โลกใบสวยของเรา
โลก เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่สาม โดยโลกเป็นดาวเคราะห์หินขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ และเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ยืนยันได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ดาวเคราะห์โลกถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 4,570 ล้าน (4.57×109) ปีก่อน และหลังจากนั้นไม่นานนัก ดวงจันทร์ซึ่งเป็นดาวบริวารเพียงดวงเดียวของโลกก็ถือกำเนิดตามมา สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ครองโลกในปัจจุบันนี้คือมนุษย์
โลก มีลักษณะเป็นทรงวงรี โดย ในแนวดิ่งเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 12,711 กม. ในแนวนอน ยาว 12,755 กม. ต่างกัน 44 กม. มีพื้นน้ำ 3 ส่วน หรือ 71% และมีพื้นดิน 1 ส่วน หรือ 29 % แกนโลกจะเอียง 23.5 องศา
สัญลักษณ์ของโลกประกอบด้วยกากบาทที่ล้อมด้วยวงกลม โดยเส้นตั้งและเส้นนอนของกากบาทจะแทนเส้นเมอริเดียนและเส้นศูนย์สูตรตามลำดับ สัญลักษณ์อีกแบบของโลกจะวางกากบาทไว้เหนือวงกลมแทน (ยูนิโคด: ⊕ หรือ ♁)
ประวัติ
โลกเกิดจากการรวมตัวของอนุภาคและสิ่งแรกที่เกิดครั้งแรกคือภูเขาไฟเมื่อภูเขาไฟเย็นตัวลงจะก่อเกิดสิ่งมีชีวิตอื่นๆกำเนิดตาม
โครงสร้างและองค์ประกอบ
รูปร่าง
โลกมีรูปทรงกระบอกแบนขั้ว หมายความว่ามีรูปทรงกระบอกแต่บริเวณขั้วโลกทั้งสองแบนเล็กน้อย และโป่งออกทางเส้นศูนย์สูตร ความยาวรอบโลกประมาณ 40,000 กิโลเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12,700 กิโลเมตร จุดที่สูงที่สุดบนพื้นโลกคือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ซึ่งมีความสูง 8,848 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนจุดที่ลึกที่สุดในโลกคือ ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ซึ่งมีความลึก 10,911 เมตรจากระดับน้ำทะเล เนื่องจากโลกมีลักษณะโป่งออกทางตอนกลางคือเส้นศูนย์สูตร ทำให้จุดที่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางโลกคือยอดเขาชิมโบราโซ ในประเทศเอกวาดอร์
โครงสร้าง เปลือกโลก
เปลือกโลก (crust) เป็นชั้นนอกสุดของโลกที่มีความหนาประมาณ 6-35 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นชั้นที่บางที่สุดเมื่อเปรียบกับชั้นอื่นๆ เสมือนเปลือกไข่ไก่หรือเปลือกหัวหอม เปลือกโลกประกอบไปด้วยแผ่นดินและแผ่นน้ำ ซึ่งเปลือกโลกส่วนที่บางที่สุดคือส่วนที่อยู่ใต้มหาสมุทร ส่วนเปลือกโลกที่หนาที่สุดคือเปลือกโลกส่วนที่รองรับทวีปที่มีเทือกเขาที่สูงที่สุดอยู่ด้วย นอกจากนี้เปลือกโลกยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชั้นคือ
ชั้นที่หนึ่ง: ชั้นหินไซอัล (sial) เป็นเปลือกโลกชั้นบนสุด ประกอบด้วยแร่ซิลิกาและอะลูมินาซึ่งเป็นหินแกรนิตชนิดหนึ่ง สำหรับบริเวณผิวของชั้นนี้จะเป็นหินตะกอน ชั้นหินไซอัลนี้มีเฉพาะเปลือกโลกส่วนที่เป็นทวีปเท่านั้น ส่วนเปลือกโลกที่อยู่ใต้ทะเลและมหาสมุทรจะไม่มีหินชั้นนี้
ชั้นที่สอง: ชั้นหินไซมา (sima) เป็นชั้นที่อยู่ใต้หินชั้นไซอัลลงไป ส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ประกอบด้วยแร่ซิลิกา เหล็กออกไซด์และแมกนีเซียม ชั้นหินไซมานี้ห่อหุ้มทั่วทั้งพื้นโลกอยู่ในทะเลและมหาสมุทร ซึ่งต่างจากหินชั้นไซอัลที่ปกคลุมเฉพาะส่วนที่เป็นทวีป และยังมีความหนาแน่นมากกว่าชั้นหินไซอัล
แมนเทิล แมนเทิล (mantle หรือ Earth's mantle) คือชั้นที่อยู่ถัดจากเปลือกโลกลงไป มีความหนาประมาณ 3,000 กิโลเมตร บางส่วนของหินอยู่ในสถานะหลอมเหลวเรียกว่าหินหนืด (Magma) ทำให้ชั้นแมนเทิลนี้มีความร้อนสูงมาก เนื่องจากหินหนืดมีอุณหภูมิประมาณ 800 - 4300°C ซึ่งประกอบด้วยหินอัคนีเป็นส่วนใหญ่ เช่นหินอัลตราเบสิก หินเพริโดไลต์
แก่นโลก
ความหนาแน่นของดาวโลกโดยเฉลี่ยคือ 5,515 กก./ลบ.ม. ทำให้มันเป็นดาวเคราะห์ที่หนาแน่นที่สุดในระบบสุริยะ แต่ถ้าวัดเฉพาะความหนาแน่นเฉลี่ยของพื้นผิวโลกแล้ววัดได้เพียงแค่ 3,000 กก./ลบ.ม. เท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดข้อสรุปว่า ต้องมีวัตถุอื่นๆ ที่หนาแน่นกว่าอยู่ในแก่นโลกแน่นอน ระหว่างการเกิดขึ้นของโลก ประมาณ 4.5 พันล้านปีมาแล้ว การหลอมละลายอาจทำให้เกิดสสารที่มีความหนาแน่นมากกว่าไหลเข้าไปในแกนกลางของโลก ในขณะที่สสารที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าคลุมเปลือกโลกอยู่ ซึ่งทำให้แก่นโลก (core) มีองค์ประกอบเป็นธาตุเหล็กถึง 80%, รวมถึงนิกเกิลและธาตุที่มีน้ำหนักที่เบากว่าอื่นๆ แต่ในขณะที่สสารที่มีความหนาแน่นสูงอื่นๆ เช่นตะกั่วและยูเรเนียม มีอยู่น้อยเกินกว่าที่จะผสานรวมเข้ากับธาตุที่เบากว่าได้ และทำให้สสารเหล่านั้นคงที่อยู่บนเปลือกโลก แก่นโลกแบ่งได้ออกเป็น 2 ชั้นได้แก่ แก่นโลกชั้นนอก (outer core) มีความหนาจากผิวโลกประมาณ 2,900 - 5,000 กิโลเมตร ประกอบด้วยธาตุเหล็กและนิกเกิลในสภาพที่หลอมละลาย และมีความร้อนสูง มีอุณหภูมิประมาณ 6200 - 6400 มีความหนาแน่นสัมพัทธ์ 12.0 และส่วนนี้มีสถานะเป็นของเหลว แก่นโลกชั้นใน (inner core) เป็นส่วนที่อยู่ใจกลางโลกพอดี มีรัศมีประมาณ 1,000 กิโลเมตร มีอุณหภูมิประมาณ 4,300 - 6,200 และมีความกดดันมหาศาล ทำให้ส่วนนี้จึงมีสถานะเป็นของแข็ง ประกอบด้วยธาตุเหล็กและนิกเกิลที่อยู่ในสภาพที่เป็นของแข็ง มีความหนาแน่นสัมพัทธ์ 17.0
สภาพบรรยากาศ
สภาพอากาศของโลก คือ การถูกห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชั้น ได้แก่
โทรโพสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 0-10 กิโลเมตรจากผิวโลก บรรยกาศมีไอน้ำ เมฆ หมอกซึ่งมีความหนาแน่นมาก และมีการแปรปรวนของอากาศอยู่ตลอดเวลา
สตราโตสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 10-35 กิโลเมตรจากผิวโลก บรรยากาศชั้นนี้แถบจะไม่เปลื่ยนแปลงจากโทรโพสเฟียร์ยกเว้นมีผงฝุ่นเพิ่มมาเล็กน้อย
เมโสสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่35-80 กิโลเมตร จากผิวโลก บรรยากาศมีก๊าซโอโซนอยู่มากซึ่งจะช่วยสกัดแสงอัลตร้า ไวโอเรต (UV) จาก ดวงอาทิตย์ไม่ให้มาถึงพื้นโลกมากเกินไป
ไอโอโนสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 80-600 กิโลเมตร จากผิวโลก บรรยากาศมีออกซิเจน จางมากไม่เหมาะกับมนุษย์
เอกโซสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 600กิโลเมตรขึ้นไปจากผิวโลก บรรยากาศมีออกซิเจนจางมากๆ และมีก๊าซฮีเลียมและไฮโดรเจนอยู่เป็นส่วนมาก โดยมีชั้นติดต่อกับอวกาศ
โลกมีอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส โดยเฉลี่ย
ดวงจันทร์ เป็นดาวบริวารเพียงดวงเดียวของโลก จัดเป็นดาวบริวารขนาดใหญ่ลำดับที่ 5 ในระบบสุริยะ มีระยะห่างจากโลกเฉลี่ยนับจากศูนย์กลางถึงศูนย์กลางประมาณ 384,403 กิโลเมตร
วงโคจรและการหมุนรอบตัวเอง
โลกหมุนรอบตัวเอง 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน แต่นักวิทยาศาสตร์คำนวณได้ 23.56 ชั่วโมง แต่จะใช้ 24 ชั่งโมงเป็นหลัก และ 365 วันในหนึ่งปี โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 150 ล้านไมล์ และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อวินาที หรือ 108,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วงโคจรของดวงจันทร์ อยู่ห่างจากโลก 250,000 ไมล์ ดวงจันทร์จะหันพื้นผิวด้านเดียวเข้าหาโลกอยู่เสมอ และโคจรรอบโลกใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน โลกเป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยะ และมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ร่วมกับวัตถุขนาดเล็กกว่าพันชิ้น และดาวเคราะห์อีก 8 ดวง ดวงอาทิตย์และระบบสุริยะเคลื่อนที่ผ่านส่วนแขนออริออน ดาราจักรทางช้างเผือก และจะเคลื่อนที่ครบรอบในอีก 10,000 ปีข้างหน้า
การอยู่อาศัย
เป็นถิ่นที่อยู่เดียวในเอกภพที่ค้นพบสิ่งมีชีวิต กลุ่มประชากรที่มีมากที่สุด คือ แบคทีเรีย กลุ่มประชากรที่มีผลมากที่สุดถ้าหายไปจากโลก คือ พืช และกลุ่มประชากรที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมคือ ไพรเมต โดยกลุ่มนี้มีเพียงสายพันธุ์เดียวผลต่อโลกทั้งการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และการทำลาย สภาพแวดล้อม คือ มนุษย์
ลักษณะเฉพาะทางภายภาพ
เส้นผ่านศูนย์กลางตามแนวศูนย์สูตร 12,756.28 กม. เส้นผ่านศูนย์กลางตามแนวขั้ว 12,713.56 กม. เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 12,742.02 กม. ความแป้น 0.003 35 เส้นรอบวงตามแนวศูนย์สูตร 40,075 กม. เส้นรอบวงตามแนวขั้ว 40,008 กม. พื้นที่ผิว 510,067,420 กม.² ปริมาตร 1.0832×1012 กม.³ มวล 5.9736×1024 กก. ความหนาแน่น 5.515 g/ซม.³ ความโน้มถ่วงที่ศูนย์สูตร 9.780 m/s² 1 (0.997 32 จี) ความเร็วหลุดพ้น 11.186 กม./วินาที คาบการหมุนรอบตัวเอง 0.997 258 วัน (23.934 ชั่วโมง) ความเร็วการหมุนรอบตัวเอง 1674.38 km/h = 465.11 m/s (ที่เส้นศูนย์สูตร) ความเอียงของแกน 31.439 281° ไรต์แอสเซนชัน ของขั้วเหนือ 0° (0 ชั่วโมง 0 นาที 0 วินาที) เดคลิเนชัน 90° อัตราส่วนสะท้อน 0.367 อุณหภูมิพื้นผิว - ต่ำสุด - ปานกลาง - สูงสุด 185 K (-88 °C) 287 K (14 °C) 331 K (58 °C) ความกดบรรยากาศพื้นผิว 100 kPa
ลักษณะเฉพาะของบรรยากาศ ไนโตรเจน 77% ออกซิเจน 21% อาร์กอน 1% คาร์บอนไดออกไซด์ เบาบาง ไอน้ำ เบาบาง
ลักษณะเฉพาะของวงโคจร (จุดเริ่มยุค J2000)
- กึ่งแกนเอก 149,597,887 กม.
- (1.000 000 11 หน่วยดาราศาสตร์)
- เส้นรอบวงของวงโคจร 0.940 ทม.
- (6.283 หน่วยดาราศาสตร์)
- ความเยื้องศูนย์กลาง 0.016 710 22
- จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 147,098,074 km
- (0.983 289 9 หน่วยดาราศาสตร์)
- จุดไกลดวงอาทิตย์ที่สุด 152,097,701 km
- (1.016 710 3 หน่วยดาราศาสตร์)
- คาบการโคจร 365.256 96 วัน
- (1.000 019 1 ปีจูเลียน)
- คาบซินอดิก n/a
- อัตราเร็วเฉลี่ยในวงโคจร 29.783 กม./s
- อัตราเร็วสูงสุดในวงโคจร 30.287 กม./วินาที
- อัตราเร็วต่ำสุดในวงโคจร 29.291 กม./วินาที
- ความเอียง 0.000 05°
- (7.25° กับระนาบศูนย์สูตรดวงอาทิตย์)
- ลองจิจูดของจุดโหนดขึ้น 348.739 36°
- ระยะมุมจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 114.207 83°
- จำนวนดาวบริวาร 1 (ดวงจันทร์)
สถิติทางสังคมมนุษย์
พื้นที่เมืองที่มีประชากรมากที่สุด โตเกียว, เม็กซิโกซิตี, โซล, นิวยอร์ก, เซาเปาลู, มุมไบ
ภาษา (ประมาณการ พ.ศ. 2543) จีนกลาง 14.37%, - ฮินดี 6.02%,
- อังกฤษ 5.61%,
- สเปน 5.59%,
- เบงกาลี 3.4%,
- โปรตุเกส 2.63%,
- รัสเซีย 2.75%,
- ญี่ปุ่น 2.06%,
- เยอรมัน 1.64%,
- เกาหลี 1.28%,
- ฝรั่งเศส 1.27%,
- ไทย 1%,
- ภาษาอื่น ๆ
ศาสนา (ประมาณการ พ.ศ. 2543) คริสต์ 32.71%, - อิสลาม 19.67%,
- ฮินดู 13.28%,
- พุทธ 5.84%,
- ไม่นับถือศาสนาใด 14.84%,
- ศาสนาอื่น ๆ 13.05%
ประชากร (ประมาณการ 30 ม.ค. 2555) - ทั้งหมด 7,018,867,630 คน
สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ, เยนญี่ปุ่น, ยูโร, ปอนด์สเตอร์ลิง,บาท, อื่น ๆ จีดีพี (ประมาณการ พ.ศ. 2546) -PPP 51,656,251,000,000 IND ต่อหัว 8,236 IND -Nominal 36,356,240,000,000 USD ต่อหัว 5,797 USD
อ้างอิง
ความรู้เรื่องโลก "Did Edmund Hillary Climb the Wrong Mountain?". Professional Surveyor Magazine. สืบค้นเมื่อ 6 ส.ค. 2552. NASA- an Earth fact sheet. NASA. เรียกข้อมูลเมื่อ 2009-08-06 Earth's location in the Milky Way. NASA. เรียกข้อมูลเมื่อ 2009-08-06
แหล่งข้อมูลอื่น
คุณสามารถหาข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ โลก (ดาวเคราะห์) ได้โดยค้นหาจากโครงการพี่น้องของวิกิพีเดีย: Wiktionary-logo-th.png หาความหมาย จากวิกิพจนานุกรม Wikibooks-logo.svg หนังสือ จากวิกิตำรา Wikiquote-logo.svg คำคม จากวิกิคำคม Wikisource-logo.svg ข้อมูลต้นฉบับ จากวิกิซอร์ซ Commons-logo.svg ภาพและสื่อ จากคอมมอนส์ Wikinews-logo.svg เนื้อหาข่าว จากวิกิข่าว Wikiversity-logo-en.svg แหล่งเรียนรู้ จากวิกิวิทยาลัย USGS Geomagnetism Program NASA Earth Observatory AudioCain/Gay (2007) Astronomy Cast Earth Earth Profile by NASA's Solar System Exploration Climate changes cause Earth's shape to change NASA The Gateway to Astronaut Photography of Earth Global Measured Extremes of Temperature and Precipitation National Climatic Data Center
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชวนคุยท้ายบท คิดว่าเพื่อนๆหลายท่าน โดยเฉพาะที่เป็นชาวพุทธ คงจะพอทราบอยู่บ้างว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย( หมายองค์พระสัมมาพุทธเจ้าหลายพระองค์ ที่เคยได้มาประสูติ ตรัสรู้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ...)ท่านได้ไปพบเห็นมา...อีกทั้งบอกเล่า รูปร่างหน้าตา ของมนุษย์ที่อาศัย อยู่บนโลกนั้นๆ ว่า มีลักษณะ ใบหน้ากลม รูปหน้า เป็นรูปไข่ หรือลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยม และลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม มีอายุ เฉลี่ยประมาณกีร้อยปี เล่าการดำเนินชีวิต พวกเขามีศิล5 เป็นปกติ การเป็นอยู่การเลี้ยงชีพ ..หากสนใจจะไปเยี่ยมชมเพื่อนมนุษย์โลกอื่น พระองค์ทรงบอกหนทางมีวิธีให้ท่านที่สนใจจะไปชมเยี่ยมได้ด้วยตัวคุณเอง...พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านมิได้ห่วงวิชา นะขอรับ เว้นแต่ว่าคุณไม่ต้องการเรียนศึกษาเอง ... พระองค์ท่านยังเชิญชวนให้มาพิสูนจ์ มิใช่ว่าจะกล่าวหรือเล่ากันแบบลอยๆแล้วบอกหรือบังคับว่าห้ามคุณสงสัย หรือแบบว่าบังคับให้คุณเชื่อพระองค์แต่ฝ่ายเดียว ... ทุกอย่างมีเหตุและผลขอรับ .... มีบันทึกเล่าไว้ในพระไตรปิฏก ว่ามนุษย์มิได้เพียงแต่โลกที่เราอาศัยอยู่... เรายังมีเพื่อนๆของเรา ที่อาศัย...ต่างจากโลกใบนี้ออกไป อีก 3 โลก รวมกับโลกของเราเข้าด้วยกันแล้ว เป็น 4 ใบด้วยกัน เขาก็มีชื่อเรียกของโลกแต่ใบกันเป็นที่เรียบร้อย... ท่านขุนฯมาคิดถึงตรงแล้ว อยากให้นักวิทยาศาสตร์ ลองมาศึกษาพระไตรปิฏกดูบ้าง จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ไปนั่งค้น ... หาดวงดาวต่างๆในจักรวาล ว่ามีจำนวนกี่ดวง ทั้งๆที่ในพุทธศาสนา กล่าไว้ว่า มีจำนวนมาก นับไม่ถ้วน คือมีบันทึกกล่าวไว้แต่เมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้วไม่ใช่ว่าคำๆนี้เพื่งมาเกิดขึ้นเมื่อ10กว่าปีก่อน.... คือ ใช้คำว่า อนันตจักรวาล,หมื่นโลกธาตุ ก็ลองคิดดูเอาเอง .... องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์มิได้เป็นผู้กำหนดหรือบันดาลสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้เกิดขึ้นนะขอรับ ทุกอย่างมันมีอยู่แล้ว หรือเกิดเองตามวิบากกรรม ของมนุษย์หรืออื่นๆ เพียงแต่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงฝึกตนมาดีหลายภพหลายชาติ จนเกิดฌานรู้ฌานเห็น ไปรู้ไปเห็น ก็นำมาเล่าให้สาวกของพระองค์ฟังและ ทราบ...แม้แต่พระอานนท์เถระ พระสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระสมณโคดม ท่านก็เคยเหาะหลงไปโลกใบอื่น เรื่องนี้ก็เป็นที่พูดถึงกันอยู่มากในยุคปัจจุบัน...ไม่ใช่เรื่องนิทานที่แต่งขึ้นมานะขอรับ
บล็อกหมวด"วิทยาศาสตร์"นะขอรับ กรุณาอย่าหลงประเด็น... ขอบคุณขอรับ
Create Date : 20 กรกฎาคม 2556 |
|
50 comments |
Last Update : 21 กรกฎาคม 2556 13:24:59 น. |
Counter : 4173 Pageviews. |
|
|
|
|
นี่เราเข้าใจมาโดยตลอดเลยนะว่าโลกกลม(?) เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าโลกมีลักษณะเป็นทรงวงรี..
ที่สำคัญก็คือ.. เราไม่เคยนึกว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นใดที่อาศัยอยู่บนโลกนี้จะมีจำนวนมากไปกว่า..มนุษย์
นึกว่าประชากรที่มีมากที่สุดในโลกก็คือมนุษย์ ( ก็มีตั้งเจ็ดพันกว่าล้านคนเข้าไปแล้วเน๊าะ ) ที่ไหนได้ล่ะ..กลุ่มประชากรที่มีมากที่สุดกลายเป็นพวกแบคทีเรียไปเสียนี่..
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีค่ะ..
และขอบคุณที่แวะไปทักทายเราในตอนที่เราไม่อยู่ด้วยนะคะ..