Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
20090820 วิพากษ์ BURNLEY vs MAN. UNITED

เป็นฟอร์มที่...ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปี


เฮ้อ...สวัสดีวันหดหู่ครับ ทุกๆท่าน หวังว่าคงจะยังมีกะจิตกะใจทำงานทำการกันอยู่นะครับ หลังจากที่ได้เห็นฟอร์มของทีมรักล่มปากอ่าวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งในความคิดผม นี่ถือเป็นแมทช์ที่ทีมรักของผมเล่นได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายๆปีเลยทีเดียวเชียวแหละ ไม่อยากบอกว่าอย่าไปอ้างถึงโรนัลโด้ หรือเตเวซ เพราะฟอร์มแบบนี้ในสายตาผม มันไม่เกี่ยวกับสองคนนั้นที่หายไปเลย มันเป็นการฝืดจากตัวเองกันทั้งนั้น เพราะเล่นกันได้ไม่ดีเองแต่แรก ไม่ใช่ว่าเล่นดีแต่ทำไม่ได้

แรกเริ่มเดิมที ผมมองสภาพทีมโดยรวมที่มีนักเตะบาดเจ็บหลายต่อหลายรายเมื่อเริ่มเปิดซีซั่น ผมก็ให้ประหวั่นพรั่นพรึงถึงงานหนักหนาสาหัสที่ต้องเจอในช่วงสองเดือนแรกเป็นอย่างมาก แต่ก็เบาใจลงไปได้เยอะ เมื่อเห็นว่าสามเกมแรก เป็นเกมตบเด็ก ที่ป๋าและลูกทีมค่อนข้างเชี่ยวชาญในกรณีนี้เป็นพิเศษ แต่กลับกลายเป็นว่าแค่เกมแรกก็รากเลือด แถมเพียงแค่เกมที่สอง กับตัวเต็งตกชั้นอันดับหนึ่งในสายตาร้านพูลทั้งหลาย ก็ต้องพานพบกับความวินาศสันตะโรกันซะแล้วครับ

การจัดทัพในนัดนี้ ออกจะไม่เหนือความคาดหมายผมเท่าใดนัก เมื่อพอทราบอาการบาดเจ็บของริโอ เฟอร์ดินานด์ กับเนมานย่า วิดิช อยู่ก่อนหน้า พอปรายตาเห็นทีมชีตในแดนหลัง ที่มี เบน ฟอสเตอร์ เฝ้าเสา ส่งจอห์น โอเชและปาทริซ เอวร่า คุมฟูลแบ๊คสองข้าง และให้เวส บราวน์ กับจอนนี่ เอแวนส์ คุมตรงกลาง จึงไม่ค่อยตกใจมากนัก แต่โพสิชั่นนิ่งของกองกลางต่างหาก ที่ทำให้ผมต้องตะลึงครับ ไม่ใช่เพราะท่านเซอร์ส่งแอนนี่ ลงมา แต่เป็นเพราะท่านเซอร์จับแอนนี่ไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย เอากิ๊กส์ และ คาร์ริคยืนกลาง (อันนี้พอเข้าใจฮะ เล่นกันบ่อยคู่นี้) ส่วนทางขวา เป็นตี๋ดริฟท์คิงของเรา คู่กองหน้าวันนี้เลือกรูนี่ย์กับไมเคิล โอเว่น

การที่ผมตกใจที่เห็นแอนนี่ไปยืนด้านขวา นั่นก็เพราะหลากหลายเหตุผลครับ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เอแวนส์มีอาการบาดเจ็บกำเริบจนต้องเปลี่ยนตัวเมื่อสามวันที่ผ่านมา เป็นไปไม่ได้หรอก ที่เขาจะฟิตเต็มร้อยได้ทันในสามวัน ส่วนเวส บราวน์นั้นเล่า ก็เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บยาวเกือบตลอดซีซั่นที่แล้ว เพิ่งได้คัมแบ๊คในปรีซีซั่นไม่กี่ครั้ง แถมนัดที่แล้วที่ถูกเปลี่ยนลงมาก็ยังเห็นได้ชัดเจนว่ายังไม่เต็มร้อย นั่นแสดงว่า คู่เซ็นเตอร์วันนี้ของเรายังไม่เต็มร้อยทั้งสองคนตั้งแต่เริ่มเกม เมื่อรู้แล้วว่าหลังบ้านคุณไม่สามารถลงกลอนให้แน่นหนาได้ตามปกติ ผู้ป้องกันข้างหน้าอย่างแผงมิดฟิลด์ก็ควรที่จะวางตัวที่สามารถเล่นได้ตรงตามตำแหน่งอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า เพื่อให้เล่นได้ตามความถนัดของตนเอง และประคองเกมช่วยแผงหลังที่ไม่ธรรมดานี้ได้ดีขึ้น

แต่กลับกลายเป็นเอาแอนนี่ไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งเขาไม่เคยมีประสบการณ์ได้ประสานงานขึ้นลงร่วมกับเอวร่าอย่างเป็นจริงเป็นจังมาก่อน ตรงนั้นคือจุดอ่อนแรกที่ผมเห็น จุดต่อมาก็คือ ปาร์คยังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดร็อปลงไปพอสมควรจากปีก่อนหน้า เขาพีคสุดๆก็ในซีซั่นที่เราคว้าแชมป์ยุโรปที่มอสโก แต่พอเขาถูกตัดชื่อออกไปจากเกม ก็ดูจะดาวน์ลงไปอย่างเห็นได้ชัด มีเร่งขึ้นได้บ้างในบางเกม แต่ช่วงปลายซีซั่นที่แล้วนี่ดูออกเลยว่าปาร์คดร็อปไปเยอะ แถมความเร็วก็ดูจะตื้อๆไปจากเกิมอีก ถึงแม้ว่าปาร์คจะเป็นมิดฟิลด์ริมเส้นอยู่แล้ว แต่สำหรับเขาก็ไม่ใช่ปีกธรรมชาตินะครับ เกมที่เหมาะสำหรับปาร์ค ส่วนใหญ่จึงเป็นเกมที่เน้นการใช้งานเขาในลักษณะมิดฟิลด์ริมเส้น มิใช่ปีกธรรมชาติ จุดอ่อนหลักๆสองจุดที่พบในกองกลางวันนี้ นอกจากจะเป็นจุดที่ฆ่าตัวเองเพราะเราเป็นทีมที่เล่นเกมโจมตีด้วยปีกเป็นหลัก มันยังเท่ากับไปโหลดงานให้คาร์ริคกับกิ๊กส์ ที่พื้นที่ก็มีน้อยมากๆอยู่แล้ว ให้ยิ่งต้องเจองานยากขึ้นไปอีก

เบิร์นลีย์ของโอเว่น คอยล์ มาแบบรู้ตัวเองครับ แรกๆอาจจะเกร็งไปบ้าง เมื่อต้องเจอกับแชมป์เก่าแต่พอผ่านไปสักพัก เมื่อเห็นว่ายูไนเต็ดนั้นไม่ได้น่าเกรงกลัวเท่าไหร่ในวันนี้ เด็กๆของคอยล์ก็เริ่มแสดงให้เห็นว่า การจะบุกมาเหยียบเทิร์ฟ มัวร์ แล้วมาควักสามแต้มไปง่ายๆ ด้วยการส่งนักเตะแบบกึ่งๆประมาทแบบนี้ มันดูจะง่ายเกินไปหน่อย เด็กๆของคอยล์จึงเริ่มตั้งเกมตัวเองขึ้นมาได้ แล้วปิดเกมรุกของยูไนเต็ดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมเล่นไปเล่นไป กลายเป็นเหมือนว่าคอยล์ส่งลงมาสิบสองสิบสามคนเลย มองไปทางไหนก็เจอแต่เบอร์นลีย์ครับ เต็มไปหมด คอยล์นั้นไม่เลือกแผนกับดักล้ำหน้า หรือแผนชิงจังหวะมาเล่น แต่เลือกเน้นคุมโซนรับลึก ตังกำแพงสองชั้น มีกองกลางเป็นด่านแรก และกองหลังเป็นด่านที่สอง ต่างคนต่างวิ่งต่างไล่ช่วยกันในพื้นที่ขงตัวเองอย่างสุดความสามารถ และนั่นทำให้เกมของยูไนเต็ดมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง เมื่อหันไปทางไหนก็เจอแต่นักเตะเบิร์นลีย์

ไมเคิล โอเว่น ไม่มีโอกาสสลัดหลุดได้มากนัก เมื่อถูกคุมปิดพื้นที่แน่นหนา รูนี่ย์เองเมื่อเข้าไปในกรอบก็ถูกประกบติดเช่นกัน จนต้องถอยออกมาล้วงบอลนอกกรอบห่างๆหลายต่อหลายครั้ง แม้แต่โอเว่นเองก็ยังต้องถอยลงมาบ่อยๆ แสดงให้เห็นค่อนข้างชัดว่า เกมในกรอบนั้น บอลไปไม่ถึงเท้ากองหน้า และการสนับสนุนจากปีก จากกองกลางก็เข้าไม่ถึงกรอบโทษเท่าไหร่นัก เมื่อเกมรุกจากปีกซ้ายเป็นแอนนี่ เอวร่าก็พบงานหนัก เพราะการขึ้นเกมรุกของเอวร่าปกติจะอาศัยปีกเป็นตัวประสานและต่อบอล แต่แอนนี่ยังไม่เคยจูนตรงนั้นกันมาก่อน การประสานงานทางซ้ายจึงไม่เกิด เหมือนต่างคนต่างเล่นเกมของตัวเอง ป้ายบอลกันไปมาเท่านั้น สุดท้ายก็มาหากลางสนาม ส่วนทางขวา โอเชขึ้นเติมนับครั้งได้ ส่วนใหญ่ต้องคอยช่วยซ้อนลูกสาดยาวของเบิร์นลี่ย์อยู่ข้างหลัง ก็ทำให้ปาร์คที่ยังออฟฟอร์มอยู่ ไปด้วยตัวเองไม่ได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้ทำให้เกมริมเส้นค่อนของเราข้างตายด้านครับ หมดสมรรถภาพไปเลย

ส่วนเกมรุกตรงกลาง เมื่อเกมริมเส้นไม่ทำงานและถูกปิดได้ง่ายๆแบบนั้น น้ำหนักเกมรุกจึงต้องถูกเทมาตรงกลางเต็มที่ ซึ่งก็จะเจอแนวรับคุมโซนเพรสซิ่งสองชั้นของเจ้าบ้านไล่กดดันให้คายบอลเร็ว ซึ่งออกบอลในลักษณะนั้นในวันที่การประสานงานของทีมยังไม่ดี ในวันที่ทีมเวิร์คยังไม่เข้าที่ ก็เท่ากับเป็นการออกบอลเสี่ยง และสุดท้ายการเสียบอลง่ายๆก็เกิดขึ้นบ่อย เมื่อโดนสวนด้วยลูกวางยาวขึ้นหน้า เอแวนส์ กับบราวน์ที่ยังไม่เต็มร้อยและน่าจะยังมีอาการเจ็บรบกวนแต่ผ่านทดสอบความฟิตมาได้ เมื่อทั้งคู่ถูกกดดันมากๆเข้าก็เกิดอาการเสียทรงครับ บอลแบบนี้ถ้าร่างกายไม่เต็มร้อย ความมั่นใจก็ถดถอยเป็นธรรมดา และจะส่งผลมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ตรงนี้ทำให้โอเชไม่กล้าเติมสูงบ่อยๆและต้องอยู่ช่วยซ้อนแทบตลอด

ลูกที่เสียประตูก็มาจากลักษณะนี้ บอมบ์เข้าไปเถอะ บอมบ์เข้าไป คู่เซ็นเตอร์เรามีปัญหา สุดท้ายเดี๋ยวก็เป๋ และก็เริ่มเป๋ได้เร็วแต่หัววันด้วยครับ การหลงตำแหน่งยืนคุมคน การปล่อยให้มีตัวว่างๆหลุดเข้ามาในกรอบเกิดขึ้นหลายครั้ง เห็นได้เรื่อยๆเวลาเขาบอมบ์เข้ามา การเคลียร์ลูกอันตรายก็ไม่ค่อยไม่เด็ดขาด และเก็บจังหวะสองหน้ากรอบตัวเองไม่ค่อยได้ นั่นคือที่มาของประตูที่เสียไป แต่ก็ต้องชมเด็กของคอยล์ด้วย ที่รู้จักใช้จุดแข็งตัวเองอย่างเต็มที่ รู้จักเจาะจุดอ่อนอย่างถูกต้อง และอดทนรอ เล่นอย่างมีวินัย ล้มแล้วลุกทันที เข้าหาบอลด้วยความมุ่งมั่น รวดเร็วกว่ายูไนเต็ดอยู่ครึ่งสเต็ปตลอดทั้งเก้าสิบนาที

เกมนี้นอกจากจะต้องชมเบิร์นลีย์ที่ทำตามแผนตัวเองได้ดีมากๆแล้ว ก็ต้องตำหนิทีมเราเองด้วยที่เล่นด้วยความมุ่งมั่นที่ดูจะต่ำกว่าปกติไปมาก รวมทั้งการประสานงานแบบเหมือนไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน รวมทั้งท่านเซอร์เองที่อาจจะติดประมาทในการจัดทัพหรือเปล่า โอเคว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับนักเตะตัวหลักหลายๆราย เป็นสาเหตุสำคัญที่เราไม่สามารถเลือกผู้เล่นทีดีที่สุด หรือแม้แต่ดีรองลงมาได้เต็มที่นัก ตรงนี้ผมทำใจยอมรับได้ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยทัพนักเตะที่ยังเหลือ ผมเองคิดว่าท่านเซอร์น่าจะจัดได้ลงตัวกว่านี้ อันนี้ไม่ใช่พอเห็นว่าทีมแพ้แล้วมาพูดอวดเก่งนะครับ แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆตั้งแต่เห็นแอนนี่ลงมายืนปีกซ้ายแล้ว คือตอนเห็นรายชื่อ ผมยังนึกว่ากิ๊กส์จะเล่นปีก ดันกลายเป็นแอนนี่ซะงั้น

คือท่านเซอร์อาจจะคิดว่าแค่ชุดนี้ก็น่าจะรับมือน้องใหม่อยู่ (เหมือนเกมแรก) อันนี้ผมก็ไม่กล้าฟันธง เพราะมันเหมือนจะประมาทไปหน่อย แต่ผมเองก็คิดว่า ด้วยศักยภาพที่เรามี เราน่าจะจัดอะไรที่ลงตัวกว่านี้ได้ โอเคแผงหลังอาจจะเป็นชุดนี้ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง แต่แผงกลางมันก็น่าจะให้ลงตัวกว่านี้ คาร์ริคอาจจะคู่เฟล็ทเชอร์ก่อน เอากิ๊กส์เล่นกราบซ้ายตามถนัด ส่วนขวาให้วาเลนเซียเล่นไปก่อน หรือไม่ก็เป็นปาร์คอย่างเดิมก็ได้ สโคลส์, แอนนี่, เบิร์บ, วาเลนเซีย(ถ้าไม่ได้เริ่ม) ก็น่าจะเป็นตัวพลิกเกมที่ดีได้ หากจำเป็น แต่การเริ่มต้นด้วยชุดอย่างเมื่อคืนนี้ มันเท่ากับตัดเกมรุกทางปีกของตัวเองไปเลยหนึ่งข้าง ถ้าป๋าไม่แน่ใจว่าให้กิ๊กส์ยืนปีกจะไหวหรือไม่ ก็สามารถดันเอาเอวร่าไปยืนปีกเหมือนที่เคยดันหลายๆครั้งที่ผ่านมาก็ได้ เพราะมันเคยทำแล้ว ไม่เหมือนแอนนี่ ส่วนแบ๊กซ้ายฟาบิโอก็ยังอยู่ เท่ากับเกมรุกทางปีกซ้ายเราสามารถกดดันเจ้าบ้านได้ดีขึ้นแน่ๆ

การวางแอนนี่ยืนริมเส้นคนละฟากกับปาร์ค อาจะเป็นการเสี่ยงเดิมพันของป๋าก็ได้ในอีกมุมมองหนึ่ง นั่นคือการพยายามยึดครองเกมตรงกลางสนามเอาไว้ให้ได้เบ็ดเสร็จด้วยนักเตะตรงกลางสองคนที่มีทักษะดี ครองบอลเหนียวแน่น กับพวกที่ขยัน วิ่งขึ้นลงเป็นม้าอย่างแอนนี่กับปาร์ค แต่ทีมที่เชี่ยวชาญเวทีแชมเปี้ยนชิพมาก่อน เขาก็มีทางเลือกที่จะหนีเกมตรงกลางเหมือนกัน ถ้าเขาครองเกมสู้ไม่ได้ และนั่นน่าจะเป็นงานถนัดของเขาด้วย กับการเล่นไดเรกต์ฟุตบอลแบบนี้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ฝากบอลขึ้นหน้าอย่างเดียว ถ้าเสียก็ตั้งไลน์รับป้องกันให้ดี แย่งได้ก็ฝากบอลยาวขึ้นหน้า ฟังเหมือนง่ายๆแต่ได้ผลชะงัดทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อคู่เซ็นเตอร์ของเราไม่พร้อมเต็มที่แบบวันนี้

กิ๊กส์นั้นผมยอมรับว่าทำหน้าที่ในเกมนี้ได้ค่อนข้างดี เมื่อมีส่วนร่วมในการตัดเกมบ่อยครั้ง แทบจะมากกว่าคาร์ริคเสียอีกที่ลงไปล้วงบอลมาจากคู่ต่อสู้ แต่การพาบอลขึ้นหน้ากลับหาเพื่อนจ่ายไม่ค่อยได้ เพราะแนวรับเจ้าบ้านลงไปตั้งไลน์กันเร็วเหลือเกิน มีเพียงรูนี่ย์ที่วิ่งม้าขึ้นลงหาบอลอยู่คนเดียว นี่คือข้อเสียของการตัดการจู่โจมจากปีกออกไปครับ เมื่อปีกไม่ฉีกตัวเองออกไป (ปาร์คนั้นอาจจะเป็นเพราะไม่ใช่ปีกแท้ๆก็ได้) การจะวางบอลฉีกแนวหลังก็ทำได้ยาก คุณก็ต้องขึ้นบอลตามไลน์เป็นทอดๆ นั่นก็เท่ากับให้เวลาคู่ต่อสู้ได้ตั้งหลักลงมาจัดระเบียบแผงหลังได้ทันนั่นเอง

การจะปรับแผนในช่วงครึ่งชั่วโมงหลัง จึงดูเหมือนเป็นอะไรที่สายเกินไป เพราะเราไม่ได้เล่นด้วยสิ่งที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่แรก การเอาแอนนี่ออกจึงเหมือนการลงโทษเขาแบบผิดๆไปในตัว ที่เอาเขามายืนในจุดที่ไม่สามารถรีดศักยภาพตัวเองได้มากนัก และสุดท้ายก็เล่นได้ไม่สมกับที่คาดหวัง เมื่อวาเลนเซียลงมา เขาก็สามารถปั่นป่วนเกมรับเจ้าบ้านได้มากขึ้นทันที การฉีกตัวเองหาตำแหน่งรับบอลในสไตล์ปีกแท้ๆของเขา ทำให้การให้บอลทางกว้างดูง่ายขึ้น และสามารถถ่างแนวรับ ดึงโซนให้ขยายอกมาได้มากขึ้น อันทำให้เรามีโอกาสที่จะสอดแทรกเข้าไปเล่นในกรอบได้มากขึ้นในช่วงท้ายเกม แต่วาเลนเซียก็ยังต้องเล่นคนเดียว เมื่อยังไม่สามารถจูนโอเช จูนแกรี่ที่ลงมาใหม่ได้ดีนัก ทำให้ต้องเล่นด้วยตัวคนเดียวเหมือนเดิม การที่แกรี่ถูกเปลี่ยนลงมาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บราวน์นั้นยังมีปัญหา ยังไม่เต็มที่เท่าที่ควร และตลอดเกมบราวน์ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งกะจังหวะไม่เด็ดขาด อ่านทางบอลยังไม่ขาด รวมทั้งการตัดสินใจที่ยังไม่ดีนัก อันแสดงให้เห็นถึงการลงเล่นแบบมีกังวล จนทำให้ไม่สามารถเล่นด้วยความมั่นใจได้เหมือนเคย

เมื่อแกรี่ลงมา ก็ต้องปรับเกมแผงหลังอีกกระทอก หุบโอเชเข้าไปเซ็นเตอร์ เอาแกรี่มาเล่นแบ๊คขวา งานเข้าวาเลนเซียอีกแล้ว กะโอเชยังจูนไม่ค่อยติด เจอแกรี่เข้าไปอีก ตายกันพอดี ส่วนแดนหน้า การถอดโอเว่นคงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรนัก เมื่อเจ้าตัวคงไม่สามารถยืนระยะเล่นได้นานๆอยู่แล้ว กับการเปลี่ยนเบิร์บลงมา ก็เท่ากับว่าเราปรับโหมดการโจมตีมาเป็นการเล่นดึงจังหวะ ดึงกองหลัง มากกว่าที่จะเล่นโจมตีด้วยความเร็วตรงๆเหมือนทีแรก ซึ่งการเล่นดึงจังหวะแบบนี้ อาจจะไม่เหมาะนักกับเกมที่ตามหลังอยู่แบบนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ยังดีที่มีวาเลนเซียมาช่วยดึงกองหลังไปทางกว้างได้ จึงเกิดช่องขึ้นพอสมควรแถวๆหน้ากรอบโทษให้ได้เล่นกันจนเกือบทำประตูได้ อ้อ...นี่ผมไม่ได้พูดถึงลูกโทษของคาร์ริคใช่ไหมครับ ก็ไม่ได้อยากจะตำหนิอะไรมาก มันก็แค่อีกความโชคร้ายที่ดันมาเกิดพร้อมๆกันในวันเดียวกันก็เท่านั้น ดีเสียอีกครับ ใช้เคราะห์ร้ายให้หมดในเกมเดียวไปเลย เกมหน้าจะได้ตั้งต้นกันใหม่ ไม่ต้องมีเคราะห์ร้ายอะไรมารบกวนอีก

คาร์ริคนั้น ตั้งแต่ถูกม่านควันเมดอินสแปนิชอำพรางไปจากเกมที่กรุงโรมเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมสังเกตเห็นว่าเขาดร็อปไปเยอะเลย ตั้งแต่ปรีซีซั่น ลากยาวมาจนถึงคอมมูนิตี้ชิลด์ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเสียความมั่นใจไปหรือเปล่านะ แต่ดูเหมือนเขาจะเนือยๆลงไป สีหน้าแววตาก็ดูลดความมั่นใจไปเยอะ ยิ่งตอนยิงจุดโทษก็ทำหน้าปูเลี่ยนๆยังไงไม่ทราบ หวังว่าเฮียจะรีเทิร์นกลับมาได้เร็วๆนะครับ เพราะดูแล้วนัดนี้ คนที่หมดจริงๆก็น่าจะมีแค่รูนี่ย์คนเดียวแหละ คนอื่นน่าจะยังไขก๊อกตัวเองไม่หมดหรอก เล่นกันซะทำเอาผมส่ายหัวทุกห้านาทีแบบนี้ เฮ้อ...

หวังว่าจบจากนัดนี้ ป๋าจะจัดการไดร์ผมให้ทุกๆคนอย่างเท่าเทียมกัน และอาจจะมีการทำโทษภายในกันบ้างเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้ตั้งสติกันได้เสียที ผมเชื่อว่า การพ่ายแพ้นัดนี้ คนที่เซ็งที่สุดก็คงไม่พ้นนักเตะเอง ที่หลายคนมีดีกรีแชมป์ยุโรปพ่วงท้าย หลายคนมีดีกรีแชมป์เก่าพ่วงท้าย แต่กลับเล่นไม่สมราคาจนพ่ายแพ้แบบน่าขายหน้าแบบนี้ เราคนเชียร์ก็คงทำได้แค่ภาวนาให้ป๋ารีบๆจัดการลบฝันร้ายนี้ออกไปให้ได้เร็วที่สุด และตั้งหลัก รวบรวมแรงใจ รวบรวมสมาธิ ความมุ่งมั่น ความกระหาย ให้กลับมาได้แบบเต็มภาคภูมิ สมศักดิ์ศรีแชมป์เก่ากันในเกมหน้า ที่ต้องไปเยือนวีแกนในวันเสาร์นี้เลยนะครับ ไม่งั้นงานเข้าแน่ เพราะนัดถัดไปคือต้อนรับปืนใหญ่ครับ


แล้วมาลุ้นกันนะครับ

สงบใจ




Create Date : 20 สิงหาคม 2552
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 10:33:16 น. 0 comments
Counter : 481 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.