Bloggang.com : สงบใจ : 20090225 วิพากษ์ INTER MILAN vs MAN UNITED

20090225 วิพากษ์ INTER MILAN vs MAN UNITED

นัดนี้ถ้าจะมีผี...ก็คงเป็นผีเซซาร์นี่แหละมั้ง

สวัสดีครับ มาพบกันหลังค่ำคืนห่งเกมยุโรปอีกครั้ง หลังจากพักไปร่วมๆสองเดือน กลับมาคราวนี้ อินเตอร์ มิลานก็แข็งแกร่งปึ้กปั้กกว่าเมื่อคราววันจับสลากขึ้นมากทีเดียว หลังจากโชเซ่ มูรินโญ่ได้ทำการปรับแต่งจูนทีมได้เข้าที่เข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ เกมนี้หลายๆท่านที่ทราบข่าววิกฤติแผงหลังก่อนแข่งของทีมเรา ก็คงหนาวๆร้อนๆกันพอสมควร ว่าจะต้องมาลุ้นกันเหงื่อตกกีบกันอีกนัดแน่ๆ กับแนวรุกอินเตอร์ที่ประกอบไปด้วย สายฟ้าสลาตัน และอ้วนดำอาเดรียโน่ ที่พลิกฟอร์มกลับมาร้อนแรงได้อีกครั้ง

ก่อนเกมก็มีวิวาทะระหว่างกุนซือคู่ปรับเก่ากันพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ไม่ได้มีการต่อปากต่อคำอะไรมากมาย ประมาณว่าแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ไม่เหมือนช่วงที่สองกุนซือต่างวัยยังห้ำหั่นกันในเกาะอังกฤษ เกมนี้ทั้งสองทีมประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บที่แผงหลัง โดยเจ้าถิ่นต้องขาดวอลเตอร์ ซามูเอล ในขณะที่ผู้มาเยือนขาดเนมานย่า วิดิช ที่ติดแบน และยังขาดฟูลแบ๊คด้านขวาสามตัวรวด ไล่ตั้งแต่แกรี่ เนวิลล์, เวสลี่ย์ บราวน์ และ ราฟาเอล ดา ซิลวา นัดนี้ มูรินโญ่จัดทัพโดยมีการ ปรับแผงหลังพอสมควร ผู้รักษาประตูยังคงเป็น ชูลิโอ เซซาร์ ที่เป็นที่กล่าวขวัญว่าน่าจะเป็นมือหนึ่งของโลกในปัจจุบันนี้ ฟูลแบ๊กสองข้างเป็นดั๊กลาส ไมค่อนทางขวา และ ดาวิเด้ ซานตั้นทางซ้าย คู่เซ็นเตอร์เป็นการจับคู่ระหว่าง เนลสัน ริวาสและคริสเตียน คิวู กองกลางสามตัวมีฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, เอสเตบัน กัมบิอาสโซ่ และ ซัลลี่ มุนตารี่ กลางรุกใช้ เดยัน สแตนโกวิช มีอาเดรียโน่และ สลาตัน อิบราฮิโมวิชเป็นคู่กองหน้า

ในขณะที่ท่านเซอร์ต้องรอผลการเช็คฟิตนาทีสุดท้ายของจอห์น โอเชีย และ จอนนี่ อีแวนส์ ก่อนผลจะผ่านและถูกหย่อนลงน้ำได้ทั้งคู่ ผู้รักษาประตูใช้เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่จะเดินหน้าทำสถิติกาวตราช้างของตัวเองต่อไป จอห์น โอเชีย และ ปาทริซ เอวร่า เป็นฟูลแบ๊คด้านขวาและซ้ายตามลำดับ คู่เซ็นเตอร์เป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ โจนาธาน อีแวนส์ มาดูที่แผงมิดฟิลด์กัน นัดนี้จากรูปเกมผมมองว่า ป๋าวางมิดฟิลด์ลงมาสามตัว มีไมเคิล คาร์ริค และดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ยืนเป็นตัวรับ ในขณะที่ส่งไรอัน กิ๊กส์เป็นตัวรุกตรงกลาง ริมเส้นด้านซ้ายใช้ ปาร์ค ชี ซอง ด้านขวาเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นหน้าเป้า

เริ่มเกม แฟนผีแดงมีเสียวก่อนทันที เมื่อจอห์น โอเชียออกลูกตื่นๆ จ่ายบอลเข้าเท้านักเตะอินเตอร์ มิลานสองสามครั้งในแดนตัวเอง แต่หลังจากนั้นก็กลับมาเข้าที่เข้าทางได้เร็วครับ รูปเกมในครึ่งแรกกลับพลิกโผ และผิดจากที่มูรินโญ่เคยออกมาวิเคราะห์ไว้ เมื่อกลายเป็นยูไนเต็ดที่ครองเกมรุกกดดันเจ้าบ้านได้น่ากลัว และมีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้, ปาร์ค หรือ เบอร์บาตอฟ แต่เป็น เซซาร์ ที่โชว์หนึบสุดๆ ป้องกันไว้ได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อครับ เล่นเอาเจ้าโด้เซ็งเป็ดไม่น้อย เกมตกเป็นของยูไนเต็ดแทบจะตลอดเวลา โดยที่อินเตอร์ มิลานต้องอาศัยจังหวะฉาบฉวยโต้กลับเป็นระยะๆ แต่ในครึ่งแรกกลับไม่สามารถยิงให้ตรงกรอบน้าซาร์ได้เลย

น้ามูวางเกมแพลนในครึ่งแรกมาเป็นรองท่านเซอร์อย่างเห็นได้ชัด โดยที่วางขุมกองกลางไว้ต่ำไปหน่อย ทั้งมุนตารี่และ กัมบิอาสโซ่ ยืนปักหลักรับกันต่ำ ซาเน็ตติกลายเป็นตัวเชื่อมระหว่างรับเป็นรุกที่ต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องพาบอลจากแดนตัวเองขึ้นไปเชื่อมให้แดนหน้าที่ยืนกันสูง แม้แต่สแตนโกวิชเองก็ยืนสูงด้วย ทำให้พื้นที่ตรงกลางกลายเป็นพื้นที่ของยูไนเต็ดไป แท็คติคของเฟอร์กี้ในครึ่งแรกต้องบอกว่า เอาอยู่ ครับ นักเตะทุกตำแหน่งเล่นคุมพื้นที่ได้ดีมากๆ ไม่มีการไล่เสียบ ไล่แท็คเกิ้ล น่าจะเพราะกลัวพรวด แต่จะเน้นไปในทางเข้าพัวพัน เบียดแซะ บีบพื้นที่ ไล่ให้คายบอลเร็วซะมากกว่า ทำให้บอลบนพื้นของอินเตอร์ลดความอันตรายลงไปมากทีเดียว

นอกจากนั้น การที่สลาตันและอาเดรียโน่คอยค้ำสูงในแดนยูไนเต็ด แต่กองกลางตัวเองยืนค่อนข้างต่ำ ยังทำให้การเชื่อมบอลเกมรุกหน้ากรอบขาดความต่อเนื่อง บอลที่ทะลักไปถึงทั้งคู่จึงมักจะมาจากลูกวางยาวและจ่ายยาวมากกว่า ซึ่งแผงหลังยูไนเต็ดก็ไม่ได้หลุดตำแหน่งบ่อยนัก ยังคงประคองเก็บบอลและซ้อนจังหวะกันได้ดี สลาตันและอาเดรียโน่จึงไม่ได้มีจังหวะได้จบสกอร์สวยๆเลย อีกจุดที่อยากพูดถึงก็คือ การวางหมากที่ใช้เฟล็ทช์ และคาร์ริคยืนเป็นตัวรับ คอยไล่บอลทั้งคู่ และมีปาร์คคอยกรองเกมริมเส้นด้านซ้ายไว้ ทำให้การต่อบอลและขึ้นเกมทางริมเส้นของไมค่อน ถูกจำกัดบทบาทลงไปเยอะ ไมค่อนเติมมากไม่ได้ เพราะถูกซ้อนไว้สองสามชั้น ประกอบกับเบอร์บาตอฟและปาร์ค ยังคอยวิ่งสวนทางด้านนี้ ยามไมค่อนหลุดตำแหน่งอีก ยิ่งทำให้เจ้าตัวขึ้นไม่ค่อยได้ ครั้นจะต่อเกมตรงกลางก็ลำบาก เพราะคาร์ริคกับเฟล็ทช์ไล่บอลดีเหลือเกิน เกมรุกของอินเตอร์ในครึ่งแรกจึงดูตื้อๆตันๆไปหน่อย

เมื่อไมค่อนขึ้นไม่ค่อยได้ กลางเล่นกันต่ำไปนิด หน้ากลับยืนกันสูงและไม่ค่อยเก็บบอลมากดดันยูไนเต็ดได้เท่าที่ควร คนที่หนักหนาที่สุดก็คงเป็นซาเน็ตติ และสแตนโกวิช ที่ต้องคอยเชื่อมเกม รับภาระตรงกลางสนามมากกว่าคนอื่น เซ็ตบอลเกมรุก และเป็นตัวกรองบอลเกมรับด่านแรก เรียกได้ว่างานหนักทีเดียว รูปเกมออกมาแบบนี้ ยิ่งเอื้อให้ยูไนเต็ดสามารถครองเกมตรงกลางได้ง่ายขึ้น เมื่อนักเตะทุกคน พยายามพัวพัน บดบี้ แย่งบอลคืนมาจากทุกๆจังหวะ และเน้นออกบอลตลอดเวลา ไม่ค่อยเก็บบอลไว้กับตัว การเคลื่อนที่ของผู้เล่นจึงขยับปรับตำแหน่งไปเรื่อยๆ ยากที่อินเตอร์จะตามทัน ยิ่งโรนัลโด้, กิ๊กส์ และเบอร์บาตอฟ ที่ครองบอล พาบอล ออกบอลกดดันแนวหลังอินเตอร์ได้ตลอด ยิ่งช่วยกดให้กองกลางของอินเตอร์ต้องยืนต่ำลงไปอีก คู่เซ็นเตอร์ของอินเตอร์ก็มีปัญหาตลอดในการตามจับ สามประสานแนวรุกของเราในยามทะลุทะลวงเข้าทำ

รูปเกมในครึ่งแรก แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นเกมที่เรากำลังเตะกับลูกทีมของมูรินโญ่ มูรินโญ่ออกอาการตลอดครึ่งแรกครับ ที่เห็นลูกทีมถูกกดดันและหวุดหวิดจะเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง นี่ผมบอกตรงๆ หากผู้รักษาประตูอินเตอร์ไม่ใช่เซซาร์ล่ะก็... งานนี้มีสังเวยอเวย์โกล์ให้ยูไนเต็ดแน่ๆครับ และอาจถึงสองลูกด้วยซ้ำไปตั้งแต่ครึ่งแรกเลยนี่แหละ แต่เพราะเป็นเซซาร์ ที่โชว์ฟอร์มสมราคาหนึ่งในแคนดิเดตมือหนึ่งโลก ที่ช่วยให้ลูกทีมน้ามูยังไม่เสียอเวย์โกล์ในครึ่งแรก ไม่ว่าจะเป็นลูกที่โรนัลโด้โขกเต็มๆศีรษะ ลูกที่กิ๊กส์สลัดริวาสหลุดเข้าไปยิงจ่อๆ หรือฟรีคิกของโรนัลโด้ ในขณะที่นอกจากมูรินโญ่จะหน้าเครียดกว่าปกติแล้ว ลูกทีมบนม้านั่งก็เครียดตามไปด้วย จนตอลโด้ได้รับใบเหลืองจากการโวยนอกสนามในจังหวะที่มุนตารี่เข้าไปถูกสตั๊ดของโอเชียจนเจ็บปิ๊กาจูตอนที่โอเชียเตะสกัดบอลทิ้งไป

ส่วนจังหวะของอินเตอร์ มิลานนั้น ในครึ่งแรกก็มีอยู่ประปราย แต่ไม่สามารถกดดันน้าซาร์ได้มากนัก สองสามครั้งที่น่าจะทำได้ดีแต่ก็หลุดออกนอกกรอบไปหมด รวมทั้งลูกยิงของสลาตัน ที่อีแวนส์ปรี่เข้ามาบล๊อคได้ทัน คาร์ริคและเฟล็ทเชอร์เป็นมิดฟิลด์ที่ทำงานหนักมากๆในการหยุดยั้งการต่อบอลของอินเตอร์ และอ่านทางบอลเพื่อเข้าปิดลูกเปิด ลูกยิง ลูกจ่ายในจังหวะทะลุทะลวง ทำให้งานของคู่เซ็นเตอร์ง่ายขึ้นเยอะ ครึ่งแรกจึงจบลงไปแบบที่อินเตอร์ต้องแก้เกมหนักหน่อย

เริ่มครึ่งหลังมา อินเตอร์มีการปรับแผงหลังทันที น้ามูถอดริวาสที่มีจังหวะ หลุด เห็นๆ สองสามครั้งออกไป และส่งอิบัน คอร์โดบา ลงมาจับคู่กับคิวูแทน นอกจากนั้น ยังปรับแท็คติคตรงกลางสนามอีกล็อต ด้วยการดันมุนตารี่ และซาเน็ตติขึ้นมาเล่นสูงขึ้นถึงเส้นกลางสนามเพื่อให้การต่อบอลขึ้นหน้า และการเชื่อมเกม การปรับระหว่างรุกและรับทำได้ไหลลื่นและเนียนตาขึ้น กัมบิอาสโซ่ขึ้นมาไล่บอลสูงขึ้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าแก้ลำมาได้ดีมากๆ ดีจนสามารถกดยูไนเต็ดให้ระส่ำได้พักใหญ่ๆเลยทีเดียวในช่วงสิบกว่านาทีแรกของครึ่งหลัง อาเดรียโน่และสลาตัน จึงได้บอลบ่อยและกดดันแผงหลังได้มากขึ้น ซาเน็ตติ, สแตนโกวิชและมุนตารี่ ขึ้นมาเป็นตัวเก็บบอลแถวสองเพื่อกดดันอย่างต่อเนื่อง ทำเอายูไนเต็ดช๊อตดื้อๆและต่อเกมรุกไม่ขึ้นเลย

จากจังหวะกดดันต่อเนื่องต้นครึ่งหลัง อาเดรียโน่มีโอกาสทะลุเข้าไปยิงลูกเปิดจากปีกซ้าย แต่กลับหวดผิด บอลหลุดจากเท้าซ้ายไปโดนขวากระเด็นออกนอกกรอบไปชนิดน้าซาร์ได้แต่มองแล้วแท้ๆ รวมทั้งยังมีจังหวะที่สลาตันเกือบจะหลุดเดี่ยวแต่ติดธงล้ำหน้าซะก่อน ซึ่งดูจากภาพช้าแล้วก็ก้ำกึ่งมากทีเดียว ยูไนเต็ดต้องปรับจังหวะเกมอยู่พักใหญ่ ดึงช้าลงและต้องแอบพักหายใจเรื่อยๆเวลาบอลตาย เพื่อหยุดโมเมนตัมของอินเตอร์ และตั้งเกมของตัวเองขึ้นมาใหม่ให้ได้ ความพยายามของยูไนเต็ดเริ่มได้ผลเมื่อหนีออกไปเล่นทางกว้างมากขึ้น กิ๊กส์ และโรนัลโด้ รวมทั้งเบอร์บาตอฟ ดูเหมือนจะปรับมารับบทตัวฟรีข้างหน้า มีอิสระในการวิ่งมากขึ้น จากจุดนี้ เมื่อยูไนเต็ดตัดบอลได้ บอลจะถูกเปิดออกทางกราบเพื่อสวนกลับ หรือไม่ก็ถูกลากเจาะเข้าช่องว่างตรงพื้นที่ตรงกลางที่มิดฟิลด์อินเตอร์เติมเกมขึ้นไปทันที และสามารถจะปั่นป่วนอินเตอร์คืนได้มากขึ้นเรื่อยๆ

มาถึงตรงนี้ ก็กลายเป็นบอลเปิดหน้าแลกกันเต็มตัวไปแล้วครับ ต่างฝ่ายต่างงัดทีเด็ดตัวเองออกมาเล่นกันแบบไม่มีกั๊กกันเลย ไมค่อนเติมเกมสูงขึ้นเรื่อยๆตามถนัด โรนัลโด้สลับฟากขึ้นเกมรุกทางริมเส้นในแบบฉบับที่คุ้นตา กิ๊กส์เองก็ควบบอลตะบึงขึ้นหน้าแบบไม่กลัวอายเด็ก ในขณะที่ซาเน็ตติกับก็ยิ่งแสดงความเก๋าเกมออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการตัดเกมรุกตั้งแต่ในแดนของยูไนเต็ด ทั้งการเชื่อมเกมและเล่นเหมือนเพลย์เมกเกอร์ของอินเตอร์ ทำเอาสแตนโกวิชหมองไปเยอะทีเดียว และการที่อินเตอร์เริ่มโหมเกมบุกแลกนี้เองครับ ที่ทำให้เห็นว่าการส่งคอร์โดบาลงมาแทนริวาสคือการตัดสินใจที่ถูกต้องของมูรินโญ่

การแก้เกมในครึ่งหลังของมูรินโญ่นี้เองครับ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เราได้เห็นกันมานานตั้งแต่เขาจากพรีเมียร์ลีกไป การแก้เกมที่สามารถพลิกฟอร์มกลับมาได้แบบคนละทีมกับครึ่งแรก ฟอร์มของกัมบิอาสโซ่ในครึ่งหลังนี่ต้องบอกว่าแจ่มมากๆ รวมทั้งซานตั้นเองก็นิ่ง โดดเด่นเกินอายุ หากมูรินโญ่ไม่แก้เกมแบบนี้ เราก็คงยังไม่ได้เห็นฟอร์มเกมรับของซานตั้นแบบนี้ ซานตั้นหยุดยั้งโรนัลโด้ นักเตะบัลลงดอร์ ในเกมริมเส้นด้านขวาได้ถึงขนาดทำให้โรนัลโด้ต้องใช้ลูกครอสอย่างเดียว ไม่สามารถสลัดหลุดเข้ามาข้างในได้เลย ตรงนั้นคือการลดพิษสงของโรนัลโด้จากการตัดเข้าในเพื่อยิงหรือจ่าย และเท่ากับเป็นการปลดอาวุธหนักออกจากกองพันปิศาจลงได้หนึ่งชิ้น ซึ่งตรงนี้ทำให้กิ๊กส์ต้องรับภาระหนักขึ้นในการทำเกมหน้ากรอบร่วมกับเบอร์บาตอฟและปาร์ค

เมื่อเกมเปิดแลก แน่นอนครับ ว่าต้องมีไข้เหลืองระบาดก่อน นอกจากที่ตอลโด้ได้รับไปแบบงงๆก่อนในครึ่งแรกแล้ว คิวูก็เป็นรายต่อมาหลังจากไปเสียบใส่ข้อเท้าเบอร์บาตอฟในจังหวะพาบอลขึ้นหน้า ถัดจากนั้น ก็เป็นไมค่อนบ้าง ที่ถูกคาร์ริคขโมยบอลไปในจังหวะเติมเกมจนต้องไปเสียบคืนแต่เข้าบอลช้าไป จากนั้นยูไนเต็ดก็เกือบได้ประตูอีกครั้ง เมื่อโรนัลโด้หลุดไปทางขวาก่อนจะเปิดเรียดเข้ามากลางประตู บอลเลยระยะทำการของเซซาร์จะออกมาบล๊อค และมีปาร์คที่สไลด์สุดเหยียดเข้ามาชาร์จแต่ปรากฏว่า...ไม่ถึงครับ ปาร์คขาสั้นนนนนน ผู้มาเยือนจึงยังต้องก้มหน้าก้มตาหาอเวย์ โกล์ต่อไป

ช่วงถัดมาก็เป็นเฟล็ทเชอร์ที่โดนจดชื่อบ้างเมื่อเข้าไปเบรกเกมมุนตารี่แบบรุนแรงเกินเหตุ เกมยังคงเปิดหน้าแลกกันมันหยด ชนิดใครดีใครอยู่ แต่การที่ผมบอกว่าสนุก ว่ามัน นั่นอาจจะเป็นเพราะผมเชียร์ยูไนเต็ดเต็มตัวก็ได้ ซึ่งรูปเกมในวันนี้ อินเตอร์ที่มีจังหวะบุกมากมายในครึ่งหลังจริง กลับไม่สามารถแปรโอกาสเป็นความหวาดเสียวได้มากครั้งนัก น้าซาร์ยังไม่ได้เซฟเช่นเคย แต่กับลูกที่เซฟไม่ได้แล้ว อินเตอร์ก็ดันพลาดไปเองอีก นั่นละมัง ที่ทำให้ผมเชียร์ได้สนุก เพราะลุ้นได้ประตูอเวย์โกล์ที่มีโอกาสมากกว่า ในขณะที่ลูกที่จะเสียประตูให้อินเตอร์นั้น นานๆถึงจะมีเสียวสักที แถมลูกที่อินเตอร์หวุดหวิดจะได้ที่สุดอีกลูก บอลที่หลุดจากน้าซาร์ไปแล้วดันไปตกลงบนอกของผู้เล่นอินเตอร์ที่เสาสองแต่เจ้าตัวดันไม่ทันได้เตรียมตัว จึงหมดโอกาสไปอีก มาถึงในนาทีที่ 75 กิ๊กส์ได้จังหวะลากหลุดแผงหลังอินเตอร์ไปทางขวา ก่อนจะตัดจากขวาเข้ากลางแล้วยิงด้วยอีซ้ายแต่คอร์โดบาปราดเข้ามาบล๊อคได้ทันอีกครั้ง

มูรินโญ่เริ่มกังวลมากขึ้น น่าจะเพราะไม่ได้จังหวะทำประตูจะจะเสียที จึงต้องปรับหมากอีกครั้ง ส่งฮูลิโอ ครูซ ลงมาแทน มุนตารี่ และส่งมาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาแทนอาเดรียโน่ในช่วงสิบห้านาทีสุดท้าย ช่วงท้าย อินเตอร์โหมหนักสุดๆ แต่แผงหลังยูไนเต็ดยังสามารถปักหลักยันได้อยู่หมัด อีแวนส์นัดนี้ได้โชว์ความสามารถและความนิ่งออกมาเต็มๆ เมื่อช่วยกับริโอตั้งรับในกรอบได้อย่างเหนียวแน่นชนิดที่อินเตอร์ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งจะขึ้นโหม่งในกรอบแบบจะจะ ช่วงเจ็ดแปดนาทีสุดท้าย ท่านเซอร์ก็ส่งรูนี่ย์ลงมาแทนปาร์ค เพื่อหวังจังหวะสวนกลับเร็วจากรูนี่ย์, โรนัลโด้ และเบอร์บาตอฟ ซึ่งก็มีโอกาสสองสามครั้ง ครั้งที่น่าจะได้ที่สุดก็คือลูกที่เบอร์บาตอฟแทงทะลุเข้าไปให้รูนี่ย์เบียดกองหลังเกือบจะได้ยิงอยู่แล้ว แต่เซซาร์ปราดออกมาเกือบนอกกรอบสไลด์บอลทิ้งได้ชนิดปลายสตั๊ดจริงๆ แถมรูนี่ย์ยังโชว์ความขยันจนได้ใบเหลืองอีกคน เมื่อพยายามเข้าปั๊มบอลสองจังหวะต่อเนื่องแต่เข้าช้าในจังหวะสุดท้าย

มาถึงช่วงนาทีสุดท้าย คอร์โดบาไปเกี่ยวเบอร์บาตอฟตรงบริเวณนอกกรอบทางซ้าย ตรงบริเวณที่โรนัลโด้เพิ่งจะยิงฟรีคิกใส่แบล๊คเบิร์นไปหมาดๆ คอร์โดบาโดนใบเหลืองไปอีกคน ผมนั่งลุ้นเลยครับ เพราะลูกนี้ก็น่าจะหมดเวลาพอดี และโรนัลโด้ก็ซัดฟรีคิกด้วยขวาเต็มแรง ลูกข้ามกำแพงไปแล้ว พุ่งฮุกเข้ากลางประตูแต่ตรงตัวเซซาร์ ถึงกระนั้นเซซาร์ก็ต้องออกแรงทุบบอลออกมา แล้วผู้ตัดสินก็เป่าหมดเวลาพอดี ทำให้จบลงไปแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น แต่สนุกมากๆครับสำหรับผม และหากใครดูต่ออีกนิด จะเห็นว่าเซซาร์เอง ตอนเข้าไปจับมือกับโรนัลโด้ ก็หัวเราะๆแล้วบอกโด้แถมทำมือทำไม้ให้ดูว่าลูกมันส่ายๆ สงสัยโด้มันอยากรู้น่ะครับ ว่าบอลมันลอยไปยังไง

จบจากเกมนี้ไป ก็น่าดีใจครับ ที่อย่างน้อยแผงหลังเราก็กลับมามีทางเลือกอีกครั้งหนึ่ง และอย่างน้อย อีแวนส์เองก็ได้ใช้การแสดงออกในสนามของเขาตลอดเก้าสิบกว่านาที ตอบคำดูถูกของมูรินโญ่ที่ว่าไว้ก่อนเกมว่า ไร้วิดิช หลังผีจะรั่ว ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และยังตอบคำท้าทายต่อเนื่องจากนั้นได้อีกด้วย ที่มูรินโญ่ว่า วิดิชน่าจะโดนแบนสองนัดด้วยซ้ำ อีแวนส์ได้แสดงให้มูรินโญ่เห็นแล้ว ว่าต่อให้วิดิชไม่อยู่ทั้งสองนัด แต่ถ้าเขาได้ลง ก็ทำผลงานออกมาได้ดีแทบไม่ต่างกันหรอก...จะบอกให้ แล้วยิ่งการที่จอห์น โอเชีย สลัดความตื่นออกได้ตั้งแต่ห้านาทีแรก แล้วกลับมาร่ายคาถายันต์ห้าแถวทางขวาในฐานะฟูลแบ๊คตลอดเวลาที่เหลือ ทั้งหุบเข้ามาซ้อนในกรอบเพื่อโหม่งเคลียร์ลูกเปิด ทั้งขึ้นไปตัดเกมทางริมเส้น หรือประกบสลาตันยามฉีกมาทางขวา เขาทำหน้าที่ได้ดีมากๆ เป็นการตอกย้ำให้ผู้ที่ดูถูก (ผมเองก็ด้วย) ว่าหลังผีแดงจะรั่วได้ดีมากๆ

ผลการแข่งขันเกมนี้ ถึงแม้เราจะไม่ได้อเวย์โกล์ทั้งๆที่มีโอกาสมากมาย แต่ถูกเซซาร์และโคนเสาปฏิเสธไปหมด แต่การที่ได้ผลเสมอกลับมาเล่นต่อในบ้าน ก็ถือว่ายังพอมีแง่บวกให้มองอีกเยอะ เพียงแต่การที่เราไม่ได้อเวย์โกล์ ก็อาจเป็นความกดดันเล็กๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถเสียอเวย์โกล์ให้อินเตอร์ได้เช่นกัน ทางเลือกที่ดีที่สุด ก็คือการเน้นรูปเกมที่ปลอดภัยในเกมรับ ซึ่งการได้วิดิชกลับมาในนัดที่สอง รวมกับการที่โอเชียร่ายฟอร์มได้ดีเกินคาด เราก็น่าจะพออุ่นใจในเกมรับได้ ส่วนเกมรุกผมว่ายืนรูปแบบจากเกมนี้ไว้ก่อนก็ดี เพราะขนาดแก้เกมมาอย่างดีแล้ว แต่อินเตอร์ก็ยังมีปัญหาในการจัดการแนวรุกของเรา โดยเฉพาะกิ๊กส์ ที่สลัดหลุดแผงหลังอินเตอร์ตรงกลางได้เป็นว่าเล่น

หากช่วงสองสัปดาห์นี้ ไม่มีใครเจ็บไปอีก หากไม่ติดประมาท และไม่เสียประตูง่ายๆในบ้านเลกที่สองแล้วนั้น ผมเชื่อครับ ว่าเราน่าจะเก็บชัยชนะจากอินเตอร์ได้ในที่สุด ซึ่งตรงนี้ ผมมองจากฟอร์มเกมรับและรุกของเราที่เจอกับอินเตอร์ในวันนี้ และพิจารณาถึงการกลับไปเล่นในบ้านนัดที่สอง ที่เราน่าจะคุ้นเคยกว่านี้ และเสียงเชียร์กระหึ่มโรงละครของพวกเรา ที่อาจจะกดดันผู้เล่นอินเตอร์ได้บ้างไม่มากก็น้อย

แล้วลุ้นกันครับ

สงบใจ

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552

Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 10:59:54 น.

3 comments

Counter : 605 Pageviews.

มีอีกประเด็นนะฮะ

คือผมว่าเราเกือบจะน็อคงูใหญ่ได้แล้ว ถ้าส่งรูนี่ย์ลงมาให้เร็วกว่านี้อีกหน่อย

เข้าใจว่า ป๋า คงจะเน้นคงทรงรูปเกมของตัวเองไว้ แต่การที่รูนีย์ได้ลงมาเพียง 10 นาที มันน้อยเกินไปสำหรับการทำเกมรุก การประสานงานกับเบิร์บและโด้

ถ้ามองไปถึงนัดหน้า รูนีย์ คงได้ลงเป็นตัวจริงแน่นอน และผมเชื่อว่าเราจะผ่านอินเตอร์ไปได้ เพราะการคอนโทรลเกมรุกของเราหลากหลายและแม่นยำกว่าอินเตอร์ฮะ

โดย: จีโน่ IP: 202.142.193.15 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:03:58 น.

ขอบคุณสำหรับการอวยพรวันเกิดจอยนะคะ

ขอให้ จขบ. มีความสุข สมหวัง ในทุกๆ เรื่องเช่นกันค่ะ

มาขอบคุณช้าไปหน่อย เพราะจอยก็มัวไป HBD ให้สมาชิกชาวบล็อกแก็งค์คนอื่นๆ เกือบทุกวันเลย

โดย: Joy*~Joystick~*

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:4:06:38 น.

เจอะอีกรอบชนะชัวร์ inter milan

โดย: เด็กงูใหญ่ IP: 124.121.163.70 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:18:12:33 น.