Bloggang.com : สงบใจ : 20071024 วิพากษ์ Kiev VS Man Utd.

20071024 วิพากษ์ Kiev VS Man Utd.

อรุณสวัสดิ์ครับ กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากที่ผมเบี้ยวทุกๆท่าน ไม่ได้มารับใช้กันมาสองนัดติดๆแล้ว เมื่อคืน ผมจึงไม่ยอมพลาดด้วยประการทั้งปวง กับการตื่นขึ้นมาดูตอนตีหนึ่งสี่สิบห้านาทีครับ เรามาว่ากันเลยนะครับ

กับการมาเยือนเคียฟในค่ำคืนที่ผ่านมา ป๋าคงจำได้ดีถึงการเสมอรวดสามนัด ในการมาเยือนที่นี่สามครั้งก่อน เกมนี้ ป๋าจึงพาลูกทีมจับเครื่องบินมาถึงตั้งแต่วันอาทิตย์ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุด การดร็อปโรนัลโด้จากเกมเยือนวิลล่า ปาร์คนัดก่อน ก็ส่งผลให้เจ้าโด้กระเหี้ยนหระหือรือที่จะโชว์ฟอร์มและยิงประตูมากขึ้น ในขณะที่ ปาทริซ เอวร่า กลับมาติดโรคเดียวกับ หลุยส์ ซาฮา ก็คือ เดี้ยงแปลกๆในตอนวอร์มอัพก่อนลงสนาม ทำให้ป๋าต้องปรับหมากกระทันหัน โดยส่ง จอห์น โอเช ลงมายืนฟูลแบ๊คฝั่งซ้ายแทน ในขณะที่ เนมานย่า วิดิช ก็ดูจะสมบูรณ์กลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยยืนคู่กับริโอ เฟอร์ดินานด์ และใช้ เวสลี่ย์ บราวน์ยืนฟูลแบ๊คด้านขวา ให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยืนเฝ้าเสาอีกนัด

ในขณะที่แผงกลาง นัดนี้ ป๋าเลือกใช้กลางสี่ตัว โดยที่ พอล สโคลส์ เจ็บหัวเข่า ต้องถูกดร็อปออกไป และให้อันแดร์สัน กับเฟล็ทเชอร์ยืนเป็นคู่กลาง โดยมีกิ๊กส์กับโรนัลโด้ เป็นปีกสองข้าง หน้าคู่ใช้รูนี่ย์ กับเตเวซ

ในขณะที่เคียฟ ตั้งเกมในระบบ 4-1-2-1-2 หรือ 4-3-3 ก็ไม่ผิดที่จะเรียกครับ โดยที่ท่านเซอร์เอง ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมแล้วว่า เคียฟซึ่งเล่นสองนัดยังไม่มีสักแต้ม ต้องตั้งเกมบุกใส่แน่นอน เพื่อหวังคว้าสามแต้มในบ้านให้จงได้ และป๋าจะจัดเกมโต้กลับมาสู้ในนัดนี้ จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านเซอร์จัด 4-4-2 รูปแบบถนัดและคล่องตัวที่สุดในการเล่นโต้เร็วของเราในนัดนี้ครับ

เปิดเกมมานาทีแรกก็มีเสียว เมื่อ บันกูร่า มีจังหวะส่องไกลได้ลุ้น แต่ตรงตัว เดอร์ ซาร์ หลังจากนั้น เกมก็เปิดทันที เคียฟตั้งลำบุกเข้าใส่เป็นระลอก โดยที่ แมนยูไนเต็ดก็ฉกฉวยจังหวะตีโต้เป็นระยะๆ เคียฟนั้น ต่อบอลในแดนกลางสนามได้ค่อนข้างเร็ว แต่มักจะไปติดขัดในจังหวะสุดท้ายหน้ากรอบโทษของยูไนเต็ด ทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสหวาดเสียวเท่าไหร่นัก ในขณะที่แมนยูไนเต็ด โดยอันแดร์สันนั้น ตัดบอลจากเคียฟสวยๆได้หลายลูก และกลายเป็นจอมทัพของทีมได้อย่างไม่ขัดเขินในนัดนี้ เมื่อเขาสามารถจ่ายบอลสวยๆขึ้นหน้า และวางบอลครอสบอลยาวๆได้สวยๆหลายต่อหลายครั้ง ทำให้แมนยูไนเต็ด มีจังหวะโต้กลับสวยๆหลายครั้ง

โรนัลโด้ใช้ความสามารถเฉพาะตัว บวกกับความเร็วจัดก่อกวนแผงหลังเคียฟทั้งซ้ายทั้งขวาได้เรื่อยๆ ในจังหวะสวนกลับเร็ว จนมาได้ประตูแรกจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายที่กิ๊กส์ เปิดมาให้กลางปากประตู และริโอโถมเข้าโหม่งเต็มๆ เป็นประตูอย่างสวยงาม นับเป็นประตูแรกใน แชมเปี้ยนส์ลีกของเขาด้วยครับ หลังจากนั้น เกมก็เนือยลงไปนิดหน่อย แมนยูไนเต็ด กลับมาตั้งเกมบุกได้น้ำได้เนื้อมากขึ้น ประตูที่สองนั้นก็มาจากการสวนกลับเร็ว ที่โรนัลโด้ควบมาทางขวา ก่อนจ่ายให้บราวน์ที่เลือกผ่านเข้ากลางให้เวยน์ รูนี่ย์ได้แปโล่งๆเป็นประตูที่สอง

หลังจากนั้น แมนยูก็พับสนามใส่เคียฟได้ระยะหนึ่งมีจังหวะหวาดเสียวจากการทำเกมของโรนัลโด้, เตเวซ และรูนี่ย์สองสามครั้ง แต่ในที่สุด เคียฟก็ดูเหมือนตั้งสติได้ ค่อยๆปั้นเกมขึ้นมาใหม่ และเริ่มจะโหมบุกกระหน่ำ ซึ่งผมสังเกตว่า นัดนี้ เฟล็ทเชอร์ดูจะหงอยไปหน่อยนะครับ และสกัดบอลไม่ค่อยได้จังหวะเท่าไหร่นัก หากเทียบกับอันแดร์สันที่ยืนคู่กัน ในขณะที่วิดิชเอง คงยังไม่เต็มถังเท่าไหร่ หลังจากกลับมาลงสนามเป็นนัดแรก เขาดูช้าลงกว่าเดิม และไม่ดุดัน ห้าวหาญเหมือนเคย ผมดูแล้วน่าจะเป็นเพราะยังไม่ฟิตเต็มร้อย และอาจยังแหยงๆอยู่บ้างจากการเจ็บคราวที่แล้ว ก็คงต้องให้เวลาวิดิชได้ฟื้นสภาพเดิมๆอีกสักระยะครับ

ส่วนโอเชนั้น การยืนเป็นแบ็กซ้าย น่าจะเป็นจุดที่เขาไม่ค่อยถนัดนัก แต่ป๋าไม่มีทางเลือกเท่าไหร่ เพราะซิมป์สัน อาจจะยังใหม่เกินไปสำหรับเกมสำคัญเช่นนี้ การดันเอาโอเช ลงมาแทนเอวร่าที่เจ็บ จึงน่าจะดีที่สุดแล้ว โดยให้กิ๊กส์คอยลงมาประคองอยู่บ่อยๆ เราสังเกตเห็นว่า กิ๊กส์นั้น จะลงมาช่วยโอเชบ่อยมาก เวลาโดนบุก และเคียฟเองก็ดูจะทราบข้อนี้ดี จึงบุกมาทางนี้เป็นระยะๆ ส่วนทางบราวน์นั้น ผมไม่ทราบว่าติดประมาทมากไปหรือเปล่า ผมเห็นบราวน์ขึ้นประกบสูงตลอดเวลา หลายครั้งที่บราวน์ขึ้นไปยืนประกบและตัดบอลอยู่เกินเส้นครึ่งสนาม แต่โชคยังดีที่เคียฟนั้น ไม่สามารถหลุดมาทางนี้ได้บ่อยมากนัก และเมื่อมีจังหวะหลุดมา ริโอก็ยังตามซ้อนได้ทันตลอด

ประตูตีไข่แตกที่เสียไป มาจากจังหวะเตะมุมของเคียฟทางฝั่งขวา ที่เปิดบอลมาบริเวณกรอบโทษเสาสอง และรินคอน ขึ้นเทคโล่งๆคนเดียว โหม่งลูกย้อนมาทางเสาแรก สุดปัญญาที่เดอร์ ซาร์จะปัดถึง และโรนัลโด้ที่เฝ้าเสาอยู่ ก็เคลียร์บอลไม่พ้นปากประตู การเสียประตูนี้ ผมมองว่าเป็นการประมาท ที่ไม่ประกบติดผู้เล่นเคียฟนะครับ ปล่อยให้ขึ้นเทคโล่งๆง่ายๆได้อย่างไร เซ็นเตอร์ กับ ฟูลแบ๊ก ต้องตามประกบบรรดาผู้เล่นที่อยู่ในกรอบหน้าปากประตู ทำให้ภาระนี้ ต้องเป็นของกองกลาง หรือกองหน้าที่ต้องลงมาช่วยครับ ไม่ใช่ปล่อยให้ยืนเทคโล่งๆอย่างนั้น

หลังจากได้ประตูตีไข่แตก แมนยูไนเต็ดก็ฮึดขึ้นมาอีก และเกือบได้ประตูหนีห่างออกไป หากโอเชไม่ยิงลูกจ่ายของรูนี่ย์ไปตรงตัวผู้รักษาประตูเคียฟแบบน่าเขกกะโหลกเป็นยิ่งนัก แต่หลังจากนั้น ยูไนเต็ดก็ได้ประตูอีกจนได้ เมื่อกิ๊กส์สลัดผู้เล่นเคียฟหลุดมาทางซ้าย ก่อนจะเปิดโค้งเข้าหน้ากรอบให้โรนัลโด้ขึ้นเทคโล่งๆเช่นกัน เป็นประตูที่สามให้ยูไนเต็ด และลูกนี้ ตัวประกบหน้ากรอบของเคียฟนั้น ลงมาไม่ทันครับ ทำให้ตัวที่เหลือยืนตำแหน่งกันได้ไม่ดีเท่าไหร่ อีกทั้งที่เสาสองก็ยังมีรูนี่ย์รออยู่อีกคนด้วย

เมื่อเปิดเกมครึ่งหลัง เคียฟแก้เกมด้วยการออกบอลเร็วขึ้น ขยับหาช่องเร็วขึ้น เพื่อหวังจะหนีการประกบจากผู้เล่นกองกลางและกองหลังแมนยูไนเต็ด โดยการขึ้นเกมสั้นสลับยาวและบอมบ์โด่งบ้าง เพื่อป่วนแผงกองหลังแมนยูไนเต็ด ส่วนแมนยูไนเต็ดนั้น มาผ่อนเกมลงในครึ่งหลังตามฟอร์มเดิมเลยครับ ทำให้เคียฟมีโอกาสโหมบุกเข้าใส่อยู่ตลอด และยูไนเต็ดจะฉวยโอกาสสวนเร็วเข้าทำในรูปแบบเคาน์เตอร์แอ็ทแท็กเต็มตัว ซึ่งทั้งคู่ต่างมีโอกาสลุ้นได้ประตูอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ยังไม่เป็นผลเท่านั้น

อันแดร์สันถือเป็นตัวบงการเกมอย่างแท้จริงของยูไนเต็ดในเกมนี้ โดยการขึ้นเกมจากเขา แมนยูไนเต็ดมีลุ้นแทบทุกครั้งจากลูกจ่ายและลูกวางยาวสวยๆของอันแดร์สัน อีกทั้งเขายังอ่านเกมคู่ต่อสู้ได้ดี ตัดเกมรุกเคียฟได้หลายต่อหลายครั้ง ทำเอาเฟล็ทเชอร์ที่ดูเงียบๆ ยิ่งเงียบลงไปอีก

จุดหักเหของเกมก็มาถึงในที่สุด เมื่อวิดิช ซึ่งนัดนี้ถือว่าโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง ขยับตัวช้ากว่าคู่ต่อสู้ตลอด ก็มาพลาดอีกในจังหวะที่เขาขยับช้า ทำให้ผู้เล่นเคียฟเกือบแซงเข้าไปเดี่ยวๆได้ แต่ยังดีที่มีลูกแข็งอยู่ ทำให้เกิดการยื้อยุดเหนี่ยวรั้งกันจนล้มทั้งคู่ ดีที่วิดิชอยู่ข้างหน้านะครับ กรรมการจึงมองเป็นผู้เล่ยเคียฟทำฟาล์วไป ไม่งั้นเสียฟาล์วจุดโทษแน่ๆ แถมจะแดงอีกต่างหากครับ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที แมนยูโดยเตเวซก็มีโอกาสสวนกลับ เตเวซกระดกบอลข้ามหัวผู้เล่นเคียฟ ซึ่งกระโดดเอาศอกบล็อกบอลของเตเวซ ในขณะที่ตัวข้ามเส้นกรอบโทษเข้าไปแล้ว ผู้ตัดสินจึงไม่รีรอที่จะเป่าเป็นฟรีคิก หน้ากรอบ แต่ผู้ช่วยเข้ามายืนยันว่า ข้ามกรอบโทษไปแล้ว ทำให้ผู้ตัดสินเปลี่ยนมาให้จุดโทษแทน ซึ่งโรนัลโด้สังหารไม่พลาด ส่งให้ยูไนเต็ดขึ้นนำ 4-1 และสองจังหวะนี้ก็น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อยู่พอสมควร
จากนั้น เตเวซก็ถูกเปลี่ยนให้นานี่ลงมาเล่นแทน ซึ่งก็น่าจะเป็นการพักเตเวซนะครับ เพราะเขาโชว์ฟอร์มได้ดีทีเดียว เสียแต่ว่า ไม่มีประตูเท่านั้น แต่หลังจากนั้น เคียฟก็มาได้ประตูอีก จากลูกส่องไกลของบันกูร่า ที่เฟล็ทเชอร์ยืนห่างมากเกินไป ทำให้บันกูร่าแต่งบอลได้ และยังได้ง้างยิงอีก โดยเฟล็ทเชอร์นั้น กว่าจะเหยียดขามาบล็อกก็ไม่ทันแล้ว และจากลูกนี้เช่นกัน ที่ผมชักจะรู้สึกแปลกๆกับอาการของเดอร์ ซาร์ ที่ดูจะยืนตำแหน่งไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อตอนก่อนที่เขาจะเจ็บเท้าและพักไป เมื่อบวกกับลูกที่เสียให้วิลล่า ทำให้สามลูกที่เสียไปนั้น เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะสัมผัสกับบอลเลย ซึ่งดูจะแปลกๆไปนะครับ จากที่เขาเคยยืนถูกที่ ถูกเวลามาตลอด แต่สองนัดล่าสุดที่คัมแบ๊กกลับมา กลับไม่ได้แม้แต่โอกาสจะแตะบอลทั้งสามลูกที่เสียไป

และจากลูกไล่ตีตื้นนี้ ทำให้เคียฟยิ่งฮึดมากขึ้นอีก และท่านเซอร์เอง ก็ดูจะพอใจกับสกอร์นี้แล้ว จึงส่งซิมป์สัน ลงมาแทนกิ๊กส์ เพื่อให้กิ๊กส์ได้พัก เอาซิมป์สัน มายืนฟูลแบ๊กฝั่งซ้าย และดันโอเช ที่ดูจะไม่ค่อยเวิร์คกับตำแหน่งทางซ้ายเท่าไหร่นัก มายืนกลางแทน ซึ่งก็เหลือเวลาอีกแค่สิบกว่านาที ซิมป์สันจึงไม่ได้ถูกกดดันมากเท่าไหร่นัก
ในขณะเดียวกัน คุสแซ็คก็ถูกส่งลงมาแทนเดอร์ ซาร์ ด้วย ซึ่งทำให้ เดอร์ ซาร์นั้น ค่อนข้างผิดหวังไม่น้อย กับผลงานของเขาในนัดนี้และนัดที่ผ่านมา ดูได้จากสีหน้าผิดหวังของเขาแล้วก็น่าสงสารเหมือนกันครับ ก้ได้แต่หวังว่า น้าซาร์จะคืนฟอร์มกลับมาได้ในที่สุดนะครับ

แต่อีกประเด็นที่อาจเป็นไปได้ก็คือ เดอร์ ซาร์ อาจจะยังไม่หายดี และอาการอาจกำเริบขึ้นมาอีกก็ได้ ทำให้การพุ่ง การเหินของเขา เสียจังหวะไปบ้าง เลยถูกเปลี่ยนออกมาพักก็เป็นได้ครับ และหลังจากที่คุสแซ็คลงมาแทนนั้น เขาก็ถูกทดสอบเป็นระยะๆ งานค่อนข้างชุก เพราะเคียฟเริ่มบอมบ์เข้าใส่ แต่สุดท้าย ยูไนเต็ดก็รักษาสกอร์เดิมไว้ได้ตลอด จนหมดเวลาในที่สุด

คีย์แมนของเราในเกมนี้ ผมยกให้อันแดร์สัน ซึ่งยืนตรงกลางได้เด่นมาก และขึ้นเกมรุกสวยๆได้หลายครั้ง อีกทั้งยังสามารถสกัดลูกจังหวะสุดท้ายจากผู้เล่นเคียฟได้สองสามครั้งอีกต่างหาก นอกจากเขาแล้ว โรนัลโด้ ก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดเช่นกัน จากการลากเลื้อย ตะลุยทางกราบซ้ายและขวา อีกทั้งรูนี่ย์ กับเตเวซ ก็เริ่มประสานงานได้อย่างลงตัวมากขึ้น ปั่นป่วนแผงหลังเจ้าถิ่นได้ดี และเปิดช่องในแผงหลังได้เรื่อยๆ ส่วนในแผงหลังของเรา ขณะที่วิดิชดูจะยังไม่ฟื้นเต็มที่ ก็ยังมีริโอ ที่อ่านเกมขาดอยู่ตลอด และเป็นตัวสุดท้ายที่ช่วยเคลียร์บอลให้แมนยูได้หลายต่อหลายครั้ง

ผู้ที่น่าผิดหวังก็คือเฟล็ทเชอร์ครับ เงียบเกินไป กับการเป็นพาร์ทเนอร์ของอันแดร์สัน อาจจะเป็นเพราะว่าอันแดร์สันนั้น เล่นได้เด่นเกินไปจนบังเขามิดก็เป็นได้ แต่จากสามสี่จังหวะการสกัดบอลผิดพลาดหน้ากรอบของเขา ทำให้แมนยูล่อแหลมต่อการเสียประตูหลายครั้ง และลูกที่สองที่เสียไป ก็มาจากการที่เขายืนห่างผู้เล่นเคียฟเกินไปนั่นเองครับ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ เขาเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา และผมก็ได้ข่าวมาว่า นัดที่เขาเล่นให้สก็อตแลนด์ เขาก็เล่นไม่ดีเช่นกัน ซึ่งตรงนี้เอง ก็อาจเพราะเฟล็ทเชอร์ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยก็เป็นได้ครับ แต่เพราะว่าฮาร์กรีฟส์, สโคลส์, คาร์ริค ต่างก็เจ็บกันหมด ทำให้ต้องเข็นเอาเฟล็ทเชอร์ที่ยังฟื้นสภาพได้ไม่เต็มที่ และอาจจะยังเพิ่งกลับมาซ้อมได้ไม่นาน ลงไปเล่นเป็นตัวจริงครับ

สำหรับผู้เล่นเคียฟเองนั้น ผมเสียดายหลายต่อหลายจังหวะ ที่ต่อบอลทำเกมมาสวยๆ แต่สุดท้ายกลับทำเสียของไปเองหลายครั้งมาก นั่นแสดงให้เห็นว่า การประสานงานในจังหวะสุดท้ายของเคียฟยังมีปัญหาพอสมควร ซึ่งหากจังหวะสุดท้าย ทำกันได้ดีกว่านี้ แมนยูไนเต็ดอาจลำบากได้ครับ แต่ก็ต้องไม่ลืมด้วยครับ ว่า เรายิงได้สี่ลูกก็จริง แต่โอกาสที่เรายิงทิ้งยิงขว้างไปเอง การจบสกอร์ที่ไม่ค่อยปราณีตเท่าไหร่ ก็มีมากมายหลายครั้ง หากเจอกับทีมที่เหนียวแน่นกว่านี้ เราก็อาจลำบากได้เช่นกัน หากไม่เน้นในจังหวะจบสกอร์ ส่วนผู้เล่นเคียฟที่เด่นๆในนัดนี้ ผมยกให้ บันกูร่า และ ดิโอโก้ รินคอน ที่ปั่นป่วนและกดดันแผงหลังของเราได้อย่างน่ากลัว อีกทั้งการทำเกมและเปิดบอลของคอร์เรียก็น่ากลัวไม่น้อย หากประสานงานกันได้ดีกว่านี้ในแดนหน้า ผมว่าเคียฟชุดนี้จะน่ากลัวขึ้นมากครับ

มาดูคะแนนนักเตะของเรากันครับ

เดอร์ ซาร์ ช่วงนี้ ดูความมั่นอกมั่นใจจะตกหล่นหายไปเยอะ การยืนตำแหน่งก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 6
คุสแซ็ค ได้ลงมาในช่วงสิบนาทีสุดท้าย ไม่เสียหายอะไร และไม่มีลูกยากๆให้รับมือ 6

โอเช ได้เล่นแบ๊กซ้าย ซึ่งดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยถนัดนัก และมีกิ๊กส์คอยประคองอยู่เรื่อยๆ 6
บราวน์ เล่นได้เรื่อยๆ ตามสไตล์ มีหนึ่งแอสซิสต์ เติมเกมฝั่งขวาดีขึ้น แต่ติดประมาทไปบ้าง 7
ริโอ เด่นมากในจังหวะสุดท้ายและการบล็อกจังหวะยิง อ่านเกมได้ขาดจริงๆ 8
วิดิช ยังไม่เหมือนคนเดิม ดูช้าลงไปหน่อย และไม่ดุดันเท่าที่เคยทำได้ เกือบเสียจุดโทษอีกด้วย 6
ซิมป์สัน สิบกว่านาที ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ 6

โรนัลโด้ ปั่นป่วนแนวรับเจ้าบ้านได้ดีเหลือเกิน ทั้งทางซ้ายและขวา ทำสองประตู 8.5
อันแดร์สัน เด่นจริงๆในแดนกลาง ทั้งการขึ้นเกมรุก และตัดบอล โดยเฉพาะสองจังหวะที่เป็นตัวสุดท้าย 8.5
เฟล็ทเชอร์ เล่นเงียบผิดปรกติ ทั้งๆที่น่าจะประคองอันแดร์สันด้วยซ้ำ แถมยังผิดพลาดในครั่งหลังบ่อย 5.5
กิ๊กส์ กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง เพราะมีพื้นที่ให้เล่นเยอะ ทำสองแอสซิสต์ และช่วยเกมรับทางซ้าย 8
นานี่ มีเวลายี่สิบนาที กับการเล่นดูจะฝืนมากเกินไปในหลายๆจังหวะ 6.5

รูนี่ย์ ทำสกอร์ได้อีกครั้ง และเริ่มยิงต่อเนื่องได้แล้ว พลิกบอลได้ และหลุดสวยๆหลายจังหวะ 8
เตเวซ ประสานงานกับรูนี่ย์ และโรนัลโด้ได้ดีขึ้นมาก ทำให้เกมรุกดูน่ากลัวขึ้น เสียแต่ไม่มีสกอร์เท่านั้น 8

แมนออฟเดอะแมทช์ ถึงโด้จะได้สองเม็ด แต่ใจผมมอบให้อันแดร์สันไปแล้วครับ

วันนี้ พอแค่นี้ครับพบกันใหม่ สัปดาห์หน้า
สวัสดีครับ

ปล. สุดสัปดาห์นี้ ผมจะไม่ได้ชมเกมแมนยูไนเต็ดอีกแล้วนะครับ ขอผลัดไปเกมถัดไปนะครับ

Create Date : 24 ตุลาคม 2550

Last Update : 25 ตุลาคม 2550 9:37:17 น.

4 comments

Counter : 595 Pageviews.

เมื่อคืนไม่เสียแรงที่ตื่นมาดูจริงๆ ครับ เกมรุกเริ่มกลับมาทำงานได้น่ากลัวอีกครั้ง ยิ่งเตเวซเริ่มเล่นเข้าขากับรูนี่ย์ยิ่งทำให้เกมรุกของแมนฯยูดุดันเข้าไปอีก

ส่วนเกมรับ ผมก็มองว่าน้ายีราฟยังม่ฟิตเต็มร้อย ป๋าไม่น่าให้ลงสนาม น่าจะให้คุสแชคเล่นไปก่อน เพราะช่วงที่เค้าเฝ้าเสา ก็เล่นได้น่าอุ่นใจพอสมควร

ส่วนอีตาเทพเฟลท ถ้ากล้องไม่จับภาพให้เห็นช่วงท้ายเกม ผมคงลืมไปแล้วว่าพี่แกลงสนามไปด้วย
ทั้งเฟลทเชอร์และโอเชียลงไปเป็นตัวแถมแท้ๆ เลย เฮ้อ!

โดย: CrisTooNo

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:55:31 น.

test

โดย: me, myself, Sa-Ngobjai (สงบใจ

) วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:9:47:31 น.

Test again

โดย: Sa-Ngobjai IP: 203.150.119.119 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:10:03:47 น.

แหะแหะ ได้เข้ามาขอบคุณแล้ว ^^"

ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้เข้ามาเก็บข้อมูล

โดย: petrified IP: 58.10.77.142 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:10:09:14 น.