Coulomb เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2279 (ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าบรมโกษฐ์) ที่เมือง Angouleme ในประเทศฝรั่งเศส บิดาชื่อ Henry และมารดาชื่อ Catherine บรรดาญาติทางฝ่ายบิดา มีฐานะดี และมีชื่อเสียงทั้งทางกฏหมาย การคลัง สำหรับญาติทางฝ่ายมารดาทำธุรกิจค้าขนแกะและมีฐานะร่ำรวยเช่นกัน การมีอาชีพเป็นนักกฏหมายของบิดาทำให้ต้องเปลี่ยนที่ทำงานบ่อย ดังนั้น ตั้งแต่เด็ก Coulomb จึงได้ย้ายจากเมืองเกิดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปปารีส เพื่อเข้าเรียนที่ College Mazarin เพื่อเรียนคณิตศาสตร์กับครูชื่อ Pierre Charles Monnier ผู้ที่สอนหนังสือเก่งจน Coulomb ศรัทธา จึงตัดสินใจเรียนวิชาเอกคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัย
แต่เมื่อบิดาประสบปัญหาการเงินจนเป็นบุคคลล้มละลายจึงได้อพยพไปอยู่ที่ Montpellier และได้ทิ้งมารดาให้อยู่กับ Coulomb ที่ Paris เพราะมารดาต้องการให้ Coulomb มีอาชีพเป็นหมอ แต่ Coulomb ไม่ต้องการเป็นหมอ เมื่อเกิดความขัดแย้งเช่นนี้ Coulomb จึงทิ้งแม่ไปอยู่กับพ่อ ในช่วงเวลานั้น Coulomb สนใจคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์มาก จึงตัดสินใจจะเป็นนักคณิตศาสตร์ และได้เดินทางไปเมือง Mezieres เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย Ecole du Genie ที่มีการแข่งขันสูง และเพื่อความมั่นใจ Coulomb จำต้องเรียนกวดวิชาที่ Paris ก่อนในเดือนตุลาคม พ.ศ.2301 โดยมีครูชื่อ Camus เป็นคนสอน และเมื่อได้อ่านตำรา Cours de Mathematique ของ Camus อย่างละเอียด Coulomb ก็สอบเข้าได้ในอีก 2 ปีต่อมา
ตาชั่งที่นักฟิสิกส์ปัจจุบัน ใช้ในการตรวจสอบกฎของ Coulomb
ใน พ.ศ.2304 Coulomb วัย 25 ปี สำเร็จการศึกษาวิชาวิศวกรรมโยธา และได้รับมอบหมายให้ทำแผนที่เกาะอังกฤษทั้งเกาะ Coulomb ในตำแหน่งร้อยโทแห่งกองทัพบกได้ถูกส่งไปประจำที่เกาะ Martinique ใน West Indies ขณะเกิดสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษ เรืออังกฤษ 17 ลำ ที่บรรทุกทหาร 8,000 คน ได้บุกโจมตี Martinique อย่างหนัก จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2306 สงครามจึงยุติ (ในความเป็นจริง เกาะ Martinique ในอดีตเคยถูกกองทัพเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และสเปนปกครอง แต่ในที่สุด Martinique ก็ตกเป็นของอังกฤษ) ขณะทำงานอยู่ที่นี่ 8 ปี Coulomb ล้มป่วยบ่อย เพราะเป็นคนที่มีสุขภาพไม่ดีเลย
ในปี พ.ศ.2315 Coulomb ได้งานวิศวกรรมสร้างป้อมที่เมือง Bourbon ซึ่งต้องใช้ความสามารถด้านวิศวกรรมศาสตร์มาก แต่เพราะล้มป่วยบ่อย Coulomb จึงขออนุญาตเดินทางกลับปารีส
เมื่อกลับถึงปารีส Coulomb ได้เรียบเรียงตำรากลศาสตร์ประยุกต์ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม Académie des Science โดยได้กล่าวถึงเรื่องแรงเสียดทานที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนที่ในปัญหากลศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เทคนิค Calculus of Variations นอกจากเรื่องนี้แล้ว Coulomb ยังได้เสนอผลงานอื่นๆ ด้วย เช่น ปัญหาที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ทฤษฎีความดันใต้พิภพ ปฐพีศาสตร์ แรงตึงในเชือก และแรงหนืด ผลงานเหล่านี้ทำให้สถาบัน Académie des Science รู้สึกประทับใจมาก จึงได้เสนอตำแหน่ง Borsuts Correspondente ให้ Coulomb วัย 38 ปี
เมื่อ Académie des Science จัดงานประกวดการสร้างเข็มทิศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด Coulomb ได้เดินทางไปเมือง Cherbourg เพื่อเรียบเรียงเรื่องทฤษฎีเข็มทิศที่จะส่งเข้าประกวด ในที่สุด Coulomb วัย 41 ปี ก็ได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเยี่ยมจากสถาบัน Académie des Science
เมื่ออายุ 43 ปี มารดาของ Coulomb เสียชีวิต Coulomb จึงเดินทางกลับปารีส เพื่อรับมรดก และได้ออกแบบป้อมทหารใกล้ๆ เมือง lle d Aix ซึ่งสร้างด้วยไม้ล้วน เมื่อเดินทางกลับ Coulomb ได้เรียบเรียงตำรา Theorie des machenes simples เพื่อเสนอรับรางวัลของ Académie des Science อีกในปี พ.ศ.2324 ผลงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับแรงเสียดทาน ในการไถลและกลิ้งของวัตถุ โดยเฉพาะเมื่อแรงนี้ขึ้นกับความเร็วและเวลา ผลงานนี้ได้ทำให้ Coulomb ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของศาสตร์เสียดทาน
เมื่ออายุ 45 ปี Coulomb ได้รับเลือกเป็นสมาชิกของ Académie des Science จึงทำให้ต้องทำงานวิทยาศาสตร์อยู่ที่ปารีสอย่างถาวร และไม่ทำงานหรือรับงานวิศวกรรมศาสตร์อีกเลย โดยตัดสินใจจะทำวิจัยแต่ฟิสิกส์ โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า และแม่เหล็ก เพราะในปี พ.ศ.2328 ที่ Coulomb มีอายุ 49 ปีนั้น Coulomb ได้พบกฎ Coulomb ที่แถลงว่า แรงดึงดูดและแรงผลักระหว่างประจุแปรผกผันกับระยะทางระหว่างประจุยกกำลังสอง และขึ้นกับขนาดของประจุทั้งสองนั้น ในการพบกฎนี้ Coulomb ได้สร้างตาชั่งบิด (torsion balance) ที่สามารถอ่านได้ละเอียดและไวมาก จนสามารถวัดแรงขนาด 10 นิวตันได้ นอกจากนี้ Coulomb ยังได้ศึกษาการกระจายตัวของประจุตามผิวของวัตถุทรงต่างๆ ด้วย
กฎของ Coulomb ซึ่งมีรูปแบบเดียวกันกับกฎแรงโน้มถ่วงของ Newton เป็นผลงานที่สำคัญที่สุดของ Coulomb ผู้ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักฟิสิกส์อื่นๆ หลายคน เช่น Borda และ Laplace
สำหรับผลงานด้านการศึกษานั้น Coulomb วัย 51 ปี ได้เคยปฏิรูปการพยาบาล หลังจากได้เดินทางไปดูงานในโรงพยาบาลที่อังกฤษ
เมื่ออายถุ 54 ปี Coulomb มีบุตรคนแรกชื่อ Charles Augustine ที่ 2 และเมื่อเกิดปฏิวัติครั้งใหญ๋ในฝรั่งเศส Coulomb ได้ทุ่มเททำงานวิทยาศาสตร์ที่ Académie des Science และเมื่อการปฏิวัติทวีความรุนแรงขึ้น สถาบันจึงถูกสั่งให้ปิดทำให้ Coulomb ต้องลาไปทำงานวิทยาศาสตร์ต่อที่ Blois ซึ่งอยู่ในชนบท
หลังการปฏิวัติได้มีการจัดตั้ง Institut de France ขึ้นแทน Academie of Science
Coulomb วัย 59 ปี ได้รับเชิญให้กลับมาทำงานที่สถาบันมาตรวิทยาในปารีสอีกครั้งหนึ่ง
ในปี พ.ศ.2340 ด้วยวัย 61 ปี Coulomb ได้ลูกชายคนที่สองชื่อ Henri Louis เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับ Loriese Desomeaux แม่ของลูกชายทั้ง 2 คน อย่างเป็นทางการ
เมื่ออายุ 65 ปี Coulomb ได้รับเลือกเป็นปราชญ์กิตติมศักดิ์ของ Institut de France ถึงเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2349 Coulomb ได้ล้มป่วยลงและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2349 ที่ปารีสในวัย 70 ปี
ณ วันนี้ นอกจากหน่วย Coulomb ที่ใช้บอกขนาดของประจุไฟฟ้าแล้ว โลกก็ยังรู้จักหลุมอุกกาบาตชื่อ Crater Coulomb บนดวงจันทร์ด้วย
ไฟฟ้าสถิต ( Static electricity หรือ อังกฤษ: Electrostatics) เป็นปรากฏการณ์ที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากัน และไม่เคลื่อนที่ (จึงเรียกว่า สถิต) จนกระทั้งมีการถ่ายเทประจุ หรือเกิดการไหลของอิเล็คตรอน กลายเป็นไฟฟ้ากระแส ปกติจะแสดงในรูปการดึงดูดหรือการผลักกัน แต่ไม่เกิดประกายไฟ
สนามไฟฟ้าสถิตที่เกิดจากการกระจายตัวของประจุ (+) ส่วนเกิน
การที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากันทำให้เกิดแรงดึงดูดเมื่อวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีประจุต่างชนิดกัน หรือเกิดแรงผลักกันเมื่อวัสดุทั้ง 2 ชิ้นมีประจุชนิดเดียวกัน เราสามารถสร้างไฟฟ้าสถิตโดยการนำผิวสัมผัสของวัสดุ 2 ชิ้นมาขัดสีกัน พลังงานที่เกิดจากการขัดสีกันทำให้ประจุไฟฟ้าบนผิววัสดุจะเกิดการแลกเปลี่ยนกัน โดยจะเกิดกับวัสดุประเภทที่ไม่นำไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ฉนวน ตัวอย่างเช่น ยาง, พลาสติก และแก้ว สำหรับวัสดุประเภทที่นำไฟฟ้านั้นโอกาสเกิดปรากฏการณ์ประจุไฟฟ้าบนผิววัสดุไม่เท่ากันนั้นยากแต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น กรณีที่ผิวโลหะถูกกระแทกด้วยของแข็งหรือของเหลวที่ไม่เป็นตัวนำ ประจุที่เกิดการเคลื่อนย้ายระหว่างการสัมผัสจะถูกเก็บบนผิวของวัสดุทั้ง 2 ชิ้น ผู้ค้นพบคือธาลีส นักปราชญ์ชาวกรีก
ไฟฟ้าสถิตเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่คุ้นเคยสำหรับประเทศที่มีอากาศหนาว ในฤดูหนาวสำหรับประเทศเหล่านี้ความชื้นในอากาศจะต่ำมาก การเกิดไฟฟ้าสถิตบนผิวหนังจะเกิดขึ้นง่ายมาก ดังนั้นเมื่อเกิดการสัมผัสกับวัสดุประเภทตัวนำจะทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไปยังตัวนำอย่างรวดเร็วทำให้เกิดอาการสะดุ้งได้ และนอกจากนั้นยังสามารถทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ค้นพบคือ เบนจามิน แฟรงคลิน ชาวอเมริกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการเกิดไฟฟ้าสถิตก็คือ ตอนที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ไฟฟ้าสถิตจะเกิดเนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ลมตอนบนพัดขึ้นไป เกิดการเสียดสีกันขึ้น เกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นบนก้อนเมฆ มีการถ่ายเทประจุจากเมฆก้อนหนึ่ง มายังเมฆอีกก้อนหนึ่ง เราจะเห็นเป็นฟ้าแลบ แต่ถ้าเมฆก้อนนั้นสะสมประจุไว้มากและอยู่ใกล้พื้นดิน จะมีการถ่ายประจุลงมาที่พื้นดิน เราเรียกว่าฟ้าผ่า
เด็กในเมืองหนาวจะมีประสพการณ์กับไฟฟ้าสถิตบ่อยแม้ในขณะที่เล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น เมื่อเสื้อผ้าของเด็กคนนี้ไปสัมผัสกับเครื่องเล่น ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าไม่สมดุลย์หรือไฟฟ้าสถิตที่เครื่องเล่น ดูดผมของเธอให้กระจายออก
สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต
ปกติแล้ว วัสดุทำจากอะตอมจะเป็นกลางทางไฟฟ้าเพราะพวกมันมีประจุบวก (โปรตอนในนิวเคลียส) และประจุลบ (อิเล็กตรอน วงรอบนิวเคลียส) เท่ากัน ปรากฏการณ์ของไฟฟ้าสถิตจะเกิดขึ้นได้เมื่อแยกประจุบวกและลบออกจากกัน เมื่อวัตถุสองชนิดสัมผัสกัน อิเล็กตรอนอาจย้ายจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่ง ทำให้วัตถุหนึ่งมีประจุลบเกิน และอีกวัตถุหนึ่งมีประจุบวกเกิน (เพราะประจุลบหายไป) เกิดการไม่สมดุลย์ของประจุขึ้นในวัตถุทั้งสองนั้น เมื่อแยกวัตถุทั้งสองออกจากกัน วัตถุที่มีประจุลบเกิน ก็ถือว่าเกิดไฟฟ้าสถิตประจุลบ วัตถุที่ประจุบวกเกิน ก็เรียกว่าเกิดไฟฟ้าสถิตประจุบวก
ฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์หนึ่งของไฟฟ้าสถิต ประจุบวกหรือประจุลบจะเกิดขึ้นบนก้อนเมฆ และถ้าเมฆนั้นอยู่ใกล้พื้นดิน ประจุนั้นจะถ่ายเทมาที่พื้นดินเสมอ ทุกอาคารสูงจึงต้องมีสายล่อฟ้า เพื่อระบายประจุส่วนเกินลงพื้นดินทำให้ความเสียหายจากฟ้าผ่าน้อยลง ฟ้าผ่าทำให้คนและสัตว์ที่อยู่กลางแจ้งระหว่างฝนฟ้าคะนองเสียชีวิตทุกปี
- การกำจัดและป้องกันไฟฟ้าสถิต
การปลดปล่อยหรือการป้องกันการสะสมของประจุ อาจทำได้ง่ายๆแค่เปิดหน้าต่างหรือใช้ตัวเพิ่มความชื้นของอากาศทำให้อากาศเป็นสื่อกระแสไฟฟ้ามากขึ้น เครื่อง ionizers ก็สามารถจัดการได้
>>>อุปกรณ์ที่ไวต่อการเกิดประจุไฟฟ้าเป็นอย่างยิ่ง อาจจะรับการป้องกันด้วยการประยุกต์ใช้สารป้องกันไฟฟ้าสถิตซึ่งจะเพิ่มชั้นผิวนำไฟฟ้า เพื่อให้ประจุส่วนเกินมีการกระจายออกไป น้ำยาปรับผ้านุ่มและแผ่นเป่าแห้ง ที่ใช้ในเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเป็นตัวอย่างของตัวป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ที่ใช้ในการป้องกันและกำจัดการยึดเหนี่ยวของประจุ
>>>อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์จำนวนมากมีความไวต่อการเกิดประจุไฟฟ้า ถุงตัวนำป้องกันไฟฟ้าสถิต มักใช้ห่ออุปกรณ์เพื่อปกป้องอุปกรณ์ดังกล่าวในขณะขนส่ง คนที่ทำงานกับวงจรที่มีอุปกรณ์เหล่านี้มักจะสายรัดข้อมือและต่อสายลงกราวด์ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ทำลายอุปกรณ์นั้น
>>>ในโรงงานอุตสาหกรรมเช่นโรงสีหรือแป้งหรือในโรงพยาบาล, รองเท้าความปลอดภัยป้องกันไฟฟ้าสถิตบางครั้งถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการสะสมของประจุไฟฟ้าเนื่องจากจะสัมผัสกับพื้น รองเท้าเหล่านี้มีพื้นรองเท้าที่มีการนำไฟฟ้าดี รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ไม่ควรจะสับสนกับรองเท้าฉนวนซึ่งจะให้ผลตรงกันข้าม เพราะรองเท้าฉนวนใช้ป้องกันไฟฟ้าช็อตอย่างรุนแรงจากกระแสไฟฟ้า
ตัวอย่างถุงใส่อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ที่มีสารป้องกันไฟฟ้าสถิตเคลือบอยู่ ก่อนเปิดถุงต้องเอาตัวถุงสัมผัสกับกราวด์ก่อนเพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ภายในถุง
สายรัดข้อมือที่มีปลายด้านหนึ่งไว้หนีบกับกราวด์เพื่อระบายไฟฟ้าสถิตออกจากร่างกายก่อนทำงานกับอุปกรณ์ที่ไวต่อไฟฟ้าสถิตย์
การนำไปใช้ประโยชน์
ใช้ในเครื่องถ่ายเอกสาร
ใช้ในการพ่นสี
ใช้ในเครื่องพิมพ์ Inkjet
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บล็อกหมวด"วิทยาศาสตร์" ... ขอบคุณขอรับ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog