Group Blog
 
<<
มกราคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มกราคม 2567
 
All Blogs
 
ลงใต้ไปเบตง


ขอเริ่มบล็อกท่องเที่ยวแรกของปีด้วยทริปยะลา-นราธิวาส ช่วงปลายปีที่แล้วครับ เป็นสองจังหวัดที่ยังไม่เคยไปเที่ยว ปกติเที่ยวไกลแค่ไหนก็ขับรถไปแล้วแวะเที่ยวรายทาง แต่ภาคใต้เส้นทางท่องเที่ยวตามถนนสาย 4 ก็เก็บไปเยอะแล้ว เลยขอนั่งเครื่องบินดิ่งไปหาดใหญ่ แล้วเช่ารถขับต่อ แพงกว่าแต่ย่นเวลาและทุ่นแรงไปได้เยอะเหมือนกันครับ

วันที่ 23 ธ.ค. ขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมืองไปลงสนามบินหาดใหญ่นั่งแอร์เอเชีย แล้วบินกลับวันที่ 26 ธ.ค. นั่งเวียดเจ็ทจากสนามบินหาดใหญ่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ ไปกับแม่สองคนค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับรวม 7,030 บาท/2คน


ใช้เวลาบินชั่วโมงครึ่ง มาถึงสนามบินหาดใหญ่แปดโมงเช้าพร้อมคำเตือนฝนฟ้าคะนอง ฝนตกตั้งแต่ที่สนามบินเลยครับ จะเที่ยวสนุกมั้ยล่ะนั่น
 


เช่ารถ TOYOTA Altis เลือกรุ่นนี้เพราะเคยขับ Altis CNG มาก่อน น่าจะคุ้นมืออยู่ คันนี้ใหม่ด้วย เพิ่งใช้มาหมื่น กม.

 


ที่กังวลคือ มันจะต่อ google map ได้มั้ย แต่รถรุ่นใหม่ต่อบลูทูธมือถือได้กันหมดอยู่แล้ว สบายเลยครับทริปนี้ ยกเว้นช่วงขึ้นเขา สัญญาณหลุดเป็นระยะๆ ก็จำไว้แต่เนิ่นๆ ว่าทางเลี้ยวข้างหน้ามันอีกกี่ กม. ยังดีที่เน็ต AIS ถึกกว่าเจ้าอื่น

 


เช่ารถจาก Budget 3 วัน 4,780 บาท สรุปค่าเดินทาง 11,810 บาท ไม่รวมค่าน้ำมันระหว่างทริป ถ้าขับเองกรุงเทพ-หาดใหญ่ ไป-กลับ 1,880 กม. รถ Mazda2 Diesel ใช้น้ำมัน 22 km/l ค่าเติมน้ำมัน 2,500 บาท ถูกกว่าจมหู ไม่รวมค่าซ่อมบำรุง แต่การมาเครื่องบินมันเซฟเวลาไปได้สองวันเลยนะ

ขับรถจากหาดใหญ่ผ่านปัตตานีไปยะลาครับ ได้ผ่านศาลหลักเมืองใจกลางเมืองยะลาที่มีผังเมืองสวยมาก แต่ไม่ได้ขึ้นไปสูงๆ ก็มองไม่เห็นอะนะ ยะลาจะเน้นเที่ยวเบตงเป็นหลักเลย เป็นเมืองชายแดนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ทีนี้จุดยากคือเส้นทางจากเมืองยะลาไปเบตงไกลถึง 132 กม. และค่อนข้างคดเคี้ยว สถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ตอนบนของเบตง ลงไปยังเมืองเบตง และลงต่ออีกนิดไปจนถึงชายแดนมาเลเซียก็ตามภาพเลยครับ


จะขึ้นสกายวอล์คอัยเยอร์เวงไปชมทะเลหมอกตอนเช้าวันพรุ่งนี้ จุดหมายแรกของวันนี้จึงเป็นอุโมงค์ปิยะมิตรครับ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห่างไกลจากถนนหลักที่สุดในทริปนี้ ทางขึ้นไปก็คดเคี้ยวผ่านหมู่บ้านสลับกับภูเขาไปมา กะว่าเที่ยงตรงไหนก็กินมื้อเที่ยงที่นั่น แล้วก็มาเที่ยงเอาแถวบ่อน้ำร้อนเบตงครับ ไม่ได้กะแวะเที่ยวแต่แถวนี้มันมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ประมาณนึง เลยกินที่นี่แหละ

ร้าน CAT ผัดหมี่เบตง ร้านชาวบ้านขายผัดหมี่เบตงที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของเบตง เส้นเหนียวนุ่ม ผัดง่ายเส้นไม่ขาด ผัดกับซีอิ๊วเบตงที่เป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ หอมอร่อยเหมือนยากิโซบะแบบใส่ผักท้องถิ่น ส่วนเนื้อมีให้เลือกเนื้อปลาและเนื้อไก่ จานนี้ใส่ปลาครับ อีกจานสั่งไก่ผัดพริกแกง เป็นพริกแกงใต้เครื่องเด็ดถึงใจ


ไหนๆ ก็มาแล้ว ชะโงกทัวร์บ่อน้ำร้อนสักหน่อย บ่อน้ำร้อนเบตง มีอุณหภูมิ 80 องศา ร้อนพอต้มไข่ได้ แต่มีการถ่ายน้ำลงบ่อใหญ่ให้อุณหภูมิพอเหมาะสำหรับให้นักท่องเที่ยวไปแช่เท้าแช่ตัวได้ครับ


ร้านค้าข้างบ่อเจอผลไม้น่าสนใจ คนขายบอกว่าน้อยโหน่ง จริงๆ นี่คือน้อยหน่าบิลิบ้าจากอเมริกาใต้นะครับ ลูกละ 100 เหมือนจะแพงแต่คุ้ม ปอกง่ายใช้มือบิดเปลือกก็หลุดแล้ว เนื้อเต็มคำฉ่ำทั้งลูก เมล็ดก็น้อย มีแค่ตรงกลาง แช่เย็นแล้วตักกินได้ฉ่ำๆ เลยครับ ถ้าไปซื้อที่สวนก็ถูกลงกว่านี้อีก แต่เห็นว่ายังทำเชิงพาณิชย์ไม่ได้เพราะมันเก็บได้แค่ 3 วันเอง
 

จากถนนเส้นใหญ่เข้าไปที่บ่อน้ำร้อน 6 กม. และจากบ่อน้ำร้อนเข้าไปที่อุโมงค์ปิยะมิตรอีก 6 กม. ครับ
 
 
อุโมงค์ปิยะมิตร
(Piyamit Tunnel)

อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์คนขุดที่ใช้เป็นที่่ซ่อนตัวของขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มาลายา (จคม.) ที่สู้รบกับรัฐบาลมาเลเซียในยุคนั้น สร้างในปี พ.ศ.2519 ใช้เวลา 3 เดือน ยาวถึง 1 กม. มีทางเข้าออก 9 ทาง ปัจจุบันปิดเหลือ 6 ทาง ช่วงปี พ.ศ.2530 จคม. เข้ามอบตัวกับรัฐบาลไทย และเข้าร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ได้สัญชาติ และได้รับจัดสรรพื้นที่อยู่อาศัยในบ้านปิยะมิตรมาตั้งแต่นั้น เหตุการณ์สงบไปหลายปีแล้ว ตอนนี้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ให้ผู้สนใจเที่ยวชม อุโมงค์เปิดตั้งแต่ 8.00 - 16.30 น. ค่าเข้าคนไทย 40 บาท ครับ


อุโมงค์อยู่กลางป่าที่ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่ ยากแก่การค้นหาของทหารฝ่ายรัฐบาล ระหว่างทางมีหมุดหมายต่างๆ เป็นระยะ ตามภาพนี้เลยครับ

 

เดินป่าเจอสัตว์เจอพืชแปลกๆ ก็เพลินดี

ตัวนี้กิ้งกือหลังแบน หรือตะเข็บ ดูคล้ายตะขาบ แต่มันคือกิ้งกือนะ เป็นสัตว์กินซากครับ

23

 

เก็บตั๋วที่ซื้อจากด้านหน้าไว้ดีๆ นะครับ ตรงทางเข้าอุโมงค์จะตรวจตั๋ว ตรงนี้เป็นที่พักกลางทาง มีนิทรรศการสาธิตความเป็นอยู่ภายในอุโมงค์และมีน้ำขายด้วย


พร้อมแล้วก็ดิ่งเข้าไปเลยครับ ภายในอุโมงค์ที่ยาวและสลับซับซ้อนนี้มีทั้งสถานีวิทยุ ห้องนอน ห้องเสบียง ช่องส่งของ ฯลฯ


เดินไปทะลุอีกด้านจะออกไปที่ป่าด้านหลัง วนกลับไปทางเข้าได้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ไปนะ ออกไปทางเดิมแล้วขอเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ใกล้ๆ ทางเข้าอุโมงค์ก่อน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร จัดแสดงข้าวของที่นำออกมาจากอุโมงค์และพื้นที่แถบนี้ รวมทั้งประวัติศาสตร์ของกลุ่มโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.)

 

กลับออกจากเส้นทางทุรกันดารดิ่งเข้าเมืองเบตงต่อครับ จะเจอป้ายโอเคเบตง พร้อมหลักกิโลขนาดใหญ่ เป็นหมุดหมายว่าเราเข้ามาในเมืองเบตงแล้ว ไชโย~ 119

ขณะนี้เป็นเวลา 14.30 น. เหลืออีกไม่ถึงครึ่งวันจะต้องเที่ยวเบตงให้หมด เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ออกไปอัยเยอร์เวงแต่เช้าเลยครับ

 


เมืองเบตงมีคำขวัญ "เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน" เบตงเป็นภาษามลายู แปลว่าไม้ไผ่ เดิมเรียกว่าอำเภอระยม (ภาษามลายูแปลว่าเข็มเย็บผ้า) ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2441 อยู่ภายใต้มณฑลปัตตานี จนกระทั่งไทยเสียดินแดนปี พ.ศ.2452 บางส่วนของระยมตกเป็นเมืองขึ้นอังกฤษและถูกรวมไปอยู่กับมาเลเซีย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอเบตงในปี พ.ศ.2473 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดยะลาในปี พ.ศ.2476

สถานที่แรกมาที่นี่ก่อนครับ
พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง ตั้งอยู่บนเนินท้ายเมือง ประตูทางเข้าอยู่ด้านหลังนะครับ ขับรถวนไปได้เลย ที่นี่สร้างในปี พ.ศ.2548 เป็นพิพิธภัณฑ์ 3 ชั้น โดยส่วนของการจัดแสดงอยู่ที่สองชั้นล่าง ชั้นแรกจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ชั้นสองจัดแสดงสถานที่ท่องเที่ยว และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเบตง

 

ขึ้นไปชั้นบนสุดเป็นหอชมวิว จะชมเมืองเบตงได้รอบทิศ ใจกลางเมืองนั่นคือหอนาฬิกาเบตง ทีรายล้อมด้วยร้านอาหารดังๆ และสตรีทอาร์ทมากมาย


จากตัวเมืองเบตง ลงใต้ไปอีกแค่ 6 กม. ก็จะถึงชายแดนแล้วครับ ถึงจะเป็นชายแดนที่ไม่ได้มีตลาดหรือสถานที่ท่องเที่ยวอะไร แต่มาถึงนี่แล้วก็ขอแวะไปสักหน่อย ตรงด่านพรมแดนเบตงขับรถเลนซ้ายอ้อมด่านไปถ่ายรูปป้ายใต้สุดแดนสยามได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเจ้าหน้าที่

 


ป้ายใต้สุดแดนสยาม คนมาถ่ายรูปน้อยมวั้ก! ไม่เหมือนป้ายเหนือสุดแดนสยามที่แม่สาย อันนั้นแทบจะต้องกดบัตรคิว

 


ซาลามัต ดาตัง! เลยจากตรงนี้ไปก็เป็นประเทศมาเลเซียแล้วครับ

 


ขับกลับมาที่ตัวเมืองเบตงอีกที สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือ วัดพุทธาธิวาส เดิมชื่อวัดเบตง ตั้งเป็นวัดในปี พ.ศ.2460 ถึงจะเป็นวัดที่ไม่เก่าแก่มาก แต่มีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่

พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ (สูง 39.9 เมตร) สร้างเนื่องในโอกาสที่พระนางเจ้าสิริกิติ์อายุครบ 60 ตอนนี้กำลังบูรณะอยู่ ขอข้ามไปที่องค์พระเลยดีกว่า ...พระพุทธธรรมกายมงคล ถือเป็นพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พระนางเจ้าสิริกิติ์มาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระ ปี พ.ศ.2543


ที่ใจกลางเมืองเบตงมี หอนาฬิกาเบตง เป็นแลนด์มาร์คกลางเมืองทำจากหินอ่อน เอกลักษณ์คือสายไฟระโยงระยาง ไม่ว่าถ่ายจากด้านไหนก็อุบาทว์ตาแท้ ในเมืองหาที่จอดค่อนข้างยากนะครับ ข้างถนนก็จอดกันเต็มซ้อนกันสองชั้น อาจต้องจอดไกลหอนาฬิกาแล้วเดินเข้ามาหน่อย


หัวมุมถนนตรงหอนาฬิกามี ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ใช้งานจริงจนถึงปัจจุบัน ตู้นี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2482 สูง 2.9 เมตร ยุคนั้นได้ติดลำโพงรอบตู้เพื่อใช้กระจายเสียงข่าวสารให้ชาวเบตงด้วย


มื้อเย็นตั้งใจหาร้านไก่เบตงอร่อยๆ กินสักร้าน ร้านที่แม่เคยกินอย่างร้านเจริญข้าวมันไก่เบตงพันธุ์แท้ ก็ขายแค่มื้อเช้ากับเที่ยง เลยขอเลือกเอาภัตตาคารดีๆ สักแห่ง แถวนี้จะมีเมนูดังของเบตงคล้ายๆ กันหมด คือไก่สับเบตง ผักน้ำ เคาหยก ผัดหมี่เบตง ฯลฯ หลายร้านคนแน่น จนให้ความรู้สึกไม่เหมือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เลย มันคือเมืองท่องเที่ยวดีๆ นี่เอง

ว่าแล้วก็เข้าร้านต้าเหยิน (กิตติ) เป็นร้านดังเก่าแก่ และใหญ่โต มีที่นั่งถึงชั้นสาม แขกเยอะแค่ไหนก็รับแขกได้สบายๆ อยากกินหลายเมนูมาก แต่มากับแม่สองคน ความจุกระเพาะรวมกันประมาณโค้กสองกระป๋อง เลยสั่งได้แค่ไก่สับกับผัดถั่ว และพบว่ามันโคตรอร่อย! ไก่เบตงเป็นไก่พันธุ์เหลียงซานที่ชาวจีนนำเข้ามาเลี้ยงในเบตง ผสมกับพันธุ์พื้นเมือง จนเป็นพันธุ์เฉพาะของที่นี่ ด้วยความหนังหนากรุบ เนื้อหวานนุ่ม ไม่เปื่อยยุ่ย เลยนิยมเอาไปทำข้าวมันไก่ หรือเป็นไก่สับราดซีอิ๊วและน้ำมันงากินกับข้าวก็อร่อย พอดีวันนี้ผักน้ำหมด เลยสั่งผัดถั่วฝักยาวหรือถั่วเจี๋ยนก็เป็นเมนูยอดนิยมของที่นี่ ผัดได้กำลังดี หอมกระทะ ถั่วสดหวานกรอบอร่อยมาก เป็นอีกมื้อที่กินได้หมดจดยันผักชีและแตงกวา

 

ตามข้างทางมีส้มโชกุนขายเยอะเหมือนกัน
ราคาตามขนาดตั้งแต่โลละ 60-150 บาท

ส้มโชกุนเกิดจากส้มเขียวหวานผสมกับส้มแมนดาริน มีน้ำเยอะ เปลือกบาง รสหวานอมเปรี้ยว เริ่มปลูกจากเบตง และแพร่หลายไปทั่วประเทศ

 


ตามกำแพงมีสตรีทอาร์ทเยอะเลย นี่แค่ส่วนนึงเท่านั้นนะครับ เสียดายภาพสวยๆ หลายภาพมีรถจอดบังอยู่บ้าง บ้านเปิดหน้าต่างอยู่ภาพเลยขาดบ้าง สตรีทอาร์ทเหล่านี้เกิดจากกิจกรรม ATM Spray x Betong Street Art ที่คนเบตงจัดกันเองครับ เชิญชวนศิลปินกว่า 40 ชีวิตมาวาดภาพเรื่องราวของผู้คนในเบตง เช่น ไก่สับเบตง นกเกาะสายไฟ อดีตนักบาส ทะเลหมอก รถสวน ความเป็นจีนในเบตง และอื่นๆ อีกมากมาย ภาพที่โด่งดังที่สุดน่าจะเป็นภาพพี่ตูนข้างพิพิธภัณฑ์เมืองเบตง เบตงเป็นจุดเริ่มต้นการวิ่ง 2,215 กม. จากเบตงไปแม่สายของพี่ตูนในโครงการก้าวคนละก้าวปี พ.ศ.2560


อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อยู่ใต้พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง เป็นอุโมงค์ลอดภูเขาออกไปด้านหลังเมือง เปิดใช้ในปี พ.ศ.2544 ที่นี่ถือเป็นอุโมงค์รถยนต์แห่งแรก มีความยาว 268 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร ประดับไฟสวยตลอดทั้งปีแบบไม่ต้องง้อเทศกาลปีใหม่ เสียดายลงไปถ่ายรูปไม่ได้ครับ เดี๋ยวรถทับเอา


ที่พักในเบตงช่วงเทศกาลจะหาค่อนข้างยาก คืนนี้พักที่ Nice Resort Hotel ออกมานอกเมืองหน่อยนึง แต่ที่พักดีเลยครับ มีสองชั้น มีสวนหย่อมกลางรีสอร์ท ห้องไม่ค่อยสวยแต่กว้าง ราคาสบายๆ ด้วย คืนละ 550 เท่านั้นเอง

 


วันที่ 24 ธ.ค. 66 รีบตื่นแต่เช้า เพราะจะขึ้นไปดูทะเลหมอกอัยเยอร์เวงครับ ฝนก็ตกมันทั้งคืน จนไม่มีหวังว่ามันจะหยุด ดูข่าวแล้วพายุเข้าภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะยะลาและนราธิวาส ซึ่งมันก็คือที่ๆ ตูกำลังเที่ยวอยู่นั่นเอง

แวะมาแถวหอนาฬิกาอีกที สายไฟที่ว่าอุบาทว์แท้นี่ละครับจุดขาย เพราะพอตกกลางคืนช่วงหน้าหนาวจะมีนกนางแอ่นที่กำลังบินลงใต้มาเกาะพักอยู่นับพันตัว เป็นภาพจำของคนแถวนี้ กลายเป็นซอฟท์พาวเวอร์เบตงไปเลย เดินเที่ยวแถวหอนาฬิกาตอนมืดๆ โปรดระวังขี้นก


กินข้าวเช้าร้านนี้ครับ เซ้งติ่มซำ อันที่จริงอยากลองไปกินข้าวมันไก่ร้านเจริญที่เปิดเช้าเช่นกัน แต่ร้านนี้มีหลากหลายทั้งข้าวมันไก่ โจ๊ก ต้มเลือดหมู ติ่มซำ กระเพาะปลา บักกุดเต๋ ฯลฯ ปรากฏว่านอกจากติ่มซำที่พอใช้ได้แล้ว อย่างอื่นไม่เวิร์คเลย



 
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
(The Sea of Fog @Aiyerweng)

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อยู่บนเขาไมโครเวฟ (ไม่ตั้งชื่อให้มันโรแมนติกสักหน่อย) ยอดสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเบตงเพราะมีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปีแถมเดินทางสะดวก  
 

ขับรถออกจากเบตงย้อนกลับขึ้นไปทางเมืองยะลา 33 กม. จะมาถึงที่จอดรถเพื่อขึ้นไปสกายวอล์ค ฝนถล่มแบบไม่เกรงใจนักท่องเที่ยวเลยครับวันนี้ คิดว่าคงจะไม่ได้เห็นทะเลหมอกอะไร แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ขึ้นไปสักหน่อย

จอดรถแล้วขึ้นรถสองแถวไปประมาณ 2 กม. จะไปถึงสกายวอล์คแบบไม่ต้องออกแรงอะไร ถือเป็นทะเลหมอกที่ขึ้นง่ายโคตรๆ ค่ารถขาขึ้น 30 ขาลง 20 ไปถึงแล้วค่าเข้า 40 ค่าถุงหุ้มรองเท้ากันกระจกสกายวอล์คเป็นรอย 30 รวมค่าใช้จ่าย 120 บาท/1คนไทยครับ หรือจะไม่จ่ายค่าถุงเท้าแล้วเอารองเท้าเก็บในล็อคเกอร์เดินเท้าเปล่าก็ได้

 


สกายวอล์คอัยเยอร์เวง เป็นหอสูง 6 ชั้น มีลิฟต์ให้บริการ ส่วนที่เป็นสกายวอล์คยาว 61 เมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกยอดฮิต ถึงฝนจะตกหนักแต่ก็พอเห็นเค้าลางความสวยงามอยู่




 

ขับขึ้นมายะลา เจอดินถล่มปิดทาง ต้องรอรถมาเคลียร์ ก็ใช้เวลาไม่นานนะครับ ครึ่งชั่วโมงก็ไปต่อได้

ระหว่างนั้นก็นั่งดูรูปทะเลหมอกที่เจอแต่ฝนไปพลางๆ

 
 

ออกจากอัยเยอร์เวงแปดโมงครึ่ง ถึงนราธิวาส 11.30 น. ฝนยังคงถล่มไม่หยุด
บล็อกหน้าจะพาเที่ยวจังหวัดไกลสุดจากกรุงเทพ ในธีมแบบเปียกๆ คับ
 
194 194 194 194


 



Create Date : 27 มกราคม 2567
Last Update : 27 มกราคม 2567 10:03:49 น. 37 comments
Counter : 1190 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณRain_sk, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณSleepless Sea, คุณmultiple, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณkae+aoe, คุณSweet_pills, คุณ**mp5**, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtanjira, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณฟ้าใสทะเลคราม


 
เจิม
เดี๋ยวมาอีกทีครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:10:43:47 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ คุณชิริว

ไก่สับเบตงนี่ อร่อยจริงๆค่ะ
ติดใจจนอยากกลับไปเบตงอีกครั้งเพื่อกินไก่เลย
ตอนไปก็ไป2คนกับเพื่อนค่ะ แต่โลภมากอยากกินหลายอย่าง
สั่งไป4อย่างค่ะ จะสั่งอีก น้องบอกพี่ แต่ละเมนู มันจานใหญ่นะ
สุดท้ายต้องห่อกลับอย่างนึงค่ะ 5555

เสียดายไปเจอฝนตกพอดี
ถ้าตกวันนี้ พรุ่งนี้ไม่ตก แล้วขึ้นไปอัยเยอร์เวงนี่
หมอกน่าจะฟูลสวยเลยนะคะ

รอชมนราธิวาสนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:11:35:11 น.  

 
จองไว้ก่อน ไว้กลับมาอ่านครับผม


โดย: Rain_sk วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:15:09:54 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยนะคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:19:46:05 น.  

 
ตามเที่ยวครับ
(3 จังหวัดภาคใต้ ที่ยังไม่คิดจะไปเที่ยว-ปัตตานี นราธิวาส ยะลา แต่เคยฝึกงานสมัยเป็นนักศึกษาที่นราธิวาส ยะลา จบแล้วทำงานที่สงขลา)



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:22:12:15 น.  

 
อ.เต๊ะ มาดู บล็อกนี้ เที่ยวที่2 แล้ว
ดูผ่านๆไปรอบนึง แต่อ่านยากมาก เพราะกระดาษมันยับ 555
เดี๋ยวมาอ่านดีๆใหม่ ใจเย็นๆนะครับ แฮ่555





โดย: multiple วันที่: 28 มกราคม 2567 เวลา:19:54:35 น.  

 
น้องชีริวเที่ยวละเอียด
หาข้อมูลไว้แน่น
แม้แต่ร้านอาหารก็น่าะจเลือกเอาไว้ก่อนเลย
ว่าจะต้องไปชิมที่ไหน

พี่ก๋าจำไก่เบตงได้
รสชาติมันดีมากๆ
เป็นไก่ที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกินมาเลย
แต่ก็ไปเบตงแต่ครั้งเดียว
ถ้ามีโอกาสต้องกลับไปอีกแน่นอน

พี่สันติเป็นน้องของพี่โน้สครับ
แต่ชอบทำสารคดี
ถ่ายรูปสวยมากๆ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มกราคม 2567 เวลา:20:47:46 น.  

 
สวัสดีครับคุณชีริว
ก่อนอื่นเลยคือต้องสารภาพว่า ผมพลาดบล๊อกที่แล้วของคุณชีริวไปอ่ะ อ่านแล้วแต่เม้น์ไม่ทันครับด้วยความระยะก่อนหน้านี้เวลาไม่พอจริง ๆ
ครั้งนี้เห็นแล้วรีบโหวตไว้ก่อนเลย แล้วตั้งใจจะเข้ามาอ่านเป็นบล๊อกแรก

มา มาเริ่มเที่ยวด้วยกันเลยครับ
เบตงเป็นรูทที่ผมอยากไปเหมือนกันนะครับ แต่คงไม่ขับรถไปแน่นอน เพราะอย่างแรก ขับรถไกลไม่ทน สายตาไม่ดี และกลัวผีครับ 555555 เค้าว่า สาย 4 นี่ดัง

ผมว่าคิดถูกแล้วที่นั่งเครื่องไปเช่ารถต่อ เพราะประหยัดแรงไปเที่ยวได้อีกเยอะเลย
แต่ไปครับ 2 คน 7 พันนี่ราคาดีเลยนะสำหรับช่วงปลายปี

และดีมาก ๆ ครับที่เลือก Altis แถมได้รถใหม่ มีแมฟด้วย โอ้อย่างเท่ ผมว่าอัลติสนี่กำลังดีนะสำหรับท่องเที่ยว ผมเช่าซิตี้ 1.0 เทอร์โทขับเที่ยวเหนือนี่ แทบจะต้องสวดมนต์ทุกเนิน.....ปวดใจมากครับ

อ่านคำบรรยายแล้วอยากมีฟีลขับรถเที่ยวใต้แบบนี้บ้างเลยครับ น่าจะรูทสวย วิวดี

แต่โอ้โห....เห้นหมี่แล้วหิวเลย ตอน 4 ทุ่ม....

พ่อน้ำร้อน 80 องศา นี่จะแช่ยังไงไหวครับ ไข่สุกแน้นอน...ใช่ไหมเค้ามาต้มไข่ไก่กันใช่ไหมครับ ดีนะที่มีบ่อที่เอาไว้แช่ได้

ทีแรกกำลังจะถามเลยครับว่าไหนคืออุโมงค์ อ๋ออออ มันเหมือนถ้ำใช่ไหม ไอ่ผมก็คิดว่าอุโมงค์รถวิ่ง ลอดภูเขา แต่ป้อมยามหน้ากลัวมากนะครับ

หอนาฬิกานี่ผมชอบนะครับ จำได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คเลย แต่สายไฟโยงได้เหมือนสายสินธ์สวดต่อชะตาเลยครับ

อ้า...อุโมงค์รถก็มาแล้ว สวยดีครับ เหมือน ตปท เลย

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงนี่คุ้นชื่อมากครับ แต่..เขาชื่อไมโครเวฟจริงๆ หรอ!!!

ดูเที่ยวโหดเหมือนกันนะครับ คุณแม่ชอบไหม ไม่บ่นเหนื่อยใช่ไหมครับ ถ้าเที่ยวใต้เจอฝนนี่เป็นเรื่องปกติเลย แถมได้เห็นดินถล่มตัวเป็นๆ ด้วย....คุณชีริวบอกว่า ตรูอยากมาเห็นซะที่ไหนกัน 5555



จากบล๊อก
เงินนี่ผมต้องรอถูกรางวัลที่ 1 ซัก 3 ใบอ่ะครับ....ใบเดียวนี่ต้องซื้อก่อนนะ 5555

ตอนคุณแม่ลองสูตรก็ต้องขอบคุณคุณพ่อครับที่ถอนหายใจแต่ไม่ท้อที่จะกินรับผิดชอบฝีมือเมีย ไม่งั้นคงไม่มีวันนี้
จริงๆ ของดีประจำตระกูลยังมีต้มตรีนไก่อีกครับ แต่ผมไม่กินนะญาติๆ คือชมว่าอร่อยมาก ๆ กัน
แต่แม่บอกว่า อยากเอาใส่บาตรแต่พระท่านไม่มาบิณ ผมเลยบอกว่า พระท่านจะมาทำไม ก็เมื่อวานแม่เล่นบอกว่า พรุ่งนี้มียำตรีนนะคะหลวงพ่อ ผมเป็นหลวงพ่อก็ไม่อยู่เหมือนกัน 5555555

55555 จริงครับ!!! ผมเอาน้ำราดใส้ตู้เย็นไว้กินได้ 3 วันเลย จับฉ่ายก็จับฉ่ายเถอะ 55555

เอ่อ...ผมเลข 3 มาซักพักแล้วครับ รู้เลยว่า เมื่อก่อนเข้าผับ มีแต่หัว ไหล่ ตรูด แต่ตอนนี้ไปร้านไม่มีเก้าอี้หน่อย กลับมานี่ต้อง คอ บ่า ไหล่ อ่ะครับ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 28 มกราคม 2567 เวลา:22:23:39 น.  

 
ผมพิมอะไรยาวจัง...ถือว่าชดเชยบล๊อกที่แล้วนะครับ แฮ่.....


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 28 มกราคม 2567 เวลา:22:24:17 น.  

 
มาแล้วจ้า รอบที่ 3 แล้ว
วันนี้หัวเด็ดตีนขาด ต้องเม้นท์ให้ได้ 555

สมัยก่อน นานมาแล้ว อ.เต๊ะ เคยทำงานสนามบิน
ต้องไปหาดใหญ่ทุกปี อาศัยรถพรรคพวกพาไปเที่ยว
ก็ไม่สนุกเหมือนขับรถไปเองนะครับ

การขับรถไปเองนี่ ดีตรงอยากแวะตรงไหนก็ได้
แต่ไปคนเดียวมันกฺจะเหงาๆ ขับไปเบตง 132 โล
ทริปนี้มีคุณแม่นั่งเป็นเพื่อน ถ้าขับเร็ว สัญญาณเตือนจะดังทันที
ถ้ายังไม่ลดลง จะมีบิดหูตามมาด้วยนะครับ เย้ย 555

ร้าน CAT ผัดหมี่เบตงที่แวะนี่ เส้นฉ่ำๆแบบนี้น่ากินมาก
มาเม้นท์ ตี4 ยังหิวเล้ยยย เวรกรรม555

อุโมงค์ปิยะมิตร นี่นึกถึงอดีตนี่ดูเส้นทางลึกลับซับซ้อนขนาดนี้
ถ้าอ.เต๊ะ เป็นทหารเป็นตายยังไงก็ไม่เข้าไปแน่ ต้องเผารมคว้นลูกเดียว อิอิ
ซีริว บอก เอ็งมันไอ้โหด เผาเสร็จบอกข้า เดี๋ยวข้าระวังหลังให้ เย้ย 555

แล้วก็เดาไม่ผิด มาถึงก็ดิ่งไป พิพิธภัณฑ์ เลยนะครับ
ถ้าเป็น อ.เต๊ะขับละก็ เหยียบมิดไม่แวะ พุ่งไปร้านอร่อยๆก่อน
เวลาเหลือค่อยแวะคร้าบ อิอิ

แล้วก็ วัดพุทธาธิวาส พระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนี่ งามมากๆเลยนะครับ

ส่วนหอนาฬิกา ที่ถ่ายรูปแล้วสายไฟมาบังนี่ ต้องphotoshop สถานเดียวครับ 555

ร้านต้าเหยิน เมนูเด็ด ไก่เบตง น่ากินมากเดี๋ยวต้องสัก ไว้ที่พุงเลยกันลืม555

แล้วก็ถ้าพา อ.เต๊ะไปด้วยละก็ รับรองสั่งมาเถอะ 10 จานก็10จาน
อ.เต๊ะ หน่วยกวาดล้าง จะเก็บกวาดให้เกลี้ยงเล้ย
ความจุกระเพาะ 20 ลิตร รับประกันมั่นใจได้คร้าบ 555

ส่วนภาพสตรีทอาร์ทนี่ สวยมากเลยนะครับ ฝีมือระดับนี้ไม่ธรรมดา
ตกแต่งเมืองให้มีสีสัน สดใส ขึ้นนมาทันทีเชียวครับ

อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ นี่ อ.เต๊ะ เคยดูหนัง นักแข่งรถ ขับรถหนีตำรวจ ไต่ไปตามเพดานอุโมงค์เลย
ทริปหน้า ถ้า อ.เต๊ะ นั่ง ไปด้วย ซีริวช่วยขับโชว์หน่อยซิครับ อิอิ

ซีริว บอก ทำไมจะไม่ได้ เรื่องแค่นี้ เดี๋ยวข้ากับแม่ลงก่อน
เอ็งขับไต่เพดานไปคนเดียวให้สบายเล้ยยย เย้ย 555

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อากาศไม่เป็นใจเลยนะครับ
แต่ไหนๆก็มาแล้วมันต้องไป
ดูข้างล่างนี่ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่พอขึ้นไปบนสะพานยื่น
มองลงมานี่ โอ๊ย ขาสั่น เป็น อ.เต๊ะ เดินไม่ไหวแน่ ต้องลงคลานเอาแน่นอนครับ 555

เม้นท์จบแล้ว ไชโยโห่ฮิ้ว อ้าวยังมีต่ออีกเหรอ แง้ๆ
รีบเผ่นก่อนดีกว่าเรา ชักช้าเดี๋ยว ซีริว มาอัพล็อกใหม่ เย้ย 555





โดย: multiple วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:5:07:29 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:5:22:41 น.  

 
กลับมาอ่านครับผมคงเป็นคนอ่านช้าใช้เวลาไป 20 นาที แต่ในความรู้สึกเหมือนว่าบล็อกท่องเที่ยวเบตงมีเรื่องราวเยอะมากๆ
เจ้าของบล็อกคงใช้เวลาหมดไปหลายชั่วโมง อีกทั้งเสียค่าใช้จ่ายอีกไม่รวมหรือคิดค่าแรงฮ่า

น้อยโหน่ง กะ เรียนเทศ เป็นผลไม้ที่ทำให้ผมสับสน
ผมไม้สองชนิดนี้ คงมีลักษณะคล้ายกัน
คือที่ว่าสนใจ... มันเป็นสมุนไพรใช้ในการรักษาโรคอะไรสักอย่างหนึ่ง
แต่นานมากมาแล้วทำให้ลืมไป....

อ่านเจอสายไฟรุงรัง ทำให้คิดถึงสายไฟในบ้านเรา กรุงเทพฯ เดียวนี้เค้าได้ปรับปรุงยังครับ

ขอบคุณเรื่องราวดีมาฝาก... รออ่านบล็อกหน้าต่อครับ


โดย: Rain_sk วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:6:29:20 น.  

 
ถ้าขับรถมาเอง
หรือนั่งรถทัวร์
แค่ประจวบจังหวัดเดียว
ก็ปาไป3-4ชั่วโมงแล้วค่ะ

ปล.ทะเลหมอกสวยมาก


โดย: แค่คนธรรมดาไม่พิเศษ IP: 125.27.161.104 วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:13:25:26 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ คุณชีริว

เข้ามาก็นึกอยากกินไก่เบตงอีกค่ะ 5555

จริงเลยค่ะ ไม่รู้หงส์ต้องเปลี่ยนกุนซืออีกกี่รอบถึงจะได้แบบคลอปป์
แต่ก็อยากให้ได้เลยนะคะ มาสานงานกันต่อ เหมือนเกิดมาคู้กันค่ะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:16:44:48 น.  

 
สวัสดีครับ คุณซีริว

แวะมาเที่ยวด้วยครับ
เป็นเมืองที่สวยและมีเอกลักษณ์ดีครับ
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกครับ


โดย: Sleepless Sea วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:17:47:54 น.  

 
ถ้าขับรถมาเอง หรือนั่งรถทัวร์ แค่ประจวบจังหวัดเดียว ก็ไป3-4ชั่วโมงแล้วค่ะ

ปล.ทะเลหมอกสวยมาก

เมื่อกี้มาเม้นท์แล้วลืมกดlogin เลยมาเม้นท์ใหม่


โดย: แค่คนธรรมดาไม่พิเศษ (สมาชิกหมายเลข 7915129 ) วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:21:18:52 น.  

 
เจอฝนตกนี่แย่นะครับ ที่เบื่อที่สุดในการเที่ยวก็คือฝนนี่แหละ เพราะมันทำให้การเดินทางไม่สะดวก ขับรถไปเองอาจจะถูกกว่าจริง แต่ความเหนื่อยล้า กับเวลาเทียบไม่ได้เลย

กินง่ายนะครับที่ไหนก็ได้ ถ้าเอาสะดวกก็ต้องแบบนี้ล่ะครับ แต่บางครั้งก็เจอร้านเด็ดๆ เหมือนกันนะ สมัยก่อนคอมมิวนิสต์เป็นเรื่องใหญ่มากนะครับสำหรับไทย ถึงขนาดปราบแบบแทบจะล้างให้สิ้นเลย (ข้ออ้างปราบนักศึกษามากกว่า) เห็นอดีตได้เรียนรู้เหตุการณ์จากอดีตนะครับ

โอเคเบตง อันนี้แหละผมว่าซอฟต์พาวเวอร์ระดับหนึ่งเลยนะ ผ่านมา 20 ปี ชื่อยังติดหู คุณชีริวไม่ยอมพลาดพิพิธภัณฑ์เลยจริงๆ ได้อ่านเกี่ยวกับอาหารชวนให้รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเลย ข้อเสียของคนน้อยก็นี่แหละ สั่งอาหารได้น้อยอย่าง

ฝนตกตลาดเลย จริงๆ ถ้าฝนหยุดแต่อากาศแบบในภาพนี่จะดีมาก ผมไม่เคยไปทาง 3 จังหวัดภาคใต้ครับ ไปใต้สุดน่าจะหาดใหญ่


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:23:52:11 น.  

 
เบตง น่าเที่ยวจังค่ะน้องชีริว
ภาพสวย อาหารน่าอร่อย เดี๋ยวพี่ต๋ามาเที่ยวต่อ
ขอลงชื่อก่อนนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:0:11:17 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:14:03:37 น.  

 
มาเที่ยวกับน้องชีริวค่ะ

ทึ่งกับอุโมงค์คนขุดยาว 1 กม. ใช้เวลาเพียง 3 เดือน
มีฟังก์ชั่นจำเป็นน่าจะครบครันเลยนะคะ
เพราะเป็นที่ซ่อนตัว แสงสว่างในอุโมงค์ตอนนั้นใช้แสงจากอะไรนะ

ส้มโชกุนเป็นส้มที่พี่ต๋าซื้อประจำค่ะ เพิ่งทราบที่มาครั้งนี้เอง
ช่วงนี้ยิ่งอร่อย มีฤดูกาลของเค้าเหมือนกัน
พูดถึงของกินแล้วนึกอยากได้วัตถุดิบอย่างเส้นหมี่กับซีอิ๊วเบตงมาลองผัดหมี่เบตงที่บ้านด้วยค่ะ
สีสันดูฉ่ำ น่าอร่อยจัง

พี่ต๋าชอบสตรีทอาร์ต ภาพขวดน่าจะซีอิ๊วกำลังเหยาะในจานอาหาร
ดูลอยๆ เป็นสามมิติเสมือนจริงดีค่ะ
จานไก่เบตงด้วย สวยจัง

กิจกรรมก้าวคนละก้าวครั้งนั้นคงเป็นตำนานของทีนี่รวมถึงของประเทศอีกนานนะคะ

ครั้งหน้าหากน้องชีริวไปเบตงอีกแล้วสายไฟลงใต้ดินหมด
ไม่มีนกเกาะแล้ว น้องชีริวอาจนึกถึงภาพบรรยากาศหอนาฬิกาแบบนี้ก็ได้นะคะ
มีเอกลักษณ์สุดๆ

เขาไมโครเวฟ ชื่อนี้จริงๆใช่มั๊ยคะ ช่างตั้งชื่อ
แต่ก็จำง่ายดี มีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี สวยเหมาะสมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากๆค่ะ

ดีจังค่ะน้องชีริวพาคุณแม่เที่ยว
เป็นช่วงเวลาดีๆที่น่ามีความสุขมาก
พี่ต๋าทำแบบนี้ไม่ได้แล้วก็มารับความสุขใจในบล็อกน้องชีริวแทนค่ะ

แล้วพี่ต๋าจะตามเที่ยวต่อนะคะ
ขอบคุณน้องชีริวที่แวะชมเมนูบ้านพี่ต๋า+กำลังใจค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:16:19:40 น.  

 
ไปเที่ยวไกลถึง ยะลา-นราธิวาส เลยทาง จังหวัดทาง 3 จังหวัดภาคใต้จริงๆ เป็นเมืองที่น่าเที่ยว แต่เพราะปัญหาความ (ตั้งใจให้) ไม่สงบ มันก็เลยเป็นแบบที่เห็น เดี๋ยวสงบแล้วงบมันไม่ลง อันนี้เขาว่ากันอย่างนั้น ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่

คอมมิวนิสต์สมัยก่อนดูน่ากลัวมาก เดาว่าคุณชีริวน่าจะทันโฆษณาชวนเชื่อประชาสัมพันธ์สมัยก่อน ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจในเชิงประวัติศาสตร์ https://pantip.com/topic/41052047

สตรีทอาร์ท เดี๋ยวนี้เยอะจริงๆ เอาตรงๆ เลยว่าเราไม่ชอบ แต่บ้านเมืองมันก็เปลี่ยนตามยุคสมัย ตามสมัยนิยม ยังไงเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้ ถ้ามองในเชิงศิลป์ มันก็สวยดี (แต่ไม่ชอบ)



โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:11:23:10 น.  

 
สวัสดีค่ะชีริว

ไปใต้เจอฝนนี่ไม่สนุกนะคะ
ช่วงพี่ไปภูเก็ตเจอฝนทุกวันค่ะ เบื่อเลย

เบตงน่าไปนะคะ แต่พี่ขอตามชีริวทางนี้ดีกว่าค่ะ

ช่วงนี้ฝุ่นเยอะ อากาศแย่ ดูแลสุขภาพนะคะชีริว



โดย: tanjira วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:18:14:22 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ชีริวหายไปจากบล็อกครูหลายบล็อกเหมือนกัน งานยุ่งเป็นเรื่อง
ธรรมดา เขาจ้างเราเงินเดือนสูง เขาก็ใช้งานเราหนักให้คุ้มเงินเขา
เป็นเรื่องธรรมดา

วันนี้ ครูก็อยู่นอกบ้นทั้งวัน ช่วงเช้า ประชุมการจัดงานผ้าป่า
การศึกษาหาทุนให้เด็กขาดแคลน ช่วงบ่ายก็ไปงานเผาศพลูกศืษย์
ที่เสียเพราะ น้อง มะ ไปไกลนะ วัดลาดพร้าว เฮ้อ ! ชีวิตก็เป็น
เช่นนี้เอง กลับถึงบ้าน นอนพักไปสอชั่วโมง วันนี้อากาศร้อนมาก
เหลือเกิน เพลียแดดมาก จริง ๆ

บล็อกเที่ยวใต้ที่เธอเขียนนี้ ครูไม่ตื่นเต้นมากนัก เพราะแต่ละ
ที่ที่เธอไป ครูไปมาหมดแล้ว ไปกับทัวร์ ราคาประมาณ ห้าพัน บาท
เพราะใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันของรัฐบาลที่แล้ว อิอิ ไปเครื่องบินลงที่
สงขลา แล้วต่อด้วยรถตู้เที่ยว ที่เบตง ปัตตานี เจ้าแม่ลิ้มโกวเหนี่ยว
อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ โอเคเบตง ร้านอาหาร
ต้าเหยิน ไก่ เบตง ที่ทุกคนบอกอร่อยมาก วางจานที่โต๊ะ ทุกคน
หยิบตะเกียบคีบกันใหญ่ เหมือนกับกลัวจะกินได้น้อยชิ้น ห้าห้าห้า
บางครั้งดูแล้วก็อดขำไม่ได้ เนาะ
ชีริวไปเจอฝน ไม่สนุกแน่ ขอให้บล็อกหน้าที่จะไปเที่ยว
อัยเยอร์เวง ให้ฝนหยุด ช่วงเช้า อากาศแจ่มใส เธอจะเห็นทะเลหมอกสวยงามมาก ๆ เลย นะ
โหวดหมวด ท่องเที่ยว


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:21:54:57 น.  

 
สวัสดีครับคุณชีริว

ตามมาเที่ยวทิพย์แบบนี้ก็เพลินมากครับ
ชมคุณชีริวว่ามีอิสระในการเดินทางท่องเที่ยวดีจัง
พิพิธภัณฑ์ที่คุณชีริวนำมาให้ชมกันก็น่าสนใจ
สายไม่ค่อยท่องเที่ยวแบบผมก็จะไม่รู้เลยว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกนะครับ
อ.เรโกะ จะเขียนแนวไซไฟเป็นหลัก
จะมีพวกความรัก / การสืบสวน เข้ามาด้วย
งานเรื่อง The Top Secret ก็สนุกมากครับ
ไว้จะหาโอกาสมาลงรีวิว
ได้ทำเป็นซีรี่ส์ด้วย แต่บงกชนำเข้ามังงะมาภาคเดียวเอง


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:23:45:40 น.  

 
ตามมาเที่ยวเบตงด้วยคนครับ ผมยังไม่เคยไปเหมือนกันครับ
เคยไปแต่ในตัวเมืองจังหวัดยะลา เมื่อปี 39 นี่เกือบจะ 30 ปีแล้ว นี่ยังไม่ได้กลับไปยะลาอีกเลยครับ อัยเยอร์เวงก็อยากไปครับ คิดจะไปตั้งหลายครั้งแล้วแต่พลาดทุกที ครั้งล่าสุดจะสมัครงานวิ่งที่เบตง แต่ดันชนกับงานอื่นอีก วิวตรงสกายวอล์คสวยมากครับ ตอนฝนตกก็สวยไปอีกแบบนึง คุณชีริวได้แวะไปเขื่อนบางลางป่าวครับ มันมีรีสอร์ตที่พักบนเกาะด้วยใช่มั๊ยครับ
รอชมทริปนราธิวาสครับ ผมยังไม่เคยไป


โดย: The Kop Civil วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:15:30:35 น.  

 
จริงๆระดับของการฝึก
จะเริ่มจากสมาธิ แล้วไปวิปัสสนา
พี่ก๋าอธิบายแค่สมาธิไปก่อนครับ
ยังไม่มีเวลาอธิบายเพิ่มเติมเรื่องวิปัสสนาครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:22:32:30 น.  

 
ที่ไปคุย
ผมยังไม่ได้ดูเลยครับ ช่วงนี้ติดค้างหนัง และการ์ตูนเยอะมาก งานราษฎร์ งานหลวง ไม่ขาดสายจริงๆ กำลังพยายามจัดตารางการใช้ชีวิตอยู่ แต่ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่เลยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:0:14:24 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องชีริว

ขอบคุณที่แวะชมเมนูที่บ้านนะคะ
ปลาทูจี่แบบนี้พี่ต๋าใช้น้ำมันมะกอกปริมาณน้อยค่ะ
แต่ก็ยังใช้น้ำมันอยู่ดี จะสุกอร่อยคนละแบบกับทอด
ได้เนื้อขาวนุ่มกว่าค่ะ

อาหารฝีมือคุณยายแม้เวลาผ่านไปนานก็ยังจดจำความอร่อยได้นะคะ
พี่ต๋าก็กินอาหารฝีมือคุณยายมาตลอดเหมือนกัน
เป็นความทรงจำดีๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะน้องชีริว






โดย: Sweet_pills วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:0:59:57 น.  

 
โหย ใจหายหมดเลย นึกว่าคุณซีริว อัพบล็อกใหม่ซะอีก แฮ่
คราวที่แล้ว กว่าจะเม้นท์ได้ มาตั้งหลายรอบเลยนะครับนี่ 555

เรื่องอัพบล็อกนี่ ปีนี่ ตั้งใจว่าจะอัพบล็อก ให้มากกว่าเดิม ซัก5 บล็อก เลยละครับ อิอิ

คุณซีริว บอกข้าหูฝาด ตาฝาด ไปหรือเปล่าเนี่ย
5บล็อก เอ็งจะไหวเหรอ ข้าลดให้ เอา 3 บล็อก ก็แล้วกัน
ไม่ได้บอกผ่าน ราคานี้ ข้าไม่ได้อะไรเล้ย จริงๆ 555





โดย: multiple วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:44:27 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:6:10:24 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจนะที่ไปเม้นท์และให้กำลังใจที่บล็อก ตะพาบ ไฟแรง จ้ะ
คำถามที่ว่า เมนู ผักบุ้งไฟแดง ใช่ไหม ใช่จ้ะ แต่ ตะพาบ เขา
ให้ คำว่า ไฟแรง เลยใช้ใหม่ เป็นผักบุ้งไฟแรง อิอิ สื่อให้เห็นว่า
ผัดผักบุ้ง หรือ ผักกระเฉด ต้องใชไฟแรงจึงจะอร่อย ห้าห้า แหม!
เธอนี่ ช่างสังเกต ดีจัง แสดงว่าอ่านจริง ๆ ชอบจ้ะ
คนรุ่นใหม่ งานใหม่ที่ทำ คงไม่เหมือนกับคนรุ่นครูแน่ จ้ะ เรื่องไฟแรง นี่ ตัองอัดฉีดด้วยเงินเดือนเยอะ ๆ อิอิ รุ่นครูเงินเดือน
น้อยมาก แต่คนรุ่นครู ส่วนใหญ่ไฟแรงจนเกษียณ นะจ๊ะ อิอิ




โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:8:35:09 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ คุณชีริว

ฤดูกาลที่แล้วก็ลุ้นให้ปืนได้แชมป์นะคะ เสียดายแทน
ฤดูกาลนี้ น่าจะบี้กันไปจนเกือบนัดสุดท้ายค่ะ 3ทีม หงส์ ปืน เรือ

ส่วนแฟนผี ปล่อยไปค่ะ ได้ดีใจเฮฮาแค่ไม่กี่นัด

วันนี้ขอให้เป็นวันดีดีนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:10:42:54 น.  

 
จากบล๊อก

เรื่องเหินน้ำนี่ไม่เข้าใครออกใครครับ จะรุ่นไหน ถ้ามาไว ลมตึงๆ นี่ก็เหินกันหมดครับ แต่ถ้าขับ Porsche ตอนเหินก็จะเท่ๆ หน่อย 5555
นี่ผมจะไปเหนือ รอบนี้ไม่เอาซิตี้ 1.0 แล้วครับไม่ไหว ว่าจะเอาซีวิค หรือ ครอส มั่นใจดี

รอชมบล๊อกนราธิวาสนะครับ ต้องธรรมชาติมาก ๆ แน่ๆ ติดตามเลยครับ
ดีนะครับที่คุณแม่ชอบท่องเที่ยวแนวนี้ แต่ก็จริงนะ ได้ฟีลธรรมชาติ ต่างจังหวัดดี



ผมเร็วกว่าเน็ตฟลิกซ์ละครับ เพราะไวกว่าอาทิตย์ละตอน 5555
แล้ววันนี้พวกผมก็ไปกินกันทั้งแผนกอีก แถมย้องเปลี่ยนใจว่าจะไปด้วย นี่ต้องเตรียมคนตัวเคลียร์ไว้เลยครับ ถ้ามีเรื่องไอ่นี่จะเข้าชาร์ตย้งก่อน 55555
แต่เรื่องราวของย้งสนุกครับ ผมฟังมาเป็น 10 รอบแล้ว ทุกครั้งที่เมา....
โดนย้ำขนาดนั้นเป็นผมผมสร่างบ้างแล้วแหละ 55555 แล้วจะตกมอร์ไซต์ตุยไม่ได้สิครับ รอดมาขนาดนี้ 555555 แต่ถ้าเป็นแบบนั้นนี่จังหวะนรกมากเลย

ผมเขียนเองนี่ก็อยากไปเชียงใหม่ครับ ดูน่าสนุกดี
แต่ฝุ่นยังไม่มาใช่ไหมครับ 5555


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:31:14 น.  

 
ขอบคุณ คุณชีริวที่แวะไปที่บล็อกนะครับ


โดย: Sleepless Sea วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:15:30:17 น.  

 
จากบล็อก
เรื่องทีไรต้องเป็นพวกเธอทุกทีเลย --> ตำรวจ ทหาร พระ ครู

เราพึ่งสังเกตเหมือนกันจากข่าวที่รวบรวมมา มีแต่เรื่องของ 4 อาชีพนี้จริงๆ หมดยุคพระพยอม ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไรต่อ พระยุคใหม่ทดแทนพระเก่าๆ ที่มีแนวคิดดีๆ ไม่ได้จริงๆ


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:22:14:39 น.  

 
ได้ไปเยือนจังหวัดใต้สุดสมใจแล้วนะครับ
เรื่องฟ้าฝนไม่เป็นใจคงได้แต่ทำใจ มันเป็นหน้าของมันอยู่
แต่ได้ไปเที่ยวสถานที่เด่น ๆ ของเบตงก็น่าจะโอเคครับ
อีกอย่าง การคลาดแคล้วกับดินถล่มปิดทาง
น่าจะเป็นการฟาดเคราะห์คุณชีริวกับคุณแม่ได้เหมือนกันครับ
(แต่รถน่าจะเขรอะไม่น้อยนะ ไม่รู้ต้องล้างรถก่อนคืนเค้ามั้ย -_-")

เห็นคุณชีริวสั่งของกินแต่ละบล๊อกต้องสีแดงแปร๊ดอย่างน้อยหนึ่งจาน
กินเผ็ดเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ ^^"

สงสัยอย่างนึง ไก่เบตงของแท้นี่ทั้งไก่และเจ้าของเชื้อสายจีน
เค้าขายคนทั่วไปแบบปกติ ไม่ได้เผื่อทำฮาลาลเลย
คือปกติคนมุสลิมที่นั่นไม่กินไก่เบตงใช่มั้ยครับ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:21:56:09 น.  

 
คุณขีริวพูดถูกจริงๆ "เมื่อมีเรื่องทีไรต้องเป็นพวกเธอทุกทีเลย --> ตำรวจ ทหาร พระ ครู" มีเรื่องวไม่เว้นแต่ละวัน ครูนี่ก็แรงไม่แผ่ว


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:22:32:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.