Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
20080103 วิพากษ์ Man UTD vs Westham + Birmingham

สวัสดีปีใหม่ครับ ทุกๆท่าน กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังผ่านช่วงเตะวิบากกันไปแล้วนะครับ และสองนัดล่าสุดที่ผ่านสายตากันไป รวมกับสองนัดก่อนวันหยุดนั้น ก็จะเห็นได้ว่า มันวิบากจริงๆนั่นแหละครับ ไม่ทราบเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของลีกอังกฤษนะครับ ที่ไม่ได้พักผ่อนเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา แต่ต้องมาเตะกันมาราธอนอย่างนี้ และผลที่ออกมาก็อย่างที่ทราบกันไป ไม่มีบิ๊กโฟร์ทีมไหนเก็บครบ 12 แต้มแม้แต่ทีมเดียว บทสรุปก็คือ อาร์เซนอลยังคงครองจ่าฝูงหลังเก็บได้ 10 แต้ม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เก็บได้ 9 แต้ม ขาดทุนไปแต้มนึงหากเทียบกับก่อนแกะกล่อง ส่วนเชลซีนั้น เก็บไป 10 แต้ม เท่ากับอาร์เซนอล ในขณะที่ลิเวอร์พูลเก็บไป 8 แต้ม ตารางอันดับเลยยังไม่เปลี่ยนแปลงหากเทียบกับกิ่อนหน้านี้ครับ เอาล่ะครับ มาถึงบทวิพากษ์วันนี้ เนื่องจากค่อนข้างตลาดวายไปแล้ว และมีถึงสองเกมให้พูดถึง ดังนั้น ขออนุญาตเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง มาเป็นการพูดกว้างๆถึงเกมสองเกมล่าสุดที่ผ่านมากันดีกว่านะครับ เริ่มกันเลย

เกมแรก ยูไนเต็ดต้องออกไปเยือนถิ่นอัพตัน ปาร์คของขุนค้อนในคืนวันที่ 29 ก่อนจะเปิดบ้านรับลูกโลกในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งหลายๆท่านก็ทราบกันดี ว่าเคอร์บิชลี่ย์ผู้คุมขุนค้อนนั้น ไม่เคยเอาชนะท่านเซอร์ได้เลย ก่อนจะมาเป็นนายใหญ่เดอะ แฮมเมอร์ส แต่หลังจากที่เขามารับตำแหน่งที่อัพตัน ปาร์ค จนถึงวันนี้ เขากลับเก็บชัยชนะต่อลูกทีมท่านเซอร์ได้สามนัดติดต่อกันแล้ว เป็นเก้าแต้มเต็มๆต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

การจัดทัพของท่านเซอร์ในนัดนั้น หลายๆคนคงบอกว่า โชคร้าย เพราะรูนี่ย์กับคาร์ริคนั้น เป็นไข้ ไม่สามารถลงสนามได้ แต่ผมกลับคิดว่า ต่อให้ฟิตสมบูรณ์ รูนี่ย์กับคาร์ริคก็คงได้แค่นั่งข้างสนาม เพราะนโยบายเวียนนักเตะในช่วงหฤโหดของป๋านั่นเอง เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ หากทั้งสองฟิต ก็น่าจะมีชื่ออยู่ข้างสนามเท่านั้น คงไม่ถูกส่งลงเป็นตัวจริงค่อนข้างแน่ แต่แดนกลางนี่สิครับ ผมไม่เข้าใจว่าหากจะเวียนนักเตะ แต่เกมหนักๆเช่นการเยือนอัพตัน ปาร์ค ทำไมกล้าๆส่งเฟล็ทเชอร์เป็นตัวจริง ทั้งๆที่ อันแดร์สันก็ฟิตเปรี๊ยะ และถูกดร็อปไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็เอาเถอะครับ ถือว่าเคารพในเหตุผลป๋าก็แล้วกันครับ

ผลจากการที่แดนกลางเราเป็นเฟล็ทช์ กับ ฮาร์โก้ ทำให้เดินเกมสู้กลางเจ้าถิ่นที่อัดกันห้าคนไม่ได้เลย เฟล็ทเชอร์ และฮาร์กรีฟส์ต้องวิ่งไล่บอล แย่งบอลอย่างเดียว ในขณะที่การเปิดเกมรุก และการคุมจังหวะเกมของทีมไม่ใช่สิ่งที่ทั้งคู่ถนัด นั่นยิ่งทำให้เกมแดนกลางต้องเสียไปแบบเต็มๆ และท่านเซอร์เองดูไม่อนาทรร้อนใจนัก เพราะผมไม่เห็นแกจะเปลี่ยนตัวเอาแอนนี่ลงมาช่วยเดินเกมรุกตั้งแต่แรกๆ แต่กลับเลือกที่จะใช้แผนการเล่นแบบโต้กลับเต็มตัว ให้เวสต์แฮมบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว แล้วคอยอาศัยจังหวะโต้กลับเข้าทำประตู

แต่การเล่นแบบโต้กลับลักษณะนี้ เมื่อมีแค่โรนัลโด้ กับเตเวซนั้น ดูจะเป็นงานที่ยากขึ้นมาก การขาดหายไปของรูนี่ย์ ทำให้ผู้เล่นของเวสต์แฮม จับจังหวะ และตั้งเกมรับป้องกันได้ง่าย กิ๊กส์ต้องพะวงเกมรับมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถเดินเกมโต้กลับร่วมกับเพื่อนได้ดี ได้เร็ว และประสานงานได้เนียนพอ การได้ประตูขึ้นนำถือเป็นจังหวะที่สุดยอดจริงๆ และเวสต์แฮมก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองผิดพลาดอีก ในขณะที่ยูไนเต็ดเอง ก็ไม่สามารถครองเกมรุกได้เลย อาศัยเพียงจังหวะโต้กลับอย่างเดียว ซึ่งไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้อีก ยิ่งการที่โรนัลโด้พลาดจุดโทษลูกนั้น ทำให้อดได้ประตูนำเป็นสองลูก โอกาสคัมแบ๊กของเจ้าถิ่นจึงยังคงเปิดกว้าง และเวสต์แฮมก็รู้ดี จึงไม่ผลีผลามเปิดเกมเกินไป

เวสต์แฮมใช้เกมแดนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเกมกันไหลลื่น รวดเร็ว และเสียบอลยาก ยูในเต็ดเองจะโทษแต่โรนัลโด้คนเดียวคงไม่ถูก โอเคที่เขาพลาดลูกโทษ แต่หลังจากนั้นล่ะ การทำเกมของยูไนเต็ดแบบนี้ คือทีมแชมเปี้ยนแล้วหรือ การโดนโหมกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ตลอดเก้าสิบนาที ไม่ใช่วิสัยของเราแม้แต่น้อย ผมมองว่า เราควรจะโทษทั้งทีมไล่ตั้งแต่การจัดทัพนักเตะที่ออกลูกประมาทเกินไป การแก้เกมที่ช้าเกินไป และการเล่นในสนามที่ออกจะเนือยปนเฉื่อยชากันไปมากนั่นเอง อีกอย่าง เวสต์แฮมเองก็ตั้งเกมมาดีเหลือเกิน ยิ่งทำให้การทำเกมของเรายากลำบากยิ่งขึ้น

ในขณะที่เกมรับของเราเอง การป้องกันการบุกกระหน่ำจากเจ้าถิ่นยังคงถือได้ว่าทำได้ตามมาตรฐาน แม้ว่าหลายต่อหลายครั้ง อาจจะดูโอนไป เอนมาอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่หน้าของเจ้าบ้านไม่ค่อยคม ก็ทำให้สามารถยันไว้ได้ร่วมๆเจ็ดสิบนาที แต่เมื่อเจ้าบ้านเปลี่ยนหมาก มาเติมผู้เล่นสูงใหญ่ลงไป เปลี่ยนมาเล่นเกมกลางอากาศเต็มรูปแบบ นั่นเอง ที่ดูจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งหายนะ เมื่อกองหลังของเรา มีเพียงริโอเท่านั้น ที่ดูจะเบียดกับกองหน้าเจ้าถิ่นในการแย่งโหม่งได้สูสี วิดิชเองยังเสียเปรียบในด้านความสูงอยู่บ้าง แต่ได้ลูกแข็งแกร่ง ทำให้พอจะต่อกรได้บ้าง แต่เมื่อเทียบกับทั้งแผงแล้ว เราไม่สามารถยืนหยัดต้านทานการขึ้นเล่นบอลกลางอากาศของเจ้าถิ่นได้ดีนัก ยิ่งด้านเอวร่ายิ่งเห็นชัด จากจุดนี้ ลูกเซ็ตพีซแต่ละลูก นำมาซึ่งโอกาสทำประตูตลอด

และเวสต์แฮมก็ทำได้สำเร็จ จากสองลูกเซ็ตพีซที่เป็นสองประตู สองประตูดังกล่าวปิดโอกาสการคว้าแต้มของผู้มาเยือนไปเลย เพราะแทบจะไม่มีโอกาสเข้าทำประตู ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพเกมรุกที่เกมนี้น่าเกลียดเอามากๆ แอนนี่ก็ถูกส่งลงมาเมื่อสาย แต่เป็นการเปลี่ยนที่ดูแปลกๆ ทำไมเอาเตเวซออกมา ทำไมเฟล็ทเชอร์จึงยังคงอยู่ครบเก้าสิบนาที หากต้องการให้กลางมีห้าตัวเท่ากัน นั่นก็ถือเป็นการตัดสินใจที่แปลกประหลาด เพราะแอนนี่ลงมา ก็สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้จากบอลจังหวะเดียวอยู่แล้ว การถอดเอาเตเวซออก ก็ยิ่งลดประสิทธิภาพการเข้าทำลงชัดๆ ผมเองค่อนข้างมั่นใจว่า หากเอาแอนนี่ลงแทนเฟล็ทเชอร์ ให้ฮาร์กรีฟส์มาสกรีนบอลแทน ไล่บอลแทน ส่วนแอนนี่ก็เป็นทั้งตัวรับและรุก โดยจ่ายบอลเปิดป้อนให้ทั้งโด้ และเตจัง น่าจะมีประสิทธิภาพกว่านี้

แต่ก็อย่างว่าครับ ผมพูดแบบนี้ จะมีใครเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ผมคิดตอนนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีจริงๆ หลายๆท่านอาจจะบอกว่าพูดทีหลัง ยังไงก็ถูกอยู่วันยังค่ำ แต่ผมก็มั่นใจว่า หลายๆท่านที่ดูการถ่ายทอดสด ก็คงขัดใจกับการจัดทัพ และการเปลี่ยนตัวในนัดดังกล่าวอยู่พอสมควร เมื่อรวมกับการทำผลงานของนักเตะด้วย และสิ่งที่เวสต์แฮมแสดงออกมาตลอดเก้าสิบนาที ผมเองก็ต้องยอมรับว่าเวสต์แฮมสมควรได้สามแต้มจริงๆครับ และเราเองนั่นแหละ ที่ทำตัวเองให้ตกอยูในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้ และเสียบัลลังก์จ่าฝูงกลับไปให้อาร์เซนอล ทั้งๆที่เพิ่งได้นอนกอดไม่ถึงสามวัน

เอาล่ะครับ เรามาดูเกมถัดมากันบ้าง การเปิดโรงละครต้อนรับเบอร์มิงแฮม การจัดทัพนัดนี้ยังคงปราศจากเงาของหัวหอกสุกรโลกันตร์ เพราะเป็นไข้ไม่หาย แต่คาร์ริคหายดีแล้ว จึงถูกส่งลงประเดิมการหายไข้คู่กับอันแดร์สันทันที นัยว่าเป็นการแก้ตัวที่เกมแดนกลางนัดที่แล้วเป็นง่อยหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ หัวหอกคู่เป็นโรนัลโด้ และเตเวซ ปีกซ้ายขวาเป็น ปาร์ค และนานี่ แผงหลังให้โอเชลงแทนบราวน์ เหมือนๆจะแสดงออกรึเปล่าว่า ไม่เอาเอ็งแล้วนะลูก ป๋าจะให้โอเชเล่นแทนเอ็งแล้วนะครับ อะไรอย่างนี้ น้าซาร์ยังไม่คัมแบ๊คจากอาการเจ็บ มีคุสแซ็คยืนแทน ส่วนตำแหน่งอื่นๆก็เป็นตามโผเดิม

เกมนี้ พลพรรคอสูรแดงแสดงให้เห็นแล้วว่า การมีจิตใจกระหายต่อชัยชนะนั้น เป็นอย่างไร ตลอดทั้งเกม พวกเขาไล่ขย่มเบอร์มิงแฮมแทบจะวันเวย์ มีเพียงสิบห้านาทีสุดท้ายเท่านั้น ที่ปล่อยให้เบอร์มิงแฮมได้เล่นครองเกมรุกเข้าใส่บ้าง แดนกลางของเราที่มีคาร์ริคกับแอนนี่ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดีขึ้นผิดหูผิดตา เพียงแต่คาร์ริคนั้นดูจะติดๆขัดๆยังไงไม่ทราบ อาจจะเป็นเพราะเพิ่งหายไข้หรือเปล่า หรือไม่ก็จังหวะเสียไปเพราะไม่ค่อยได้ลงอย่างต่อเนื่องเท่าไหร่นัก นั่นก็เป็นไปได้ทั้งสองเหตุผลครับ

แต่สิ่งที่น่าดีใจสำหรับเรา นั่นก็คือ การได้เห็นตี๋ปาร์ค ลงเล่นด้วยความมั่นใจอีกนัด หลังจากขย่มซันเดอร์แลนด์มาแล้ว นัดนี้ ปาร์คเล่นด้วยความขยัน ทุ่มเท ช่วยไล่บอลดีจริงๆครับ และดูเหมือนว่าสภาพร่างกายจะพร้อมรบอย่างเต็มที่แล้วด้วย ทั้งสปีด และการสับ การกระชาก ผมว่าดีขึ้นกว่าตอนก่อนแกเจ็บไปเสียอีก ส่วนนานี่ หลายๆคนอาจยังมองว่าไม่สามารถปรับตัวได้เสียที แต่ผมมองดูสองเกมล่าสุด ดูจะเห็นพัฒนาการขึ้นมาบ้าง แต่เป็นในแง่การอ่านเกมและการเข้าโจมตีทางกราบที่ดูดีขึ้น ส่วนเรื่องการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมยังคงต้องรอต่อไปครับ เพราะยังต่อบอลกับเพื่อนขาดๆเกินๆอยู่ตลอด แต่มาได้ความขยันช่วย การลงไปไล่บอลร่วมกับตี๋ปาร์ค ทั้งคู่ทำได้ดีทีเดียว แต่ยังไม่สามารถทำเกมรุกอย่างสอดประสานกับเพื่อนๆได้เท่านั้น

การทำเกมรุกของนานี่ หากดูเป็นรายบุคคลแล้วจะเห็นว่าเขาโชว์ผลงานได้ดีมาก ถือว่าเด่นไม่แพ้โรนัลโด้ ทั้งจังหวะลากเลื้อย การเล่นเกมรับ การทะลุทะลวง พาบอลไปเอง หาจังหวะยิง ถือว่าทำได้ดีจริงๆ แต่หากมองภาพรวม เขายังไม่สามารถร่วมเล่นกับเพื่อนๆได้ครับ ตรงนี้ยังต้องปรับปรุงอีกมากทีเดียว ส่วนโรนัลโด้ ดูเหมือนจะกังวลกับการพลาดจุดโทษนัดที่แล้วมากไป เพราะแกจะยิงอย่างเดียว นัดนี้ จะเห็นเลยว่า แกจะพยายามยิงๆๆๆๆไม่ค่อยใส่พานให้เพื่อนอย่างเคย มีก็ประตูชัยที่ตอกส้นให้เตเวซเข้าไปยิงนั่นแหละครับ ที่ถือว่าเป็นลูกที่สุดยอดอีกลูก ไม่แพ้ลูกที่ยิงเวสต์แฮมนัดก่อนหน้า

การเดินเกมแดนกลางของเรานัดนี้ ถือว่าทำผลงานได้ดี การแพ็คหลังแน่นมี โอเช รับผิดชอบด้านขวาแทนบราวน์ก็ไม่ขี้เหร่อะไรนัก น่าจะพอไว้ใจได้หากบราวน์จะย้ายขึ้นมาจริงๆ ส่วนการเข้าทำในแดนหน้า ที่ออกมาดูดีเช่นนี้ ก็น่าจะเป็นเพราะเบอร์มิงแฮมค่อนข้างเปิดพื้นที่ให้เล่นเยอะด้วยครับ มีช่อง มีตัวว่าง มีพื้นที่ให้จ่าย ให้ทิ้งบอลอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกมรุกนัดนี้ ค่อนข้างไหลลื่นขึ้นเยอะ หากเทียบกับนัดอื่นๆที่ผ่านมา

แต่นัดนี้ ก็ถือว่าแมนฯ ยูไนเต็ดค่อนข้างโชคร้ายที่ได้แค่ประตูเดียว เพราะเทย์เลอร์นั้น ช่วยเซฟลูกยิงของเตเวซ และโรนัลโด้มากมายนับครั้งไม่ถ้วน นอกจากนี้ ก็ยังมีเสาอีกสองครั้ง แต่ภาพโดยรวมก็ถือว่าเราทำผลงานได้ดีแล้ว นอกจากการปิดสกอร์เท่านั้น ที่ดูจะขาดความเฉียบคมไปพอสมควร และทำให้แฟนๆอย่างผมต้องมาลุ้นถึงนาทีสุดท้ายอย่างนี้ แต่ก็ถือว่าทำได้สำเร็จในที่สุดครับ กับการคว้าสามแต้ม ล้างอายจากการพ่ายแพ้มาในนัดที่แล้วได้สำเร็จ

สำหรับควันหลงจากทั้งสองนัด เมื่อคืนก่อนผมก็สลับไปชมเกมอาร์เซนอลกับขุนค้อนด้วย เพราะอยากเห็นว่าขุนค้อนจะทำได้ดีไหม เมื่อเพิ่งเค้นฟอร์มสุดยอดออกมา ก็อย่างที่เห็นครับ เวสต์แฮมทำอะไรเจ้าถิ่นไม่ได้ แถมถูกกดไปสองเม็ด ยิ่งย้ำเตือนถึงความพ่ายแพ้ของเราเข้าไปอีกครับ ว่าหากเราเล่นเกมบุกได้บ้าง ยิงได้สองประตูก่อน คงไม่แพ้กลับมาแน่ๆ แต่นั่นแหละคือฟุตบอล ท่านเซอร์เองก็บอกว่า คุณไม่สามารถคาดหวังให้เพอร์เฟคท์ได้ตลอดทุกๆนัดหรอก มันก็ต้องมีหลุดฟอร์มกันบ้างเหมือนกันครับ และนั่นก็อิงเข้าสู่อีกวลีที่แกเคยพูดไว้หลายปีก่อนครับ ว่า ก็เป็นแค่เกมๆหนึ่ง ไม่ได้หมายถึงทั้งฤดูกาล และยูไนเต็ดก็แสดงให้เห็นแล้วว่า กลับมาได้ในที่สุด ด้วยเกมแค่เกมเดียว และเป็นการยืนยันคำพูดท่านเซอร์ให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก ว่าการพ่ายแพ้ต่อขุนค้อนนั้น ก็เป็นแค่เกมๆหนึ่งจริงๆ

ผมเอง สำหรับบทสรุปของเกมมาราธอนสี่นัดในช่วงสัปดาห์ครึ่งที่ผ่านไปนั้น หากให้บอกตามตรง ก็บอกได้ไม่อายปากตัวเองว่า เสียดายมากที่ไม่ได้ 12 แต้มเต็มๆ แต่หากให้มองตามความเป็นจริงแล้วล่ะก็ ผมเองอยากให้แฟนๆยูไนเต็ดยอมรับความจริงด้วยครับ เกมสี่เกม ในช่วงสัปดาห์ครึ่ง เป็นสัปดาห์ที่ต้องเฉลิมฉลองกัน เป็นสัปดาห์แห่งครอบครัวจริงๆ และเป็นสัปดาห์ที่หลายต่อหลายคนได้ดื่มด่ำกับบรรยาการศสนุกสนานแห่งคริสต์มาสและปีใหม่ ในขณะที่บรรดานักเตะ กลับต้องทุ่มเทสมาธิ และเสียสละความสุขส่วนตัว มาลงสนาม มาแลกกับค่าเหนื่อยแพงระยับทีแฟนๆจ่ายให้ นั่นคือ สรุปแล้ว ผมอยากให้ยอมรับความเป็นจริงครับ

มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ฟูลทีม ลงล่าชัยชนะอย่างต่อเนื่องทุกๆนัดในช่วงนี้ เพราะจะเสี่ยงอย่างมาก ต่ออาการบาดเจ็บ และอ่อนล้าเกินขีดจำกัด ในเมื่อรู้ความจริงข้อนี้แล้วก็ต้องยอมรับถึงการหมุนเวียนนักเตะที่เกิดขึ้น เมื่อหมุนเวียนนักเตะ คุณก็ต้องยอมรับในขีดความสามารถของบรรดาตัวสำรอง และระบบทีมเวิร์ค ที่ย่อมอ่อนด้อยลงไป และเมื่อนั้น คุณก็ต้องทำใจยอมรับกับการพลาดบ้าง ในบางนัด ซึ่งก็สังเกตได้ว่า บิ๊กโฟร์ ไม่มีทีมใด เก็บ 12 แต้มเต็มๆได้เลยครับ

และยิ่งหากเราเสียดายสามแต้มจากอัพตัน ปาร์คมากเท่าไหร่ เรายิ่งควรมองย้อนไปถึงเกมกับเอฟเวอร์ตันมากเท่านั้น เกมนั้น เราสมควรได้สามแต้มมากกว่ากันหรือไม่ เราได้จุดโทษในนาทีสุดท้าย ซึ่งหยิบยื่นสามแต้มล้ำค่าให้เรา แต่หยิบยื่นชะตากรรมและความโศกเศร้าเสียใจ ให้กับแฟนๆเอฟเวอร์โตเนี่ยน ที่เหล่าทอฟฟี่เมน ร่ายเพลงแข้งได้สะเด่าดีเหลือเกิน หากเรามองย้อนกลับไปอีก ไปถึงเกมแดงเดือด เรายิ่งควรต้องยอมรับความจริงว่า ในเกมฟุตบอล มันย่อมมีสิ่งๆหนึ่งที่คู่กับมัน เป็นมนต์สเน่ห์ของเกมฟุตบอลอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ในท้ายที่สุดแล้ว ทีมที่บุกกระหน่ำ ทีมที่เล่นสวยงาม ทีมที่เล่นมีระบบกว่า เป็นทรงกว่า ไม่ได้หมายความว่า ทีมนั้นๆต้องชนะเสมอไป และนี่แหละครับ คือฟุตบอลที่เราหลงใหลล่ะ

สุกท้าย ก็ได้แต่หวังว่า รูนี่ย์จะหายไข้ ฟิตกลับมาล่าตาข่ายได้ในนัดหน้า ที่จะออกไปเยือนวิลล่า ปาร์ค ในศึก เอฟ เอ คัพ อีกทั้ง น้า ซาร์ และเตเวซ จะไม่เป็นอะไรมากนัก และจะหายทันลงแข่งเกมหน้าด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เรายังมีอีกหนึ่งความหวังในการล่าแชมป์ นั่นก็คือ ในขณะที่บรรดายักษ์ใหญ่ ยักษ์เล็ก ต้องเสียดาราแอฟริกาไปทำศึก แอฟฯ เนชั่นส์นั้น เราเองนอกจากไม่เสียใครไปแล้ว (นอกจากมานูโช่ ที่ยังไม่ได้เล่นให้เรา) เรายังน่าจะได้ สโคลส์ กับแกรี่ คัมแบ๊คกลับมาอีกด้วยครับ เมื่อรวมกับการที่เราอาจจะได้ใครมาในช่วงตลาดเปิดนี้ นั่นก็หมายความว่า เราควรจะเร่งเครื่องเก็บแต้มในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุดครับ เพื่อฉีกหนีบรรดาทีมอื่นๆให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

ก็หวังว่าเราจะทำได้สำเร็จนะครับ

แล้วพบกับบทวิพากษ์บทใหม่ สัปดาห์หน้าครับ



Create Date : 03 มกราคม 2551
Last Update : 3 มกราคม 2551 9:50:13 น. 3 comments
Counter : 613 Pageviews.

 

แวะมาอ่านฟอร์มของผีแดง ...

อิอิ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

สวัสดีปีใหม่ 2551 ครับ

ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนาตลอด และโชคดีตลอดปีใหม่นะครับ

อิอิ


โดย: เด็กหงส์แดง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:14:49:33 น.  

 
โดนอาคุงตัดหน้าไปซะและ ไม่มีเรื่องเล่าตอนไปเที่ยวปีใหม่เหรอคะ


โดย: นกแห้ว วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:15:12:13 น.  

 
ไม่ได้ไปเที่ยวไหนไกลหรอกครับ
วนเวียนอยู่ใน กทม. นี่แหละ สบายใจดีครับ รถราก็น้อย

ปล. เลี้ยงลูกต่างหากครับ แหะ แหะ


โดย: สงบใจ วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:11:04:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.