถเต็มจนล้นออกไปนอกร้าน แล้วที่นั่งยังเต็ม หมดสิทธิ์ลุ้นครับ ว่าแล้วก็ตระเวนหาร้านมั่วๆต่อไป สุดท้ายก็ไปนั่งกินอาหารไทยฝีมือมุสลิมที่ร้านริมเลแถวๆนั้นแหละ คนไทยลดให้ 15% นะ สรุปว่าลงใต้มา 4 วัน ยังไม่ได้กินอาหารทะเลสักมื้อเลยครับ (ได้ยินเสียงแว่วๆว่าถ้าอยากกินอาหารทะเลถูกๆอร่อยๆให้เดินมากินบางอ้อทะเลเผาหน้าปากซอยแถวบ้าน)

คืนนี้เราพักที่โรงแรมกระบี่แกรนด์เพลซ ไม่มีอาหารเช้า ไม่มี wifi แต่ราคาแค่คืนละ 670 นับว่าถูกที่สุดในทริปหนนี้เลย โรงแรมไม่หรู แต่ห้องกว้างและน้ำไหลแรงกว่าภูเก็ตคืนก่อนมากๆ

GPS: 8.430739, 99.971817





DAY 5



เช้าเราไปเดิน ตลาดสดมหาราช ตลาดใหญ่ของเมืองกระบี่กันครับ น้องสะใภ้อยากเห็นตลาดขายของทะเล แล้วก็ได้เห็นจุใจมีของทะเลสดขึ้นมาวางขายมากมาย โดยเฉพาะปลานานาชนิด ตัวใหญ่มั้กมั่ก บางตัวสงสัยเป็นพัน บรรยายไม่ถูกครับ ไม่เชี่ยวชาญพันธุ์ปลาเท่าไหร่ ใครจำหน้าพวกมันได้ช่วยบรรยายแทนที



ส่วนมื้อเช้าก็กินโจ๊ก ข้าวต้ม และติ่มซำร้านซิวหม่ายหยก ตรงข้ามตลาดสดมหาราชเลย อร่อยมว้ากกกกก!! สรุปว่าลงใต้อาหารอร่อยทุกอย่าง ยกเว้นอาหารทะเลยังไม่ได้กิน



กระบี่ได้รับโหวตเป็นจังหวัดน่าเที่ยวอันดับสองรองจากเชียงใหม่ เพราะที่นี่มีที่น่าเที่ยวเยอะมากๆครับ นอกจากทะเลแหวกที่ไม่ได้ไปเพราะรองผู้ว่าภูเก็ตแล้วยังมีเกาะน้อยใหญ่มากมาย รวมทั้งเกาะใหญ่ที่เที่ยวได้ทั้งวันอย่างเกาะลันตา และเมืองยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แถมเหลือบเห็นป้ายท่องเที่ยวแล้วอยากเที่ยวบ่อน้ำร้อนเค็ม และน้ำตกเค็มด้วย ไว้รอบหน้าขอเที่ยวกระบี่แบบจัดเต็มเลยดีกว่าครับ สำหรับทริปนี้ขอแวะหนึ่งที่ก่อนจากกระบี่ไป นั่นคือพิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม ที่รวบรวมลูกปัดจำนวนมากที่พบบริเวณนี้ไว้ รวมทั้งลูกปัดสุริยเทพที่โด่งดังด้วย



ชุมชนโบราณคลองท่อมเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญเชื่อมสองฝั่งมหาสมุทร ลูกปัดและโบราณวัตถุต่างๆที่พบในพื้นที่นี้มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 10-12 และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมลูกปัดที่ใหญ่ที่สุดของไทยเลยครับ พระครูอาทรสังวรกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองท่อมได้สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาในปี พ.ศ.2525 เพื่อรวบรวมโบราณวัตถุที่พบบริเวณนี้และโบราณวัตถุอื่นๆที่ชาวบ้านนำมาบริจาค พิพิธภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐรวมทั้งกรมศิลปากร ทำให้การจัดแสดงดูดีมีความเป็นมืออาชีพมากๆ เพิ่งได้งบปรับปรุงจาก อบจ.กระบี่ด้วยเลยใหม่เอี่ยมน่าเที่ยวครับ ที่นี่เปิดทุกวันยกเว้นวันพุธ เวลา 8.30 - 16.30 น. ค่าเข้าชมแค่ 10 บาท ติดแอร์เย็นฉ่ำ ถ่ายรูปได้ไม่อั้นครับ



ไฮไลท์คือสองเม็ดนี้ครับ ลูกปัดแก้วโมเสกรูปหน้าคน คล้ายพระอาทิตย์จึงเรียกกันว่าลูกปัดสุริยเทพ พบที่นี่เป็นที่แรกของโลก และหายากมากทำให้ลูกปัดถูกประเมินราคาไว้หลักล้าน มีทั้งสิ้นสี่เม็ด จัดแสดงที่นี่สองเม็ด อีกสองเม็ดเป็นของส่วนบุคคล



ส่วนอันนี้ลูกแมวแถววัดครับ ถ่ายมาเพราะน่ารักดี ไม่เกี่ยวกับสุริยเทพหรือเทพเซอุสแต่ประการใด



จากนั้นก็ดิ่งเข้านครศรีธรรมราช เมืองนครศรีธรรมราชและเมืองไชยาที่สุราษฎร์เป็นเมืองเก่าแก่มีโบราณสถานจำนวนมาก วันที่ 5-6 นี่เราเที่ยวซากอิฐล้วนๆ ครับ ขอยกยอดไปบล็อกนครศรีธรรมราชและบล็อกไชยางวดนู้นนนนนเลยแล้วกัน รอผมอ่านประวัติศาสตร์ภาคใต้จบก่อน

นครศรีธรรมราช: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช-วัดท้าวโคตร-วัดพระมหาธาตุ-กำแพงเมืองเก่า-หอพระอิศวร-หอพระนารายณ์-เจดีย์ยักษ์


DAY 6



นครศรีธรรมราช: วัดโมคลาน-โบราณสถานเขาคา

สุราษฎร์ธานี: วัดถ้ำคูหา-พระบรมธาตุไชยา-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา-วัดเวียง-วัดหลง-วัดแก้ว



แปะรูปเรียกน้ำย่อยไว้ก่อน อีก 2 ปี 2-3 เดือนค่อยอัพบล็อกนครศรีธรรมราช-ไชยา

คืนของวันที่ 6 เราไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรที่หาดทรายรี เป็นที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้ ก่อนไปพักในเมืองชุมพรแล้ววันที่ 7 ก็ตีกลับกรุงเทพครับ





DAY 7



วันสุดท้ายดิ่งยาวจากชุมพรเข้ากรุงเทพ ออกจากโรงแรมตอนตี 5 วิ่งสบายๆ รถไม่ติดเลยครับ น้องขับครึ่งวันถึง

สรุปทริปปีใหม่ปีนี้รวมทั้งสิ้น 6 วันครึ่ง วิ่งได้ระยะทาง 2,344 กม. ส่วนแผนที่รวมจากกูเกิ้ลนี้ลงจุดแวะคร่าวๆ ระยะทางเลยหายไปหลายร้อยกิโลครับ



สรุปว่าทริปปีใหม่ปีนี้สนุกมั้กมั่ก คนก็ไม่แออัด ฝนก็ไม่ตก ไม่เจอน้ำท่วมด้วยครับ เสียแค่ว่าไม่มีอาหารทะเลกินเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้ลมทะเลแรง เรือหาปลาไม่ค่อยออกกัน ผมนี้ต้องกลับมากินปูนึ่ง อตก. เลย




Create Date : 13 มกราคม 2558
Last Update : 5 มีนาคม 2560 18:53:38 น. 43 comments
Counter : 2950 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog

พี่อุ้มแวะมาเกาะเรือตะลอนเที่ยวแดนใต้ด้วยคนจ้า
แถมโหวตท่องเที่ยวให้ด้วยจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 มกราคม 2558 เวลา:21:26:35 น.  

 
ข้อมูลแน่นปึ๊ก
พี่ก๋านั่งอ่านบล็อกน้องชีริวอยู่นานเลย

ดูจบ
อยากไปเที่ยวภาคใต้บ้างจังเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2558 เวลา:22:11:18 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:4:44:22 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว


พี่ก๋าอยากขึ้นไปอินทนนท์มาก
แต่ปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนปีนี้
งานที่ร้านยุ่งมากจนไม่ได้ไปไหนเลยครับ

ทำแต่งาน

อ่างขางนี่ก็เกิน 10 ปีแล้วที่ไม่ได้ขึ้นไปเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:6:07:57 น.  

 
มาเกาะขอบจอเที่ยวสะใจไปกะวัยโจ๋นน้องชีริวค้าบ รายไหนจะเที่ยวละเอียดละออห่อหมกอย่างคุณชีริวบ้านน้อ เที่ยวแต่ละทริปเนื้อหาที่มาแบ่งปันถึงช่างเข้มข้น ว่าแต่ว่าคลื่นซัดฝั่งสะใจที่ปราณบุรีนั่นยังไม่ใช่ทะเลภาคใต้ซะกะหน่อย อิอิ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:10:21:18 น.  

 
ทริปนี้ 6 วันครึ่ง เอามาทำบล็อกจบได้ในตอนเดียว สุดยอดดดดด
คนอ่าน ๆ ซะครึ่งวัน พอจะเม้นท์เลยงงไปอีกครึ่งวัน ไม่รู้จะเม้นท์อะไร 555

จุดสตาร์ทนี่เริ่มที่ชุมชนบางพลัดนี่เอง ตกลงไม่ได้อยู่ที่อยุธยานะคะ
เห็นชื่อสถานที่หลายแห่งที่คุ้น ๆ ตั้งแต่สมัยสึนามิภาคใต้ ... ตำบลคึกคัก (แล้วคึกคักจริงหรือเปล่า)
อำเภอตะกั่วป่า หาดกะรน หาดราไวย์ ... โอ้ ภายใต้ความงดงามแฝงไว้ด้วยความโหดร้าย

เวลาหิว ๆ อาหารเย็นตอน 3 ทุ่มนี่ เราว่าอร่อยหมดแหละเนอะ 555
ละวางซากอิฐได้ชั่วขณะก็ยังดีนะ ไม่งั้นชีวิตอับเฉาแย่ อิอิ
แล้วก็ 112 น่ะ ยังมีชีวิตอยู่นะจ๊ะ เหอ ๆ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:11:15:10 น.  

 
ทริปนี้คุ้มสุดคุ้มเลยนะค่ะคุณชีริว 6 วันครึ่ง
รีวิวได้ครบเครื่องเรื่องท่องเที่ยว เป็นข้อมูลไว้ดีมากคร้า
ระยะทาง ไกลกว่า กรุงเทพฯ-เชียงราย เยอะม๊ากกก
เป็นอีกทริปที่อยากไปเที่ยวโดยรถยนต์แบบนี้
จะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันน๊อ สถานที่เที่ยวจุดใหญ่ๆ
เราเคยไปเยี่ยมชมมาแล้วตามคุณชีริวนี่ล๊ะ เลยได้อัพเดท

ขอบคุณคร้า ...บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog



โดย: Tui Laksi วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:12:07:19 น.  

 
ชีริว Travel Blog ดู Blog

รีวิวเดียวเล่าทั้งทริป พี่ตุ๊กทริบเดียวไม่รู้กี่รีวิวค่ะ
เที่ยวละเอียด


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:13:14:28 น.  

 
ปล. ทริปนี้เจาะอยุธยาก่อน
จากนั้นก็ขึ้นเหนือค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:17:22:28 น.  

 
เฮ้ย นี่ 6 วันครึ่ง บล็อกเดียวจบเลยเหรอคะ ตายๆ พี่สมควรอายหรือเปล่าเนี่ย ข้อมูลก็ไม่ค่อยมี สมองจำอะไรไม่ได้ แปะแต่ภาพแทน

เหมือนกันค่ะ พักที่ไหน ก็ดูห้องน้ำก่อนมีสายชำระหรือเปล่า พี่ไม่เคยจองกับอโกด้า ส่วนมากจะไปตายเอาดาบหน้าซะเยอะ ส่วนที่จองไปก็ต้องรับสภาพ เพราะจองเอาตอนเต็มแทบทุกที่ เลือกไม่ได้

พี่ก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่ขึ้นเหนือ โปรแกรมลงใต้ หยอดกระปุกแพลนไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อน พอดีหมอกรอผลแอดมิชชั่น ที่บ้านเลยเซ็งๆ ไม่มีอารมณ์จะไปไหน ทำให้ทริปเที่ยวใต้พี่ยืดยาวออกมา แถมไม่มีกำหนดว่าจะได้ไปเมื่อไหร่ด้วยสิ รอก่อนนะ ตึกซิโนโปรตุกีส กับติ่มซำทางใต้ เค้าว่าอาหารอร่อยนักหนา คงไม่กล่าวกันเกินจริง การันตีอีกเสียงโดยคุณชีริว

พิพิธภีณฑ์คลองท่อม น่าสนใจค่ะ เคยดูในทีวี ลูกปัดสุริยเทพ แปลกดีนะ

ว่าไป พี่ก็เคยไปภูเก็ต หาดใหญ่ อะไรแถวโน้นนะ แต่ไปทำงาน ไม่ได้โผล่หน้าไปไหนเลยค่ะ สรุป ไปก็เหมือนไม่ได้ไป

รองผู้ว่าภูเก็ต ป่านนี้สะดุ้งไปหลายยกแล้ว

สองภาพแรก รถคว่ำจริงๆ เหรอคะ เออ ถ้าเป็นพี่ พี่ก็หลอนๆ นะ อาจจะเข็ดขยาดกับถนนสายนี้อีกนาน


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:19:00:18 น.  

 
เป็นบันทึกการเดินทางแบบโร๊ดทริปที่น่าประทับใจจัง
ปิดยาวปีใหม่ลงใต้ซะเลย จังหวะเดินทางดี รถไม่ติดอีกด้วย เย๊ย

พี่ตามเที่ยวได้เห็นครบ ขอบคุณนะคะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tristy Food Blog ดู Blog
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog


ตั้งแต่เกิดมา ลงใต้ครั้งเดียว ทะเลกระบี่ นอกนั้นอาศัยเกาะเพื่อนๆเที่ยวค่ะ
555 น่าสงสาร

ปล:: หนาวจังเนาะ จะบ้าไปแล้ว ขนาดในโดมก็ใช่ว่าจะอุ่นสบายนะ
หนาวมากๆ ผนังผ้าใบไม่มีฉนวนกันน่ะ มันเลยแปรผันตรงกับอากาศข้างนอก

บรึยยย. ขอบคุณที่ไปเยี่ยมพี่ค่ะ


โดย: anigia วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:22:16:26 น.  

 
มาแปะโป้งก่อนค่ะ
พรุ่งนี้ค่อยมาอ่านนะคะ



โดย: lovereason วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:2:31:43 น.  

 
ถ้าได้แวะเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ ไม่ว่าที่ไหน ถ่ายมาเกินร้อยกันแหง...รอชมค่ะ

ขอพรเสด็จเตี่ยไว้...พี่เชื่อค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:5:46:36 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

ถูกต้องครับ
เป็นวัดพระธาตุศรีจอมทองครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:5:56:59 น.  

 
ไม่ได้เที่ยวใต้มานานมาก ๆ แล้วค่ะ เขาพิงกันเขาตะปูน่าจะเกือบสิบปีแล้วมั๊งคะ วันนี้ขอตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:6:52:23 น.  

 
ทริป 6 วันครึ่ง แต่ลงบล็อกไปแค่ 5 วันนะ อิอิ เหลือไว้ทำยามั่ง
แต่สองวันที่ยังไม่ได้ลงเป็นซากอิฐน่ะ (อะไรนะ? ให้ลบทิ้งไปเลยเหรอ? ต๊ายยย!!)

555 เข้าใจแล้ว เมื่อก่อนงงนะ ที่เค้าบอกว่า "เหลือไว้ทำซาก" น่ะ
ตอนนี้เข้าใจทะลุปรุโปร่งเลย ที่แท้มีที่มาเช่นนี้เอง 555

แล้วก็มุก 112 น่ะ ทำเป็นล้อเล่นไป
แค่เปลี่ยน มุก เป็น คุก น่ะ ดูปากณัฐชานะคะ 555



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:8:59:13 น.  

 
มาแล้วค่าาาาาา
ราคานี้ 1318 ติดหาดส่วนตัว แถมคนไม่พลุกพล่าน สงบ นี่ถือว่าเริ่ดมาก ๆ เลยนะคะ
เป็นบุ๊งก็ไปกินข้างทางค่ะ 555555 เรื่องอะไรเนอะ
เอา 200 ไปกินหมูปิ้ง ปาท่องโก๋ได้เยอะเลย


โดย: Close To Heaven วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:10:41:59 น.  

 
มานั่งแช่อยู่ในบล้อกนี้นานมากกกก
น้ำหูน้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะความหนาว
แต่เพราะสำนวนสะบัดช่อต่างหาก 555

ยังชักสงสัย ทะแม่งๆ แระว่าเจ้าของบล็อกทำไมชอบรีเควสสายฉีดตรูดตลอดนะ
หากไปหาเอาข้างหน้า ต้องเข้าไปสำรวจห้องเค้าก่อนมั้ยนี่ ถึงจะตัดสินใจ อิอิ
สงสัยเป็นโรคแพ้กระดาษทิชชู่




บล็อกนี้อัพถึง 7 วันเฃียววว ไอ้เราไปฮอลแลนด์ไม่กี่คืน คงได้อัพ 4-5 บล้อกแต่ละเมืองแน่ๆ ได้ทีดองนานๆหน่อย 555
ว่าแต่ไปทะเลใต้แต่กลับไม่ได้กินอาหารทะเลเลย แหม๊ เสียเทียวๆ

แต่กลับได้กิน MK ที่บิ๊กซีด้วยแหะ แหมมมนะ



ร้านหนังสือเก่าแก่ขนาดนั้นเชียว ไปนั่งอ่าน นอนอ่านยังได้สบายโก๋ชีริวแน่ๆ ว่าแต่ช่วยซื้อเขามากี่เล่มป่าวเนี่ย อิอิ

ว่าแต่อีก ไปใต้คราวก่อน รถไปชี้หม่องเท่งขนาดนั้นเชียวเหรอ
น่ากลัวโพดๆฝนมาตกหน้ำกระหน่ำซอยอีกด้วยนะ โหดร้ายชะมัด

แหลมพรเทพคนเยอะมาก ลมแรงโหดสุด แต่สวยสุด ด้วยชอบๆ
ไปวัดฉลองไม่ไหว หนวกหูเป็นบ้าเลย มีแต่เสียงจุดดประทัดแก้บนกัน

เห็นกระบี่แล้วอยากไปมากกกก ไม่เคยไปเลย



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:11:38:11 น.  

 
ว่าแต่ยังเหลือดองบล็อกอีกเยอะนะ บล็อกวันพ่ออีกเรอะ
ประวัติศาสตร์เพียบต้องมาบ้านนี้ๆ
ว่าแต่แมวเค้ากำลังทำพิธีแน่ๆ ยังแอบถ่ายมาได้ 55
แปะโหวตก่อนน้าาาาา คืนนี้จะมากดจิ๊กๆๆๆ







โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:11:39:42 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเอ็ม โห...สุดยอดของบล็อกท่องเที่ยวเลยค่ะ
ลงได้ละเอียดทั้งภาพและคำบรรยายเหมือนได้ไปด้วยตัวเองเลยค่ะพี่กิ่งอ่านเพลินเลย

ปลายเดือนนี้พี่กิ่งก็จะไปกระบี่เหมือนกันค่ะ แล้วจะเอาภาพมาอวดบ้างเน้อ อิอิ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

มีความสุขวันนี้จ้า



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:13:43:15 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับโหวตนะค่ะ

ที่จริงอ่านแล้วเราก็ตื่นเต้นกับการที่คุณชีริวเจออุบัติเหตุน๊ะ
เพราะแบบนี้เราจึงมะค่อยเดินทางด้วยรถยนต์เองสักเท่ารัย
แต่โชคดีที่ไม่เป็นรัยกันมากนะค่ะ

ภาพหลายๆมุมถ่ายมาได้สวยถูกใจเราากด้วยเลยคร้า ชอบจัง


โดย: Tui Laksi วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:22:12:23 น.  

 
ภาพชุดนี้ถ่ายไกลมากครับ
แล้วใช้เลนส์ซูมเข้าไป

พี่ก๋าถ่ายจากศูนย์อนุรักษ์ต้นน้ำดอยอินทนนท์
แถวบริเวณด่านทางเข้าน่ะครับ

โชคดีมีโอกาสไปพักที่นี่ เลยได้ถ่ายภาพมุมไกลบ้าง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2558 เวลา:23:03:10 น.  

 
มาโหวตๆๆ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
anigia Parenting Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

บล็อกเนเธอร์แลนด์ตอนนี้เค้าของให้รีวิวเป็นตอนๆแต่ละเมืองน่ะเลยสั้นไป เมืองเก่า กังหันลมไรมีหมดจ้า
ไว้มารีวิวเมืองอื่นต่อ อิอิ
รูปแต่ละเมืองก็ไม่เยอะมากด้วย ดันให้ทำหลายตอนอีก




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:0:31:12 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:6:55:31 น.  

 
ถ้าโดน 112 ขึ้นมาก็เอาข้าวผัดมาเยี่ยมกันด้วยเด้อ ฮ่วย

555 แถมโอเลี้ยงให้ด้วย
พูดเรื่องซากอิฐ ซากวัตถุโบราณของตัวเองต่อไปเถอะ
เด๋วจะหาคนส่งข้าวส่งน้ำบ่ได้ ฮ่วย



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:12:19:08 น.  

 
เที่ยวเหนือ นอกจากเชียงใหม่ เชียงราย พี่ว่า น่าไปอีกหลายจังหวัดค่ะ ลำปาง ลำพูน ตาก พะเยา เยอะเลย น่าน นี่ก็น่าไปซ้ำค่ะ

ลืมตอบ ปะป๊าไม่เล่นบล็อกค่ะ โซเชียลมีเดีย เธออ่านข่าวในทวิตเตอร์บ้าง มี fb ก็งั้นๆ มีเพื่อนไม่กี่คน หมอก เมฆ แทบไม่เคยดูบล็อกแม่ ปะป๊านานๆ ที จะเข้าบ้าง ที่เค้าถ่ายรูปเนี่ย เหมือนของเล่นใหม่ แต่ไม่บ้าเหมือนพี่หรอก


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:16:51:59 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณซีริว
ใบเมี่ยงเวียดนามไม่มีชื่อเรียกเฉพาะค่ะ แต่มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ ส่วนลวดลายที่เห็นจะเกิดจากการตากบนภาชนะที่มีลวดลายน่ะค่ะ พอเอาน้ำลูบ ๆ ก็หายไปแล้วค่ะ ^__^
จะจำไว้ว่าคุณซีริวไม่ชอบแตงกวากับถั่วงอก ซึ่งพี่ชอบทั้งสองอย่างเลยค่ะ ^__^


โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:17:31:54 น.  

 
เห็นตามเลยค่ะ ทะเลเศร้าๆทางนิวอิงแลนด์ไม่สวย ไม่น่าเล่นจริงๆ
ยิ่งหน้าหนาวนี่ ลืมไปเลยเนาะ

รอๆๆๆ ดูรูปทะเลสวยๆนะจ๊า


โดย: anigia วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:21:44:28 น.  

 
แวะมาเที่ยวปักษ์ใต้ด้วยคนค่า ข้อมูลเพียบ ภาพถ่ายก็สวยมาก วิวเมืองใต้นี่สวยจริง ๆ ทะเลก็งามขนาด อยากไปเที่ยวนานแล้วแต่ไม่สบโอกาสสักที มาอ่านบล็อกนี้ก็เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยตัวเองเลย ขอบคุณมากค่ะ

และขอบคุณมาก ๆ ที่แวะไปฟังเพลงเพราะ ๆ ที่บล็อกนะคะ อยากไปชมคอนเสิร์ตมาก แต่เสียดายที่จัดวันเสาร์ เลยแห้วตามระเบียบ

คุณก๋าเชียร์ให้ลองส่งไฮกุไปให้สนพ.หลายรอบแล้วค่ะ แต่เราก็ยังไม่ได้ส่งสักกะที ก็อย่างที่คุณก๋าบอกว่าสมัยนี้หนังสือบทกวีหาสนพ.พิมพ์ยากได้ใจ ยิ่งเป็นไฮกุละก็ ยิ่งยากใหญ่ คุณก๋าส่งหนังสือทำมือและที่พิมพ์เองให้เราหลายเล่ม เลยกะว่าจะลองทำหนังสือไฮกุทำมือดู แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่ แฮะ แฮะ

โหวตหมวดท่องเที่ยวให้จ้า


โดย: haiku วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:22:36:25 น.  

 
เอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาล้อเล่นได้อีก ถนนลื่นเหรอครับรถเลยคว่ำน่ะ

จริงๆ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ คลื่นกระแทกคอนกรีตแบบนี้ เมืองนอกมี เมืองไทยผมพึ่งเคยเห็นเหมือนกัน

โรงแรมวันแรกดูไม่ค่อยดีเลย (ดูจากเตียง) แต่ถ้าสะอาดและปลอดภัยก็พอไหวมั้ง

พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศดูสวยดีครับ ดูยิ่งใหญ่ดี พอมาดูผ่านเว็บแบบนี้โอเคเลย ตอนแรกผมอ่านผ่านมือถือแบบโมบายโหมด ภาพสลับกันมั่วไปหมด

เรื่องซากปะการังนี่น่าคิดนะ ไม่มีคนเฝ้าด้วย คงโดนโกยไปใส่ตู้ปลาเยอะแล้วแน่ๆ

ร้านหนังสือเส้งโห มีส่วนลดราคาหนังสือมั้ย (อยากรู้เฉยๆ น่ะ) การได้กินอาหารอร่อยนับเป็นโชค หลายๆ ครั้งเข้าร้านที่ดูน่าจะอร่อยแต่ไม่อร่อยก็มีเยอะ พวกร้านทั่วๆ ไปแต่อร่อยนี่เยอะนะครับ

พิพิธภัณฑ์หอยภูเก็ตซีเชลล์นี่น่าสนใจ แต่เค้าขายหอยแบบนี้ไม่กลัวว่าซักวันมันจะหมดรึไงนะ แต่มันมีหลายราคาให้เลือกซื้อแถมถูกๆ เลยก็มี

จริงๆ พวกนักท่องเที่ยวที่ซ่าๆ มีทุกที่นะ แต่ถึงขั้นตกไปตายเลยนี่ก็น่าสงสารเหมือนกัน

วัดพระทองที่มีพระผุดถ้าเป็นสมัยนี้คงขุดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่คงไม่ขุดแล้วล่ะ ใครจะไปทำลายเสน่ห์ที่เที่ยวล่ะ

มีภาพเปรียบเทียบด้วย ขาดภาษาจีนนะครับ (ฮา)

ผมล่ะฮาพิธีใส่บาตรแบบนั้นก็สมควรโดนโห่ครับ ไม่โดนสิแปลก มันบ้าอะไรกัน พวกวันที่เป็นพิธีสำคัญผมไม่ใส่บาตรเลย เพราะคนใส่กันเยอะ ใส่วันธรรมดาดีกว่าไม่ต้องแย่งคนอื่น อย่าไปคิดเรื่องบุญมากบุญน้อยเลย ถ้าทุกคนคิดแต่เรื่องบุญน้อยบุญมาก ทุกคนก็จะรอแต่ช่วงนาทีทองซึ่งไม่ถูกต้องเลย (ไปอ่านคุณครูผู้สิ้นหวังตอนนึงประกอบนะครับ โนโซมุเคยพูดเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน)

ขึ้นเรือเอกชนนี่ราคาโหดมาก

รู้สึกขาพิงกัน-เขาตาปู จะเป็นจุดที่เรียกว่าห้ามพลาดกันเลยทีเดียว

คุณขีริวชอบพิพิธภัณฑ์มากจริงๆ มีเจ้าถิ่นด้วย มีแซวเจียมด้วย ยกเลิกระบบการโหวตบล็อกก่อนสิ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง


พวกสาวสวยแต่ประหลาดมีเยอะครับ ผมพยายามเลือกพวกโมเอะมา ไม่อยากเลือกพวกสยองมา


ผมอ่านบล็อกนี้ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะครับ นับถือจริงๆ ขยันเขียนมากๆ เดี๋ยวหลังเที่ยงคืนจะเข้ามาโหวตท่องเที่ยวให้ครับ

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 มกราคม 2558 เวลา:20:20:59 น.  

 
เห้นทีแรกนึกว่าพระธาตุพนมจริงๆนะนั่น เหมือนแท้


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 18 มกราคม 2558 เวลา:3:00:51 น.  

 
โอยยย กว่าจะมาอ่านได้แบบเต็มๆ ต้องรอวันว่างจริงๆค่ะ
คุณชีริวมาเที่ยวใต้ได้แบบละเอียดมากมาย
นุ่นอยู่ใต้ ไปภูเก็ต กระบี่ บ่อยมากยังเก็บไม่ได้เลย
ได้แต่ถ่ายรูป แต่ข้อมูลอะไรไม่ค่อยได้เก็บเล้ย

โรงแรมแต่ละแห่งต้องจดบ้างเลยค่ะ
ทางผ่านทั้งนั้น เผื่อจะได้พักบ้าง ราคาดี ที่พักพอใช้ ก็หลับสบายได้ เย่

เส้นทางระนอง นุ่นไม่เคยไป อยากไปค่ะ แต่จากที่อยู่ไประนอง กลับเป็นที่ๆ ไกลที่สุดเลย นุ่นไปภูเก็ต 6 ชม. จิ๊บๆ แต่ถ้าไประนองเกือบ 10 ชม. ไกลโพด ขี้เกียจจัง

ภูเก็ตไปล่าสุดพักป่าตอง คนเยอะมากจริงๆ เดินขาลาก แต่ก็สนุกดี หาของกินง่ายด้วย แต่หาดที่ชอบสุด ชอบหาดสุรินทร์ค่ะ แต่เค้าว่าเล่นน้ำไม่ค่อยได้ คลื่นแรงจัด

จุดชมวิว 3 อ่าว คือแบบว่าตอนไป ต้องยืนบนที่นั่งถ่ายรูป ไม่งั้นเห็นแต่หัว ตูด นักท่องเที่ยว เต็มจอเลยอะ


อ่านจบแล้ว สนุกดี เล่าเก่งค่ะ 555
ไปเกาะลันตายังคะ กระบี่ สวยดีเหมือนกัน
แต่เหมือนเป็นเกาะฝรั่งแล้ว ถ้าอีก 2-3 ปี สะพานคงสร้างเสร็จไม่ต้องข้ามแพ 2 ต่อแบบตอนนี้แล้วค่ะ

ขอบคุณเรื่องเล่าสนุกๆค่า
รอดูทริปอื่นๆอีกนะคะ



โดย: lovereason วันที่: 18 มกราคม 2558 เวลา:11:34:35 น.  

 
ซารางเงมามีเฮกุ๊ก

แวะมาดมแหลมพรหมเทพ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 มกราคม 2558 เวลา:23:42:34 น.  

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog

บล๊อกนี้ยาว แบบต้องเดินทางใช้เวลานานมาก ๆ
เลย 555 แต่ได้ความรู้เกี่ยวกับแหล่งเที่ยวมากมาย
เลยโหวตให้ครับ..

เที่ยวแบบนี้ดีครับ แวะเข้าตลาดสด ตลาดชาวบ้าน
มิได้เน้น รีวิวห้องพัก 55 แอบแซวเพื่อน ๆ ที่รับ
จ๊อบมา..

ที่ไม่ชอบคือ เจ้าของสถานที่ ห้ามการถ่ายภาพ
เข้าไปหลายที่ ไม่ได้เกี่ยวกับของมีค่ามากมาย
แต่ "ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก" ถ้าถ่ายแล้ว พอคน
อื่นรู้จะ ไม่เข้าไปเที่ยวมากกว่าครับ

คุณชีริวใจถึงนะครับ ที่เดินทางไปเที่ยวในวันหยุด
หลาย ๆ วัน ผมกลัวครับ กลัวรถติด


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 21 มกราคม 2558 เวลา:6:37:39 น.  

 

ว๊าววววว สุดยอด แหล่มเลย
พี่อุ้มขอแสดงความยินดีกับน้องชีริวด้วยคนจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 21 มกราคม 2558 เวลา:13:34:06 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับสายสะพายด้วยนะครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มกราคม 2558 เวลา:14:06:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาแสดงความยินดีกับสายสะพายด้วยนะคะ


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 21 มกราคม 2558 เวลา:15:46:42 น.  

 


ดีใจด้วยนะคะน้องริว และขอบคุณที่แวะไปทักทายพี่เสมอจ้า

thank you icons photo: thank you thank-you-6.jpg


โดย: anigia วันที่: 21 มกราคม 2558 เวลา:22:51:00 น.  

 


ขอแสดงความยินดีกับสายสะพายเส้นใหม่ด้วยนะค่ะ



โดย: Opey วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:9:23:22 น.  

 
ทักทายสวัสดีีครับคุณชีริว

ตามมาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยว พังงา-ภูเก็ต-กระบี่ กันด้วยครับ

มาร่วมแสดงความยินดีกับรางวัลที่ได้รับกันด้วยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:11:41:13 น.  

 
ผมนี่อยากไปตามรอยบ้างเลยครับ

ยังไปเที่ยวได้ไม่เยอะเลย มาตามรอยแถวนี้ไปพลางๆ

ยินดีกับรางวัลด้วยครับ...

น้องใหม่ขอฝากตัวด้วยคน


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:12:23:52 น.  

 
แพมขอแสดงความยินดีกับรางวัลสายสะพายเบสการ์ตูนด้วยค่ะพี่ชีริววว
ขอบคุณพลังและกำลังใจที่ให้แพมด้วยนะค่ะ ...



ปีนี้บล็อกการ์ตูนเหรียญเงินคงจะมีงานดีมาให้ทึ่งอีกหลายเอนทรี่ใช่ป่าว
ปีที่แล้วอัพน้อยร่วงพรึดดดดได้ปลอบใจเลยปีนี้แพมก็ว่าจะอัพเพิ่ม
ก่ะจะบุกเมืองเวทย์มนตร์(เดือนหน้า)ขอกำลังใจพี่ชีริวไปอ่านด้วยนะค่ะ ฮรี่ๆ




โดย: mastana วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:13:18:35 น.  

 
ยินดีด้วยนะคะคุณซีริว



โดย: เนินน้ำ วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:13:47:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.