Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
20090825 วิพากษ์ WIGAN ATHLETIC vs MAN. UNITED

มาช้ายังดีกว่าไม่มา


สวัสดีครับ บทวิพากษ์วันนี้ มาช้ากว่าที่เคยอยู่วันครึ่ง เนื่องจากผมติดภารกิจทางบ้าน ลูกชายผมป่วยครับ มีอาการป่วยตั้งแต่เช้าวันศุกร์ และแอดมิทเข้าไปโรงพยาบาลไปเช้าวันอาทิตย์เพราะอาการแย่ลง ล่าสุดเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อวานตอนบ่ายๆ ทำให้ผมไม่สามารถเขียนวิพากษ์ส่งมาได้ตามปกติ แต่ตอนนี้ก็นับว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ถ้าวันนี้ไม่มีอาการป่วยอีก พรุ่งนี้น้องภีมก็ไปโรงเรียนได้แล้วครับ อ้อ... สำหรับรายละเอียดเรื่องอาการป่วยของน้องภีม ผมไปอัพเดทไว้ให้ในกระทู้ต้นเรื่องแล้วครับ สามารถตามไปอ่านได้เลย ที่นี่ (เกรงว่าจะเสียพื้นที่กระทู้นี้ไปครับ)

//www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8236827/S8236827.html#102

ว่ากันถึงเรื่องหัวข้อวิพากษ์วันนี้ค่อนข้างถูกใจผมมาก มาช้ายังดีกว่าไม่มา นอกจากหมายถึงบทวิพากษ์ชิ้นนี้จะมาช้าจนทุกๆท่านต้องรอแล้วนั้น มันยังหมายถึงผลงานของทีมรักเราอีกด้วย ที่ประตูมาช้าเหลือเกิน รอจนเกือบชั่วโมง กว่าจะได้เห็น แต่ก็สมกับที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยนะครับ ซัดไปซะห้าลูก แต่อย่าไปหลงติดตากับภาพสวยหรูที่เห็น ผมบอกตรงๆครับ ยังมีงานใหญ่รออยู่อีกมาทีเดียว ถึงแม้เราจะยิงได้ถึงห้าลูก แต่ผลงานยังไม่สมราคาแชมป์เก่านัก หากเกมนี้ไม่มีวิดิช และบิ๊กเบนองค์ไม่ลง อาจเป็นเราก็ได้ ที่ต้องเสียน้ำตาเมื่อจบเกม

การจัดตัวในนัดนี้ ดูเหมือนท่านเซอร์จะไม่ฝืน หลังจากเห็นลูกทีมต้องโดนน้องใหม่ขย่มจนล่มไปเมื่อนัดที่ผ่านมา มานัดนี้ ท่านเซอร์จึงพยายามจัดตัวตามตำแหน่ง ไม่ลองของ ไม่ประมาทเหมือนที่ผ่านมา บิ๊กเบนลงเฝ้าเสาตามคาด ฟูลแบ๊คซ้ายขวาเป็นปาทริซ เอวร่า และ แกรี่ เนวิลล์ คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟให้จอนนี่ เอแวนส์ จับคู่กับเนมานย่า วิดิช คู่กองกลางตรงกลางเป็นพอล สโคลส์ กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ปีกซ้ายขวาเป็นนานี่ และ อันโตนีโอ วาเลนเซีย คู่กองหน้าเลือกออกสตาร์ทด้วย เวย์น รูนี่ย์ และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ส่วนทางด้านวีแกน แอธเลติก เจ้าบ้านนัดนี้มาพร้อมดีกรีทีมที่ไม่น่าข้องแวะด้วยประการทั้งปวง เมื่อได้พาผู้หวังรวยทางลัดต้องกรอบแกรบกันเป็นแถวๆจากฟอร์มดับซ่าวิลล่าถึงบ้านในนัดแรก แต่กลับไปถูกน้องใหม่ซัดหงายท้องคาบ้านตัวเองในนัดต่อมา นัดนี้เมื่อเห็นฟอร์มทีมรักของเราต้องล่องจุ๊นไปในนัดที่แล้วด้วยฝีมือน้องใหม่ ผมจึงอดหวั่นใจลึกๆไม่ได้ ว่าจะเด้งเชือกกลับมาได้ทันทีเลยหรือเปล่า แต่เมื่อดูโพสิชั่นนิ่งของทีมชีต ก็พออุ่นใจได้ว่า ทุกคนต่างได้ยืนในตำแหน่งถนัดของตน อย่างน้อยก็น่าจะทำให้ฟอร์มดีขึ้นกว่าเกมที่แล้วบ้างแหละน่า

เกมในครึ่งแรกก็เป็นอย่างที่หลายๆท่านคาดการณ์ไว้ เมื่อยูไนเต็ดเริ่มครองบอลกดดันใส่ตั้งแต่แรก แต่ก็ยังคลำเป้าไม่เจอ กลายเป็นคริส เคิร์กแลนด์ นายทวารเจ้าบ้านเสียอีก ที่เหมือนจะได้คาถาดูดบอลจากพระอาจารย์ก่อนลงมาเล่น บอลจากหัวจากเท้านักเตะยูไนเต็ดที่ส่งออกไปแต่ละลูก ถึงได้พุ่งเข้าตัวเคิร์กแลนด์ตลอด กลายเป็นเจ้าตัวยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ยิ่งเซฟยิ่งโชว์ ทำให้งานของเรากลายเป็นยากขึ้นไปเยอะเลย เกมของผู้มาเยือนยังคงน่ากลัวในจังหวะเข้าทำ เพียงแต่ไม่สามารถส่งลูกบอลผ่านมือเคิร์กแลนด์เข้าสู่ก้นตาข่ายได้ ไม่ว่าจากฝีเท้าของเฟล็ทเชอร์, สโคลส์, รูนี่ย์ หรือเบอร์บาตอฟก็ตาม

เจ้าบ้านเอง ตั้งเกมในเกมนี้ค่อนข้างรัดกุม เมื่อทิ้งอูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าไว้เป็นเป้าเคลื่อนที่ในแดนหน้าเพียงคนเดียว แล้วก็ดำเนินแผนการยุทธยอดนิยมด้วยการตั้งกำแพงรับสองชั้น มีกองกลางห้าคน ตามด้วยแผงหลังอีกสี่คน กำแพงของวีแกนวันนี้มีรายละเอียดต่างไปจากทีมอื่นพอสมควรครับ เมื่อไม่ยอมตั้งโซนและเพรสซิ่งเพียงอย่างเดียวเหมือนทีมอื่นๆ แต่กลับเลือกที่จะมาร์คแมนทูแมนผสมผสานไปด้วย สังเกตได้จากการเคลื่อนที่ของผู้เล่นวีแกนในแนวรับ นอกจากจะเพรสซิ่งในโซนของตนเองแล้ว เมื่อมีผู้เล่นของยูไนเต็ดพาบอลถอยกลับมายังกลางสนาม ก็จะมีผู้เล่นวีแกนตามมาร์ค ไล่บี้ออกจากโซน ไล่กดดันไม่ให้คายบอลได้ถนัดอีกด้วย ตรงนี้ครับ ที่เป็นดาบสองคมของวีแกน

ที่บอกว่าเป็นดาบสองคม นั่นก็เพราะเป็นแผนการเล่นที่สิ้นเปลืองพลังงานค่อนข้างมาก การที่นักเตะต้องเพรสซิ่งในโซนตัวเองตลอดก็เป็นงานที่หนักพอสมควรอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องไล่ออกมานอกโซนตัวเองอีก เพื่อกดดันผู้ครองบอลของยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้สามารถคายบอลหรือถ่ายบอลไปมาได้ถนัด ตรงนั้นหากทำหน้าที่ได้ดีตลอดเก้าสิบนาที ก็จะเป็นการกดดันคู่ต่อสู้ได้ดีมากๆ และทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสผิดพลาดสูงจนต้องเสียการครอบครองบอลไป แต่ถ้าทำไม่ได้ตลอด ก็เท่ากับเป็นการเปิดโซนตัวเองให้หลวม เพราะตัวเองหลุดออกจากตำแหน่งหลุดออกจากพื้นที่ไปแล้ว เพื่อนก็ต้องเข้ามาซ้อน เข้ามาคุมพื้นที่แทน ตรงนี้ต้องอาศัยความขยัน พลัง และความเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดีครับ

ผู้เล่นตรงกลางของวีแกนนัดนี้ทำผลงานได้ค่อนข้างดีหลายคน โดยเฉพาะคูมาส, เอ็นซอกเบีย และตัวใหม่อย่างโกเมซสุดหล่อ นอกจากนั้น บรัมเบิ้ลยังโชว์เทพในครึ่งแรกอีกหลายครั้ง ที่สกัดจังหวะอันตรายได้อยู่หมัด ช่วยเคิร์กแลนด์ได้มากทีเดียว เกมรุกของเจ้าบ้านในครึ่งแรกยังอันตรายอยู่พอสมควรจากการวางโรดาเยก้าไว้ บอลไดเร็กต์จากแดนหลังยังสร้างความหวาดผวาให้ผมอยู่เรื่อยๆ ยังดีที่นัดนี้เราได้วิดิชกลับมาประจำการช่วยกับเอแวนส์ ทำให้ความมั่นใจกลับคืนมาสู่ทีมอีกครั้ง วิดิชวันนี้เป็นหัวใจในแผงหลังอย่างแท้จริง สามารถสกัดจังหวะสุดท้ายได้หลายครั้งมากๆ และยังช่วยสกัดกั้นลูกกลางอากาศได้ตลอดทุกจังหวะอีกต่างหาก จังหวะและฟอร์มของวิดิชวันนี้ นอกจากจะช่วยให้ทีมสบายใจแล้ว ยังไปเค้นเอาฟอร์มของฟอสเตอร์ และเอแวนส์ให้สามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงอีกด้วย

เกมในครึ่งแรก ท่านเซอร์คงเห็นแล้วว่า วีแกนจัดการเกมของเราได้อย่างไร การคุมโซนบวกมาร์คกิ้งแมนทูแมนของวีแกน ทำเอาเราต่อบอลกันได้ไม่ไหลลื่นมากนัก และไม่สามารถ “ขึง” วีแกนได้อย่างต่อเนื่อง เกมโต้กลับของวีแกนจึงเริ่มมั่นอกมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่านเซอร์ก็ยังเป็นท่านเซอร์ ไม่ยอมผิดพลาดซ้ำสอง นัดนี้เมื่อเห็นว่าทำเกมได้ แต่ไม่ค่อยไหลลื่นนัก ถูกเพรสซิ่งแล้วออกอาการใช้ได้ ปีกก็มัวง่วนกับการทำเกมตรงกลางและช่วยเกมรับริมเส้นจนไม่อาจจะรุกได้เต็มที่นัก และเจ้าบ้านเริ่มได้ใจจนมีโอกาสจบหวุดหวิดจะได้ประตูหลายครั้ง ท่านเซอร์จึงทำการปรับเล็กๆด้วยการเพิ่มสปีดเกมขึ้นมาอีกครึ่งกะโหลก เน้นให้ปีกเดินหน้ามากขึ้น และเพิ่มการทำเกมโจมตีด้านกว้างมากขึ้น บวกด้วยการวางบอลสวนกับการตามคนขึ้นมาของวีแกน แค่นั้นเกมก็ดูดีขึ้นมาทันตาเห็น

เมื่อเพิ่มการเล่นทางด้านกว้าง สลับกับการวางบอลยาวสวนการมาร์คกิ้งของวีแกนได้ พื้นที่ก็เปิดมากขึ้น และเมื่อมีพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น ผู้เล่นของยูไนเต็ดก็เริ่มแสดงฝีเท้าออกมาได้ดีขึ้น แค่ไม่นาน ก็สามารถทำประตูได้จากการครอสทางกราบขวาของวาเลนเซียเข้ามา หน้ากรอบโล่งเหลือเกิน และเป็นรูนี่ย์ ที่โหม่งโล่งๆส่งบอลเข้าสามเหลี่ยมเสาสองได้อย่างสวยงาม วีแกนฮึดจะเอาคืนทันควัน แต่ฟอสเตอร์ที่ไวทายาดก็ป้องกันลูกยิงในจังหวะเอาคืนของวีแกนไว้ได้ และจากจังหวะนั้น กลายเป็นยูไนเต็ดที่ได้ประตูที่สอง เมื่อทำเกมถ่ายบอลกันมาได้ดี เบอร์บาตอฟขึ้นมาจากซ้าย ปาดบอลเข้ากลางก่อนที่จะเจ้าตัวจะพลิ้วเข้าไปในกรอบ รับบอลที่สโคลส์กระดกมาให้ เบิร์บกระดกข้ามตัวเคิร์กแลนด์ที่ผวาออกมาปัด ก่อนจะเอี้ยวตัววอลเลย์ส่งบอลเข้าสู่ตาข่ายเป็นประตูที่สอง พร้อมอาการดีใจอย่างลิงโลดของเจ้าตัว

จากนั้น ลูกที่สามก็ตามมา รูนี่ย์หาจังหวะยิง บอลไปแฉลบกองหลังวีแกนเปลี่ยนทางเข้าประตูไป ยูไนเต็ดเปลี่ยนตัวสามคน เอาโอเว่น, กิ๊บสันและ โอเช ลงมา โดยถอดเอา สโคลส์, รูนี่ย์ และ เอแวนส์ออกไปพัก โอเว่นลงมาไม่นานลูกที่สี่ก็ตามมา เมื่อนานี่ได้บอลกระชากขึ้นมาทางซ้ายแล้วเลาะมาหน้ากรอบ โอเว่นฉีกทำทางไปทางขวาแล้วแต่นานี่กลับไม่จ่าย แต่นานี่ชี้มือให้โอเว่นฉีกมารับบอลทางซ้าย โอเว่นจึงหักหนีออกมาทางซ้ายให้นานี่ป้ายบอลออกมาให้ กลายเป็นโอเว่นหลุดตัวคุมทันที ก่อนจะยิงสวนตัวหักข้อสวนตัวเคิร์กแลนด์ได้สำเร็จ เป็นประตูแรกในลีกในสีเสื้อใหม่ของเจ้าตัว ส่วนประตูสุดท้ายได้จากนานี่กับฟรีคิกสุดสวยของเจ้าตัว ที่ปั่นข้ามกำแพงเสียบเสาได้อย่างหยดย้อย

การที่จะบอกว่าเกมนี้เราทำได้ดีมากๆ ก็คงเกินเหตุไปหน่อย เพราะฟอร์มโดยรวมเราในครึ่งแรกก็ยังไม่เข้าที่นัก ยังขาดความเด็ดขาด และความไหลลื่นในเกม จนเกมโต้กลับของวีแกนหวุดหวิดจะสร้างหายนะให้เราได้ก่อน แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทาง และเพิ่มสปีดเกมมากขึ้นในครึ่งหลัง เราจึงเริ่มกลับมาเข้าสู่จังหวะเข้าทำที่คุ้นเคยอีกครั้ง และนี่ก็เป็นจังหวะที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของยูไนเต็ดในอดีตนั่นเอง จังหวะการขึ้นบอลเร็ว เซ็ตบอลและทำทาง เคลื่อนที่หาที่ว่าง เราเริ่มทำได้ดีขึ้น ส่วนสกอร์ห้าเม็ดนั่น ผมว่ามันเข้าทางพอดีมากกว่าครับ ถ้าเป็นเกมปกติทั่วๆไปกับโอกาสแบบในเกมนี้ ผมว่าเราคงได้สามเม็ด แต่เกมนี้เมื่อจังหวะจบในครึ่งหลังมันเข้าที่เข้าทางไปหมด มันก็บอกมาแบบนี้ หากจำกันได้ ซีซั่นที่เราเคยชนะอิปสวิช ทาวน์ 9:0 หรือ ชนะฟอเรสต์ 8:1 หรือ ชนะโรม่า 7:1 มันก็เป็นแบบนี้ คือจังหวะจบมันเข้าทางไปหมดนั่นเองครับ ไม่ได้หมายความว่า เราทำเกมได้เหนือกว่าจนเป็นทีมต่างดาวอะไรขนาดนั้น

เกมนี้นอกจากสกอร์ห้าลูก มันยังคงมีอะไรให้พูดถึงหลายอย่าง ไล่เรียงตั้งแต่การเล่นที่ดูจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก อาจจะเพราะความเกร็งของเรา ที่เพิ่งพลาดท่าเสียทีไปในวีคที่ผ่านมานั่นเอง ที่ทำให้บรรดาผู้เล่นของเรา มีอาการเกร็งๆสนาม และออกจะลนเล็กๆ อยู่ไม่น้อย และลูกยิงของบรดานักเตะฝั่งเราในครึ่งแรก ก็ดูเหมือนจะเน้นจนเกินไปจนขาดความเด็ดขาด ตรงนี้ต้องชื่นชมป๋าครับ ที่ปลุกเร้านักเตะได้ถูกจุดจนสามารถกลับมาอยู่บนเส้นทางแห่งความมั่นใจได้อีกครั้ง การเคลื่อนที่ของนักเตะในครึ่งหลังของเราบ่งบอกตรงจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ว่านักเตะแต่ละคนลืมความเกร็งในครึ่งแรกไปหมดแล้ว

นอกจากป๋าที่ต้องชมแล้ว ผมยังขอชื่นชมเนมานย่า วิดิชอย่างเต็มที่อีกคน ในสายตาผม เกมนี้เราชนะเพราะวิดิชครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นรูนี่ย์สำคัญนะ แต่ในเวลาที่เรายังยิงไม่ได้ตลอดห้าสิบกว่านาทีนั้น เป็นวิดิชครับ ที่เป็นด่านแรกในการป้องกันการคุกคามจากกองหน้าและกองกลางของวีแกนได้อย่างเด็ดเดี่ยว วิดิชทั้งปักหลักซดลูกสาดยาวของวีแกน ทั้งปราดเข้าสกัดคาบลูกคาบดอกในจังหวะสุดท้ายชนิดไม่กลัวเจ็บ จนทำให้ฟอสเตอร์สามารถโชว์ฟอร์มหนึบตามมาได้อย่างสบายอกสบายใจ และยังส่งผลให้เอแวนส์เล่นได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องพะวงอาการบาดเจ็บที่ติดตัวอยู่มากนัก

จบเกมนี้ ก็คงเป็นแค่สามแต้ม กับประตูบวกห้าลูก ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นในแง่การแช่งขัน เมื่อเกมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเกมลีก คงไม่สามารถตีค่าในทางตารางคะแนนได้มากกว่านั้นหรอก และคงยังบอกไม่ได้ ว่าใครจะเป็นแชมป์ ใครจะตกชั้น หรือใครจะหมดลุ้น ใครจะมีลุ้นแต่อย่างใด เพียงแต่คุณค่าทางจิตใจของเกมนี้ที่มีต่อนักเตะและผู้ที่เกี่ยวข้องต่างหาก ที่ควรถูกพูดถึง การที่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่ทีมน้องใหม่ในแบบน่าถูกกระโดดถีบหน้าเมื่อวานนี้ แล้ววันนี้สามารถสวิงกลับมายืนในจุดที่ถูกต้องอีกครั้งได้ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อทัศนคติและกำลังใจของนักเตะ รวมไปถึงโค้ชด้วย

นอกจากนั้น การที่เบอร์บาตอฟยิงได้ โอเว่นยิงได้ นานี่ยิงได้ และรูนี่ย์พังประตูที่ร้อยและร้อยเอ็ดได้ในเกมนี้ ยังถือเป็นจุดสตาร์ทที่ทุกๆฝ่ายอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด และมันก็เกิดขึ้นแล้วสมกับที่แฟนๆรอคอย ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ให้ทุกๆอย่างมันดำเนินไปตามครรลองของมัน เป็นไปตามเกมของมัน และที่สำคัญ อยากให้ป๋าส่งทีมแบบนี้แหละครับลงสนาม ทีมที่ไม่ฝืนธรรมชาติตัวเอง ทีมที่ไม่ฝืนตำแหน่งนักเตะมากนัก และทีมที่มีแรงจูงใจ มีแรงกระตุ้นเต็มที่ มีความกระหายที่จะลงสนาม กระหายที่จะยิงประตู กระหายที่จะชนะ ป๋าไม่ต้องปรับอะไรมากเกินพอดีอีกแล้วนะครับ เอาแค่พอดีๆ แล้วทุกอย่างมันก็จะเป็นไปตามเกมของมันเอง หากจะแพ้ เราก็พูดได้เต็มปากว่า เราเล่นเต็มที่แล้ว แต่เขายังดีกว่าเรา ไม่ใช่ว่าเราแพ้เพราะไปเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะหรือโรเตชั่นมากเกินไป อย่างนั้นมันเจ็บครับ

มองไปยังหนทางข้างหน้า ผมว่าหากเรายังสามารถรักษาความคงเส้นคงวาไว้ได้ต่อไป เส้นทางก็ยังคงเปิดกว้างอยู่สำหรับเราครับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยังมีเวลาให้พักฟื้นอีกพอสมควร เมื่อเอแวนส์สามารถจับคู่กับวิดิชได้ดี และยังมีเวลาพักอีกสัปดาห์เต็มๆกว่าจะถึงเกมต่อไป ส่วนแบ๊คขวา แกรี่เองลงได้เต็มเก้าสิบนาทีก็น่าจะเป็นที่พึงพอใจของทุกๆฝ่าย และน่าจะเป็นขุมกำลังสำรองที่สำคัญคนหนึ่งในซีซั่นนี้ นอกจากนั้น กิ๊บสันน่าจะถูกวางไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในแดนกลางในซีซั่นนี้ เมื่อถูกส่งลงมาในเกมนี้ นั่นเท่ากับโอกาสของเจ้าตัวจะเพิ่มมากขึ้น และน่าจะมีส่วนร่วมมากขึ้นในปีนี้ โทซิช กับมาเคด้า และโอแบร์กตองก็เช่นกัน สามคนนี้ อาจจะถูกส่งลงมาในซีซั่นนี้เพื่อปรับตัว และสร้างความคุ้นเคยกับบอลอังกฤษมากขึ้น สำหรับโอแบร์กตองนั้น หลังจากหายเจ็บก็น่าจะถูกส่งลงเกมสำรองก่อนสักระยะเพื่อประเมินศักยภาพครับ

เท่าที่ดูตอนนี้ บรรดาดาวรุ่งทั้งหลาย ผมไม่ห่วงเท่าไหร่ ผมห่วงตัวที่เป็นตัวหลัก ตัวความหวังของเรานี่แหละ สโคลส์นั้นดูออกว่าพยายามจุดแพสชั่นของทีมขึ้นมาตลอดเวลา แต่ความอาวุโสของเขามันจำกัดศักยภาพตรงนั้นไปเยอะ ทำให้เข้าบอลค่อนข้างซ้า และหลายครั้งอาจจะโดนไข้เหลืองได้ง่ายๆ เกมตรงกลางหากจะยืนพื้นด้วยชุดนี้จริงๆ (สโคลส์-คาร์ริค-เฟล็ทเชอร์-แอนนี่-กิ๊บสัน) เห็นที่จะต้องหาริมเส้นแจ่มๆมาสักตัว เพราะนานี่เองยังหวังเต็มที่ไม่ได้เท่าไหร่ และตัวสำรองทางฝั่งซ้ายของนานี่ก็ยังไม่มีแจ้งเกิดจริงๆสักคน นี่คงเป็นต้นตอที่มาของข่าวกับร็อบเบน ส่วนถ้าว่าป๋าไม่ซื้อปีกเพิ่ม คงต้องเป็นกลางแจ่มๆแทนล่ะครับ ที่จะมาคุมจังหวะ กำหนดทิศทาง และเป็นตัวจุดปะทุของเกมแทนสโคลส์ จะหวังพึ่งรูนีย์เพียงคนเดียวให้เป็นสปาร์คเกอร์ของทีมก็ดูจะโหดร้ายต่อเฮียมากไปหน่อย เพราะเฮียแกทำจนไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว เห็นใจแกมั่งนะครับ ขืนให้ทำมากไป เกมของแกจะเสียเอาน่ะสิ


แล้วมาลุ้นเกมกับอาร์เซน่อลกันครับ

สงบใจ



Create Date : 25 สิงหาคม 2552
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 15:59:30 น. 1 comments
Counter : 528 Pageviews.

 
วันนั้นนั่งดูอยู่

ผมชอบแมนฯยูฯเล่นแบบนี้ มากกว่าตอนหวังพึ่งโรนัลโด้นะครับ
มันทำให้นึกถึงผีแดงช่วงปี 99 ที่ผู้เล่นทุกคนสำคัญหมด
การมูฟเม้นท์ การกระจายบอล ทำได้ดี และปั่นป่วนคู่แข่งได้ดีเลยนะครับ

น่ากลัวนะครับ บอกตรงๆ


โดย: เทอร์รี่คุง (เทอร์รี่คุง ) วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:11:41:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.