Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

20080410 วิพากษ์ MAN UTD vs BARCELONA

สวัสดีครับ มาฉลองชัยชนะกันนะครับทุกๆท่าน สำหรับเกมที่เราเฝ้ารอคอยและเสียสละแต้มกับการจัดตัวจัดทีมในลีกไปถึงสามนัด ก็เพื่อผลลัพธ์ของเกมๆนี้โดยเฉพาะ และผลลัพธ์ของมัน ก็ช่างหอมหวานคุ้มค่ากับการเสียสละจริงๆ แฟนๆหลายท่านคงหายเคืองท่านเซอร์กันแล้วนะครับ เอาล่ะ มาคุยกันเลยดีกว่า



เริ่มต้นด้วยความกังวลใจอย่างมากมาย แทบจะเรียกได้ว่าเกือบช็อคไปเลยก็ว่าได้ เมื่อไม่เห็นรูนี่ย์ และวิดิช แม้แต่ในรายชื่อตัวสำรองเกมนี้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บจากนัดที่แล้ว และยังไม่ฟิตพอนั่นเอง ผมเริ่มกังวลไปก่อนแล้ว ว่าการเสียสละเกมลีกถึงสามนัดจะสูญค่าไปรึเปล่า จากการขาดหายไปของสองกลจักรสำคัญของทีม ที่ทำให้ท่านเซอร์ต้องปรับทัพกันอีกครั้งในเกมนี้ โดยให้บราวน์เข้ามายืนเซ็นเตอร์ และถอยฮาร์กรีฟส์ลงมาเป็นแบ๊คขวา และแทนที่จะอัดกลางสามตัวเหมือนเคย ท่านเซอร์กลับเลือกเกมแพลน 4-4-2 เต็มตัว โดยมีไลน์อัพดังนี้

เตเวซ โรนัลโด้
ปาร์ค สโคลส์ คาร์ริค นานี่
เอวร่า บราวน์ ริโอ ฮาร์กรีฟส์
ซาร์

อันเป็นการยืนยันว่า เราตั้งใจเล่นเกมรุกในวันนี้ ส่วนทัพบาร์ซ่านั้น ส่งลงมาเหมือนนัดที่แล้ว มีเพียงคาร์เลส ปูโญล เท่านั้น ที่พ้นโทษแบนกลับมาสวมตำแหน่งของมาร์เกซ ยืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กับกาเบรียล มิลิโต้ แบ๊คซ้ายขวา เป็นอบิดัลและซามบร๊อตต้า กองกลางสามตัวใช้ ยาย่า ตูเร่, เดโก้ และ ชาบี ส่วนหน้าสามตัวมี เอโต้, อิเนียสต้า และ เมสซี่ ผู้รักษาประตูยังคงเป็นบิคตอร์ บัลเดส เช่นเดิม



เริ่มเกมขึ้นมาด้วยการครองบอลรุกเข้าใส่แบบไม่ฟังเสียงใครของฝั่งบาร์ซ่า เล่นเอา ยูไนเต็ดที่เครื่องร้อนช้าเป็นประจำ ต้องถอยกรูดกันลงไปตั้งรับอย่างไม่เป็นขบวนตั้งแต่นาทีแรกเลย และสโคลส์ก็ต้องมาเสียบเมสซี่ในตำแหน่งที่เรียกได้ว่า หากช้ากว่านี้แค่กระพริบตาเดียว ต้องเข้าเขตโทษแน่นอน แต่เมสซี่ยิงเรียดติดกำแพง หลังจากนั้น เกมรุกของบาร์ซ่ายังคงทำได้ดีกว่าเจ้าบ้านอยู่มาก ทั้งการไล่บี้เพรสซิ่งถึงตัว ที่ทำเอายูไนเต็ดตั้งลำกันไม่ติด เกมรุกของบาร์ซ่าก็ยังคงเหมือนเดิม คือต่อบอลกันได้ดี แต่จะมาตันเอาหน้ากรอบแทบตลอด ยูไนเต็ดเริ่มตั้งลำได้ทีละนิด เกมของยูไนเต็ดที่ดันเอาโรนัลโด้มาเล่นตรงกลางนั้น ทำให้ลดความอันตรายไปพอสมควร ทำให้โรนัลโด้ต้องถูกสั่งให้สลับมาขึ้นทางกราบซ้ายมากขึ้น และขยับเอา ปาร์คมาขึ้นตรงกลาง เพื่อเลี่ยงการถูกประกบติดจากกลางและเซ็นเตอร์บาร์ซ่า

ผ่านสิบกว่านาทีไป ยูไนเต็ดเริ่มเซ็ตจังหวะสวนกลับขึ้นมาได้เรื่อยๆ และ เกมมาพลิกเอานาทีที่ 14 เมื่อโรนัลโด้ฉีกตัวเองออกมาเอาบอลทางซ้าย ก่อนจะลากเข้ามาหากรอบโทษ ดึงตัวประกบบาร์ซ่าเข้ามาได้ถึงสามคน ซามบร๊อตต้า ตามมาเกี่ยวบอลไว้ได้ ก่อนจะเตะทิ้งมาเข้าทางสโคลส์ที่เติมขึ้นมาโล่งๆตรงกลาง และเลือกที่จะยิงสวนตามสไตล์ที่เราไม่ได้เห็นมานานมาก บอลพุ่งติดไซด์ก้อยหนีมือบัลเดสเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลชนิดที่ต่อให้บัลเดสมือยาวกว่านี้อีกฟุตก็ไม่ถึง ลูกนี้น่าจะเป็นลูกที่เรารอคอย และเป็นประตูที่กลบเสียงวิจารณ์ว่าเขาไม่มีทางยิงแบบนี้เหมือนเดิมได้อีกแล้ว

เกมหลังจากนั้น ยูไนเต็ดกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้นเยอะ ยูไนเต็ดตั้งลำได้เต็มที่ บอลกลับมาผลัดกันรุกและรับอย่างที่ทุกคนเฝ้ารอคอยจริงๆ เสียงเชียร์จากแฟนๆกระหึ่มสนาม ส่งผลให้ยูไนเต็ดทั้งสิบเอ็ดชีวิต เล่นกันได้อย่างฮึกเหิมดีจริงๆ เกมของบาร์ซ่าเน้นขึ้นทางเมสซี่เป็นหลัก และยังคงเน้นการครองบอลไว้กับตัวให้มาก ส่วนยูไนเต็ดเมื่อตัดบอลได้ก็เปิดเกมรุกสวนทันที ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสพอๆกัน แต่ของยูไนเต็ดดูจะปั่นป่วนแผงหลังเจ้าบ้านได้มากกว่าเล็กน้อย ทั้งจากลูกครอส และเจาะทะลุตรงกลาง เกมแลกกันสนุก แต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกก็เป็นเจ้าบ้านนำอยู่หนึ่งประตู ในขณะที่บาร์ซ่าได้โอกาสจากเมสซี่ที่ลากไปยิงติดมือน้าซาร์ รวมทั้งเดโก้ที่เติมมายิงหน้ากรอบแต่เฉี่ยวออกไปสองครั้ง ยูไนเต็ดก้ได้โอกาสเช่นกันจากนานี่, ปาร์ค และเตเวซ



เริ่มครึ่งหลังมา ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวแต่อย่างใด แต่ยูไนเต็ดดูจะพออกพอใจกับแท็คติคที่ขยับเอาโรนัลโด้ไปเล่นทางกราบซ้ายบ้าง ขวาบ้าง สลับกับปาร์คและนานี่อยู่ตลอด ส่วนเตเวซ ก็เล่นคล้ายๆตัวฟรี ทั้งลงต่ำและเก็บบอล วิ่งไล่บอลเป็นตัวแรกอย่างบ้าคลั่ง เกมครึ่งหลังยังคงแลกกันสนุกเหมือนเดิม ยูไนเต็ดนั้นเสียโอกาสจบสกอร์จากนานี่หลายต่อหลายครั้ง เมื่อเลี้ยงขึ้นมาแล้วพาตัวเองไปเสียบอลให้ฝั่งตรงข้ามบ่อยๆ หรือไม่ก็ยิงทิ้งยิงขว้างไม่ได้ลุ้น แต่การขึ้นมาของปาร์คและเตเวซแต่ละช็อต เมื่อเล่นชิ่งกันกับโรนัลโด้ ทำเอาแผงหลังบาร์ซ่าปั่นป่วนทุกครั้ง และปูโญลเองดูจะมีปัญหากับการยืนคู่กับมิลิโต้พอสมควร เมื่อกองหลังเคลียร์บอลกันไม่ค่อยขาด โหม่งชนกันเอง หรือเกี่ยงกันเล่น เกี่ยงกันประกบตัวให้เห็นประปราย โดยเฉพาะซามบร๊อตต้า หลังจากเตะพลาดจนเสียประตู ก็ถูกเจาะทะลุทางด้านนี้ตลอดทั้งเก้าสิบนาทีเลย แต่ยูไนเต็ดกลับไม่สามารถฉกฉวยจังหวะทำประตูเพิ่มได้อีก

เกมรุกของบาร์ซ่า เริ่มจากยาย่าเป็นหลัก คอยกระจายบอลให้แนวรุกข้างหน้า ซึ่งโดยทั่วไปก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีตามฟอร์มของเขาอยู่แล้ว แต่ที่เล่นได้น่าผิดหวังก็คือการประสานงานของกลางและหน้า บอลของบาร์ซ่าพึ่งพาเมสซี่มากเกินไป เดโก้ และชาบี ไม่ดันขึ้นมาเล่นเกมทำชิ่งกับแนวรุกสามตัวเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะวันนี้ยูไนเต็ดก็ไม่ได้เน้นเกมรับลึกด้วยแหละ แถมยังคงบุกสวนน่ากลัวได้ตลอด ทำให้กลางของบาร์ซ่าไม่ค่อยกล้าดันสูงมาเติมเท่าไหร่นัก ตรงนี้ทำให้เกมรุกของบาร์ซ่า ต้องขึ้นอยู่กับสามคนข้างหน้ามากเกินไป และทำให้ง่ายต่อการจัดการ แม้แต่บราวน์เอง ยังสามารถโชว์ฟอร์มได้สวยๆหลายต่อหลายช็อต เพราะเมื่อเดโก้, ชาบี ไม่ขึ้นมาช่วยทำชิ่งเปิดช่องว่าง เอโต้ถูกประกบติด อิเนียสต้าอยู่คนละฟากสนาม การคุมเกมรับของแผงหลังยูไนเต็ดจึงทำได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ ทำให้ฟูลแบ๊คบาร์ซ่าต้องดันขึ้นมาแทนบ่อยๆ และโดนเจาะจากจังหวะสวนกลับไปก็หลายครั้ง




เมื่อเกมผ่านชั่วโมงแรกมา ไรจ์การ์ดคงเห็นแล้วว่า เกมรุกทำอันตรายยูไนเต็ดได้ไม่เท่าไหร่ จึงต้องถอดอิเนียสต้า ที่วูบวาบเป็นพักๆ แต่ไม่หวาดเสียวเลยออกมา และส่งอองรีมาแทน เกมยังคงแลกกันสนุก แต่ยูไนเต็ดกดดันแผงหลังบาร์ซ่าได้ดีกว่า อองรีถึงจะคุ้นเคยกับสนามนี้บ้าง แต่ช่วงแรกๆยังได้บอลน้อยไปหน่อย ไรจ์การ์ดรีบถอดเอโต้ที่วันนี้ถูกประกบติด บอลมาไม่ถึงตัวออกไปอีกคน ส่งโบยานลงมาในนาทีที่ 70 เกมของยูไนเต็ดยังคงสามารถปักหลักตัดเกมรุกส่วนใหญ่ของบาร์ซ่าได้ดี ในครึ่งหลังนี้ท่านเซอร์ดูจะเน้นการเพรสซิ่งบาร์ซ่ามากขึ้น สโคลส์และคาร์ริค วิ่งพล่านตัดเกมตลอด และไม่เติมสูงเหมือนครึ่งแรก ทำให้เกมรุกของบาร์ซ่าติดๆขัดๆมากขึ้น ยูไนเต็ดมาขยับเปลี่ยนแท็คติคด้วยการส่งเฟล็ทเชอร์ลงมาแทนสโคลส์ และกิ๊กส์แทนนานี่ ในนาทีที่ 75 เพื่อเน้นการไล่บอลแทนสโคลส์ที่วิ่งจนเริ่มล้า อีกทั้งเพิ่มการครองบอลข้างหน้าแทนนานี่

แต่การแก้เกมดังกล่าว กลับทำให้กิ๊กส์หายไปจากเกมรุก เมื่อบาร์ซ่าหันมาเน้นเกมโยนในช่วงท้ายๆมากขึ้น ทำให้เกมของยูไนเต็ดต้องถอยร่นลงมาตั้งรับลึกขึ้นอีกครั้ง เมื่อต้องรับมือกับลูกวางยาวข้ามพื้นที่กลางสนาม ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง กลางบ้างอยู่ตลอด เฟล็ทเชอร์ต้องไล่บอลอย่างมาก ตรงนี้ถือเป็นการแก้เกมที่ถูกต้องทีเดียว เพราะสโคลส์คงไม่เหลือแรงมาไล่อย่างนี้แล้วหากยังอยู่ในสนาม ส่วนกิ๊กส์ ก็ต้องถอยร่นลงมาเล่นรับอยู่ข้างหน้าฟูลแบ๊คหลายครั้ง โรนัลโด้เองก็เช่นกัน การสวนกลับจึงเหลือเพียงช็อตละสองหรือสามคนเท่านั้น แต่ก็ยังมีโอกาสได้จบบ้าง ในขณะที่บาร์ซ่าเอง เมื่อหันมาเล่นวางยาว ก็ดูจะเก็บบอลหน้ากรอบได้ดีขึ้น อองรีมีโอกาสจบสกอร์สองสามครั้งแต่ไม่ผ่านน้าซาร์ ไรจ์การ์ดต้องเติมกุ๊ดยอห์นเซ่นลงมาก่อนหมดเวลาแทนยาย่า เพื่อเติมตัวรุกข้างหน้าเป็นไพ่ใบสุดท้าย

ในช่วงทดเวลา เอวร่าไปถูกปลายสตั๊ดทิ่มหน้าอย่างจัง ต้องถูกหามออก โดยส่งซิลแวสตร์ลงมาแทน เกมต้องทดเวลาเจ็บไปถึงหกนาที โดยที่บาร์ซ่าตอนนี้เล่นลูกโยนอย่างเดียวแล้ว เป้าหมายอยู่ที่อองรี และกุ๊ด พื่อจบสกอร์ หรือพักบอลทำทางให้เมสซี่ แนวรับยูไนเต็ดต้องตั้งสมาธิมั่นเต็มที่ เพื่อเคลียร์ทุกๆจังหวะ และทำได้ดีมากๆ ไม่มีลนลานให้เห็น ทำให้สุดท้าย จบเกมไปด้วยสกอร์ 1:0 ส่งให้ยูไนเต็ดจองตั๋วไปมอสโคว์ได้สำเร็จเป็นทีมแรก รอเพียงผู้ชนะระหว่างเชลซีและลิเวอร์พูลเท่านั้น ที่จะจองตั๋วตามในวันนี้




หลังจากจบเกม ที่ผมบอกตรงๆว่าต้องขอชื่นชมหัวจิตหัวใจนักเตะยูไนเต็ดทุกๆคนในสนามและนอกสนาม ที่ทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีที่ติ ถึงแม้บางครั้งจะฝืนมากไปอย่างนานี่ แต่โดยรวมก็ถือว่าทุกคนสามารถทำหน้าที่ของตัวได้เป็นอย่างดี มีระเบียบวินัยและมีสมาธิสูงมากๆในเกมรับ ไม่มีเตะทิ้งเตะขว้างให้เห็น สกัดบอลแต่ละจังหวะพยายามเน้นให้ตรงตัวฝั่งเดียวกันมากกว่าจะหลับหูหลับตาเตะอย่างเมื่อก่อน เกมรุกก็สามารถกดดันบาร์ซ่าได้ดีมาก ทั้งเอวร่าและฮาร์กรีฟส์ ได้เติมเกมสูงอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะการประสานงานทางฝั่งซ้ายของเอวร่า, โรนัลโด้ และปาร์ค ที่เล่นเอาซามบร๊อตต้าโดนเจาะจนอ่วมทั้งเกม แถมเสียงเชียร์และบรรยากาศในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังคงเข้มขลังอลังการ กดดันนักเตะทีมเยือน และสร้างแพสชั่นให้นักเตะของเราได้มากทีเดียว

หากผมจะบอกว่า เกมนี้ เป็นการโชว์ศักยภาพของแผงหลัง ก็ไม่น่าจะผิดนัก บราวน์ และริโอ ประสานงานกันได้ดีจริงๆ มีหลุดน้อยมาก และทำให้บาร์ซ่ามีโอกาสจบสกอร์แบบจะจะแทบนับครั้งได้ ฮาร์กรีฟส์ กับเอวร่าก็เด่นทั้งคู่ ยิ่งตรงกลางสนาม สโคลส์และคาร์ริคนัดนี้ สอดประสานงานกันได้อย่างกลมกลืน เล่นเอาชาบีและเดโก้ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มอย่างที่เคยทำในนัดก่อนได้เลย คงมีเพียงยาย่า ตูเร่เท่านั้น ที่ดูจะเด่นอยู่คนเดียวในแผงมิดฟิลด์ของบาร์ซ่าในวันนี้ ส่วนแนวรุกของบาร์ซ่า ต้องบอกว่า การเก็บอองรีไว้ข้างสนามถือว่าคิดผิดครับ หากไรจ์การ์ดเลือก เมสซี่-เอโต้-อองรี บาร์ซ่าน่าจะน่ากลัวมากกว่านี้ เพราะอิเนียสต้า ไม่ยอมเข้ามาเล่นในกรอบเลย ฝังตัวเองอยู่ตรงกราบตลอดเวลา ทำให้ถูกดักเก็บได้ตลอด ผิดกับเมสซี่ ที่พยายามหาจังหวะเข้ากรอบทำชิ่งกับเพื่อนตลอดเวลา พอเป็นอองรีลงมา ก็ดูจะวูบวาบได้มากขึ้นเยอะ



ในขณะที่เกมของยูไนเต็ด วันนี้ถึงจะยังมีการเน้นเกมรับให้เห็น แต่เป็นคนละรูปแบบกับนัดที่แล้วโดยสิ้นเชิง เมื่อผู้เล่นอย่างสโคลส์และคาร์ริค ปักหลักอยู่ในตำแหน่งที่ถนัด เอื้อต่อการเล่นทั้งรับและรุก สามารถเชื่อมเกมกับแนวรุกได้ตามสไตล์ที่คุ้นเคย การต่อบอลขึ้นหน้าและออกปีกจึงกลับมาอันตรายอีกครั้ง และเมื่อได้ประตูเร็ว ก็เท่ากับบาร์ซ่าไม่สามารถเน้นเกมครองบอลไปเรื่อยๆได้ตลอด แต่ต้องรุกมากขึ้นเพื่อยิงคืน ทำให้ยูไนเต็ดมีพื้นที่มากขึ้นในการเข้าทำในจังหวะสวนกลับ โดยเฉพาะการที่แบ๊คสองข้างของบาร์ซ่าต้องเติมไปช่วยสูง ทำให้เกมสวนกลับทางกราบวันนี้ของเรา กดดันบาร์ซ่าได้มากทีเดียว โดยเฉพาะฝั่งเอวร่าที่ขึ้นทีไรมีลุ้นตลอด

ผู้เล่นที่เด่นที่สุดของบาร์ซ่าในวันี้ ผมยกให้เมสซี่ครับ หากวันนี้ บาร์ซ่าไม่มีเมสซี่ เกมของบาร์ซ่าคงไม่เหลืออันตรายอะไรแล้ว ยิ่งอิเนียสต้าถูกประกบจนวิ่งไม่ค่อยออก เอโต้ยิ่งหายไปจากเกมแทบตลอดทั้งเกม เกมรุกของบาร์ซ่าเหลือเพียงเมสซี่คนเดียว แต่ยังคงความน่ากลัวตลอดเวลาที่ได้บอลและตะลุยเข้ามาในแดนยูไนเต็ด ส่วนทางด้านยูไนเต็ด ผมอยากให้พอล สโคลส์, ปาร์ค จี ซุง, ริโอ และบราวน์ แบ่งๆกันไป ไม่ทราบจะได้หรือไม่ครับ สี่คนนี้ ยืนหยัดสร้างสรรค์ผลงานได้ดีมากจริงๆ เป็นแกนหลักของพื่นที่ที่ตัวเองดูแลอยู่ก็ว่าได้ และคงไม่ผิดอะไร หากปีนี้ ปาร์ค จี ซุงจะเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดของเอเซียเรา ในลีกยุโรป ที่เข้าไปถึงรอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ




ขอแวะมาพูดถึงกุนนซือกันสักเล็กน้อย เกมนี้ เป็นการพิสูจน์ความคิดของผมจากเกมที่แล้วอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ ผมค่อนข้างสงสัยในเรื่องการแก้เกม และการวางรายละเอียดในแท็คติคของไรจ์การ์ด ตั้งแต่เกมที่แล้วที่โนสกอร์กันมา โอเคครับ ว่าบาร์ซ่าเป็นทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะระดับโลก และเป็นทีมที่มีพลังรุกที่น่าเกรงขามเหลือเกิน แต่ไรจ์การ์ดกลับไม่สามารถพลิกแพลงเกมรุกของทีมตัวเองให้หลากหลาย ให้คายพิษสงได้มากขึ้นจากแท็คติคที่เปลี่ยนไปได้เลย กลับกัน แท็คติคที่หลากหลายของบาร์ซ่า กลับมาจากการเปลี่ยนตัวซะมากกว่าจะเกิดจากการแก้หมากการเล่น ดังจะสังเกตได้จากการที่เกมของบาร์ซ่า ไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการเล่นได้มากนัก แม้จะต่อเกมกันได้ดี แต่เมื่อไม่สามารถเจาะได้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแนวทางในการเล่นไปเลย อิเนียสต้าขึ้นไม่ได้ ก็ยังเล่นอย่างเดิม จนถูกเปลี่ยนออก เอโต้ถูกประกบอย่างไร ก็ถูกประกบอยู่อย่างนั้น จนถูกเปลี่ยนออก

ในขณะที่อองรี ดูจะคุ้นเคยกับการปรับตัวในการเล่นมากกว่า เมื่อถูกส่งมาเล่นทางซ้ายแต่สามารถมาโผล่ตรงกลางได้ ลงมาล้วงบอลต่ำขึ้นไปเล่นได้ ตรงนี้เอง ที่ทำให้ปีนี้ เกมของบาร์ซ่าไม่ดุดันเท่าที่ควร เมื่อหลายๆทีมเริ่มจับทางได้ ว่าเกมรุกของบาร์ซ่าขึ้นอยู่กับนักเตะแต่ละคนเป็นหลัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวางหมากแต่ละนัดหรือการแก้เกมระหว่างการแข่งขัน เมสซี่เล่นตรงไหน ก็เล่นตรงนั้นทั้งเกม ในขณะที่เมื่อเทียบกัน โรนัลโด้ถูกมัดแน่นตอนเริ่มเกม ทำให้ท่านเซอร์ออกมาสั่งให้ขยับไปขึ้นทางซ้ายแทนปาร์ค เกมดีขึ้นมาทันตาเห็น เตเวซถูกล็อคตายข้างหน้า ก็ถอยลงมาต่ำ มาเป็นตัวเก็บบอลและตัวฟรี ทำให้มีพื้นที่มากขึ้นในการเล่น ซึ่งเรื่องนี้ เราไม่เห็นจากเกมของบาร์ซ่าเลย นอกจากอองรีคนเดียว



หลังจากเกมนี้จบลง เราคงมีสมาธิเพิ่มมากขึ้นเต็มร้อย สำหรับเกมลีกสองนัดสุดท้ายที่เหลือ เพื่อเดินหน้าไปสู่ตำแหน่งแชมป์ที่รอเราอยู่ หากเราไม่พลาดเองทั้งสองนัด เราก็จะได้แชมป์ ยิ่งเกมรับมือขุนค้อนในบ้านอย่างนี้ ที่แข่งก่อนเชลซีถึงสองวัน ยิ่งต้องเต็มที่ครับ มีเท่าไหร่ ต้องใส่ให้หมด ไม่ต้องกั๊กกันอีกต่อไป เพื่อกดดันเชลซีที่รับศึกหนักกว่าในวันจันทร์ครับ การเยือนเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ในช่วงที่ความมั่นใจและความฮึกเหิมของเจ้าถิ่น พุ่งสูงติดลมบนอย่างนี้ ไม่ใช่งานง่ายสำหรับเชลซีเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อแรกที่ต้องทำให้ได้ก่อน ก็คือ เก็บสามแต้มในวันเสาร์นี้ให้ได้ครับ


แล้วมาลุ้นกันนะครับ


สงบใจ





 

Create Date : 30 เมษายน 2551
4 comments
Last Update : 30 เมษายน 2551 10:33:22 น.
Counter : 777 Pageviews.

 

ไม่ทราบว่าคุณสงบใจเห็นด้วยไหม

ผมลุ้นมาก ในการที่แมนยูฯ ตรึงสกอร์ 1-0 เอาไว้ได้ แต่จากการที่เราขาดมิดฟิลด์ตัวตัดเกมโดยธรรมชาติ เพราะคุณฮากริบไปเล่นแบ็คขวา และมันก็เป็นจุดอ่อนที่ทำให้เราเกือบพลาดหลายครั้ง เนื่องจากคาร์ริคนั้นช้ามาก ในการเข้ามาตัด แย่งบอล ในจังหวะที่ผู้เล่นบาร์ซ่า ดึงบอลเข้าหน้ากรอบเขตโทษ

ผมว่าส่วนหนึ่งคาร์ริคคงกลัวจะทำฟาลว์ (เอฟเฟกต์จากเกมเชลซี)และเป็นเหตุทำให้ทีมเสียประตู เขาจึงรอรับบอลจากการตัดเกมของสโคลว์แอนด์กองหลัง และจ่ายบอลขึ้นหน้า (แต่ก็ยังช้าอยู่ดี) ตอนที่ท่านเซอร์เปลี่ยนเอาเทพคอฟฟี่ปริ๊นซ์ลงมาแทนสโคลว์ ก็ใจหายแว๊บอีก ผมคิดว่าคาร์ริคน่าจะเป็นคนถูกเปลี่ยนไปมากกว่า เพราะโฮลบอลได้ไม่ดีเท่าเฮียเขา จากนั้นไม่กี่นาที เทพของผมก็โดนอองรีฉกบอลไปต่อหน้าต่อตาสมราคาจตุรเทพ....

ไรอันกิ๊กส์ก็ไม่ได้ใช้ความเก๋าของตัวเองมาประคองเกมได้เลย (เพราะแทบไม่ได้บอล) นี่ถ้าบาร์ซ่าใช้งานอองรีตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ไม่แน่ว่าทีมเราอาจน้ำตาตกไปแล้วก็ได้ เพราะพี่อองรีลงมาไม่นาน ก็ได้ทั้งโหม่งและยิง

การขาดรูนีย์ในเกมรุก เห็นชัดเลยครับว่าโด้เหงามาก ขาดเพื่อนรู้ใจตะลุยทางบอล จึงต้องคอยกวักมือหยอยๆ ตลอดเกม แต่ได้เตเวซที่ขยันและเชื่อมเกมรุกอย่างไม่เสียบอลมาแทน ก็คุ้มครับ


แต่ลุ้นแบบนี้บ่อยๆ ไม่ดีแน่เลย ยังไงผมเชื่ภาษิตโบราณครับ ว่า จะตีงูก็ต้องตีให้หลังหัก เอาไว้ดีที่สุด

 

โดย: จีโน่ IP: 202.142.193.15 30 เมษายน 2551 11:14:37 น.  

 

ลุ้นช่วง 5 นาทีสุดท้ายมาก

ดีใจด้วยที่ได้ชิงถ้วยนี้ ถึงยังไงถ้วย UCL ก็เป็นของอังกฤษ (ขอให้ได้ชิงกะหงส์ น่าจะสนุก) อยากเห็นแดงเดือด

 

โดย: latics1 30 เมษายน 2551 11:21:45 น.  

 

ในที่สุด เราก็เข้าชิง

 

โดย: K-modjung 30 เมษายน 2551 14:50:34 น.  

 

ปาร์ค ผมว่ามีประโยชน์กับทีมมากครับ ไล่บอลท้วสนามเลย

 

โดย: c@sper IP: 124.121.101.169 30 เมษายน 2551 17:26:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.