|
|
| | 1 | 2 |
| 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
| 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
| 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
| 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
20080225 วิพากษ์ Newcastle vs Man UTD.
อรุณสวัสดิ์ วันฟ้าใสอีกวันนะครับ หวังว่าทุกๆท่านคงมีกำลังใจติดตามเชียร์ทีมรักของเรากันมากขึ้น หลังจากผ่านพ้นคืนวันเสาร์ต่อเช้าวันอาทิตย์มานะครับ เมื่อทีมรักของเรา ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาอีกนัด ถล่มสาลิกาดงคาบ้านถึง 5:1 และทำแต้มจ่อปืนใหญ่เหลือแค่สามแต้ม ทำให้สถานการณ์กลับมาห่างกันแค่นัดเดียวอีกครั้ง
เมื่อแรกเห็นรายชื่อทีมชีต ก็ให้หวั่นในใจอยู่ลึกๆเหมือนกัน ว่าทำไมป๋าจึงจัดทัพกั๊กๆในแดนกลางอีกแล้วในนัดนี้ โดยให้ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และไมเคิล คาร์ริค ลงมายืนคู่กันตรงกลางสนาม แต่แนวรุก ยังคงไว้วางใจนานี่ต่อไปอีกนัด โดยให้ยืนทางกราบซ้าย และใช้โรนัลโด้ทางกราบขวา คู่กองหน้าก็เป็นรูนี่ย์ และเตเวซ โดยทีมชีตเราจะมีแพลนนิ่งการยืนเป็น 4-4-2 ดังนี้
รูนี่ย์ เตเวซ
นานี่ คาร์ริค เฟล็ทเชอร์ โรนัลโด้
เอวร่า วิดิช ริโอ บราวน์
ซาร์
ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น กลับไม่มีโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ที่ยังไม่สมบูรณ์จากการลงแข่งเนชั่นส์ คัพ ไร้เงาวิดูก้าอีกคน แต่ก็ได้ตัวหลักหลายคนกลับมายืนในเกมนี้ทัน โดยแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ โอเว่น และ สมิธ เป็นหน้าคู่ โดยการทำเกมทางกราบเป็นหลักของดัฟฟ์ และมิลเนอร์
แต่ผมเองหลังจากที่ได้เห็นฟอร์มของนิวคาสเซิลไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ตอนพบกับเราในนัดแรกนั้น ก็ยังพอมั่นใจได้นิดหน่อยว่า ท่านเซอร์ คงจัดทัพตามแท็คติคที่ตัวเองมั่นใจ และคงไม่ทิ้งโอกาสเก็บแต้มไล่บี้จ่าฝูงแน่ๆ หลังจากจ่าฝูงทำแต้มหลุดไปสองแต้มไม่กี่ชั่วโมงก่อนเราจะเตะ
เมื่อเริ่มเกม ก็เป็นไปตามคาดครับ นิวคาสเซิลเปิดเกมบุกตามสไตล์คีแกนทันที และทำให้ช่วงแรก แมนฯยูไนเต็ด ก็ต้องถอยไปตั้งรับ พลางหาจังหวะสวนแทน เกมยังคงแลกกันอย่างสนุก ทั้งสองทีมต่างใช้เกมรุกที่มีสปีดสูงเข้าแลกกันตลอดเวลาชนิดใครดีใครอยู่ แต่ยังไม่สามารถเปิดแผลแนวรับของอีกฝ่ายได้ ยูไนเต็ด ครองเกมไม่ค่อยได้ ในช่วงแรกๆ เมื่อนักเตะสาลิกาไล่บอลเร็ว บีบพื้นที่เร็วตลอด ทำให้ต้องคายบอลเร็ว และนั่นก็คือการลดความแม่นยำในการออกบอลลงไป แต่พอผ่านพ้นช่วงสิบห้านาทีแรกไปแล้ว ยูไนเต็ดก็ค่อยๆตั้งลำได้ และเริ่มครองเกมกดดันเจ้าถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่โอกาสจากคู่กองหน้ายังไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนัก
นานี่ เริ่มที่จะโชว์ฟอร์มดีได้ติดต่อกันหลายนัดแล้ว และนัดนี้ ก็สามารถปั่นป่วนแนวรับสาลิกาได้ตั้งแต่เริ่มเกมทีเดียว เพียงแต่ยังต่อเกมกันไม่สุดเท่านั้น กลับกัน โรนัลโด้เองกลับยังไม่สามารถแสดงศักยภาพได้มากนักทางกราบขวา ในช่วงแรกๆ ออกจะเงียบๆไปหน่อย จนทั้งคู่สลับฟากกันยืน จึงเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้น และก็เป็นที่มาของประตูแรก หลังจากเริ่มกดดันเจ้าถิ่นได้มากขึ้น ยูไนเต็ดก็มาได้ประตูจากความผิดพลาดของแผงหลังสาลิกา โรนัลโด้ล็อคดึงจังหวะทางกราบซ้าย ก่อนเปิดเข้ามาเสาสองให้รูนี่ย์ที่แอบสอดมาจากข้างหลังตัวประกบ แปโล่งๆตุงตาข่าย
หลังจากได้ประตูแรก เกมของเจ้าบ้านก็กลับมาโหมอีกครั้ง แต่ยูไนเต็ดนั้นครองเกมได้มากขึ้นอยู่แล้ว และแผงกองกลางก็ไม่ลอยขึ้นมาสูงมากนัก จะทิ้งตัวห้อยหน้าแผงหลังตัวหนึ่งแทบตลอด ทำให้การขึ้นเกมของนิวคาสเซิล ยังคงไปไม่ถึงคู่กองหน้า เกมรุกของสาลิกา เนื่องจากปีกมีความเร็วและคล่องตัว อีกทั้งมิดฟิลด์ยูไนเต็ด ยืนคุมเกมตรงกลางได้ดี ไล่บอลตลอด ทำให้การขึ้นเกมรุกของสาลิกาใช้ปีกอย่างดัฟฟ์และมิลเนอร์เป็นหลัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะคู่เซ็นเตอร์ยูไนเต็ด ยังตามประกบโอเว่นและสมิธได้ดี
เกมยังคงแลกหมัดกันอย่างดุเดือด แต่นิวคาสเซิลเสียเปรียบกว่าตรงที่ใช้ผู้เล่นในการขึ้นเกมเยอะกว่า ทำให้เวลาโดนสวนกลับ จะเหลือตัวรับน้อย และเสี่ยงต่อการโดนยิงเพิ่มตลอด สุดท้ายก็โดนจนได้ ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เมื่อคาร์ริคสบโอกาส แทงบอลทะลุช่องเซ็นเตอร์ในจังหวะสวนกลับให้โรนัลโด้วิ่งฉีกเซ็นเตอร์ไปรับบอลก่อนจะแปหนีมือกิฟเว่นเข้าไปเป็นประตูที่สอง ที่ทำให้ยูไนเต็ดเล่นในครึ่งหลังได้สบายขึ้นมาก
ยูไนเต็ดมีการเปลี่ยนตัวก่อนลงสนามในครึ่งหลัง เมื่อให้โอเช ลงมาแทนเอวร่า โดยหลังเกมท่านเซอร์ให้เหตุผลว่า เอวร่ามีอาการไม่ค่อยดีนิดหน่อย เขาจึงไม่เสี่ยง และให้โอเชลงมาแทน ตรงนี้ ยิ่งทำให้เกมรุกทางกราบของสาลิกา ที่หวังขึ้นเกมสวนการเติมของฟูลแบ๊คด้านนี้ ต้องลำบากขึ้นอีกมาก เพราะโอเชไม่ค่อยเติมเกมขึ้นมาเลย และมักจะปักหลักเล่นเกมรับหน้ากรอบด้วยซ้ำ
เกมก็ยังคงเป็นการเล่นเกมรุกด้วยสปีดเกมที่เร็วมากของทั้งสองทีม โดยการครองบอลส่วนใหญ่เป็นของยูไนเต็ด แต่นิวคาสเซิลก็มีโอกาสสวนจากทางกราบสวยๆอยู่ไม่น้อย และสามารถจบด้วยการยิงได้หลายครั้งจากดัฟฟ์ และมิลเนอร์ แต่แผงหลังยูไนเต็ดยังตามสกัดได้ตลอด และน้าซาร์เองก็ยังโชว์ฟอร์มหนึบ เซฟสวยๆหลายลูกด้วย เลยยังทำให้สกอร์ไม่ขยับ ส่วนทางด้านยูไนเต็ด เตเวซ กับรูนี่ย์ ยังคงสลับกันสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับเจ้าบ้านอยู่ตลอดและการลากเลื้อยและเปิดบอลของนานี่ ก็สร้างปัญหาอย่างหนักให้คู่เซ็นเตอร์ของเจ้าบ้านตลอด
ผู้มาเยือนมาหนีไปอีกลูกได้สำเร็จก่อนครบชั่วโมงของเกม เมื่อแผงหลังของนิวคาสเซิลเล่นพลาด บอลปลิ้นกลับมาเข้าทางโรนัลโด้ ลากเข้าไปดึงหลบฮาร์เปอร์ ที่ลงมาแทนกิฟเว่นแล้วยิงเข้าไปเป็นประตูนำสามศูนย์ คีแกนขยับทันที ส่งดาวรุ่งอย่างคาร์โรลลงมาแทนบาร์ตัน ที่วันนี้แทบไม่เห็นหน้าเลย ในขณะที่ท่านเซอร์ก็ถอดวิดิชออกมาพัก ส่งสโคลส์ลงมาแทน และเอาซาฮาลงมาแทนโรนัลโด้ เพื่อเก็บแรงไว้นัดหน้า แต่แล้วเมื่อเวลาเดินมาถึงแปดสิบนาที นิวคาสเซิลก็ตีไข่แตกได้จากจังหวะเตะมุม ที่ฟายซ้ำลูกกระดอนหน้าประตูเข้าไปง่ายๆ ส่งให้นิวคาสเซิลมีกำลังใจขึ้นมาทันที และเสียงเชียร์จากทูนอาร์มี่ ก็กระหึ่มขึ้นมาทันใด
แต่ทันใดนั้น ยูไนเต็ดก็มาฉีกหนีไปอีกอย่างรวดเร็ว จากการเก็บตกแถวสองของรูนี่ย์ บริเวณหน้ากรอบโทษทางซ้าย ก่อนจะปั่นไซด์หนีมือฮาร์เปอร์ ส่งบอลเสียบตาข่ายเสาสองอย่างสุดสวย ทำให้นักเตะนิวคาสเซิลแทบไม่เชื่อสายตา ว่าจะโดนเอาคืนเร็วขนาดนี้ หลังจากเพิ่งได้ประตูตีตื้นแค่นาทีเดียวเท่านั้น คีแกนขยับอีกครั้งด้วยการส่งเฌเรมี่ ลงมาแทนมิลเนอร์ ซึ่งผมเองยังแปลกๆใจ ว่าทำไมเอามิลเนอร์ที่เป็นตัวป่วนแผงรับของยูไนเต็ดได้ดีมากออกไป อาจจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บก็ได้ ตรงนี้ ยิ่งทำให้เกมทางกราบในช่วงท้ายๆของนิวคาสเซิลยิ่งลำบากเข้าไปอีก
แล้วในที่สุด ซาฮาก็มายิงประตูได้สำเร็จ จากการสอดเข้าไปยิงหน้าประตูในช่วงทดเจ็บ ทำให้ยูไนเต็ดบุกมาคว้าชัยชนะที่ต้องการได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ท่วมท้น 5:1 และเก็บสามแต้ม ไล่จี้อาร์เซนอลเหลือแค่สามแต้มเท่านั้นในตอนนี้
สำหรับเกมนี้ คงบอกได้แค่ว่า นิวคาสเซิลก็ยังคงโชคร้ายอยู่ตลอด จากการที่นักเตะดีๆ บาดเจ็บเข้าโรงหมอกันอยู่เรื่อยๆ จนมีคำพูดว่า โค้ชนิวคาสเซิล ไม่เคยได้จัดทัพที่ดีที่สุดเลยแม้แต่นัดเดียว เพราะต้องมีนักเตะตัวหลัก เข้าไปนอนในโรงพยาบาลอยู่ตลอด และนัดนี้ก็เช่นกัน มาร์ตินส์ ยังไม่สมบูรณ์ เอมเร่ กับ วิดูก้า หรือ อเมโอบี้ก็ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนไหนจะมี สตีเฟ่น คาร์ กับโรเซห์นาห์ล อีกล่ะ ตรงนี้ครับ ที่ทำให้ผลงานของสาลิกาดง ไม่โลดแล่นซักที น่าเห็นใจโค้ชอยู่เหมือนกัน ที่ไม่เคยได้ผู้เล่นที่ดีที่สุด ลงสนามอย่างพร้อมเพรียงกันเสียที
ส่วนยูไนเต็ด การพบกับสาลิกา ที่ไม่ฟูลทีม แถมเป็นทีมที่เน้นการเล่นเกมรุกเต็มที่อย่างนี้ มันก็เหมือนเกมที่เข้าทางกันอยู่แล้ว นักเตะของยูไนเต็ด มักเล่นได้ดีในเกมที่มีพื้นที่เปิดเช่นนี้ และการเล่นเกมเร็วแลกหมัดกัน ก็ยิ่งทำให้บรรดาตัวรุกสี่คนของเรา เล่นได้ง่ายขึ้น เตเวซอาจไม่ได้ยิงก็จริง แต่การวิ่ง การทำทางของเขา เปิดพื้นที่ให้เพื่อนๆได้สอดเข้ามาทำบ่อยมากเหลือเกิน ตรงนี้ ท่านเซอร์เองยังออกปากชมว่า การดึงผู้เล่นขแงเตเวซ ช่วยทีมได้มากจริงๆ ส่วนรูนี่ย์ กลับมายิงในนัดนี้อีกนัด ทำให้เพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น เกมนี้ เนื่องจากเป็นเกมที่เปิดเข้าทางเราพอดี รูปเกมจึงยังคงไม่สามารถบอกได้เต็มร้อย ว่าเราเล่นได้สุดยอด เพราะหากเกมปิด รูปเกมก็คงเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้รับจากนัดนี้ คือความมั่นใจครับ ที่จะส่งให้เราไล่ล่าแชมป์อย่างกระหายมากขึ้น
ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และนานี่ พัฒนาการเล่นของตัวเองขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งแล้ว การเติมเกม การสอดประสานกับเพื่อน การเปิดป้อนบอล ทั้งคู่ทำให้เห็นแล้วว่า ดีขึ้นมาอีกสเต็ปจากช่วงต้นฤดูกาล ยิ่งเฟล็ทเชอร์ด้วยแล้ว เขาโชว์ฟอร์มดีให้เห็นติดต่อกันมาสองสามนัดแล้ว ทั้งการเติมเกมขึ้นมา การสอดเข้ามายิง หรือการฉีกออกไปเล่นทางกราบสลับกับปีก ทำได้ดีขึ้นมาก คาร์ริคเองก็สลัดฟอร์มบู่นัดเจอลียงออกไปได้หมด มีลูกจ่ายสวยๆ รวมทั้งลูกจ่ายทะลุให้โรนัลโด้เข้าไปยิงประตูที่สอง ถือว่าคมจริงๆ
นัดนี้ การที่เราสามารถเลือกที่จะพักเอวร่า กับวิดิช ที่ท่านเซอร์บอกว่า เห็นว่ามีอาการไม่ดีนิดหน่อย ยิ่งทำให้ทีมเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อยลงเยอะ ซาฮาก็ยิงเรียกความมั่นใจกลับมาได้แล้ว นัดนี้น่าจะมีสองลูกด้วยซ้ำไป ถ้าฮาร์เปอร์ไม่ปัดออกไปลูกหนึ่งก่อน ปัญหาที่น่าจะมีก็คือในฤดูกาลหน้า บราวน์ที่ไม่ยอมต่อสัญญา กับแกรี่ ที่การกลับมายังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ ซิมป์สันที่ไม่ค่อยได้รับโอกาส และฟูลแบ๊คพี่น้องบราซิลเลียน ที่ยังไม่เคยเล่นร่วมทีมสักนัด ทั้งหมดนี้คือผู้ที่มีสิทธิ์ลงมาเล่นเป็นฟูลแบ๊คด้านขวาในซีซั่นหน้า ซึ่งจะฝากผีฝากไข้ได้แค่ไหนก็ยังไม่ทราบ ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไป
เกมนี้ ผู้ที่เล่นได้โดดเด่นจริงๆ ผมยกให้ทั้งรูนี่ย์ และโรนัลโด้ ที่ยิงสองประตูทั้งคู่ โรนัลโด้ที่เงียบๆมาตลอดช่วงต้นครึ่งแรก พอสบโอกาส ก็สามารถแผลงฤทธิ์ได้ทันที และยังเปิดให้รูนี่ย์ได้ยิงประตูแรกอีกต่างหาก ส่วนนานี่ หลังจากตกปากรับคำท่านเซอร์ ว่าจะไม่เล่นโชว์เกินความจำเป็น ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีติดๆกันอีกนัดหนึ่ง น้าซาร์ก็ยังคงเหนียวแน่น ไว้ใจได้ ส่วนทางด้านนิวคาสเซิล ผมยกให้ดัฟฟ์ และมิลเนอร์ ที่ปั่นป่วนทางกราบได้ดีครับ เบย์ ก็เล่นได้ดี ถึงแม้จะพลาดบ้าง แต่สามารถสกัดกั้นจังหวะสุดท้ายได้หลายลูก ที่สำคัญ กิฟเว่น และฮาร์เปอร์ ถ้าไม่มีซูเปอร์เซฟหลายๆช็อต คงมีประตูมากกว่านี้แน่นอนครับ
มามองไปข้างหน้ากันบ้าง กับเกมที่รอให้เล่นกันในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า นั่นก็คือ การออกไปเยือน คราเว่น ค็อทเทจ ของฟูแล่มในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคมนี้ ก่อนจะ เปิดบ้านรับมือ โอลิมปิค ลียง ในคืนวันอังคารที่ 4 มีนาคม จากนั้น เปิดบ้านอีกครั้งรับมือ ปอร์ทสมัธ ในศึก เอฟ เอ คัพ รอบ แปดทีมสุดท้ายในวันเสารที่ 8 มีนาคม ซึ่งทำให้เกมพรีเมียร์ ลีก ที่ต้องเปิดบ้านรับมือโบลตัน ในวันที่ 9 ต้องถูกเลื่อนไปนะครับ จากโปรแกรม ดูเหมือนว่า จะง่าย แต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว กับฟูแล่มก็ต้องไปเยือนในขณะที่มีเกมรับมือลียงรออยู่กลางสัปดาห์ หากเผลอไผล สมาธิหลุดไป อาจสะดุดได้ง่ายๆครับ และหลังจากลียง เราจะเจอเกมหนักกับปอมปีย์ในบอลถ้วยต่อทันที ซึ่งอย่างไรก็ตาม บอลนัดเดียวนี่เล่นยากครับ โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่ทราบนะ ที่ปอร์ทสมัธขาด เบนจานี่ แต่ได้รับ เดโฟ มาแทน ทั้งคู่ก็มีสถิติยิงแมนฯยูฯ เหมือนๆกัน เพียงแต่ระยะหลัง เบนจานี่ ดูจะถูกโฉลกกับยูไนเต็ดซะเหลือเกิน โชคดีแล้วครับ ที่เบนจานี่ไม่อยู่ซะแล้ว
ผลจะเป็นอย่างไร ก็ติดตามลุ้นกันยาวๆนะครับผม
| Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551 |
| Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 9:39:41 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 534 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: นายแจม  วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:12:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [